ไปดูหมอกหนาๆ และหญ้าเขียวๆ ... ภูทับเบิก เพชบูรณ์
วันหยุดทั้งทีกว่าจะหาเวลาว่างได้ก็อยากจะหาที่พักกายชาร์จพลังงาน ยิ่งหน้าฝนแบบนี้มองไปทางไหนก็เขียวขจี อากาศแสนเย็นสบาย ภูทับเบิกคือคำตอบสำหรับทริปนี้
ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีความสูง ประมาณ 1,768 เมตร ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 40 กม. และห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 100 กม.
-------- ไปพักกายพักสายตา ชาร์จพลังงานด้วยกันครับ -------
เมื่อความอ่อนล้าจากการทำงานมาหลายวันก็มีโอกาสได้หยุดพักผ่อน ณ ตอนนี้ร่างกายบอกว่าต้องการอากาศบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก สถานที่หนึ่งที่แว้บเข้ามาในหัวตอนนั้นก็คือ ภูทับเบิก ซึ่งยิ่งเป็นช่วงที่มีฝนตกด้วยอากาศคงจะดีไม่น้อย ผมไม่รอช้าเก็บเป้เเละพาเพื่อนร่วมทริปนั่นก็คือแม่ผมไง จะใครล่ะ55 แล้วเราก็ออกเดินทาง
15.30 น.ผมก็เดินทางมาถึงภูทับเบิก และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกดีมากๆก็เห็นจะเป็นวิวระหว่างทางขึ้นนี่ล่ะรับมีหมอกสีขาวฟุ้งตลอดทาง
โดยระหว่างทางขึ้นจะมีความชันพอสมควรใครที่จะนำรถมาเองควรเช็คสภาพรถให้ดีและใช้ความระวังมากครับ ( ซึ่งผมเองก็มีแม่คอยช่่วยผมเหยียบเบรคให้อีกแรง555 ) เมื่อมาถึงจุดชมวิวระหว่างทางขึ้นก็ไม่พลาดที่จะจอดรถเก็บภาพมาครับ ขนาดยังไม่ถึงด้านบนยังสวยขนาดนี้ด้านบนจะขนาดไหนกันน้าา แอบลุ้นครับ55
และในที่สุดเราก็มาถึงที่พักด้านบน ชื่อว่า ไร่ริมผา ซึ่งที่นี่จะดีอย่างนึงก็คือใกล้จุดชมวิวที่สวยมากๆครับ เราสามารถตื่นตอนเช้าเปิดประตูออกมาก็พบวิวสวยๆได้เลย ซึ่งห้องที่ผมจองนั้นเป็นแบบห้องแบบนอนสองคนครับ ราคา 1500 มีแอร์ ทีวี และเครื่่องทำน้ำอุ่นครับ (จริงๆราคาจะถูกกว่านี้ครับในวันธรรมดา) เอาล่ะไม่รอช้าจัดการเก็บข้าวของและออกไปเดินเก็บภาพกันครับ ในจังหวะช่วงนั้นฝนตกบ้างครับทำให้ท้องฟ้าไม่เป็นใจสักเท่าไรเลย แต่ก็ไม่เป็นไรไว้คอยลุ้นตอนเช้ากันดีกว่า55
หลังจากเก็บข้าวของแล้วก็ได้เวลาออกไปเก็บภาพวิวกับครับ ข้อดีของการมาเที่ยวในหน้าฝนก็คือเราจะได้เจอหมอกในตอนเช้าและต้นไม้ใบหญ้าจะเป็นสีเขียวดูสบายตาครับ
เมื่อเดินชมจนหนำใจก็กลับมาที่พักซึ่งสามารถสั่งหมูกระทะมาทานได้ที่หน้าห้องเลยครับ ราคาก็ ชุดใหญ่ 500 และชุดเล็ก 400 รสชาติก็อร่อยพอทานได้เลยครับ ลืมบอกว่าด้านอากาศด้านบนเย็นมากถึงหนาวเลยล่ะครับ ได้กินหมูกระทะร้อนๆในอากาศเย็นมันช่างได้บรรยากาศมากก555
หลังจากนั้นผมก็ขอตัวพักผ่อนเพื่อที่จะตื่นแต่เช้ามาลุ้นดูว่าจะเจอหมอกหรือเปล่า 55 ต้องเจอบ้างสิเนาะ
06.00 น. ผมตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียเพราะอากาศช่างชวนให้นอนต่อ55 ไม่ได้ๆต้องไปดูหมอกที่เราตั้งใจจะมาดูให้ได้ครับภาพ ผมเปิดประตูห้องออกมาอากาศเย็นๆพัดกระทบใบหน้า เห็นสายหมอกอยู่บ้างแต่ฟ้าปิดเพราะครึ้มฝน แค่นี้ก็เพียงพอเเล้วครับกับที่หวังไว้55
ผมก็เดินลงไปถ่ายภาพวิวสวยๆในตอนเช้าเช้านี้คนเยอะมากๆครับนี่ขนาดเป็นวันธรรมดานะ55 ผมใช้เวลากับวิวสวยๆอยู่นานเลยครับแทบอยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้มันช่างต่างกับบรรยากาศในเมืองมากๆครับ อากาศที่สดชื่นหายใจสะดวกและใบไม้และหญ้าสีเขียวทำให้สบายตามากกหลังจากใช้เวลาพอสมควรก็ไปเตรียมตัวเดินทางต่อครับ ผมตั้งใจจะพาแม่ผมไปเเวะที่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ระหว่างทางลงจะพบเห็นชาวเขานำพืชผลที่ปลูกไว้มาขายกันหลายร้าน ผมก็ได้อุดหนุนมาเยอะเเยะเลยเหมือนเป็นการส่งเสริมชุมชนแห่งนี้ด้วยครับ แล้วผมก็มาถึง แล้วก็ไปกราบไว้สักการะองค์พระธาตุเพื่อความเป็นสิริมงคล วิวรอบๆนี้สวยมากๆครับมีหมอกสีขาวประปราย ใช้เวลาพอสมควรก็ไปหาอะไรทานกันโดยร้านที่ทานก็อยู่ในบริเวณวัดนี้ล่ะครับขอบอกเลยว่าบรรยากาศดีใช้ได้เลยครับสามารถนั่งทานไปด้วยดูวิวไปด้วย มีความฟินนมากๆ55หลังจากนั้นก็เดินทางกลับเป็นการจบทริปพักปอดครับผม ทริปนี้เป็นทริปพักผ่อนจริงๆได้เสพบรรยากาศธรรมชาติแท้ๆ " ไม่ว่าเราจะยุ่งมากแค่ไหนควรจะหาเวลาพักผ่อนเเละเติมสีสันให้ชีวิตกันบ้างนครับ ธรรมชาติยังมีอะไรที่สวยงามรอให้เราไปสัมผัส และสุดท้ายเราก็ไม่ควรที่จะดูแลธรรมชาติด้วยเช่นกันนะครับ ขอบคุณครับ "
#สองเท้าเดินทาง