ทราบหรือไม่ครับว่าสถานที่ที่น่าสนใจในย่านฝั่งธนบุรี ที่นอกเหนือไปจากจากวัดวาอาราม หรือชุมชนที่ตั้งรกรากมาอย่างยาวนานแล้ว ยังมีสถานที่หนึ่งที่อยากจะแนะนำให้ได้รู้จัก ซึ่งก็คือโบสถ์ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ ตามความหมายในภาษาโปรตุเกส ซึ่งอาจจะคุ้นหูใครหลายคนในชื่อ โบสถ์ซางตาครู้ส มากกว่า โดยโบสถ์แห่งนี้ตั้งตระหง่านหันหน้าออกสู่แม่น้ำฝั่งตรงข้ามปากคลองตลาด ถือเป็นโบสถ์หลังที่ 3 แล้ว หลังจากที่ 2 หลังก่อนหน้านี้ สร้างด้วยไม้ซึ่งมีขนาดเล็ก
วัดซางตาครู้ส เป็นศาสนสถานของชาวคาทอลิก รูปแบบการก่อสร้างได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมแบบ เรเนซองส์ และ นีโอ – คลาสสิค ซึ่งอย่างที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า โบสถ์หลังนี้เป็นหลังที่ 3 ซึ่งสร้างด้วยการก่ออิฐถือปูน แตกต่างจากโบสถ์หลังแรกที่ สร้างด้วยไม้ขนาดเล็กๆ เมื่อ พ.ศ. 2313 มีอายุการใช้งานประมาณ 65 ปี จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2378 คุณพ่อ ชอง บัปติส บัลเลอกัวช์ ก็ได้ก่อสร้างโบสถ์หลังที่ 2 ขึ้น เพื่อทดแทนหลังเดิมที่มีสภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ซึ่งโบสถ์หลังที่ 2 นี่เองที่มีรูปแบบค่อนไปทางจีน ทำให้ผู้คนในยุคนั้นจึงเรียกพื้นที่แถบนี้ว่า “กุฎีจีน” ซึ่ง โบสถ์หลังนี้ก็ได้ถูกใช้งานมานานถึง 81 ปี สภาพก็ทรุดโทรมลงไปไม่น้อยเช่นกัน ทำให้มีการคิดกันว่าจะก่อสร้างโบสถ์หลังใหม่ที่มีความคงทนแข็งแรงขึ้นมาทด แทน บาทหลวง กูเลียลโม กิ๊น ดากรู้ส จึงเป็นผู้รวบรวมเงินจากผู้มีจิตศรัทธา จนสามารถสร้างโบสถ์ซางตา ครู้ส หลังล่าสุดและใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน หากนับระยะเวลาจนถึงวันนี้แล้ว โบสถ์หลังที่ 3 ก็มีอายุล่วงเลยมาเกือบศตวรรษเข้าไปแล้ว