ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    pawaris •  ธันวาคม 27 , 2558

     ทริปนี้เริ่มจากแฟนผมนั่งหากิจกรรมทำช่วงที่เรายังว่างๆและวางแผนว่าจะไปเที่ยวสักที่หนึ่ง แต่แล้วเธอก็เจอกลุ่มจิตอาสากลุ่มหนึ่งเธอจึงพยายามส่งลิงค์มาให้ผมอ่าน และด้วยที่เธอชอบจังหวัดเชียงใหม่อยู่แล้วยิ่งทำให้เธออยากไปมากขึ้น และบวกกับเรา 2 คน ต่างก็ยังไม่เคยออกค่ายอาสามาก่อน ครั้งแรกผมตื่นเต้นมากครับ คิดไปต่างๆนาๆงานนี้มีเต้นแน่ๆเลย ด้วยความที่ไปเคยออกค่ายอาสากับคนที่เราไม่รู้จักมาก่อน ก็ตื่นเต้นเป็นพิเศษครับ 

          แต่สุดท้ายแล้ว ก็ตัดสินใจลงชื่อเลยครับ 2ที่ จากกรุงเทพ ด้วยทริปนี้เป็นการออกค่ายอาสาของกลุ่ม Give North ชมรมสร้างสุขเพื่อสังคม  กับกิจกรรมห่มรักมัดย้อม 10ปีสร้าง 10ปีสุข ซึ่งเป็นกลุ่มจิตอาสาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และสถานที่ๆเราจะไปนั้นอยู่ที่ บ้านห้วยแม่เย็น อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ครับ เราตื่นเต้นนิดๆเพราะเราเพิ่งเคยร่วมกิจกรรม เริ่มรู้สึกจะทำตัวไม่ถูก แต่ไหนๆก็ไหนๆละ ลงชื่อมาแล้วเลือกแล้วก็ถอนไม่ได้เนอะ (;      กิจกรรมที่เราจะเดินทางไปต่อจากนี้เป็นกิจกรรมการทำผ้าห่มด้วยวิธีการมัดย้อม ซึ่งจะนำวัตถุดิบขึ้นไปบนพื้นที่ของชาวบ้าน และทำขั้นตอนการมัดย้อมและจัดทำจนแล้วเสร็จ แล้วจึงส่งมอบ ใช้เวลาร่วมกิจกรรมทั้งหมด 3 วัน แต่ผมและแฟน ต้องรวมเวลาในการเดินทางเป็น 5 วัน ลางานครับพี่ท่าน ยอมครับงานนี้ หลังจากลางานทุกอย่างลงตัว ประสานงานกับพี่ทางกลุ่มแล้ว ก็ได้เวลาจัดกระเป๋าครับ 

         เช้าวันศุกร์ที่18 เวลาเช้ามากๆๆๆๆๆ จนที่จะมากได้ เรารีบเดินทางไปที่สถานีรถไฟหัวลำโพงด้วยความง่วง น้ำอาบไหมเอ๋ย ไม่ต้องคิดครับ รีบขนาดนั้น ไปก่อน เดี๋ยวที่นั่งเต็ม ไปถึงสถานีรถไฟอย่างเร่งรีบครับ แต่โชคดีมากๆที่เรายังไปถึงทันพอที่จะมีที่นั่ง รถไฟเที่ยวนี้เป็นรถไฟฟรีครับ นั่งกันนานๆกันเลยละครับ 

    หลังจากรับตั๋วรถไฟ สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือ รถไฟออกเวลา 13.45 น. แต่นี่เพิ่งจะ 8 -9 โมง เหลือเวลาตั้งเยอะ สิ่งที่ควรทำคือนอนครับ นั้น! แต่ลืมบอกไปว่าเรามารับตั๋วตัวเปล่าครับ ไม่ได้แบกอะไรมาเลย ฉะนั้นกลับบ้านไปนอนต่อ ขอพักอีกสักงีบ แต่ผมดันบังเอิญไม่มีถุงมือ แฟนผม ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ในการไปเที่ยวเชียงใหม่ เธอบอกให้ผมไปซื้อถุงมือก่อนยังมีเวลา ตอนนี้เธอเป็นเหมือน Google ในตัวผมครับ 5555 แต่ผมเองก็ยังไม่ยอมซื้อ หลังจากต่างคนต่างกลับไปนอน สิ่งที่น่าตกใจคือดันตื่นมาประมาณ 11โมง รีบสิครับเดี๋ยวต้องไปแวะซื้อถุงมืออีก

    หลังจากทำอะไรเสร็จ หอบหิ้วกระเป๋ากระเป๋ารีบออกมา แต่ก็ยังลังเลว่าจะซื้อถุงมือไม่ทัน วินาทีนั้น ช่างมันเชียงใหม่ยังมี 55555

    เร็วสุดคงหนีไม่พ้นรถไฟใต้ดินครับ 

    ปกติรถไฟใต้ดินผมต้องขึ้นไปทำงานทุกวัน แต่ทำไมวันนี้รู้สึกแปลกๆ 55555 เห็นบ่อยนะครับ ฝรั่งที่ backpack โดยสารใต้ดิน พอวันนี้ผมขึ้น รู้สึกเลยครับ รู้สึกขวางทางชาวบ้าน  แอบๆไว้ครับ 55555

    พอมาถึงสถานีรถไฟอีกครั้ง ก็แวะกินข้าวอะไรให้เรียบร้อย ขึ้นรถไฟเลยครับ จังหวะนี้คนแน่นมากครับ รู้สึกอบอุ่นมากครับ โดยส่วนตัวชอบมากครับที่จะได้นั่งรถไฟ เคยนั่งรถไฟไปเรียนบ่อยๆ 

    จังหวะนี้แน่นจริงครับ แต่ยังไม่ถึงอินเดีย ผมว่ามันเป็นมนเสน่ห์อย่างหนึ่งของการนั่งรถไฟไทยจริงๆ หลังจากเริ่มนั่งเราก็เริ่มจะลุยกันเลยครับ ไอ้ที่ว่าลุยมันคืออะไร มาดูกันครับ 

     มาแล้วครับอาวุธเรา ที่จะอยู่กับเราตลอดทริปนี้ ถ่ายไปก็กลัวเรื่องแบตครับ เพราะผมแบตเพียงก้อนเดียวกับการใช้ชีวิตอีก 3 - 4 วัน ระหว่างรถไฟที่ค่อยๆแล่นไปตามทงที่แสนยาวนาน เราก็พยายามเก็บภาพข้างทางครับ

    แต่ผมไม่ได้ถ่ายคนเดียวนะครับงานนี้ รวมทั้งรีวิวนี้ ก็นำภาพที่่ได้จากโทรศัพท์ของแฟนผมมาเป็นภาพประกอบเหมือนกัน

    หลังจากรถไฟค่อยๆเคลื่อนขบวนออก ความวุ่นวายก็มาถึง

      แกอยู่ดีๆขึ้นรถไฟมาก็เอาเลยครับกับความปวดหัวปวดร้าว แกจะไม่ให้ใครไปนั่งร่วมกับแก แกจะวางขาและก็นอน ผมนี่สงสารลุงที่นั่งด้วยเหลือเกินโดนทั้งถีบทั้งเหยียบ แต่เจ้าถิ่นอะครับ รู้จักทุกคนเลย เห้อๆประสบการณ์แปลกใหม่จริงๆ แค่เริ่มก็เอาแล้ว 55555 

    เวลาผ่านไปสักพักลุงกลายเป็นลูกหมู 55555

    หลังจากรถไฟแล่นไปเรื่อยๆระหว่างทางก็พยายามเก็บภาพต่างๆไว้เป็นเรื่องราวความทรงจำดีๆ ผมว่าบางครั้งมันก็เพลินดีนะ ได้นั่งรถไฟยาวๆ กินลมธรรมชาติบ้าง ฝุ่นบ้าง บางคนอาจไม่ชอบการเดินทางที่ยาวนานเพราะรู้สึกเสียเวลา สำหรับผมถ้าพอมีเวลาที่จะให้กับการเดินทางผมก็รู้สึกโอเคกับมันนะ

    ถึงแล้วววว  เ ชี ย ง ใ ห ม่ . . .  หลังจากพยายามนั่งหลับๆตื่นๆมานานแสนนาน ก็ถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่แล้วจ้าว ดีใจสุดๆอะเดินทางมาถึง รถออกตั้งแต่ 13.45 ถึง ตอนนี้ เวลา 05.00 น. เป็นการเดินทางยาวนานครั้งแรก คงจะจำการเดินทางครั้งนี้อีกนานเลย  หลังจากเดินทางมาถึง ภาพแรกที่เห็นเลยแล้วชอบมากๆคือ หนุ่ม Biker แกเอารถบรรทุกมากับรถไฟขบวนเดียวกับผมครับ ได้โอกาสเลยขอถ่ายเก็บไว้สักหน่อย เดินเลยมาสักพักก็จะมีร้านอาหารประจำสถานีรถไฟอยู่ทางด้านซ้าย ครับ หิวมากๆ เอ่อลืมบอก ซื้อถุงมือแล้วนะครับ 5 5 5 5 5  มาถึงที่สถานีจะมีร้านค้าอยู่ครับ ไม่ถึงกับเยอะแต่จากการสังเกตุน่าจะพอช่วยคนที่ยืมหยิบติดอะไรมาจากบ้านอยู่ครับ 

    จากนั้นก็พยายามโทรติดต่อกับพี่วสันต์ พี่ที่ค่อยประสานงานกับสมาชิกท่านอื่นๆที่กำลังเดินทางมา

    หลังจากกินอิ่มเสร็จแล้ว Google ก็เริ่มทำหน้าที่ครับ เริ่มติดต่อพี่วสันต์ ที่กำลังเดินททางมารับเราไปรวมกับสมาชิกคนอื่นๆ 

     

    ระหว่างรอครับ

    การเดินทางที่ดีต้องถ่ายรุปคู่กับป้ายสถานที่ครับ 5555

     

     

     

     

     

     

     
    • โพสต์-2
    pawaris •  ธันวาคม 27 , 2558

    หลังจากที่พี่วสันต์มารับเราขึ้นรถที่สถานีรถไฟแล้ว เราก็ได้พบกับพี่เก๋ซึ่งเป็นสมาชิกในกลุ่ม Give North ด้วยเช่นกัน และที่สำคัญ พี่วสันต์และพี่เก๋ ก็เป็นแฟนกันนน น่ารักครับบ <3 

    หลังจากมาถึงก็มาเจอกับพี่ๆสมาชิกคนอื่นๆ ตื่นเต้นมากครับบ เงียบกรีบเลย 5555 พี่ๆคุยกันสนุกสนานมากครับบบ พี่ๆชวนกินข้าวเหนียวไก่ก่อนเลยครับบ หลังจากกินเหนียวไก่เสร็จ ก็ขึ้นรถเพื่อจะไปรับสมาชิกที่มาจากลำปรางอีกกลุ่มหนึ่ง 

    หลังจากที่มารับสมาชิกลำปางที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมแล้ว ก็รับฟังภาระกิจ ต่างๆ และสถานที่ ที่เราจะไปอีกครั้งหนึ่ง ยิ่งใกล้เริ่มภาระกิจ ยิ่งตื่นเต้นครับ ^^ เริ่มแพคสัมภาระขึ้นหลังรถครับ เยอะมากกกกกกก 

    ทริปนี้มีรถกระบะ 3 คัน ครับ กับ 24 ชีวิต  คันแรกก็บรรทุกของไปแล้วหนึ่งคันครับ  ภาระกิจแรกแบ่งหน้าที่แล้วครับ  รถ 2 คันแรก ไปซื้อ ของที่ตลาด ส่วนอีกคัน ไปรับสมาชิกเพิ่ม หลังจากรับสมาชิกมาเพิ่ม ก็ไปสมทบกับ2คนแรกที่ตลาด คราวนี้ละครับ งานจ่ายตลาดก็มา " แ ก๊ ง ล ำ ป า ง ค รั บ บ บ "

    ทีมลำปางทุกคนมาเป็นทีมจริงๆครับทุกคนดูสามัคคีกันมามากๆๆ น่ารักมากครับ (;

     

    หลังจากซื้อของเสร็จแล้ว ก็พร้อมออกเดินทางสู่บ้านห้วยเย็น ครับบ ยิ่งใกล้ยิ่งตื่นเต้นครับ ทัศนียภาพที่สวยมากครับ มีภูเขาที่อยู่ข้างหน้าเรา เรียงเป็นแนวเขา ผมสูดอากาศเต็มปอดกับธรรมชาติที่นี้เลย มันเป็นครั้งแรกที่ผมเดินทางมาเชียงใหม่อย่างเต็มตัว มันเหมือนคำที่อธิบายไม่ถูก 

    ตลอดเส้นทางที่เราจะไปข้างหน้าผมไม่รู้เลยว่าทางจะเป็นยังไง และนี่ก็เป็นการนั่งรถกระบะขึ้นเขาครั้งที่ 2 ของ ผม นั่งหลังกระบะครับ มาทั้งที่ ลุยยยย 

    เส้นทางที่เราไป ช่วงแรก จะเป็นถนนที่วิ่งสบายหน่อยครับ แต่ถ่ายไม่ทัน (Fast 8 มาเองครับ) 5555

    มาถ่ายได้ช่วงที่เริ่มจะเป็นทางที่เป็นดินสลับทางปูนนิดหน่อย 

    ทริปนี้พี่ๆบอกว่าเส้นทางๆจิ๊บๆครับ โหดกว่านี้ผ่านมาแล้ว บอกเลยผมเชื่อครับ หลังจากได้นั่ง (Fast 8) 5555 

    ขับมาสักระยะหนึ่งก็มาถึงแยกครับ 

    และแล้วพระเอกหนังเรื่อง Fast & Furious 8 ก็ปรากฏตัวขึ้น 

    เท่มากครับพี่ พี่คนนี้ชื่อว่า พี่เอช ครับ ฝีมือการขับรถบอกเลยว่า Fast มากครับ

    ท่ า โ พ ส  S t r o n  g ไ ห ม ค รั บ (; 

    ถึงช่วงตรงนี้เราหยุดพักแป๊ปเดียวเท่านั้นครับ รอรถอีก2คันที่ขับตามพระเอกเราไม่ทันขึ้นมา แล้วจึงมุ่งหน้าเดินทางต่อ ระยะทางจาก อาเขต มาถึงบ้านห้วยเย็นเป็นระยะทางประมาณ 80 กม. นั่งต่อครับ เก็บภาพยากมากครับ ตอนมา Fast สุดๆ 

    หลังจากเดินทางมาสักพักก็มาถึงครับ หมู่บ้านห้วยเย็น 

    สิ่งแรกภาพแรกที่พบแล้วสะเทือนเลยครับ

    ชาวบ้านที่นี้ส่วนใหญ่ นับถือศาสนาคริสต์ครับ 

    ซึ่งในขณะที่เราเดินทางมาถึงหมู่บ้านนั้นก็เลยเวลาเที่ยงมาแล้ว ซึ่งเราถึงเวลาต้องพักรับประทานอาหารกลางวันกันซักทีครับ และสถานที่ ที่เราจะพักรับประทานอาหารกลางวันกันในวันนี้ก็ไม่ใกล้ไม่ไกล ในหมู่บ้านนี่ละครับ กับบรรยากาศการกินข้าวท่ามกลางภูเขาต้นไม้น้อยใหญ่ กับอากาศที่แสนจะสบาย ผมหนีกรุงเทพมาได้จริงๆ ชื่นใจครับ หลังจากนั้นก็หาจุดปักแลนด์มาร์คกันแล้วละครับ  มาอาสาทั้งทีคำว่าสบายโยนทิ้งไว้ที่บ้านเลยครับ เอ้าปักแลนด์มาร์คกันเลย (; 

    " พร้อมยังค่ะ! ทุกคนนน เตรียมตัววว นะ  1 2 ซั่มมมมมมมมม " "จัดแล้วนะครับบบบ งับ! " จริงๆมื้อนี้ผมเล็งไก่ไว้นะ 55555 มันเป็นการกินข้าวที่แสนหาได้ยากจากกรุงเทพ มีเงินเป็นแสนเป็นล้านก็หาร้านแบบนี้ในกรุงเทพไม่ได้นะครับ อิอิ

    รู้สึกมีความสุขจังที่เราได้มีโอกาสมารับสิ่งที่เราไม่เคยรับมาก่อน รู้สึกชอบ รักกับมัน ทุกคนดูมีรอยยิ้ม มีความสุข มากกว่าที่ในใจทุกคนจะบอกว่า โหยอะไรเนี้ย ขนาดนี้เลยหรอ แต่ป่าวเลยครับ ดูรอยยิ้มทุกคนสิ ท้ายที่สุดมันเป็นเรื่องของใจล้วนๆเลย 

    หลังจากกินมื้อเที่ยงเรียบร้อย ก็ถึงเวลาลุยภาระกิจนี้กันแล้วครับ 

    ช่วงนี้ก็รับฟังการชี้แจงอีกครั้งครับ แบ่งแยกกลุ่มเพื่อหาวัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งหมด 

    ถือว่าเป็นเรื่องที่ผมรู้สึกว่ามันดีมากครับ ที่เราไม่ต้องใช้วัตถุดิบทางเคมีเลย

     

     

    ยังไม่จบนะครับ พรุ่งนี้จะมาต่อ เรื่องนี้ยาวๆมาก 3 - 4 วันเนี้ย ไม่มีวันไหนว่างเลยครับ 55555 

    • โพสต์-3
    pawaris •  ธันวาคม 28 , 2558

    มาละครับ เลิกงานกลับมาแล้วเล่ากันต่อเลย 

    หลังจากที่แบ่งงานแต่ละกลุ่มแล้วทุกคนก็กระจายกันไปทำหน้าที่ของตนเองครับ 

    พี่คนนี้คือพี่สมรัช เจ้าของสถานที่ ที่เราจะพักผ่อนตลอดกิจกรรมครับ

     

    หลังจากแบ่งกลุ่มแยกย้ายกันไปหาวัตถุดิบทั้งฟืน หม้อสำหรับต้ม ใบไม้ที่จะนำมาต้มเพื่อให้สี ต่างๆ

    วัตถุดิบที่เราใช้ต้มเพื่อที่จะให้สีของผ้า ก็ได้แก่

    1.ใบขนุน  ให้สีเหลืองอ่อนแกมเขียว

    2.ครั่ง ให้สีแดง อมชมพู

    3.ขมิ้น ให้สีเหลือง

    จากนั้นก็ก่อไฟเพื่อที่จะต้มน้ำครับ

    " ส อ ง ส า ว ดู จ ะ ใ ห้ ค ว า ม ส น ใ จ อ ย่ า ง ยิ่ ง "

     

    ผ้าหม่ที่ทำจากกิจกรรมห่มรักมัดย้อมของปีที่แล้ว

    ทุกคนดูจะสนใจกับการทำกิจกรรมนี้มากครับ ไม่คิดมาก่อนเลยครับว่าธรรมชาติเรานี่มันอัศจรรย์มากครับ

    รู้สึกอยากย้ายจากกรุงเทพมาอยู่เลย ไม่รู้ว่าใครจะรู้สึกเหมือนเรารึป่าว แต่ผมรู้สึกว่าทุกคนที่มารู้สึกเหมือนกัน งานนี้ผมทั้งถ่าย ทั้งเล่า ทั้งทำกิจกรรม บางช่วงก็อาจไม่ได้ถ่ายเสียดายเหมือนกันครับอยากเก็บทุกความรู้สึกทุกตอนให้คนที่เหมือนเราได้อ่าน อยากจะมีหลายๆมือจริงๆเวลานี้ 

    น้ำเริ่มเดือดแล้วครับ ได้เวลาใส่ ขมิ้น ครั่ง ใบขนุนแล้วครับ แต่เดี๋ยว ผมลืมบอกไปว่า การต้มนี่ต้องแยกหม้อนะครับ เพราะให้สีที่ต่างกัน ฉะนั้นเราต้องต้มน้ำถึง 3 หม้อ ด้วยกัน 

    เริ่มใส่วัตถุดิบลงในแต่ละหม้อครับ คราวนี้ก็รอจนแต่ละหม้อจะออกสีครับ

    ระหว่างที่เรารอสีจะออก ก็ไม่ได้นั่งว่างนะครับ ทริปนี้ทุกคนไม่มีว่างครับ ผมถึงบอกว่ามันคุ้มกับชีวิตมาก

    เราก็มาฟังพี่วสันต์อธิบายถึงการมัดผ้าเพื่อที่จะให้ได้ลายต่างๆ ซึ่งส่วนที่มัด จะเป็นส่วนที่ไม่โดนสีเวลาต้ม คราวนี้ละครับ Design กันเองเลย คิดสดๆกันเลยครับ 55555 หลังจากอธิบายเสร็จ ทุกคนก็ลุยเลยครับ มันเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดีเลยที่เดียวครับ ผมไม่รู้ว่าคนที่เดินทางท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะรู้สึกแบบนี้หรือป่าว ผมเองก็ยังเพิ่งเริ่มที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวได้ไม่กี่ที่ เรียกได้ว่ามือใหม่เลยก็ว่าได้ครับ แต่ทุกครั้งที่ผมไปมันจะต้องมี อุปสรรค์เกือบจะทุกที่เลย และเมื่อไหร่ที่มันเกิด ผมมักจะยิ้มรับจากมัน มันเหมือนตัวช่วยจดจำเวลาขณะนั้นก็ว่าได้ 

    รู้สึกเลยว่ารัก จากการมาได้เห็นรอยยิ้มทุกคน กับสิ่งที่เราพยายามเดินทางมาตั้งไกลเพื่อมามอบกับคนอื่น บางครั้งเราก็รู้สึกว่าเวลาเราทำให้คนอื่นยิ้มได้เรามีความสุขนะ และเราจะมีโมเม้นท์ที่ยืนอยู่ด้านหลังของทุกคนที่กำลังยิ้ม แล้วเรามีความสุข 

    ทริปนี้มันทำให้ผมรู้สึกแบบนั้นอีกครั้ง จริงๆ ^^

    หลังจากที่ทุกคนมัดผ้าด้วยความตั้งใจ คิดว่าจะเสร็จแล้ว รอต้มแล้วครับ ทุกคนอยากที่จะเอาผ้าไปต้มกันเต็มทีแล้ว แต่มันยังทำไม่ได้จ้าาา เพราะผ้าหม่ที่เราจะส่งมอบชาวบ้านนั้นมีจำนวนทั้งหมด 30 ผืน ซึ่งอาสามีสมาชิกแค่23 - 24 คน รวมกับชาวบ้านที่มาร่วมกิจกรรมเพียงไม่กี่คน คราวนี้ละครับ ผลงานตกคนละ2-3ผืนกันเลยทีเดียว มัดแล้วมัดอีก มัดจับจิตมัดจับใจ น่ารักดีครับ ที่สุดแล้วมันก็ครบ 30 ผืนตามที่เราตั้งใจครับ 

    ชาวบ้านก็มาช่วยนะครับ กิจกรรมนี้พยายามที่จะให้ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมด้วยครับ เพราะอะไร ต้องอ่านต่อไปครับบ ทริปนี้เราไม่ได้มาเล่นๆนะครับ 55555 เริ่มลงหม้อแล้วนะครับบบบ ตื่นเต้นมากครับบบ ทุกคนดูอยากจะเห็นผมงานของแต่ละคน แต่ก็ต้องใช้เวลาเผื่อให้สีมันติดผ้าครับ ทั้งนี้ผ้าหนึ่งผืนเราจะทำ 2 - 3 สี ก็ได้ แต่เราเลือกที่จะทำสีเดียวครับ เพราะว่าเราต้องเผื่อเวลาที่เราต้องสต๊อปสี ล้างน้ำเปล่า และตากด้วย ซึ่งเวลาก็ใกล้ที่จะเย็นลงๆเข้ามาทุกที   QC ตรวจเช็คการมัดอีกรอบครับ 5555 จริงๆแล้วถ้าเรามัดไม่แน่น ส่วนที่เรามัดไม่แน่นสีจะแทรกซึมเข้าไปซึ่งเวลาต้มเสร็จ จะไม่เกิดลายอะไรเลย ฉะนั้นต้องมัดให้แน่นครับ เราจึงต้องมี QC นั้นเอง QC ของเราคือพี่โอ๋ครับ พี่โอ๋คือพี่อีกท่านหนึ่งที่เป็นสมาชิกของกลุ่ม Give North ตั้งแต่แรกๆเลยครับ พี่โอ๋จะพยายามเดินช่วยทุกจุดเลยครับบ  ลุ้นครับๆๆ จังหวะนี้ทุกคนลุ้นของแต่ละคนมากครับ  สังเกตุจากภาพนี้จะเห็นว่า ทุกคนไม่ได้มีผลงานแค่ชิ้นเดียวแน่ๆ 5555 แต่ก็สนุกดีครับ ผมนี่ยิ้มทั้งวันเลย เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยภูเขา ธรรมชาติ จริงๆ วันนี้แดดก็ดี ฟ้าก็เปิด รอเวลาจนผ้าต้มเสร็จ เดินจน งง อะครับ ต้มหม้อไหนบ้างเพราะเราจะต้องช่วยเพื่อนๆด้วย ถึงเวลาแล้วครับ 5555 ต้องเอาผลงานขึ้นแล้ว แต่เชื่อไหมครับว่า แยกไม่ออกเลย ของใครเป็นของใคร เวล่าก็จวนเจียนใกล้มืดเข้ามา ทีนี้ละครับ งานรีบก็มาาาา 

    คราวนี้พอเอาผ้าขึ้นมาแล้วกล้องไม่ได้จับเลยครับ 

    หลังจากนำผ้าที่ต้มจนได้สีขึ้นมาแล้ว คราวนี้ก็เข้าสู่ขบวนการสต๊อปสี การสต๊อปสี ก็ต้องนำผ้าไปแช่ในน้ำ ที่มีอยู่ 2กะละมัง กะละมังที่1 เป็นน้ำขี้เถา สีจะถูกดรอปลงมา กะละมังที่2 เป็น สารส้ม จะให้สีที่สดมากครับสีจะไม่ดรอป ครับ ขึ้นอยู่กับเราว่าอยากให้ผ้าห่มสีดรอปลงหรือคงสีเดิมไว้ 

    ทุกคนต่างเร่งมือช่วยกัน ให้เสร็จทันเวลา เพราะเราต้องลงไปที่ไร่ของพี่สมรัช เนื่องจากเรายังไม่ได้กางเต้นท์ ทีมแม่ครัวก็ทำอาหารรออยู่ที่ไร่แล้ว เร่งมือๆแล้วเร่งอีกช่วยกันคนละไม้คนละมือจนสำเร็จ เสร็จแล้วครับ ของใครเป็นของใครดูกันไม่ออกจริงๆ แต่นั้นยังไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงครับบ คราวนี้ก็เหลือแค่รอเวลาตากให้ผ้าแห้ง แล้วพรุ่งอีกวันเราจะนำใยโพลีมาใส่ไว้ในผ้าห่มแล้วเย็บปิดแล้วก็ส่งมอบครับ  คราวนี้ก็ได้เวลาเก็บของแล้วครับ จะมืดแล้ว ได้เวลาลงไปปักแลนด์มาร์คแล้วครับ นั่งกินลมชมวิวข้างทางๆมาเรื่อยๆก็มาถึง ทางลงที่จะเข้าไปที่ไร่แล้วครับ  ทุกคนดูชิวและสนุกมากครับบ มันเลยทำให้ตลอดทริปตลอดเส้นทาง มีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มม ลงมาถึงด้านล่าง ที่พักเราวันนี้สุดยอดมากครับ อยู่ในช่วงหุบเขา ล้อมรอบด้วยภูเขาน้อยใหญ่ และที่สำคัญพี่ๆบอกว่านอนใกล้ลำธารน้ำตกด้วย ฟินครับงานนี้ ตอนนี้ก็หาสัมภาระของแต่ละคนครับ 

    ไร่ของพี่สมรัชครับ ที่อยู่ช่วงหุบเขา บรรยากาศบอกเลยครับว่าสุดยอดมากอากาศดี ได้สูดอากาศดีๆเต็มปอดซะที กรุงเทพไม่มีโอกาสนะครับบอกเลย

    จุดกางเต้นท์ครับ บริเวณนี้กางเต้นท์ได้ถึง 5 หลัง หรืออาจจะมากกว่านิดหน่อย แต่บอกเลยครับ ว่าคุณจะได้ยินเสียงธรรมชาติที่แท้จริง โอบล้อมกอดคุณทุกคเช้าค่ำ อากาศเย็นๆ ไม่ร้อน ตกกลางคืนหนาวครับบ อยู่ใกล้น้ำ เล่นน้ำได้นะครับตรงนี้ จุดนี้เป็นไร่ส่วนตัวของพี่สมรัชเลยย อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สุดยอดมากครับบ คืนนี้และอีกคืนพรุ่งนี้เราต้องฟินแน่ๆ 

    หลังจากกางเต้นท์อะไรจนเสร็จเรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำทำภาระกิจส่วนตัวกันจนเสร็จ ก็ได้เวลาทานอาหารเย็นแล้วครับ

    มื้อนี้คืนแรกครับ กับข้าวอร่อยมากกก จากแม่ครัวหนึ่งในสมาชิกกลุ่มGive north ตอนนี้ยังไม่เปิดเผยตัวนะครับ อิอิ ก่อนรับประทานอาหารก็ต้องพิจารณาอาหารกันสักก่อนนะครับ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เราก็มานั่งรอบกองไฟครับ ถือเป็นการแนะนำตัวกันอย่างเป็นทางการ การเข้ารอบกองไฟอาจจะไม่มีรูปนะครับ มันกลายเป็นความทรงจำที่เข้ามาซึมซับไว้ในความทรงจำที่ดี ทุกคนได้รู้ว่าแต่ละคนเป็นอะไร ทำอะไร มาจากไหน มาเข้าร่วมกลุ่มได้ยังไง ทำไมถึงมาเข้าร่วมกลุ่ม คืนนั้นเราแลกเปลี่ยนทัศนคติความคิดกันทุกคน ผมนี่ยิ้มเลยครับ เพราะรู้สึกดีมากๆ

    หลังจากแลกเปลี่ยนทัศนคติกันจนมาถึงเวลาที่เราสมควรที่จะพักผ่อนกันแล้วครับ คืนนี้ก็บายยยยยยย ฝันดีครับบ

    • โพสต์-4
    pawaris •  มกราคม 07 , 2559

    เช้าวันที่สอง ในเวลาที่ยังไม่มีใครตื่น แต่เรามีภาระกิจต้องตามหาครับ ชมพระอาทิตย์ เอ๊ะ! แล้วทำไมคนอื่นไม่ตื่นมาดูหรอ อันนี้เราขอให้พี่สมรัชพาเราไปดูครับ นอกรอบ พี่สมรัชแกเต็มใจและยินดีเลยครับ ก็แอบเกรงใจแกด้วย เพราะเดี๋ยวสายๆแกก็จะพากลุ่มออกไปเที่ยวชมที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่แฮเหนือ ไปดูกัน

    จุดนี้บอกเลยว่ารอเธอพระอาทิตย์ แต่เธอโดนบัง ไม่ค่อยเบยย ขับมอไซค์ตามหาเธอตั้งแต่ทางยังมืดครับ นี่สว่างละเธอก็ไม่ออกมาให้เห็นครับ ขับกลับเลยครับบบบ