ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
โบสถ์ซางตาครู้ส ศูนย์รวมความศรัทธาในพระผู้นำทาง โบสถ์ซางตาครูส-วัดกุฎีจีน (Santacruise Church) จ.กรุงเทพมหานคร
    • โพสต์-1
    theTripPacker •  กันยายน 23 , 2556

    ทราบหรือไม่ครับว่าสถานที่ที่น่าสนใจในย่านฝั่งธนบุรี ที่นอกเหนือไปจากจากวัดวาอาราม หรือชุมชนที่ตั้งรกรากมาอย่างยาวนานแล้ว ยังมีสถานที่หนึ่งที่อยากจะแนะนำให้ได้รู้จัก ซึ่งก็คือโบสถ์ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ ตามความหมายในภาษาโปรตุเกส ซึ่งอาจจะคุ้นหูใครหลายคนในชื่อ โบสถ์ซางตาครู้ส มากกว่า โดยโบสถ์แห่งนี้ตั้งตระหง่านหันหน้าออกสู่แม่น้ำฝั่งตรงข้ามปากคลองตลาด ถือเป็นโบสถ์หลังที่ 3 แล้ว หลังจากที่ 2 หลังก่อนหน้านี้ สร้างด้วยไม้ซึ่งมีขนาดเล็ก

    วัดซางตาครู้ส เป็นศาสนสถานของชาวคาทอลิก รูปแบบการก่อสร้างได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมแบบ เรเนซองส์ และ นีโอ – คลาสสิค ซึ่งอย่างที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า โบสถ์หลังนี้เป็นหลังที่ 3 ซึ่งสร้างด้วยการก่ออิฐถือปูน แตกต่างจากโบสถ์หลังแรกที่ สร้างด้วยไม้ขนาดเล็กๆ เมื่อ พ.ศ. 2313 มีอายุการใช้งานประมาณ 65 ปี จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2378 คุณพ่อ ชอง บัปติส บัลเลอกัวช์ ก็ได้ก่อสร้างโบสถ์หลังที่ 2 ขึ้น เพื่อทดแทนหลังเดิมที่มีสภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ซึ่งโบสถ์หลังที่ 2 นี่เองที่มีรูปแบบค่อนไปทางจีน ทำให้ผู้คนในยุคนั้นจึงเรียกพื้นที่แถบนี้ว่า “กุฎีจีน” ซึ่ง โบสถ์หลังนี้ก็ได้ถูกใช้งานมานานถึง 81 ปี สภาพก็ทรุดโทรมลงไปไม่น้อยเช่นกัน ทำให้มีการคิดกันว่าจะก่อสร้างโบสถ์หลังใหม่ที่มีความคงทนแข็งแรงขึ้นมาทด แทน บาทหลวง กูเลียลโม กิ๊น ดากรู้ส จึงเป็นผู้รวบรวมเงินจากผู้มีจิตศรัทธา จนสามารถสร้างโบสถ์ซางตา ครู้ส หลังล่าสุดและใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน หากนับระยะเวลาจนถึงวันนี้แล้ว โบสถ์หลังที่ 3 ก็มีอายุล่วงเลยมาเกือบศตวรรษเข้าไปแล้ว


    • โพสต์-2
    theTripPacker •  กันยายน 23 , 2556

    โดยส่วนภายนอกของโบสถ์ซางตาครู้ส มีลักษณะเป็นยอดโดมสูงประดับด้วยไม้กางเขน บริเวณโดยรอบอาคารโบสถ์จะมีรูปปั้นขององค์พระเยซูคริสต์ และองค์พระแม่มารี ตั้งเป็นอนุสรณ์อยู่หลายจุด  ขณะที่ด้านในของตัวโบสถ์นั้น ความสูงของเพดานมีค่อนข้างมาก ตกแต่งด้วยลวดลายคลาสสิค เน้นให้เห็นถึงความหรูหราโอ่อา กว้างขวางมากพอสมควร ริมผนังทั้ง 2 ฝั่งได้รับการประดับไว้ด้วยกระจกสี เป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในคริสต์ศาสนาและภาพขององค์พระเยซูในอิริยาบถต่างๆ เรียกว่าเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของที่นี่ได้เลยทีเดียว อีกทั้งตลอดทางเดินภายในโบสถ์จะมีเก้าอี้ไม้สำหรับผู้ที่มาประกอบศาสนกิจวาง เรียงขนาบอยู่ทั้ง 2 ข้าง ไล่ไปจนถึงด้านในสุดของโบสถ์ ซึ่งจะเป็นที่ตั้งรูปปั้นขององค์พระเยซูถูกตรึงไว้ด้วยไม้กางเขน

    • โพสต์-3
    theTripPacker •  กันยายน 23, 2556
    • Nanthara  เวลาผ่านไป 19 ปีแล้ว ผมไม่เคยจำว่าตัวเองได้วาดรูปบนกระจกไว้ที่นี่กี่ชุด จนกระทั่งได้เข้าไปเดินชมโบสถ์เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ถึงได้รู้ว่าวาดไว้ถึง 13 ชุด เป็นชุดกลม 12 ชุด ครึ่งวงกลม 1 ชุด ตอนนั้นวาดแบบไม่ได้หลับเลย ชุดหนึ่งเขียนเป็นอาทิตย์ กว่าจะต่อกระจกเรียงหาตำแหน่งว่าชิ้นไหนคือส่วนไหนบ้าง ก็เหมือต่อจิ๊กซอว์ที่ไม่มีรูป เป็นแค่กระจกสีต่างๆที่ขนาดไม่เท่ากัน ไม่รู้ว่าหน้าหรือหลัง ต้องมองย้อนแสงเวลาเขียน เวลาเคลื่อนย้ายไปเข้าเตาเผาก็ต้องระวังไม่ให้จับโดนสีที่เขียนไว้ 25 เมษายน 2557 11:05:01
    • โพสต์-4
    theTripPacker •  กันยายน 23 , 2556

    และภายในโบสถ์แห่งนี้จะแลดูงดงามมากขึ้นไปอีก ก็ยามที่อาคารด้านในได้ถูกแสงไฟสีเหลืองนวล อบอุ่นดูสบายตา ทำให้สามารถเห็นถึงความวิจิตรตระการตาต่างๆได้อย่างชัดเจน ทว่าบรรยากาศภายในก็มากด้วยความสงบ เยือกเย็น รู้สึกได้ถึงความศรัทธาอันล้นเปี่ยม แต่หากมองอีกมุมหนึ่งบรรยากาศเช่นนี้ก็ให้ความรู้สึกโรแมนติกอยู่มากเลยที เดียว

    ฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจ หากคู่หนุ่มสาวจำนวนมากได้ตัดสินใจเลือกโบสถ์แห่งนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ ความประทับใจในวันสำคัญของการเริ่มต้นชีวิตคู่ หรือเพียงแค่อยากจะให้โบสถ์ซางตาครู้สเป็นฉากหลังของภาพงานแต่ง เอาไว้ให้ระลึกถึงวันช่วงเวลาที่ความรักยังหวานชื่น ก็มีความสุขดีไม่น้อย

    หากแต่ผู้ที่สนใจจะเยี่ยมชมความงดงามภายในตัวโบสถ์นั้น คงต้องมีการทำหนังสือขออนุญาตเป็นทางการซักหน่อย จากหน่วยงานที่ดูแลเรื่องธุรการของโบสถ์วางตาครู้ส หรือโทรสอบถามข้อมูลกันก่อน เพราะปกติโบสถ์แห่งนี้ก็ไม่ได้เปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเต็มตัว แต่หากใครแค่ต้องการจะมาเก็บภาพความสวยงามของตัวสถาปัตยกรรมภายนอก ก็เชิญได้ตามสบาย
    เชื่อเถอะว่า หากคุณได้มาเยือนที่นี่แล้ว บางทีมุมมองที่เคยๆ ว่าจะต้องเป็นตึกสูงทันสมัยเท่านั้นถึงจะแลดูสวยงาม ซึ่งมุมมองเช่นนั้นอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้หากเมื่อมาสัมผัสด้วยตาตัวเองกับสถาน ที่แห่งนี้

    • โพสต์-5
    theTripPacker •  กันยายน 23, 2556
    • โพสต์-6
    theTripPacker •  กันยายน 23 , 2556

    Note

    - ควรแต่งกายสุภาพ เพื่อให้เกียรติแก่สถานที่

    - การขอบันทึกภาพภายในโบสถ์จะมีการเสียค่าบำรุงวัด ประมาณ 300 บาท

    - ห้ามผู้มาเยือนขึ้นไปบนซุ่มพระแท่นบูชาด้านในสุด

    • Roong  มาที่โบสถ์ไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆๆค่ะ เป็นโบสถ์ปิดค่ะ เปิดเฉพาะเวลามิสซาเท่านั้นค่ะ จ-ส มิสซา เวลา 19.00 น. วันอาทิตย์ 6.00 8.30 19.00 ค่ะ 21 สิงหาคม 2561 23:18:45
    • Roong  ฝากแก้ไขข้อมูลด้วยค่ะ 21 สิงหาคม 2561 23:16:39
    • Roong  สวัสดีค่ะ 21 สิงหาคม 2561 23:16:21
    • โพสต์-7
    theTripPacker •  กันยายน 23, 2556

    ความคิดเห็นของผู้เขียน

    • จุดเด่น:
    • รูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปอันเก่าแก่ของโบสถ์แห่งนี้สวยงามและมีเอกลักษณ์ ทั้งภายในและภายนอก รวมถึงกระจกสีด้านในที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับคริสต์ศาสนาได้อย่างน่าสนใจ
    • จุดด้อย:
    • ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมเหมือนทั่วๆ ไป แต่สามารถแจ้งความจำนง และต้องขออนุญาตด้วยการทำจดหมายแจ้งความประสงค์ล่วงหน้า หากต้องการบันทึกภาพภายในตัวโบสถ์ หรือกรณีอื่นๆ
    • ข้อสรุป:
    • แม้ว่าโบสถ์ซางตาครู้สจะไม่ได้เปิดให้ได้เที่ยวชมอย่างเต็มตัว ทว่าความสวยงามและบรรยากาศสุดคลาสสิคนั้น ก็น่าสนใจเป็นอย่างมาก รับรองว่าอาคารสไตล์ยุโรปหลังนี้จะไม่ทำได้คุณผิดหวัง
    คะแนน
    • โพสต์-8
    theTripPacker •  กันยายน 23 , 2556

    ข้อมูลทั่วไป

    ที่อยู่ : 112 ซ.กุฎีจีน ถ.เทศบาล สาย1 แขวง วัดกัลยาณ์ เขต ธนบุรี กทม. 10600  

    GPS : N13 44 21.18, E100 29 37.98

    เบอร์ติดต่อ : 02-472-0153-4 แฟกซ์ : 02-465-0930

    E-mail : santacruzchurch@hotmail.com

    Website : http://haab.catholic.or.th/church/santacruz_4.html

    เวลาทำการ : มิสซา จันทร์-เสาร์ 6.00 น.และ 19.00 น. / วันอาทิตย์ 06.00 น. , 08.30 น., 19.00 น. / วันศุกร์ต้นเดือน 08.00 น. และ 19.00 น. / เทศกาลสำคัญ 19.00 น.   

    ค่าธรรมเนียม : การขอบันทึกภาพภายในโบสถ์จะมีการเสียค่าบำรุงวัด ประมาณ 300 บาท หรืออาจจะมาก น้อยกว่านี้ตามแต่กรณี 

    ช่วงเวลาแนะนำ : ช่วงทำมิสซาของทุกวัน และทุกวันที่14 กันยายนของทุกปีจะมีการฉลองเทิดทูนมหากางเขน

    ไฮไลท์ : ความอลังการของตัวสถาปัตยกรรมทั้งภายในและภายนอกโบสถ์

    กิจกรรม : พิธีมิสซาของชาวคริสต์

    • โพสต์-9
    theTripPacker •  กันยายน 23 , 2556

    วิธีการเดินทาง

    สามารถเดินทางด้วยทางเรือน่าจะสะดวกที่สุด ซึ่งสามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีตากสินแล้วโดยสารเรือจากท่าเรือสาทร มาลงยังท่าวัดกัลยาณมิตร แล้วเดินย้อนกลับมาอีกเล็กน้อย หรืออาจจะนั่งเรือข้ามฝากมาจาก ท่าเรือราชินีมาลงที่ท่าเรือวัดกัลยาณมิตรก็ได้เช่นกัน

    • โพสต์-10
    theTripPacker •  กันยายน 23, 2556
  1. โหลดเพิ่ม