"เขลางค์นคร" เมืองลำปาง ที่เคยได้ยินมาเป็นเมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา เมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของ ศิลปะวัฒนธรรมล้านนาผสมประสานกับวัฒนธรรมเพื่อนบ้าน สวยงามได้อย่างลงตัวจึงเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่
"ลำปาง" ก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่ยังไม่เคยมาเที่ยวหรือว่าผ่านจังหวัดนี้เลย แค่ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว ครั้งนี้ก็มีโอกาสทำให้ฉันได้พาตัวเองมาผ่านทาง จากแพร่เพื่อที่จะมาต่อรถที่ลำปางไปยังปลายทางคือ "เชียงใหม่" แต่ฉันตัดสินใจว่าจะแวะสัมผัสมนต์เสน่ห์ของลำปางก่อนแม้มีเวลาแค่น้อยนิด
การเดินทางมายังลำปาง ได้นั่งรถตู้ที่ บขส.แพร่ - ลำปาง ก็ใช้เวลาเดินทางไม่นานมาก ก็จะมาถึง บขส.ลำปาง แล้วฉันก็ลงรถด้วยความที่ไม่ได้มีแผนว่าจะมาทำอะไรที่นี่ และไม่ได้ศึกษาอะไรเกี่ยวกับลำปาง แวะนั่งที่ บขส.อันดับแรกก็หาที่พักก่อนจากเวปไซต์ต่าง เพื่อที่จะได้นั่งรถสองแถวบอกว่าลงจุดและ ในตอนนั้นแบตโทรศัพท์และกล้องก็ใกล้จะหมด
นั่งหาที่พักได้แล้วก็ทำการจอง ก็ไปนั่งรอรถสองแถวรอบเวียงในราคา 20 บาท แต่ต้องให้ได้ผู้โดยสารประมาณ 5 ท่านจึงจะออกได้(ภาพจาก Facebook The Cottage Lampang)
จองที่พักได้ที่ "เดอะคอทเทจ ลำปาง (The Cottage Lampang)" ซึ่งอยู่ใกล้ๆวัดศรีชุม ไปถึงที่พักก็เกือบจะ 18.00 แล้ว ภาพที่พักไม่ได้ถ่ายไว้เลย ด้วยความเหนื่อยจากการนั่งรถและแบตทุกอย่างก็เริ่มจะหมดลง เมื่อถึงที่พักก็ไปเช็คอินเข้าห้องพัก หยิบทุกมาชาร์จแบตก่อนและคืนนี้คิดว่าน่าจะไปเดินแถวๆ "ห้าแยกหอนาฬิกา"
เผลอหลับไปตื่นขึ้นมาก็ตอน 20.00 แล้ว ก็รีบล้างหน้าล้างตาลงไปรอรถสองแถวหน้าที่พัก เมื่อได้รถขึ้นสองแถวแล้วก็บอกลุงคนขับไปส่งที่ "ห้าแยกหอนาฬิกา" โชคดีคืนนั้นมีลูกค้าลงฝั่ง "กาดหัวขัว" ซึ่งต้องข้ามสะพาน "สะพานรัษฎา" หรือสะพานสีขาวสัญลักษณ์ของลำปาง ห้าแยกหอนาฬิกา ศูนย์กลางของจังหวัดลำปาง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร มีนาฬิกาบอกเวลาทุกด้าน เป็นอีก จุด Landmark และเป็นจุดสูงกลางของเมืองลำปาง กลางคืนสวยมาก เมื่อลงรถสองแถวแล้วก็เดินย้อนกลับไป"ถนนบ้านเชียงราย" ระหว่างทางเดินมาก่อนจะถึงสามแยกไปริมแม่น้ำวังก็จะเจอ "วัดเชียงราย" ชื่อเชียงรายแต่อยู่ที่ลำปางนะ ซึ่งเป็นอีกวัดที่เก่าแก่ของลำปาง เป็นศิลปะล้านนาประยุกต์กับศิลปะภาคกลาง บูรณะแล้วเสร็จเมื่อปี 2555 ภายในวิหารประดิษฐานพระประธาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดองค์หนึ่งของภาคเหนือ วัดชื่อเชียงราย แต่อยู่ลำปาง ก็แปลกดี อุโบสถสีขาวสวยงาม ปิดกระจก อยู่ริมถนน ไม่มีกำแพงสูง ๆ กั้น วัดในรูปแบบศิลปะประยุกต์ ที่ดูคล้ายวัดร่องขุน ประดับด้วยกระจกสะท้อนแสง แม้จะกลางคืนก็ยังคงเห็นความวิบวับ มีพระองค์ใหญ่ทรงเครื่องจักรพรรดิ ตอนกลางคืนเปิดไฟสวยมีแสงสีหลายสีสวยงามมาก น่ามาถ่ายรูป เข้าชมได้ตลอด ส่วนด้านหน้าวัดเชียงรายประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาวทรงเครื่องรูปแบบศิลปะล้านนา มีรูปลักษณ์ที่งดงามเช่นกัน -เส้นทาง วัดเชียงราย จากห้าแยกหอนาฬิกา ตั้งอยู่บนถนนบ้านเชียงราย ก่อนถึง ที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดลำปาง-เส้นทาง วัดเชียงราย จากห้าแยกหอนาฬิกา ตั้งอยู่บนถนนบ้านเชียงราย ก่อนถึง ที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดลำปาง
เดินมาถึงสามแยก ข้ามถนนไปก็จะเป็นแม่น้ำวัง ก็จะเป็น"สะพานออเร้นท์" ประดับประดาไฟได้อย่างสวย และริมแม่น้ำก็จะเป็นบันไดที่นั่ง ก็จะมีผู้คนลำปาง ออกมานั่งรับลมกัน
เดินๆมาก็แวะที่ร้านปิ้งย่างหมาล่า ใกล้ๆกับแม่น้ำวัง ดูชิลล์ๆดี
ก่อนกลับไปพักผ่อนก็มาเจอร้านบะหมี่ - เกี๊ยวปู น่ากินมากเลย ก็จัดไปอีกหนึ่งอิ่มๆก่อนนอน
ตื่นเช้าที่ลำปางอีกวันแล้ว รู้สึกอากาศเย็นสบายมาก วันนี้ไม่ตื่นสายเหมือนตอนอยู่แพร่ ออกมาตั้งแต่ 6 โมงเช้าเดินจากที่พักมาที่ร้าน "เป็ดย่าง ฮ่องกง" หาไม่ยากอยู่ตรงข้ามคิมโฮเต็ล เป็นมื้อเช้าที่อร่อยเลยวันนี้
เมื่อกินข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อย วันนี้เอาไงต่อดีล่ะนี้ก็ 07.30 แล้วจะไป บขส.ขึ้นรถไปเชียงใหม่เลยไหม
เดินออกมาจากร้าน "เป็ดย่าง ฮ่องกง" ยืนหมุนๆ ก็เห็นรถสามล้อที่เขียนว่ารับจ้าง และคุณลุงเจ้าของรถก็มาพอดี ถามจะไปไหน เลยบอกว่ามีเวลาไม่เยอะเพราะต้องไปขึ้นรถให้ถึงเชียงใหม่ก่อนเที่ยง คุณลุงเลยบอกว่าไปกับลุงไหมชั่วโมง 200 บาท เอาไงเอากัน ตอบตกลงให้คุณลุงสามล้อพาเที่ยว ใครไปเที่ยวแบบไม่มีรถส่วนตัว ก็ติดต่อคุณลุงได้นะ 080-1081247
คุณลุงถามว่าอยากไปไหน เราก็บอกไปว่าตามใจลุงเลย หนูไม่เคยมาลำปาง และไม่ได้ศึกษาอะไรไว้เลย พูดคุยระหว่างออกจากร้านเป็ดย่าง ฮ่อง ลุงพามาที่แรก "สะพานรัษฎาภิเศก หรือ สะพานขาว" พร้อมบอกเล่าประวัติของสะพานนี้ มาในช่วงเช้าบรรยากาศก็ดีไปอีกแบบนะ
สะพานรัษฎาภิเศก หนึ่งในแลนด์มาร์คของ “ลำปาง” เป็นสะพานข้ามแม่น้ำวัง ตั้งอยู่ในเขตตำบลหัวเวียง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง สร้างขึ้นในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2460 เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ทาสีขาวโดดเด่นสะดุดตา ด้วยรูปทรงโค้งคันธนู รวม 4 โค้ง ตั้งขวางเต็มลำน้ำ เป็นสะพานที่มีประวัติยาวนานเป็นร้อยปีกันเลยนะ
และเมื่อข้ามสะพานมา ลุงบอกว่ามาลำปางต้องไปกราบไหว้ "หลวงพ่อเกษม เขมโก"เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต และครั้งหนึ่งได้มาเยือนเมืองลำปาง ณ สำนักปฏิบัติธรรมหลวงพ่อเกษมเขมโก กันแต่เช้าเลยคนก็เลยน้อย
เป็นสำนักปฎิบัติธรรม และเป็นที่เก็บสรีระหลวงพ่อเกษมเขมโก เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ของเมืองลำปาง และลุงคุณบอกเล่าว่า หลวงพ่อเกษม เป็นพระสงฆ์อีกหนึ่งรูปที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จมา
ภายในอาคารทรงไทยประยุกต์ มีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อเกษม เขมโก เกจิอาจารย์ซึ่งมีผู้เคารพนับถือเป็นจำนวนมาก นั่งขัดสมาธิขนาดเท่ารูปจริง เพื่อให้ประชาชนเคารพสักการะและบริเวณหน้ามณฑปมีสถานที่เช่าพระเครื่อง หลวงพ่อเกษมเขมโก ท่านมรณภาพเมื่อ พ.ศ.2538 และเก็บศพไว้ที่สำนักสงฆ์สุสานไตรลักษณ์ ถึงแม้ว่าหลวงพ่อเกษม เขมโก จะมรณภาพไปนานแล้ว แต่ก็ยังมีพุทธศาสนิกชนผู้เลื่อมใส ศรัทธายังคงเดินทางไปนมัสการอยู่เสมอ มิได้ขาด
มีรูปปั้นขนาดใหญ่ของหลวงพ่อเกษมเขมโก พระเกจิอาจารย์อันเป็นที่เคารพนับถือของบรรดา พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ ยืนเด่นอยู่ ด้านหน้า