ทริปนี้เป็น Part1 ของ การเที่ยวลาวครั้งนี้ค่ะ เนื่องจากรูปเยอะมาก ดูกันเพลินๆไปค่ะ
บันทึกการเดินทางฉบับเต็มจะรวมรวมให้อีกครั้งค่ะ
ออกเดินทางวัน พฤ 6 เมษา ซึ่งเป็นวันหยุดวันจักรี ลางานวันศุกร์เพิ่มวันหนึ่งเราจะมีเวลาเที่ยว4วัน (ตามสไตล์พนักงานออฟฟิส) เวลากำลังดี ไม่มากไม่น้อย
แพลนการเดินทางคร่าวๆ คือ
ลงเครื่องที่อุดรธานี นั่งรถทัวร์ที่ บขส
ข้ามแดนที่ด่านหนองคาย เข้าสู่เวียงจันทร์ ค้าง1คืน
เช้าวันที่2 ค่อยเดินทางสู่วังเวียง ค้างอีก2คืน
วันสุดท้ายเดินทางกลับจากวังเวียง ขึ้นเครื่องที่อุดร กลับกรุงเทพ
การเดินทางครั้งนี้มีเพื่อนร่วมวิบากอีก 2 คน คนน้อย เรื่องน้อย ไปไหนไปกัน กินไรกินกัน ง่ายๆ ไม่เรื่องมากดีค่ะ
นี่การเดินทางไปลาวครั้งแรกของพวกเราทั้งสามคน เจอเค้าหลอกเอาเงินทุกวัน หลายสถานการณ์ คนซื่อๆแบบเราก็คงไม่ต่างกับฝรั่งที่มาเที่ยวเมืองไทยเท่าไหร่
ขนาดขากลับที่ด่าน ตม. ต้องเสียค่าผ่านทางคนละ 50 นี่ถึงกับหาเหรียญตามซอกของกระเป๋ากันเลยค่ะ
Part2 ที่ไปวังเวียง โดนหลอกโหดกว่านี้ ไว้คอยติดตามกันต่อไปค่ะ
เริ่มการเดินทาง พฤ 6 เมษา ตื่น ตี3 ออกจากบ้าน ตี3.30 ถึงดอนเมือง ตี4 เพื่อขึ้นเครื่องตอน 4.45......
ถึงอุดร 6โมงครึ่ง มาซื้อตั๋วรถทัวร์ที่ บขส ตอน7โมงได้รถรอบ 9โมงเช้า ค่ารถ 80บาท จุดหมายปลายทางอยู่ที่ เวียงจันทร์ ประเทศลาว
ระหว่างรอรถออก เนื่องจากไม่ทันรถรอบแรกตอน 8.00 ทำให้มีเรามีเวลาออกมาหามื้อเช้าให้หนักท้องไว้ก่อน เช้าๆแบบนี้กาแฟสักแก้ว ไข่กระทะสักสองฟอง ถือว่าดี!!
พอได้เวลารถออก ก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมงก็ถึงเวียงจันทร์ (รวมเวลาที่ผ่าน ตม.ตรงด่านหนองคาย) รถทัวร์ที่เรานั่งขาไปเป็นรถของไทย สภาพรถถือว่าเดีแล้วเมื่อเทียบกับขากลับซึ่งเป็นรถของลาว (ติดเรื่องการเดินทางกลับไว้ก่อนเรื่องมันยาว และมันส์มาก ขอบอกว่าอย่าพลาด)
การเดินทางมาเวียงจันทร์นั้นใช้เวลาไม่นานมากค่ะ แป๊บเดียวก็ถึง เราจองที่พักไว้แล้ว
พอลงรถก็หาร้านมือถือ เพื่อซื้อ Net Sim มาใส่ แล้วเปิดแผนที่เดินไปที่พักค่ะ
ที่เราเลือกที่จะเดินไป ก็เพราะถามราคาจากรถสามล้อรับส่งแถวๆนั้นแล้ว ราคาอย่างโหด กะจะฟันหัวนักท่องเที่ยวโง่ๆ 3 คนนี้สินะ
เสียใจด้วย ไม่ใช่ว่าฉลาดหรอก ไม่มีตังก์ให้เค้าฟัน ตึง!!!
เดินค่ะ 1 กิโลเมตร เท่านั้น พอได้เหงื่อ
เดินค่ะ อย่าบ่น เก็บตังก์ไว้กินเบียร์ดีกว่าจะให้สามล้อมาหลอกฟันค่าหัวเรา เอาคนละร้อย ก็ยังถือว่าแพงเลย ใกล้ๆแค่นี้เอง
เราพักที่โรงแรมเวียงจันทน์ สตาร์ เป็นเกสเฮ้าท์เล็กๆ ห้องเล็กๆ ไม่ได้ต้องการความหรูหราอะไร แค่เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก เพราะอยู่ย่านใจกลางเมืองเลย
กว่าจะเดินไปถึง เหงื่อชุ่มเสื้อ ยังกับเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ได้เบียร์เย็นๆสักแก้วนี่ ชื่นใจเหมือนเจอโอเอซิสท่ามกลางทะเลทราย
พอแดดไม่ร้อนมาก ก็ออกเที่ยวในเมืองกันค่ะ เดินไปเจอร้านเช่าจักร์ยานใกล้ๆที่พัก
แก๊งค์แฟนฉันก็ได้รวมตัวกันอีกครั้ง
ตอนนี้เริ่มหิวแล้ว เพราะนอกจากไข่กะทะตอนเช้าแล้วยังไม่ได้กินอะไรกันเลย ปั่นรถออกไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันค่ะ มื้อแรกเราจัดกันหนักมาก สั่งอาหารด้วยความหิวนี่มันหายนะชัดๆ สามคนจะกินกันยังไงหมด ค่าเสียหายมื้อแรกนี้ ทำให้เราต้องระวังเรื่องการใช้จ่ายให้มากขึ้น เช็คบิลมาเป็น แสนกีบ ประมาณพันบาท ถือว่าราคาโหดมากกับอาหารข้างทาง ตอนสั่งก็ไม่ได้คำนวนเงินก่อน ไม่เป็นไร วันแรกเรายังรวยอยู่.... จากนั้นก็ปั่นเที่ยวไปเรื่อย ไร้ทิศทางมาก ไปเจอวัดๆหนึ่งข้างทาง สวยมาก ชื่อวัดสีสะเกด เลยแวะเข้าไปดูสักหน่อย เลยรู้ว่า วัดนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ด้วย เสียค่าเข้าด้วยค่ะ แทบไม่มีอะไรฟรี ที่เมืองนี้ จากนั้นก็ปั่นไปดูประตูชัย ປະຕູໄຊອະນຸສາວລີ Patuxai Monument กันต่อ เห็นอยู่ใกล้ๆนี่ไกลเหมือนกันนะ ยิ่งตอนเย็นวันทำงาน รถก็เยอะมาก ค่อยๆปั่นไปด้วยความระมัดระวังค่ะ เรามาถึงเย็นไป ประตูที่ขึ้นไปจุดชมวิวด้านบนปิดไปแล้ว ก็ถ่ายรูปเล่นแค่บริเวณรอบๆ วันนี้ฟ้าไม่ค่อยเปิด ดูมัวๆหม่นๆ โถงกลาง ด้านใต้ประตูค่ะ พอถ่ายรูปกันหนำใจแล้วก็ปั่นไปตลาด Night Market กันต่อค่ะ หาไรกินกัน ตลาดนี้ก็เหมือนตลาดนัดบ้านเราแหละค่ะ ขายของเหมือนกัน ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ กลับไปซื้อที่บ้านก็ได้เนอะ มือเย็นของเราวันนี้ค่ะ ประหยัดกันบ้างอะไรบ้าง เริ่มต้นวันใหม่ด้วยเบียร์ลาว แล้วออกเดินทางสู่วังเวียง
เราได้ติดต่อบริษัททัวร์ เพื่อหารถที่จะพาเราไปวังเวียงในวันพรุ่งนี้ ยอมที่จะจ่ายราคาแพงสุด เพื่อไปรถตู้จะได้นั่งสบายๆและถึงไวๆหน่อย เพราะวังเวียงต้องไปอีกค่อนข้างไกล นั่งรถประมาณ 4ชั่วโมง และคนขายตั๋วบอกว่า ถ้าไปรถตู้เราจะเดินทางแค่ 3ชั่วโมง
สุดท้ายได้ไปรถบัสขนาดใหญ่ ซึ่งถามผู้ร่วมเดินทางคนอื่น เค้าซื้อตั๋วมาในราคาถูกกว่าเราอี๊กกกกก
โดนคนลาวหลอกจ้าาา แต่ทำไงได้ ก็ต้องไปนั่นแหละ เซ็งจริงๆ
โปรดติดตามต่อ Part2 สะบายดี วังเวียง ไม่วังเวง มีแต่ความเว่อร์วังอลังการ กันต่อด้วยค่ะ
ฝากติดตามเพจน้อยๆ เป็นเพจท่องเที่ยวและเม้าท์กันแบบสบายๆ เหมือนนั่งเล่าให้เพื่อนฟัง
https://www.facebook.com/sandysohappy/
"แสนดีแฮปปี้ คนอ่านก็แฮปปี้"