Day2
Follow Me
https://www.facebook.com/Backpackergraphy/
https://backpackergraphy.com/
วันนี้ตั้งใจไว้ว่าจะพาแฟนไปเที่ยวเกาะแสมสาร ก่อนหน้านี้เลยค้นหารีวิวและข้อมูลมาอย่างหนัก แต่พอถึงเวลาเดินทางจริง ก็มักจะมีข้อผิดพลาดในการเดินทางซึ่งมันก็เรื่องปกติและเป็นเสน่ห์อย่างนึงของการเดินทางท่องเที่ยว…..มาเริ่มวันที่ 2 กันเริ่มดีกว่าครับ
จากที่พัก(พัทยา)เดินทางโดยรถยนต์ไปยังพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ใช้เวลาโดยประมาณ 75 นาที(ถนนโล่ง) โดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท(สาย3) ผมตื่นตั้งแต่ตี 3 เพื่ออาบน้ำและเตรียมของอีกเล็กน้อยก่อนโทรและเดินไปเคาะห้องแฟน เพราะจะต้องออกจากพัทยาตั้งแต่ตี 4 เพื่อให้ไปถึงจุดรับบัตรคิวประมาณตี 5:15 น. ระหว่างทางก็เกิดเรื่องผิดผลาดขึ้นเล็กน้อย เพราะโทรศัพท์มือถือเจ้ากรรมของผมดันจับสัญญาณ GPS ได้บ้างไม่ได้บ้างทำให้ต้องหยุดรถหาสัญญาณ GPS เป็นระยะๆ จนสุดท้ายต้องปลุกแฟนที่หลับอยู่เบาะข้างคนขับ เพื่อนำ iphone มาใช้แทน จากปัญหาเรื่อง GPS ทำให้มาถึงจุดรับบัตรคิวช้ากว่ากำหนดประมาณ 15 นาที แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือ เวลา 05:30 น. ผมมาต่อแถวรับบัตรคิว ในใจคิดว่าน่าจะได้คิวเลขหลัก 2 ตัว (99) แต่ปรากฎว่าได้คิวที่ 316 และ 317 (ตอนนั้นในใจจึงเกิดคำถามว่า “คิวแรกพวกพี่มากันกี่โมง”) แต่ที่น่าชื่นชมคือการบริหารจัดการของเจ้าหน้าที่ทหารที่ทำได้เป็นอย่างดี ทุกคนต่อแถวอย่างเป็นระเบียบเพื่อรอรับบัตรคิว 1 คนต่อ 1 บัตรคิว เป็นภาพที่หาดูได้ยากในสังคมช่วงนี้
![]()
นักท่องเที่ยวมาเข้าแถวเพื่อรอรับบัตรคิว
![]()
ผมได้คิวที่ 316และ317
![]()
เวลาประมาณ 6โมงเช้า แต่นักท่องเที่ยวก็ยังคงทยอยกันมาต่อแถวรอรับบัตรคิวอย่างเนืองแน่น
![]()
พระอาทิตย์ขึ้นที่ตำบลแสมสาร
![]()
สะพานปูนทอดยาวไปในทะเล สามารถใช้สะพานนี้เดินไปยังท่าเรือได้ แต่จะอ้อมกว่าเดินบนถนน
ชมพระอาทิตย์ ณ ตำบลแสมสารแบบ 360 องศา (คลิกที่ลิ้งด้านล่าง)
https://theta360.com/s/d0AqVGVxwrmmifrayHdyJymSi
หลังจากถ่ายรูปเล่นกันจนพอใจแล้ว ก็ถึงเวลาอาหารเข้าซึ่งทางพิพิธภัณฑ์มีร้านอาหารและร้านกาแฟคอยให้บริการ รวมถึงร้านขายของที่ระลึกของหน่วยบัญชาการส่งครามพิเศษทางเรือ(SEAL) ให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านหรือฝากเพื่อนฝูงได้ด้วย ร้านจะตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดที่รับบัตรคิว แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้ใช้บริการร้านอาหารของทางพิพิธภัณฑ์ เนื่องจากได้ขอให้ทางโรงแรมจัดเตรียมอาหารเช้าใส่กล่องไว้ให้แล้ว
![]()
กล่องอาหารแข็งแรงสวยงาม จับถือสะดวก
![]()
ในกล่องมาขนมปัง ไข่ต้ม แซนวิช ผลไม้ น้ำผลไม้และน้ำดื่ม 1 ขวด (กินหมดนี้ถึงกับอืดกันเลยทีเดียว)
หลักจากทานอาหารเสร็จก็เหลือเวลาอีกนิดหน่อยให้นั่งพัก ก่อนที่จะต้องไปรอเจ้าหน้าที่เรียกคิวเพื่อซื้อตั๋วไปเกาะแสมสาร
เวลา 07:00 น. คือเวลาเริ่มเรียกคิวจำหน่ายตั๋ว ในตัวอาคารจำหน่ายตั๋วมีเก้าอี้นั่งและเครื่องปรับอากาศ สามารถเข้าไปนั่งรอเรียกคิวได้เลย แต่ในวันที่ผมไปนั่น คิวที่ 1 – 10 เรียกแล้วไม่มา โดยเจ้าหน้าที่จะเรียกซ้ำประมาณ 2-3 ครั้ง ถ้าไม่แสดงตัวก็จะข้ามไปเรียกคิวถัดไปทันที
บรรยากาศภายในตัวอาคารจำหน่ายตั๋ว (คลิกที่ลิ้งค์ด้านล่าง)
https://theta360.com/s/3Kdv78pR4otAMO8C726d4bIeK
เนื่องด้วยเกาะแสมสารเป็นพื้นที่อุทยาน ทำให้ต้องจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวที่เกาะ โดยเกาะแสมสารสามารถรับนักท่องเที่ยวได้ 500 คน/วัน (สูงสุด 800 คน/วัน ในช่วงวันหยุดยาว) เที่ยวเรือรับ-ส่ง มีเป็นรอบๆ โดยแต่ละรอบจะห่างกันประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถเลือกรอบเรือขาไปได้ (ถ้ารอบนั้นยังไม่เต็ม) โดยให้แจ้งรอบเรือที่ต้องการแก่เจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋ว ส่วนรอบเรือขากลับเข้าฝั่งก็มีทุกๆ 1 ชั่วโมงเช่นกัน โดยใช้เรือลำเดียวกับที่มาส่งนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะ โดยรอบเรือกลับฝั่งรอบสุดท้ายคือ 4 โมงเย็น
![]()
ตํ่วราคา 300 บาท (ตั๋วออกแบบสวยดีครับ)
![]()
แถวขึ้นเรือข้ามไปเกาะแสมสารและเกาะขาม โดยเรือไปเกาะแสมสารและเกาะขามนั้น จะใช้ท่าเรือเดียวกันแต่ไปคนละลำ ดังนั้นให้ฟังเจ้าหน้าที่ประกาศเรียกดีๆ และยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่ตรวจจะได้ไม่ขึ้นเรือผิดลำ
![]()
ตอนขึ้นเรือจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและพยุงขณะที่ก้าวลงเรือ
![]()
สวนกับเรือที่กำลังพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำ
ใช้เวลาไม่นานเรือก็เทียบท่าที่เกาะแสมสาร หลังจากขึ้นฝั่งนักท่องเที่ยวทุกคนจะได้เข้ารับฟังการบรรยายของเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเกาะแสมสารและพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย
รายละเอียดของเกาะ เช่น มีหาดจำนวนกี่หาด ที่มาของชื่อหาด กิจกรรมที่มีบนเกาะ รวมถึงระเบียบและข้อกำหนดต่างๆบนเกาะ
![]()
จุดสำหรับนั่งฟังเจ้าหน้าที่บรรยาย ถึงความเป็นมา รายละเอียดของเกาะ และข้อกำหนดต่างๆเมื่ออยู่บนเกาะ
(ข้อสังเกตส่วนตัว ช่วงเวลาที่ผมไปนั่น จะเริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวเกาะแสมสารบางแล้ว ส่วนใหญ่ที่เจอคือทัวร์จีน ฝรั่งเห็นบ้างประปลาย แต่เหมือนมาเที่ยวกับเพื่อนชาวไทยเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ป้ายต่างๆบนเกาะยังคงมีแต่ภาษาไทย โดยเฉพาะป้ายเตือนและป้ายแจ้งข้อห้ามต่างๆยังคงมีแต่ภาษาไทยเท่านั้น)
โดยเกาะแสมสารจะมีหาดที่เปิดให้นักท่องเที่ยวทำกิจกรรมและพักผ่อน อยู่ด้วยกัน 2 หาด คือหาดเทียน(หาดที่เรือเข้าเทียบท่า) และหาดลูกลม กิจกกรรมมีให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นดำน้ำชมความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติใต้ทะเล แต่ถ้าไม่อยากเปียกก็สามารถใช้บริการเรือท้องกระจกแทนได้ บนเกาะมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติโดยให้ไปลงชื่อไว้ แล้วจะมีเจ้าหน้าที่ประกาศเรียกตามรอบเวลาแต่ถ้าขี้เกียจเดินบนเกาะก็มีจักรยานให้ยืมปั่น
โดยกิจกรรมส่วนใหญ่ต้องลงชื่อจองคิว เพราะก่อนจะออกไปดำน้ำเจ้าหน้าที่จะสอนการลอยตัวและการหายใจโดยใช้อุปกรณ์ดำน้ำเบื้องต้นก่อน อุปกรณ์ดำน้ำจะถูกแช่น้ำยาฆ่าเชื้อก่อนที่จะวนมาให้นักท่องเที่ยวกลุ่มถัดไปมาใช้ต่อ
![]()
รถรับ-ส่ง ระหว่างหาดเทียนไปหาดลูกลม
![]()
ถ้าอยากรับลม และเพิ่มความเร้าใจ แนะนำให้เลือกนั่งรถกระบะไปยังหาดลูกลม
![]()
ป้ายหาดลูกลม
![]()
ชายหาดลูกลม มีเตียงผ้าใบและเพิงพักให้บริการ ถ้าเตรียมเสื่อมาก็สามารถนำมาปูนั่งพักใต้ร่มไม้ได้
![]()
ทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าใส ไม่แพ้หมู่เกาะทางภาคใต้เลยครับ
![]()
เอารูปมายืนยันครับ ว่าน้ำใสมากกกกกก
![]()
ถ้ากลัวดำก็มีเตียงผ้าใบให้นอนรับลมทะเล
![]()
ร้านค้าและจุดลงทะเบียนดำน้ำ
![]()
หาดลูกลม
บรรยากาศหาดลูกลมแบบ 360 องศา (คลิกลิ้งค์ด้านล่าง)
https://theta360.com/s/kkS5CEJJzHtWewxjGGYIKulqm
ใช้เวลาอยู่บนหาดลูกลมประมาณ 2 ชั่วโมง ผมก็ตัดสินใจนั่งรถกลับมาที่หาดเทียน เพื่อเก็บภาพของหาดเทียน และเตรียมตัวกลับฝั่งด้วยเรือรอบบ่าย 2
![]()
หาดเทียนเกาะแสมสาร
![]()
มาทะเล จะพลาดไม่ได้กับการถ่ายรูปคู่ชิงช้าไม้
![]()
ท่าเทียบเรือบนหาดเทียน
บรรยากาศหาดเทียนแบบ 360 องศา (คลิกลิ้งค์ด้านล่าง)
https://theta360.com/s/d6hbhGWQwyZ2pqaH7ohokJf5Y
![]()
ถึงเวลาขึ้นเรือกลับเข้าฝั่งแล้วครับ หลังจากนี้เดี๋ยวผมจะพาไปทานอาหารทะเลเจ้าประจำของผมกัน
พิกัด GPS พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย (จุดขายตั๋วไปเกาะแสมสาร)
https://goo.gl/maps/j2aegNQaCXT2
![]()
ทางเข้าจะเป็นประตูทางด้านซ้ายของภาพนะครับ
ออกจากแสมสารมาเวลาประมาณ 14:45 น. ก็ต้องเผชิญกับรถติดอย่างหนักเนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาว
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าบนถนนก็มาถึงร้าน”ศรีนวลซีฟู๊ด” ทุกครั้งที่ผมมาเที่ยวพัทยาจะต้องแวะมาทานร้านนี้ ถ้าให้นิยามคงจะนิยามร้านนี้ว่า “อาหารอร่อย คุ้มราคา บรรยากาศดี” แนะนำว่าให้มาถึงร้านประมาณ 4 โมงเย็น สั่งอาหารมานั่งทานแบบสบายๆเพราะคนยังไม่เยอะ หลังจากอิ่มแล้วก็เดินไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าบนสันเขื่อนกันคลื่นที่อยู่ติดกับร้าน (ค่าอาหารมื้อนี้ ประมาณ 1,2xx บาท รายการอาหารตามรูปด้านล่าง ข้าวเปล่า1จาน น้ำ2ขวด น้ำแข็ง1ถัง)
![]()
ปลาทอดน้ำปลา
![]()
กรรเชียงปูนึงจานโต
![]()
ข้าวผัดปู
![]()
ต้มยำกุ้งเล็ก ให้กุ้งมา8-9ตัว แต่วันที่ไปทานทำน้ำข้น ข้นไปนิดนึง
![]()
ที่นั่งมีให้เลือกทั้งแบบในร่ม(พัดลม,แอร์) และกลางแจ้ง
![]()
สันเขื่อนกันคลื่นอยู่ติดกับร้านอาหาร สามารถเดินขึ้นไปชมวิวพระอาทิตย์ตกได้
![]()
มองจากตรงนนี้จะเห็นเมืองพัทยา
บรรยากาศพระอาทิตย์ตก ณ ร้านศรีนวลซีฟู๊ด 360 องศา (คลิกลิ้งค์ด้านล่าง)
https://theta360.com/s/syJKgDJ9qHDTqnbqlFU11aZsK
พิกัด GPS ร้านศรีนวล
https://goo.gl/maps/1M7VJr3b2FS2
หลังจากอิ่มหนำสำราญกับอาหารรสอร่อยและวิวพระอาทิตย์ตกสุดฟินกันแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับที่พัก
เมื่อถึงที่พักต่างคนต่างแยกกันไปนอน สำหรับผมหัวถึงหมอนก็หลับเลย เพราะเหนื่อยกับการตื่นตั้งแต่ตี 3 และเผชิญกับรถติด แต่ก็ต้องบอกว่าเป็นวันที่ใช้เวลาได้คุ้มค่ามาก