ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
คู่มือแว๊นเที่ยว แม่กำปอง วันเดียวจบ (แถมด้วย โครงการหลวงตีนตก และ The Giant ร้านกาแฟบนต้นไม้) แม่กำปอง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่
    • โพสต์-1
    iFew •  พฤศจิกายน 18 , 2559

    ได้ยินชื่อ หมู่บ้านแม่กำปอง ครั้งแรกจาก MV เขียนคำว่ารัก ของพี่เบิร์ด ธงไชยฯ สัก 2 ปีก่อน
    ตอนนั้นเริ่มเห็นคนรีวิวไปตามรอย MV บ้างแล้ว เออ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ น่ารักดี
    หลังจากนั้นก็ได้ยินบ่อยขึ้น จนรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงแบบ ปาย เชียงคาน ที่กำลังก้าวมาถึง แม่กำปอง

    เสาร์ที่ผ่านมา มีโอกาสไปเชียงใหม่ เลยขอจัดทริปชะโงกทัวร์ดูให้รู้ว่า แม่กำปอง เป็นอย่างที่คิดจริงหรือเปล่า

    0. การเตรียมตัว

    ผมเลือกเดินทางด้วยการเช่ามอเตอร์ไซต์ 1 วัน ใช้รุ่น Yamaha TTX ค่าเช่าวันละ 250 บาท ค่าน้ำมันไปกลับ และเติมคืนร้านเช่าฯ  ประมาณ 100 บาท

    เป็น 1 Days ทริป ไม่ได้ลำบากลำบนอะไร แต่ต้องเตรียมใจนั่งก้นชา เพราะขี่มอเตอร์ไซต์ไปกลับระยะทางรวม 150กม ดังนั้น ถ้ามีแว่นกันแดด เสื้อคลุม หมวกกันน็อก ก็ไปได้เลย แต่ตอนที่ผมไปมีฝนตก เลยแวะซื้อเสื้อกันฝน 7-11 ไปใส่อีกตัวหนึ่ง (ใช้มันกันฝนกับกันลมเย็นๆตอนขี่มอเตอร์ไซต์ได้)

    พกเงินไปสัก 500บาท ละกันนะครับ ค่าเที่ยวไม่มีอะไร แต่ค่ากินที่แม่กำปองจะสูงกว่าปกติ 2 เท่า (เช่น ข้าวผัดไข่จานละ 50 บาท โค๊กกระป๋องละ 20 บาท)

    1. พร้อมแล้วก็ลุย!

    (พิกัดบ้านแม่กำปอง ให้ชี้ไปที่ โรงเรียนบ้านแม่กำปองกลาง หรือดู Google Map เส้นทางที่ผมไปได้ที่ลิงค์นี้ครับ ถนนนิมมานเหมินทร์ - โรงเรียนบ้านแม่กำปองกลาง)

    ผมเริ่มต้นที่ถนนนิมมานเหมินทร์ ประมาณสิบโมงเช้า เข้าสู่ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง จนไปเจอห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลฯ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเชียงใหม่- ดอยสะเก็ด คราวนี้ตรงไปยาวๆ... เส้นนี้ระวังรถใหญ่ด้วยนะครับ และปั๊มน้ำมันมีช่วงต้นๆ ให้เติมเตรียมไว้ก่อนเลย

    พอผ่านตัวอำเภอดอยสะเก็ด จะเริ่มขึ้นภูเขา และผ่านศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ ไปต่ออีก 2 กม จะเจอสี่แยก หน้าตาแบบด้านล่างนี้ครับ

    คือมันไม่มีป้ายบอกอะไรเลยว่าไปโครงการหลวงตีนตก หรือไปหมู่บ้านแม่กำปอง เอาเป็นว่า ทางด้านขวามือที่เราจะต้องเลี้ยวไป จะเจอซุ้มประตูไม้ และมีป้ายบอกว่า ไปน้ำพุร้อนดอยสะเก็ด, น้ำตกเทพเสด็จ, น้ำตกย่าจันทร์ ตามรูปด้านล่าง

    ถึงตรงนี้ ไปต่ออีกประมาณ 19กม จะเป็นถนนสองเลนเล็กๆ คดเคี้ยวและแคบ แต่วิวสองข้างทางก็สงบร่มรื่น บางจุดเป็นนาขั้นบันไดแวะถ่ายรูปสวยๆได้เลยครับ

    ไปเรื่อยๆ จะเจอทางแยกให้ยึดป้าย โฮมสเตย์บ้านแม่กำปอง, The Giant, โครงการหลวงตีนตก ไว้เป็นสำคัญแล้วกันครับ เป็นทางเดียวกัน จนเราไปถึงแถวๆโครงการหลวงตีนตก ถึงจะมีป้ายบอกชัดเจนว่าไปหมู่บ้านแม่กำปองทางไหนต่อ

    • โพสต์-2
    iFew •  พฤศจิกายน 19 , 2559

    2. เตร็ดเตร่แม่กำปอง

    ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดเราก็ถึงหมู่บ้านแม่กำปอง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในร่องเขา ที่ทอดตัวไปตามถนน ผมขี่มอเตอร์ไซต์ไปเรื่อยๆ เป้าหมายเพื่อไปดูวิวแม่กำปองมุมสูง ที่ ร้านกาแฟชื่อดัง "ชมนก ชมไม้"

    ถนนบางช่วงค่อนข้างชัน ทำให้เพื่อนที่ซ้อนมอเตอร์ไซต์ไปด้วยกันต้องลงเดินในบางจุด (ผมกับเพื่อนหนักรวมกันน่าจะ 160กิโลฯ ใครจะไปด้วยมอเตอร์ไซต์ หาคันดีๆมาหน่อยดีกว่านะ) และเนินสุดท้ายก่อนถึงร้านกาแฟ ชันมากๆ ตัดสินใจทิ้งมอเตอร์ไซต์ไว้ตรงนั้นแทน สะดวกกว่า

    ร้าน "ชมนก ชมไม้" อยู่เลยตัวหมู่บ้านแม่กำปองขึ้นไปบนเขา (ทางไปน้ำตกแม่กำปอง) ดังนั้นจะทำให้เห็นวิวหมู่บ้านพร้อมธรรมชาติในระแวกนั้นได้เป็นอย่างดี เหมาะกับการนั่งกินเค้ก จิบชากาแฟ ปล่อยอารมณ์ไปเรื่อยๆ โชคดีที่วันไป ฝนเพิ่งตก เมฆเยอะ ร่มรื่น และ อากาศเย็น ซึ่งถ้าแดดออก คงร้อนน่าดู

    ออกจากร้านกาแฟ เดินไปที่น้ำตกแม่กำปองประมาณ 300 เมตร เป็นเนินขึ้นลงประมาณ 2-3 เนิน ไม่ลำบากมาก ตรงหน้าน้ำตกมีร้านขายน้ำ ขายก๋วยเตี๋ยว ให้คลายหิวด้วย น้ำตกแม่กำปอง เป็นน้ำตกขนาดไม่ใหญ่มาก มีหลายชั้น แต่ละชั้นสูงหลายเมตร ด้านข้างมีบันไดเดินเลาะขึ้นไปด้านบนเพื่อชมแต่ละชั้นได้ ซึ่งพอเราขึ้นไปได้ประมาณหนึ่งก็จะศาลาให้นั่งพักเหนื่อย รับลม ฟังเสียงน้ำตกได้ ชิลดี

    เดินกลับไปเอามอเตอร์ไซต์แล้วขี่ลงไปถนนในหมู่บ้าน ไปแบบมั่วมาก ชาวบ้านแนะนำให้จอดมอเตอร์ไซต์(และรถ)ไว้ที่โรงเรียนบ้านแม่กำปองกลาง แล้เริ่มเดินเลาะไปตามถนนใจกลางหมู่บ้านขึ้นไปเรื่อยๆ

    จุดแรกที่เจอ เป็นร้านขายของที่ระลึกและส่งโปสการ์ด เป็นเอกลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยวบ้านเราไปแล้วที่จะต้องมีร้านประมาณนี้ ไม่ว่าจะ อัมพวา เชียงคาน ปาย และก็แม่กำปอง

    จุดพีคที่เจอน่าจะเป็นแถวบ้านพักลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง ที่มีวัยรุ่นไปรุมถ่ายรูปกันหน้าร้านกับตัวกำแพงไม้ ก็ดูเรียบเก๋ไปอีกแบบ ใกล้ๆกันมีร้านข้าวโพดปิ้งมันเผา ที่ไปอ่านรีวิวไหนก็บอกว่าต้องกิน ประหนึ่งเป็นกิจกรรมเช็คอินของแม่กำปอง สนนราคาข้าวโพดปิ้งฝักละ 25บาท มันเผาถุงละ 30บาท (คือเอ็งจะแพงไปไหน) สองข้างทางของแม่กำปอง เต็มไปด้วยบ้านพัก ซึ่งมองจากสายตาน่าจะเป็นบ้านของชาวบ้านจริงๆ และดัดแปลงบ้าง สร้างใหม่บ้าง เพื่อเปิดให้เช่าพักอาศัย ภูมิประเทศแถวนี้เป็นหุบเขา ทำให้พื้นที่สร้างบ้านได้น้อยและตัวบ้านจะไม่ใหญ่ หลังหนึ่งเหมือนมีแค่ 2-3 ห้อง เท่านั้น ใครจะมาพักผ่อน ลองติดต่อจองห้องพักก่อนนะครับ (ในบล็อก ผมถ่ายเบอร์มาให้บางส่วน จริงๆมีมากกว่านี้) เราแวะกินข้าวเที่ยงกันที่ร้านอาหารตามสั่งหัวโค้งของหมู่บ้าน มีขนมจีนบุฟเฟ่ด้วยนะ ราคา 40บาท ส่วนผมกินข้าวผัดหมู ที่ป้าแกใช้ข้าวไรซ์เบอรี่หรือข้าวกล้องนี่แหละ ผัดมาให้ สนนราคา 50 บาท กับเป๊ปซี่อีกกระป๋องหนึ่ง 20บาท
    • โพสต์-3
    iFew •  พฤศจิกายน 19 , 2559

    3. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก

    เราออกจากหมู่บ้านแม่กำปอง ขี่ย้อนกลับไปทางขามาเพื่อแวะโครงการหลวงตีนตก ที่นี่บรรยากาศดีมากๆ เขียวชะอุ่ม และมีแม่น้ำไหลผ่านคั่นระหว่างบ้านพักกับร้านอาหารของโครงการ ตัวบ้านพักเองก็สร้างได้ดูดีเลยทีเดียว ลองเช็คราคา จะเริ่มต้นประมาณ 1,500บาท ต่อคืน (ติดต่อสอบถาม/จองที่พัก โทร. 093-146-7726, 096-604-1377 ส่วนร้านอาหารเปิดบริการทุกวัน 8.00-20.00น เผื่อใครจะแวะมาทานหลังกลับจากแม่กำปอง)

    โครงการหลวงตีนตก ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2524 ในหลวงทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับก่อสร้างด้วยจำนวนเงิน 300,000 บาท เพื่อให้เป็นศูนย์พัฒนา สาธิต และส่งเสริมการเพาะเห็ดหอม และการปลูกกาแฟ ให้เป็นอาชีพเสริมกับราษฎรในพื้นที่ นอกเหนือจากการปลูกเมี่ยง (ข้อมูลเพิ่มเติม ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก)

    มีเสียงลือเสียงเล่าจากเพื่อนว่า เหล้าหมักกลิ่นกาแฟ ที่นี่อร่อยมาก ตอนนั้นออกมาก่อนเลยไม่ได้ซื้อ จนเมื่อไปปีนเขาที่นครศรีธรรมราช เพื่อนแบกไปให้ชิม อร่อย ลื่น เป็นรสชาติที่กลมกล่อมกลิ่นกาแฟ หลังจากไหลลงคอ แปลกดีครับ

    • โพสต์-4
    iFew •  พฤศจิกายน 19 , 2559

    3. The Giant Chiangmai ร้านกาแฟบนต้นไม้ยักษ์

    ตรงโครงการหลวงตีนตก จะมีทางแยกเพื่อไปแม่กำปอง และ The Giant ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่บนต้นไม้ยักษ์ ซึ่งผมเคยเห็นคนโพสหลายครั้งแล้วใน Internet ดูอลังการมาก คราวนี้มาใกล้ๆแล้วทั้งที ต้องขอไปดูสักหน่อย พวกเราเลยขี่ไปต่อที่นั่น

    ระยะทางจากโครงการหลวงตีนตกเพื่อไป  The Giant แค่ 7-8กม แต่ช่วงระยะท้ายๆ ค่อนข้างชัน ไปยากกว่าแม่กำปองพอสมควร หลายจุดต้องให้เพื่อนผมที่ซ้อนลงเดิน เพราะมอเตอร์ไซต์เราขึ้นไม่ไหว (ผมคงน้ำหนักเยอะด้วยแหละ ฮ่าๆ) หากใครจะไป ขี่ไม่แข็ง หรือน้ำหนักเยอะ หรือมอเจอร์ไซต์ไม่แรง ให้เผื่อใจ้ไว้ก่อนนะครับ ว่าอาจมีลงเดิน อิอิ

    ไปถึงหน้าร้าน ประตูและกำแพงสูงใหญ่เหมือนในหนัง Jurassic Park มองไปด้านหลังเป็นฉากต้นไม้ยักษ์ แค่เห็นก็ตื่นเต้นแล้วครับ

    พอเดินเข้าไป พบว่า เราต้องเดินข้ามสะพานแขนไม้ ที่จำกัดให้ไปได้แค่ครั้งละ 2 เท่านั้น เพื่อป้องกันอันตราย จุดนี้สำหรับคนกลัวความสูงก็คงมีเสียวบ้างแหละครับ

    ร้านกาแฟนี้สร้างเกาะไว้กับต้นไม้ยักษ์ (ผมไม่แน่ใจว่าต้นไม้พันธุ์อะไรนะ แต่เหมือนต้นไทร) และต่อเติมด้วยโครงเหล็กปักจากพื้นขึ้นมาเป็นที่นั่ง ทำให้กว้างขวางรับคนได้มากขึ้น

    โดยวิวเป็นต้นไม้ และมองไปไกลๆจะเห็นทิวเขาใกล้เคียง สวยงาม ถ้าได้มาช่วงอากาศเย็นๆ ของจะฟินไม่น้อย (ช่วงที่ผมไปก็เริ่มเย็นกำลังดีเลย)

    กาแฟ ชาเขียว ที่ดื่มกัน รสชาติพอได้  แต่ราคาค่อนข้างแพง 80-120 บาท ก็เรียกได้ว่าชาร์จค่าสถานที่กันไปเต็มๆ แต่ถ้ามองมุมที่แลกกับความรู้สึกนั่งสบาย ทิ้งเวลา ก็ถือว่าคุ้มกว่าไปนั่งในร้านห้องสี่เหลี่ยม

    ส่วนตัวแอบสงสัยว่าต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้ เอามาทำแบบนี้ จะผิดกฎหมายอะไรหรือเปล่า ตรงนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน อีกนัยหนึ่งก็แอบสงสารต้นไม้ตามประสาคนป่าแบบผม แต่ถ้าไม่ได้ผิดกฎหมาย และทุกคนยินดีที่จะมีมันไว้แบบนี้ ก็คงต้องปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปนั่นเอง ที่สังเกตดู ทางร้านก็ไม่ได้สร้างอะไรวุ่นวายกับตัวต้นไม้มากนัก แค่มีไว้เป็นพร็อพ เป็นหลังคา

     

     

     
    • โพสต์-5
    iFew •  พฤศจิกายน 19 , 2559

    สรุป

    แม่กำปอง ไปแบบ 1 วันด้วยมอเตอร์ไซต์ได้สบายๆ เพราะน่าจะเที่ยวระแวกนั้นได้จนเกือบหมด (ซึ่งจริงๆมีบ่อน้ำพุร้อนดอยสะเก็ด และโครงการหลวงห้วยฮ่องไคร้ ที่เราไม่ได้แวะไป) ค่าใช้จ่ายทั้งหมดไป 1 หรือ2 คน ก็ไม่น่าจะเกิน 500 บาท

    แต่สำหรับใครอยากได้ความเงียบสงบ ไปเปลี่ยนที่นอน อ่านหนังสือ จิบกาแฟ รับลมหนาว ก็สามารถไปนอนเล่นได้ (กลางวันอาจเสียงดังหน่อย เพราะมอเตอร์ไซต์และรถยนต์ขับไปมาตลอดเวลา และบ้านพักมักติดถนน)

    อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ อาจผิดหวังหน่อยสำหรับคนวาดภาพแม่กำปองไว้สวยงาม แต่ลองไปก็ไม่เสียหายอะไร ก่อนที่มันจะเปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ..