‘ SALA AYUTTHAYA ‘ ไม่ใช่โรงแรมน้องใหม่
แต่ด้วยความที่ ดีไซน์ปัง concept ชัด ทำให้
ความฮอตของที่นี่ไม่ตกลงเลย !
ปิงก็เป็นคนหนึ่งที่อยากมาพักที่นี่นานแล้ว
พอได้มาจริงๆ คือไม่ผิดหวังเลยยยย สวยม๊ากกกก
จัดสรรพื้นที่ได้ดี มีมุมให้ถ่ายรูปเพียบ ปิงขอบรรยาย
ความประทับใจทั้งหมดในรีวิวนี้แล้วกัน แล้วก็เหมือนเดิม
คือ ปิงจะพยายามให้ข้อมูลให้ครบที่สุด ทั้งการเดินทาง
ประเภทห้องพัก ราคา ฯลฯ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยยยยย..

** วิธีการเดินทาง **

ทริปนี้ปิงไม่ได้ใช้รถส่วนตัวค่ะ ขึ้นรถตู้กรุงเทพฯ – อยุธยา
จากขนส่งหมอชิต 2 มาลงในตัวเมืองอยุธยา ใช้เวลาประมาณ
1 ชั่วโมง ค่ารถคนละ 60 บ. ค่ะ จากนั้นต่อรถตุ๊กตุ๊กไปที่พัก
อีกคนละ 40 บ. ไม่เกิน 15 นาที ก็ถึงแล้วววววว : D

มาถึงก็ check in ก่อนเลยยยยย ที่นี่เขามี welcome drink
เป็นน้ำสมุนไพรไทย ต้องเติมความสดชื่นหน่อย เพราะ
อากาศที่อยุธยาร้อนมากกกกกก ! จาก front desk เขยิบเข้ามา
จะเจอแกลอรี่ของ ‘ SALA AYUTTHAYA ‘ ค่ะ มีทั้งภาพเขียน
ภาพถ่าย ซึ่งก็จะหมุนเวียนชิ้นงานจากศิลปินต่างๆมาจัดแสดง

ออกจากแกลอรี่มา ก็จะเป็นมุมยอดนิยมของที่นี่
ทางเดินกำแพงอิฐ ตอนแรกเราก็นึกว่าเป็นทางเดินเฉยๆ
แต่ที่จริงหลังกำแพงเป็นห้องพักประเภท superior นะ
คือใช้พื้นที่คุ้มเลย ที่ชอบอีกอย่างคือตามทางเดินมี
อ่างแก้วใส่น้ำวางอยู่เรื่อยๆ เห็นปุ๊ปมันทำให้เราสดชื่น
เพราะวันที่เราไปอากาศร้อนมาก ในโรงแรมก็แทบไม่มี
ต้นไม้เลยเพราะว่าพื้นที่น้อย บวกกับกำแพงอิฐที่ทำให้
รู้สึกแห้งแล้ง พอมีน้ำอยู่รอบๆ มันดีอ่ะ :’)

** ข้อมูลคร่าวๆของ SALA AYUTTHAYA **

ก่อนจะไปสำรวจส่วนอื่นๆของที่นี่ ปิงขอให้ข้อมูลอีกนิดนึง
‘ SALA AYUTTHAYA ‘ เป็นโรงแรมเล็กๆค่ะ มีห้องพัก
ทั้งหมด 26 ห้อง 5 ประเภท ค่ะ ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น
และมินิมอล เน้นสีขาว ครีม น้ำตาล น้ำเงิน ข้อดีอีกอย่าง
ของที่นี่คือติดแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามของห้องอาหาร
เป็นวัดวัดพุทไธศวรรย์ ถึงไม่ได้พักที่นี่ก็เข้ามาทานอาหารได้
แต่มื้อเย็นแนะนำให้จองโต๊ะไว้ก่อน เพราะคนเยอะมากจ้าาา
โอเค พอนึกภาพออกกันแล้วนะ งั้นเราไปต่อกันที่สระว่ายน้ำ
ส่วนกลางของที่นี่ ซึ่งปิงเลิฟฟฟฟฟฟฟฟมั่กๆๆๆๆ <3

เข้ามาก็แสบตาเลย คือมันขาวมาก55555555555
วันนี้ท้องฟ้าสวย ถ่ายออกมาสีฟ้าตัดกับสีขาวเน้นๆ
เดาว่าสาวๆคงใช้เวลาอยู่ตรงนี้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมงค่ะ
เพราะมุมถ่ายรูปเยอะจริง คุณผู้ชายที่พาแฟนไป
ต้องเข้าใจนะ คิดท่าไม่ออกยืมท่าปิงไปใช้ได้ค่ะ
มี ref มาให้ดู555555555

** ห้องพัก 5 ประเภท **

กรี๊ดกร๊าดกับส่วนกลางกันจนเหนื่อยแล้ว
เราเข้าไปสำรวจห้องพักเรากันมั่งค่ะ จะได้ตากแอร์ด้วย
ทีนี่มีห้อง superior, deluxe river view,
deluxe river view terrace, 1 bedroom pool suite
และ 1 bedroom duplex river view suite
ราคาเริ่มต้นที่ 3,600 บ. / ห้อง / คืน ถ้าจองกับเว็บไซต์
ที่พักโดยตรงมีราคาพิเศษด้วย และถ้าจองแบบ
early bird ก็ลดไปอีกกกกก เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติม
ได้ที่ลิงก์นี้ http://salahospitality.com/ayutthaya/sleep/
แต่ตอนนี้ไปดูห้อง 1 bedroom duplex river view suite
ของเราก่อน ว่าจะดีงามขนาดไหนนนนนน ไปค่ะ !

ในส่วนของห้องน้ำชั้นสองนั้นนนน..

เอ้อ จะบอกว่า ทุกห้องมีอ่างอาบน้ำนะจ๊า
ไม่ต้องพักห้องนี้ก็ถ่ายรูปชิคๆในอ่างได้
ที่ชอบคือแต่ละห้องจัดวางอ่างอาบน้ำไม่เหมือนกัน
บางห้องมีมุมของนาง บางห้องอ่างอยู่ตรงกลางเลย
ไปลุ้นเอาละกันว่าจะได้ห้องไหน5555555555

** นั่งเรือชมวิถีชีวิตริมแม่น้ำ วัด และ สถานที่สำคัญ **

กิจกรรมต่อไปเป็นกิจกรรมยอดฮิตของคนที่มาพักที่นี่
นั่นก็คือ การนั่งเรือชมวิถีชีวิตริมน้ำค่ะ นั่งตอนเย็นก็เพลินดี
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีค่ะ ระหว่างทางก็จะ
เห็นบ้านเรือนริมน้ำ หมู่บ้านญี่ปุ่น หมู่บ้านโปรตุเกส
วัดต่างๆ มีแวะให้อาหารปลา ฯลฯ ใครสนใจก็ติดต่อที่
front desk ของ ‘ SALA AYUTTHAYA ‘ ได้เลยยยยย
ถ้าไม่สนใจก็ลองดูภาพที่ถ่ายมาก่อน เผื่อจะเปลี่ยนใจ ฮ่าๆ

** EATERY AND BAR **

มื้อเย็นวันนี้พวกเราฝากท้องไว้ที่ EATERY AND BAR
ใน ‘ SALA AYUTTHAYA ‘ นี่แหละ ห้องอาหารที่นี่มีทั้ง
โซน indoor และ outdoor แต่ส่วนใหญ่ มื้อเย็นคนก็จะอยาก
นั่ง outdoor กัน เพราะไม่ร้อน และ เห็นวิววัดพุทไธศวรรย์
แบบเต็มๆ ซึ่งเราก็เลือกนั่ง outdoor ค่ะ ( ไว้มื้อเช้า เอารูป
indoor มาฝากกกกก อย่าเพิ่งหนีไปไหนนนน )
อย่างที่บอกไปตอนต้นรีวิวว่า ไม่ต้องพักที่นี่ ก็เข้ามาทาน
อาหารได้ เพื่อความัชว์ แนะนำให้จองโต๊ะก่อน
ที่ 035-242-588 หรือ wineanddine@salaayutthaya.com

เมนูที่พลาดไม่ได้เลย ถ้ามาอยุธยา คือ กุ้งแม่น้ำ
ตัวใหญ่ๆมาพร้อมมันเยิ้มๆ และ เมนูแนะนำอื่นๆ
เช่น สปาเก็ตตี้ซีฟู้ด ยำถั่วพูกุ้งแม่น้ำ ยำส้มโอกุ้งย่าง
ปอเปี๊ยะทอด ผัดไทกุ้ง อร่อยจริง คอนเฟิร์ม
โดนมาหมดแล้วเมนูที่บอก5555555

ไปดูบรรยากาศห้องอาหารตอนเช้ากันบ้างค่ะ
รอบนี้เราเลือกนั่งโซน indoor เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างน้อย
ที่นี่เลยไม่ได้เสิร์ฟมื้อเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ แต่เสิร์ฟเป็นชุดอาหารเช้า
ซึ่งเราสามารถเลือกชุดที่เข้าตาได้จากเมนูอาหารเช้า
ทานคู่กับชา กาแฟ หรือจะสั่งอย่างอื่นมาทานด้วยก็ได้
เราสั่งชุด Egg Benedict กับชุดขนมปัง ฮี่ๆ <3

จัดการมื้อเช้าเรียบร้อย เราก็เข้าห้องไปนอนเล่น
หามุมถ่ายรูปเพิ่ม เอาให้คุ้ม555555555555
เที่ยงก็ได้เวลาเช็คเอ้าท์แล้ววววววววว T_T
บอกตรงๆว่าไม่อยากกลับเลย ชอบที่นี่มาก
ยกให้ติด top 3 โรงแรมที่ปิงชอบที่สุดในไทย
ทริปนี้ยังไม่จบนะ เดี๋ยวไปคาเฟ่ต่อ แต่แปะลิงก์
ไว้ให้ก่อน สำหรับคนที่อยากมาตามรอย
นี่เว็บที่พัก http://salahospitality.com/ayutthaya/
นี่เพจ https://www.facebook.com/SalaAyutthaya/

** SAY cafe and gallery **

‘ SAY cafe and gallery ‘ เป็นทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร
แกลอรี่ และ ร้านขายของที่ระลึก ในที่เดียวค่ะ
และก็เป็นคาเฟ่ในเครือ SALA ด้วย สาบานเลยว่า
ปิงเพิ่งมารู้ที่หลังว่าคาเฟ่นี่เป็นของ SALA เพราะ
ตอนหาคาเฟ่ในอยุธยา ปิงก็จดไว้ว่าจะมาที่นี่อยู่แล้ว
โป๊ะเชะ ได้มาสมใจจจจ อยู่ไม่ไกลจากที่พักด้วย
เรียกรถตุ๊กตุ๊กมาได้เลยยยย คนละ 30 บ.

ตัวร้านมี 2 ชั้นค่ะ ชั่นล่างเป็นที่นั่งทานอาหาร เครื่องดื่ม
และบริเวณขายของที่ระลึก ชั้นสองเป็นแกลอรี่
มีที่จอดรถ และ สวนหลังร้านด้วย เผื่อใครชอบ outdoor

เรามาตอนเที่ยงๆบ่ายๆ ก็เลยสั่งอาหารด้วยเลย
มีข้าวผัดต้มยำกุ้ง ซุปมะเขือเทศ เครื่องดื่ม signature
ของทางร้าน ชาเขียวเย็น และ วาฟเฟิ้ลไอศกรีม ค่ะ

หมดนี่คืออิ่มมาก ! ขอขึ้นไปเดินดูแกลอรี่หน่อย
จะได้ย่อยไปบ้าง555555555

ร้านเปิด 8.00 – 17.30 น. วันจันทร์ – พฤหัส
และ 8.00 – 21.00 น. วันศุกร์ – อาทิตย์ นะคะ
นี่เบอร์ติดต่อ 035-323-588
จบแล้ว ทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ที่อยุธยา
ติดตามรีวิวอื่นๆของปิงได้ที่ http://blissoutthere.com/
เข้ามาพูดคุยกันได้ในเพจ Bliss Out There
https://www.facebook.com/BlissOutThere/
แล้วเจอกันทริปหน้าค่ะ บ๊ายบาย <3