ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
เขาค้อ-ทับเบิก เตลิดไปถึงเลย นอนเล่นแพห้วยกระทิง ชิลๆที่เชียงคาน แนะนำที่พักหลักร้อย ไร่ริมผา ภูทับเบิก จ.Chang Wat Phetchabun
    • โพสต์-1
    Boy •  กันยายน 10 , 2559

    คู่รักตะลอนทัวร์มาแล้ว ทริปนี้ เป็นภูทับเบิกรอบที่ 4 แล้ว ไม่รู้ติดใจอะไรหนักหนาต้องมาทุกปี แต่ไหนๆจะไปแค่เขาค้อ-ทับเบิกเหมือนเดิมก็กระไรอยู่เลยขอเตลิดไปเมืองเลย หวังจะไปแก้มือทะเลหมอกภูทอกอีกสักครั้ง ไม่รู้ว่ารอบนี้จะแห้วอีกหรือป่าวเลยจัดทริป3วันสองคืน ไปนอนเชียงคานสักคืนแล้วกลับมานอนภูทับเบิกอีกสักหน่อย แล้วค่อยกลับบ้านกัน ทริปนี้ไม่มีใครสนใจไปกับเราเลยไปกัน 2 คน แต่ไม่เหงาเพราะเรามีเพื่อน มีพี่อยู่ที่เลย จะพาเที่ยวกับเพื่อน ชาว Biker จะมาเจอตอนอยู่ที่ทับเบิก ว่าแล้วก็ไปกันเถอะ ทริปนี้ไปกันวันที่ 9-11/7/2559 ค่าใช้จ่าย 2คน คนละ2500 บาทมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายท้ายทริปครับ

     

    ตารางโปรแกรมทริปนี้

    วันแรก มาเช้าที่ Pino latte-กังหันลมบ้านเพชรดำเข าค้อ-แพ้ห้วยกระทิง-เชียงคาน-ที่พักเถ้าแก่ลาว

    วันที่สอง ภูทอก-วัดพระธาตุภูควายเงิน-ผ่าฝนขึ้นภ ูทับเบิก เจอหมอกทั้งวันทั้งคืน

    วันที่สาม อลังการงานหมอกภูทับเบิก 

    ฝากติดตามเพจเล็กไว้ด้วยครับ "เหลี่ยมพาเที่ยว"

    ก่อนอ่านชมคลิปก่อนได้ครับ รูปทั้งหมดถ่ายจาก Nikon D5300 18-140 และ Gopro 4 silver

    • โพสต์-2
    Boy •  กันยายน 10, 2559
    • โพสต์-3
    Boy •  กันยายน 10 , 2559

    เริ่มเดินทางตอนแรกว่าจะมาดูแสงแรกแต่ก็นอนเพลิน กว่าจะได้ออกจากบ้าน ตี3.30 เลยรีบทำเวลาสุดๆ แต่ก็มาไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้นมาถึง Pino latte 7.15 พระอาทิตย์ออกมายิ้มแฉ่งแล้วแต่สอบถามคนที่นี้เขาก็ว่าวันนี้ก็ไม่มีทะเลหมอกมีแค่หมอกหงอยๆบางๆ แต่ก็สวยไปอีกแบบครับ

     

    คงยังไม่มีใครไม่รู้จักที่นี้เนอะเอาเป็นว่าดูรูปกันเลย

     

    อากาศอุ่นๆลมเย็นๆครับวันนี้

     

    เช้าๆคนก็เยะแล้วครับที่นี้

     

    ดอกไม้สวยๆ

     

     

    หลังจากถ่ายรูปจนพอใจใครจะจิบกาแฟตอนเช้าๆก็ดีแต่ผมไม่กินกาแฟเลยไม่ได้ซื้อน้ำเลย

     

    ขับต่อลงมาทางวันผาซ่อนแก้ว รอบนี้ไม่ได้แวะครับมา3รอบแล้ว เลยไปต่อ นี่ไงที่เราจะไปนี้ถ่ายจากทางลงวัดผาซ่อนแก้วนะครับ กังหันลมใหญ่เห็นเด่นมาก ไปเราไปตามหากัน

     

     

    ทางมาม่ยากถ้าจากวัดผาซ่อนแก้วก็วิ่งกลับมาทางจะไปเขาค้อ แล้วจะมีทางไปหมู่บ้านเพชรดำ นั้นละครับเลี้ยวขวาขึ้นมาเลยจะเป็นเนินถนนสูงๆนั้นแหละวิ่งไปตามทางเรื่อยๆ ดูเหมือนจะใกล้แต่ก็ไม่ถึงเสียทีพอมาถึง โอโห้ กังหันลมใหญ่มากก

     

     

    มองดูถนนข้างล่างขึ้นมาเยอะเหมือนกันแต่ทางไม่น่ากลัวครับมาได้สบาย

    ถ่ายรูปสักพักก็ไปต่อครับ

    ถนนสวยๆครับเส้นนี้

    อีกสักรูประหว่างทางลง

    ไปต่อกันครับผมแวะเติมแก้สและกินข้าวที่ปั้มกันก่อนเช้านี้ เดี๋ยวผมจะยิงยาวไปจังหวัดเลยกันต่อ จุดหมายต่อไปเป็นแพห้วยกระทิง ไปกันเลยแพห้วยกระทิงอยู่ใกล้ตัวเมืองเลยครับมาไม่ยากมาแล้วก็เลือกแพตามต้องการเลยแต่เจ้าถิ่นพี่ชายผมที่อยู่ที่เลยนัดมาเจอกัน เขาแนะนำว่าให้มา แพไผ่งามครับ

    มาถึงตอนเที่ยงพอดี จอดรถเสร็จก็สั่งอาหารแล้วก็เลือกขนาดแพครับ เริ่มต้นจะเป็ยแบเล็ก300 บาท ได้ประมาณ 5-6 คนได้ครับ ที่นี้ดีครับจ่าย300แล้วนั่งนอนเล่นกันได้ทั้งวัน ยกเว้นแต่เทศกาลจริงๆถึงจะมีจำกัดเวลาครับ เมื่อเลือกได้แล้วเขาก็จะลากเราไปกลางน้ำครับไปทิ้งไว้ปล่อยให้กระสะลมพัดเราไปเรื่อยๆ

    อาหารแพนี้ก็รสชาติดีเลยครับ ไม่แพงด้วย หมดนี้รวมค่าน้ำกับค่าแพ 750 บาทครับ ที่นี้เขาจะมีเบอร์ให้ครับถ้าต้องการจะสั่งอาหารเพิ่มหรือจะไปเข้าห้องน้ำโทรบอกเขาเดี๋ยวจะมีเรือเล็กมารับไม่เสียค่าบริการครับ

    ไปดูบรรยากาศรอบๆกัน อากาศดีมากๆลมโกรกโยกสบายสุดๆ

     

     

     

    พี่ชายที่อยู่ที่เลยครับ มาเลยทีไรต้องเจอกันตลอด

    ไปดูรูปยาวๆเลย

     

     

    ภูเขาเขียวๆตัดกับท้องฟ้า มันต้องมาเห็นเองเพลินมากอ่ะแล้วแบบแพมันก็จะหมุนๆไปเรื่อยตามลม วิวมันก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

     

     

    โอ้ยฟินน้ำก็เย็น ใครจะเล่นน้ำก็ได้ แต่ผมนอนเล่นไปมาหลับไปตื่นนึง ตื่นมาเกือบบ่าย3ละ เลยเรียกเรือมาลากกลับจะเข้าที่พักเชียงคานแล้ววว

    ก่อนออกแวะถ่ายรูปจุดชมวิวด้วย ที่เราไปนอนเล่นเมื่อกี้อ่าแหละ

     

     

    ปิดท้ายห้วยกระทิงด้วยออสดำ รู้จักพี่ได้ก็ด้วยออสดำนี่แหละไปจังหวัดไหนถ้ามีคนในคลับอยู่รู้จัก ก็จะออกมาหาพาเราเที่ยว ไม่ได้เป็นการบกวน แต่บางคนเขาอยู่ไกล จะขับมามิตติ้งทีก็ไม่ไหวได้คุยกันแต่ในเฟส หลายคนเลยยินดีที่จะออกมาหาเวลาผมไปถึงถิ่นพี่เขาครับ นี้แหละมิตรภาพ 4 ล้อ

     

    ที่จริงบ้านพี่ตั้มเขาอยู่ในตัวเมืองวันนี้เขาก็เลยให้ผมจองที่พักเชียงคานให้ด้วยถือโอกาศมาเปลี่ยนที่นอนด้วยเลยเหมือนกัน

     

    ที่พักของเราคืนนี้คือ เถ้าแก่ลาวนั้นเอง ที่พักหลักร้อย แต่จริงๆก็ในเชียงคานส่วนมากก็หลักร้อยครับ ที่นี้ดีตรงไม่พลุกพล่านครับอยู่ต้นๆทางเลย มีแค่ 3 ห้อง แอร์ แต่เป็นห้องน้ำรวมแต่ห้อน้ำสอาดถูกใจครับ ไม่สกปกรก ราคาตอนนี้ที่ไป ห้องบนริมน้ำ 770 ครับห้องล่างจำได้ว่า670 ผมกับพี่ตั้มคนละห้อง ริมน้ำครับ

    ภายในสวยให้อารมณ์เมืองเก่าครับ

     

    ขึ้นมาดูในห้องของผมชั้นบนเป็นแบบเตียงคู่ครับ

     

    มีระเบียงด้วยใหญ่เลยละ

    วิวแม่น้ำโขงกับฝั่งลาว

     

     

    หลังจากถ่ายรูปสักพักก็นอนพักผ่อนกันรอไปดินถนนคนเดินตอนเย็น ดูพระอาทิตย์ตกจากระเบียง

    ตกเย็นก็เดินถนนคนเดินกัน วันนี้คนไม่เยอะมาก คงเพราะหน้าฝนคนเลยน้อย

     

    งานฝีมือหลายร้านครับ

     

    อย่าลืมกินกุ้งเสียบนะครับ อร่อยดีเหมือนกัน

     

    จากนั้นก็มาหาข้าวกินกันที่ร้าน นั้งเล่นเล่นครับ ริมโขงเลย บรรยากาศดี มีพี่อีกคนตามมากินด้วยกัน เมื่อกลางวันไม่ว่างเลยพึ่งตามมา อาหารก็อร่อยไม่แพงครับ เครื่องดื่มน้ำเมาด้วยมื่อนี้ พันนิดๆ

    ประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆก็เลิกกินเดินกลับกันครับ แต่ตอนหลับนี้โอโห คนละเรื่องกับเมื่อหัวค่ำเลย ปิดหมด บรรยากาศเงียบสงบมากๆ เดินกันจนตึงๆก็ถึงห้องพอดี คืนนี้ก็แยกย้ายนอน ตอนเช้าเตรียมลุ้นทะเลหมอกก

     

    เช้ามาตอนรับแสงแดดที่ร้อนแรง โอโหแดดขนาดนี้ไร่วี่แววทะเลหมอกภูทอกอีกแล้วแน่เลย ไปภูทอกกันเร็ว

    บรรยากาศยามเช้าชาวบ้านและนักท่องเที่ยวมารอใส่บาตรข้าวเหนี่ยว

    จากนั้นก็ไม่รอช้ารีบบึ่งมาภูทอก ห่างจากเชียงคาน10โลได้มั้งครับไม่ไกลขับรถแปบเดียว มาถึงจอดรถ 20 บาท แล้วก็เสียค่ารถกระบะคนละ 30 บาทรวมขึ้น-ลงภูทอกครับ นั้งรถแปบเดียวก็ขึ้นมาถึง

    แน่นอน แดดมันช่างจ้าเสียเหลือเกิน แห้วทะเลหมอกอีกแล้วทำไมนะ ภูทอกนี่ใครๆมาก็เห็นผมรอบก่อนมาหน้าหนาวก็ไม่เห้น รอบนี้ลองมาหน้าฝนก็ยังอด มันคงเป็นอะไรสักอย่างบอกให้ผมต้องมารอบ 3 แน่ๆ แล้วจะกลับมาแก้มืออีก เอาละงั้นก็ดูวิวกันดีกว่า ว่าสวยแค่ไหน

    ไม่มีหมอกก็ไม่เลวนะ

     

     

    นู้นแมน้ำโขง

     

    ท่าคู่ต้องมา

    ไปละภูทอก ้องกลับมาถ่ายทะเลหมอกที่นี้ให้ได้

     

    ช่วง #เหลี่ยมพาชิม มื้อนี้ขอเสนอเลย ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว" ร้านป้าบัวหวาน ซอยเชียงคาน14 บน

     

    รสชาติเด็ดมาด ตัวเส้นจะคล้ายเส้นขนมจีนแต่เหนี่ยวนุ่ม เนื้อหมูก็อร่อยใส้ มันๆ พิมพ์ไปแล้วก็อยากกิน กทม. ไม่มีให้กิน จัดกันไปคนละชาม มื้อนี้ก็ ชามละ40 เด็ดมาก

    กลับที่พักเก้บของเตรียมเดินทางต่อเก้บภาพอีกสักเล็กน้อย

    ง้อวว

     

    ได้เวลาบ๊ายบายเชียงคาน เปิดหนังสือดูไปที่เที่ยวไหนต่อดีน้าา

     

    ก่อนไปต่อขอแวะอีกเติมพลังอีกร้านได้ยินมาว่าบะหมี่ที่นี้ก็เด็ดต้องร้านนี้เลย #เหลี่ยมพาชิม ขอเสนอ บะหมี่ เฟื่องฟ้า ๒๕๑๑ ลืมถ่ายหน้าร้าน

    ด้วยบะหมี่ทำเองเอกลักษณ์เฉพาะสูตรดั้งเดิม หมูกรอบและหมูแดงก็อร่อย รสชาติดีมาก มาถึงแล้วต้องลองครับ เสียดายยังมีอีกหลายร้านเด็ดๆไม่ได้ลอง ไว้ค่อยมาใหม่แล้วกัน

     

    อิ่มแล้วก็ไปต่อ พระพุทธบาทภูควายเงิน

    มาถึงแล้ว กราบสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้พรุ่งนี้ลูกช้างเจอทะเลหมอกสวยๆทีเถิด อดดูมาสองวันแล้ว

     

    ที่นี้มีน้องกระต่ายเยอะมาก น่ารัก

     

     

    เลี้ยงกระต่ายแล้วก็เดินขึ้นจุดชมวิวเล็กๆครับ ว้าวว สวยงาม

    จากนั้นก็ได้เวลาโบกมือลาพี่ตั้ม เมืองเลย แล้วเชียงคานที่รัก โอกาศหน้าต้องมาอีกแน่ๆ แยกกับพี่ตุ้มที่ตัวเมืองแล้วผมก็ยิงยาวมาต่อกัยที่ภูทับเบิก

    • โพสต์-4
    Boy •  กันยายน 10 , 2559

    หลังจากออกจากเลยเข้าเพชรบูรณ์ จากฟ้าใสๆแดดแรงก็มีเมฆหนามากๆ จนกระทั้งตอนขับมาถึงตีนเขาภูทบเบิกฝนก้ตกซะงั้น แรงซะด้วย แต่ด้วยความที่เคยขึ้นมาแล้ว3 รอบ เลยไม่กลัวขึ้นผ่าฝนมันซะเลยแต่ขับตอนนี้ก็ดีนะครับรถน้อยไม่น่ากลัวขึ้นได้ยาวๆ เจอกระบะแค่คันเดียว ไปเรื่อยๆไม่มีปัญหา พอขึ้นจนถึงยอด ทั้งฝนทั้งลมยังแรงมากๆ ต้องรอสักพักจนกว่าฝนจะหยุด

     

    หลังจากฝนเริ่มหยุเเบาลง ผมเลยเดินหาที่พัก ไม่ได้จองมาเพราะคิดว่าวันอาทิตย์คนคงไม่เยอะ ตอนนี้ต้องเดินหา 3 ห้องเพราะจองให้เพื่อนอีก2ห้องที่ตอนนี้กำลังแวะเที่ยวภูหินร่องกล้าก่อน ตั้งงบไว้ไม่เกิน1000

    เดินๆไปก็ได้ตื้นเต้นพรที่ขอไว้ช่างเป็นจริงไม่ต้องรอเช้ากได้เห็นหมอกแล้ว และวันนี้ทั้งวันยันทั้งคืน ฝนจะตกๆหยุดๆตลอด แล้วก็มีหมอกขึ้นๆลงๆ เดี๋ยวจะให้ดูเป็ยระยะๆ

    หลังจากเดินหาอยู่พักนึงเลือกเอาแต่โซนจากหอวัดลงไปไร่ริมผา สรุปว่าส่วนใหญ่เต็มนะจ๊ะวันนี้ มที่เหลือบ้างก็เกินงบ แล้วสรุปก็ได้เป็น บ้าน ริมผา อย่าสับสนนะครับ ถ้าไร่ริมผาคือที่ริมผาสุดท้ายเลยที่คนไปถ่ายรูปกันเยอะๆๆ ส่วนอันนี้ ริมผาเฉยๆ อยู่ติดกับหอวัดอุหภูมิเลย ได้ราคา 800 แต่ขอต่อ3ห้องเหลือ 2200 บาท

    เข้าไปในห้องก็ เปิดประตูปั้บก็ล้มตัวนอนได้ทันทีเหมาะกับคนเหนื่อยง่ายไม่ชอบเดินหลายก้าว 555 แคบมาก มีเตียงทีวี แค่นั้นแหละ แต่จริงๆก็ไม่ได้ซีเรียสอยู่แล้วปกติมาแบบนี้ชอบกางเต็นด้วยซ้ำแต่ว่าหน้าฝนก็เลยหาเป็นห้องดีกว่าราคาก็ไม่ได้สูงอะไร บรรยากาศดีครับ แต่วิวมีบ้านหลังข้างหน้าบังไปพอสมควร ตองเดินไปริมขวาสุดถึงจะเป็นวิวกว้าง

    หลังจากเข้าห้องกินข้าวร้านตรงนั้นแล้วเพื่อนก็ยังมาไม่ถึง ฝนหยุดอีกรอบแล้ว คราวนี้มองเห็นไกลๆว่ามีหมอก เอ้า ตื่นเต้นอีก วิ่งลงจากที่พักลงไปไร่ริมผา ไปดูหมอกตอนบ่าย4 กันดีกว่า

     

    ว้าวว หมอกเต็มเบยยย

     

    โอ้ยยฟินค่ะหมอกลอยไปลอยมา เห็นวัดป่าได้สักพักเดี๋ยวหมอกก็ปิดอีกและ วิ่งไปวิ่งมาจนเหนื่อย

     

     

    กลับมาที่ห้องเรามั้งแถวนี้ก็ไม่น้อยหน้า มีให้เห็นเหมือนกัน

     

     

    งูชัดๆ

     

    ประมาณ 5 โมงกว่าๆเพื่อนชาวไบค์เกอร์ผมก็มากันถึง ให้เพื่อนอาบน้ำถอดชุดกันก่อน เย็นนี้จะไปหาหมูกระทะกินกัน

    เริ่มเดินถามราคาต่างๆ มีหลายราคา ราคาชุดอยู่ที่ 4-500 แต่บางที่ 500 ก็ให้แค่หมูครึ่งโล

    จนเดินมาถึง ไร่ภูทะเลหมอก จำได้ว่าเคยมีหมูกระทะเพราะเคยมานอนที่นี้ตอนมารอบ 2 สรุปได้ที่นี้ 500 หมู1 โล ราคาดีบรรยากาศใช้ได้ แต่มืดมองไม่เห็นอะไรหรอกแต่ลมเย็นมันฟินๆๆๆ

     

    เวลาร่างกายหนาวๆได้กินของร้อนๆเข้าไปมันรู่สึกแซบมาก 555 เรียกไม่ถูก แล้วที่สำคัญ น้ำจิ้มตรา พริกรวย ของที่นี้ก็แซ่บสะเด่าเชียว ถึงใจสุดๆครับมื้อนี้

    หลังจากอิ่มก็ขอเดินไปหวังจะถ่ายดาวบนดินเสียหน่อย แต่ก็อย่างที่บอก หมอกวันนี้มีทั้งวันทั้งคืน ปลกคลุมฝั่งตัวเมืองหมดเลยแล้วลมก็หนาวมากๆๆ ไม่ไหวถ่่ายได้รูปเดียวรีบเดินกลับห้อง ถึงห้องก็ไหว้พระสวดมนต์ขอให้เช้าเจอหมอกสวยๆ มา 3 รอบก่อน เจอหมอกน้อยยังไม่เคยเจอปังๆเสียที

    เช้ามารีบเด้งตัวเองทั้งที่มันหนาวมากๆอยากนอนต่อสุดๆ แต่ไม่ได้เาจะไปพลาดแสงแรก รีบเดินมาที่ไร่ริมผา ว้าวๆเห็นทะเลหมอกขาวๆแล้ว

    ส้มๆมาละ คอยดูกันต่อไป

    จัดมาท่าคู่ อิอิ

    เดินไปริมฝั่งนี้มั้ง

    เอาละเดี๋ยวให้ดูกันยาวๆเลยนะ สวยมากก

     

     

     

     

    ลืมเลยอันนี้ท่าประจำตัวยืมพี่บ่าววีมานานแล้ว 555

    โอยมีแสงรอดมาหน่อยของจริงอลังการมาก

    อิ่มหรือยัง ถ้ายังเอาไปอีก พอเริ่มมีแดดอออก ทะเลหมอกขาวๆยิ่งชัดเจน

     

    คู่กะเพื่อนมั้ง เพื่อนคนรักตอนเข้าเรียน ปวช.

     

    เดินมาอีกนิดกับโอ่งในตำนาน แต่กระหล่ำเขาพึ่งเก้บกันไปหมดแล้ว

    หมับเข้าให้

    ขาวๆนั้นทะเลหมอกทั้งน้าน

    ยังมีรอดไม่โดดเก็บไป

     

    โหนี่มันพระเอกมิวสิคนี้หน่าา

     

    หมดก็อกละถ่ายกันจนเมื่อย ก็หิวสิครับเดินไปหาอะไรกินกันได้ร้านวิวงามๆ มื้อเช้าแสนอร่อย

     

    หลังจากนั้นเพื่อนผมก็ขอลงไปก่อนเพราะยังไม่ได้เที่ยวเขาค้อเลยแต่ผมวันนี้โปรแกรมไม่แวะไหนแล้วเลยนั้งๆนอนที่พักก่อน ถ่ายรูปหมู่กับพาหานะของแต่ละทีมหน่อย จะกี่ล้อก็ไปด้วยกันได้ครับ

    ประมาณ 10โมงกว่าๆผมก็ลงมั้ง ทีนี้ละหมอกจัดเต็มมาอีกแล้ว ขาขึ้นฝ่าฝน ขาลงฝาดงหมอก สุดยอดครบรสมากๆ

    ลงถึงพื้นแล้วบรรยากาศก็เปลี่ยนอีกความหนาวเย็นหายไปความร้อนเข้ามาแทน เดินทางกลับถึงบ้านกันเย็นๆโดยปลอดภัย สนุกคุ้มค่ามากๆทริปนี้ วีออสยังรอดปลอดภัยหลังจากชนศพหมามาจากทริปเขาหลวงอาทิตย์ที่แล้ว ตอนแรกว่าจะยกเลิกเพราะใช้สายเคเบิ้ลไทร์รัดหม้อน้ำวีออสไว้ ยังดีที่ตัดสินใจลุยทำให้ทริปนี้เป็นอีกทริปที่มีความสุขมากๆ

    สรุปค่าใช้จ่าย

    น้ำมัน 500

    แก้ส 1700 วิ่งไปประมาณ 1300 กว่าโล

    แพห้วยกระทิง 500

    ที่พักเถ้าแก่ลาว 770

    ที่พัก ทับเบิก 730

    ที่เหลือเป็นค่ากิน กินง่ายๆทุกมื้อมื้อละ 40-60 ต่อคน มีมื้อเย็นที่เชียงคานหนักหน่อย กับมื้อหมูกระทะที่ทับเบิกอีกคนละ 100กว่าบาท

    เป็นคิดรวมแล้วผมกะแฟนหมดคนละ 2500 กว่าๆ แค่นั้น พอดีกับงบที่ตั้งไว้เป๊ะ จบทริป3วัน2คืน กับเพชรบูรณ์-เลย ใครไม่เคยต้องไปเลยนะจ๊ะ

     

    แล้วพบกันใหม่กับคู่รักตะลอนทัวร์และวีออสลุยเดี่ยวเที่ยวทั่วไทย มีทริปที่ไปกลับมาแล้วรอวิวอยู่อีก 4 ทริป เที่ยวกันแบบ Non-stop 555 หาเงินก็แบบ Non-stop เช่นกัน หมุนกันจนบิดหมดแล้ว อนาคตไม่รู้จะเป็นไง ตอนนี้ขอใช้ชีวิตให้คุ้มก่อนละกันครับ

    วันนี้สวัสดีครับ

    รูปนี้กลิ่นมาดามหอมชื่นใจ ฟันยังไม่ได้แปลงทั้งคู่