หัวเหม่งพาเที่ยว เดินทางคนเดียว ไปเลยด้วยกันก๋ออออ..
หัวเหม่งพาเที่ยว เดินทางคนเดียว ไปเลยด้วยกันก๋ออออ..
เชียงคาน 2 คืน 5 วัน สี่พันนิดๆเอ๊งงง!!
อ่านไม่ผิดแน่นอนฮะ การเดินทางครั้งนี้เราใช้เวลา 5 วัน ใกล้แค่นี้เองทำไมดูยาวนานจัง ว่าไหมล่ะ?
เชื่อว่าหลายคนซื้อเวลาเพื่อให้การเดินทางรวดเร็ว กระชับขึ้น แต่เราอยากซื้อเวลาเหล่านั้น ให้มันเดินช้าลง..
มาดูรายละเอียดคร่าวๆสำหรับค่าใช้จ่ายกันจ้ะ
ค่ารถไป/กลับ สัตหีบ-กทม. 388฿
ค่ารถไฟ+ค่ารถ ไป/กลับ กทม.-เชียงคาน 1,990฿
ค่าที่พัก2คืน 1,102.94฿
ค่ากิน+จิปาถะ 878฿
รวม = 4,358.94฿ เท่านั้นเองจ้า
การเดินทางครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในหลายๆเรื่องของเราจริงๆ ตื่นเต้นเหมือนกัน แพลนก็ไม่มี รู้แค่ว่ามีตั๋วรถไฟไป/กลับ มีที่พักก็โอเคแล้ว ส่วนจะไปไหนต่อบ้างค่อยไปคิดที่นู่น เอาล่ะ! อย่าเสียเวลากันอยู่เลย Go! Go! Go!
เริ่มต้นเดินทางจากสัตหีบบ้านเรา
27 ธ.ค. 2560
12:30น. นั่งรถสองแถวจากบ้านไปลงคิวรถตู้ 20฿
13:00น. ล้อหมุนเข้า กทม.กันฮะ 145฿ เราลงที่เอกมัย
16:00น. ถึงเอกมัย รถรถเมล์สาย40 ไปสถานีรถไฟหัวลำโพง 9฿
17:30น. ถึงหัวลำโพงละ นั่งรถเมล์ชั่วโมงกว่าเลย รถติดมาก หิวก็เดินเข้าเซเว่น ได้ขนมปังกะน้ำมาหมดไป 69฿
เดินไปดูจอขบวนรถขาออก ว่าเราต้องไปขึ้นไฟที่ชานชาลาที่เท่าไหร่ ของเรารถไฟด่วนขบวน77 กรุงเทพ-หนองคาย ต้องไปรอที่ชานชาลาที่11 รถออก 18:35น.
รถเราเป็นนั่งปรับอากาศชั้น2 แอร์เย็นมาก ถึงจะมีผ้าห่มแจกก็ยังหนาวอยู่ฮะ การนั่งรถไฟที่ยาวนานก็ต้องดูหนุมานไปเพลินๆ
*ตั๋วรถไฟเราจองผ่านเว็บไซต์ ทั้งขาไป-ขากลับเลยค่ะ
https://www.thairailwayticket.com
ตั๋วขาไปจอง express ขบวน77 กรุงเทพ-อุดรธานี 18:35-03:30 น. ตัดบัตรไป509฿ (ตั๋ว479+คธน.30)
ตั๋วขากลับ special express ขบวน26 อุดรธานี-กรุงเทพ 19:59-06:00 น. ตัดบัตรไป1,009 (ตั๋ว979+คธน.30)
ปล.ขบวนนี้เป็นรถไฟอีสานมรรคา รถไฟใหม่ค่ะ เราจองเป็น lady car เลิศสุด
28 ธ.ค. 2560
04:30น. ถึงสถานีรถไฟอุดรธานีค่ะ เป็นธรรมดาของรถไฟที่จะเลทนิดหน่อย เอ่อ.. ไม่นิดมั้ง หนาวมากกกกกก
ลงรถปุ๊บโดนสกายแลปมารุมมาตุ้มค่ะ คงต้องยอมนะฮะ มืดด้วยหนาวด้วย เลยตกลงไปพี่ บขส.อุดร2 ในราคา120฿
ถึงบขส.อุดร2 รถบัสที่จะไปบขส.เลยกำลังออกพอดี วิ่งดิครับ โชคดียังทัน ออกจากอุดรตอนตี5 เก็บเงินบนรถค่ะ ไปบขส.เลย 91฿ นั่งหลับไปเพลินๆ เพลินมากตื่นมาเห็นคนลง เดินลงตามเขาไปเฉยเลย มองไปรอบๆไม่เห็นมีรถไปเชียงคาน เลยวิ่งกลับไปถามเจ๊เป๋ารถ อ้าววว นี่มันวังสะพุง รีบขึ้นรถแทบไม่ทัน 55555 นั่งไปอีกหน่อยก็ถึงบขส.เลยค่ะ เวลา 08:00น. โดยประมาณ
ไปต่อกันด้วยรถสองแถวชิวๆเข้าเชียงคาน 35฿ ใช้เวลาชั่วโมงครึ่ง
09:30น. ถึงเชียงคาน เราลงตรงแยกซอย21ค่ะ ที่พักอยู่ใกล้มาก ซ.20 หาง่ายมาก เราพักที่ Capsule Hostel Chiangkhan จองผ่านแอป agoda 2คืน โซนผู้หญิง ตัดบัตรไป 1,102.94฿ ค่ะ นี่คือภาพที่พัก เป็นแคปซูลไม่เล็กนะคะ ห้องน้ำสะอาดมาก มีผ้าเช็ดตัวให้2ผืนกับน้ำ1ขวดทุกวัน ผ้าเช็ดตัวใช้เสร็จใส่ตะกร้าเลย ก่อนขึ้นห้องต้องเปลี่ยนรองเท้าทุกครั้งค่ะ พอเช็คอินเราจะได้คีย์การ์ดไว้เข้าออก มีเงินมัดจำ100฿ ได้เงินคืนตอนเช็คเอาท์ เอาคีย์การ์ดห้อยคอไว้เลยค่ะกันลืม เช็คอินได้เวลา14:00น. แต่เรามาก่อนเลยฝากกระเป๋าไว้ แล้วเช่าจักรยาน50฿ ไปหาอะไรรองท้องก่อนค่ะ
มื้อแรกที่เชียงคาน ข้าวเปียกเส้น 45฿ ซ.13 ต่อด้วยมอคค่าเย็นร้านชาพะยอม อยู่ติดๆกัน 25฿
ที่นี่ชาวไบค์เกอร์เยอะเหมือนกันค่ะ มีรถตู้นำเที่ยวด้วยนะคะ ตามภาพเลย
ยังไม่ถึงเวลาเช็คอินเราก็ไปปั่นจักรยานริมโขงกันค่ะ เก็บภาพมาฝาก วันนี้อากาศดีมาก เย็นมาก 20องศา แต่เป็นอากาศหลังฝนตกใหม่ๆ ก็ยิ่งหนาวกว่าปกติ
มาต่อที่ถนนคนเดิน บ่าย2 ก็กลับไปที่พักเช็คอินก่อนค่ะ อาบน้ำหน่อย
กลับมาถนนคนเดินต่อ แวะร้านจำเลยรัก
สั่งข้าวจี่ญวนกับโอวัลตินร้อน
ข้าวจี่ญวน 20฿ โอวัลติน35฿
เริ่มมืดแล้ว ร้านต่างๆเริ่มเปิดไฟกันค่ะ
โมจิ-ไอติมค่ะ รสคุ้กกี้แอนด์ครีม 30฿
เฟรนช์ฟรายส์ราดชีส 40฿
แล้วก็ได้เสื้อติดมือมา1ตัวฮะ 120฿
ดึกแล้วกลับที่พักนอนกันดีกว่า เพลียมากวันนี้
29 ธ.ค. 2560
ตื่นสายค่ะ 9 โมงแล้ว กินกาแฟฟรีบริการตัวเองหน้าเคาน์เตอร์ที่พัก แล้วออกไปตามหาโรงหนังเพชรเชียงคานที่อยู่ในภาพยนตร์เรื่อง ตุ๊กแกรักแป้งมากค่ะ
เช่าจักรยานจากที่พักอีก 50฿
แต่สิ่งที่ค้นพบคือ กลายเป็นร้านกาแฟไปแล้วฮะ เศร้าจัง
ก็เลยสั่งไข่กระทะกับลาเต้เย็นมาย้อมใจหน่อย 85฿
ภาพบรรยากาศภายในร้านค่ะ
แค่นี้ก็ดีใจแล้ว
"เราจะรู้ว่า เรารักใครคนหนึ่งมาก ก็ตอนที่เราบอกไม่ได้ ว่ารักเขามากแค่ไหน" cr.ตุ๊กแกรักแป้งมาก
กินอิ่มแล้ว เราจะไปแก่งคุดคู้กันค่ะ ปั่นจักรยานไปนี่แหละ
5 กิโลเอง เห็นได้ชัดว่าที่นี่ support จักรยานมาก
ปั่นไปเจอวัดท่าแขกค่ะ แวะถ่ายรูปกันหน่อย
School bus เป็นร้านกาแฟนะคะ แต่เราไม่ได้ขึ้นไป กินกาแฟมา2รอบละ พอก่อน ปั่นต่อไปค่ะ
ระหว่างทาง grandma's garden ค่าเข้าชม20฿ แต่เราไม่แวะค่ะ มีร้านขายมะพร้าวแก้วตลอดทาง เยอะมาก
แล้วก็มาถึงค่ะ แก่งคุดคู้ ระยะทาง 5 กิโล มีร้านค้าของฝากเยอะค่ะ
มีข้าวลืมผัวด้วย 5555
ถึงแล้วเด้อออออ ไปค่ะปั่นกลับที่พักไปนอนต่อพร้อมสปอนเซอร์10฿
ตื่นมาตอนเย็นออกมาดูพระอาทิตย์ตกที่ริมโขงจ้า
หมดเวลาสนุกแล้วสิ
ไปต่อกันที่ถนนคนเดินค่ำคืนนี้ จัดนมสดอุ่นๆไป1แก้ว 10฿
คุณยายแซนตี้กะผีตาโขน
ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ที่ระลึก
ก่อนกลับที่พักก็กินโจ๊กไป1ถ้วยค่ะ 35฿
พรุ่งนี้คิดว่าจะไปภูทอก รถจะไปก็ยังไม่มีเอาไงดี กลับไปคุยกะพี่ที่แคปซูลดู พี่บอกมีครอบครัวนึงจะไปพอดีค่ะ เราเลยได้แชร์กับเขา เย้ๆ รีบนอนต้องตื่นตี4
30 ธ.ค. 2560
04:00น. มีรถสกายแลปมารับหน้าที่พัก ไปถึงเราต้องเดินเท้าอีก50เมตร ไปจุดขึ้นรถอีกต่อนึงค่ะ ซื้อตั๋วไป/กลับ25฿
ถึงแล้ว เราเป็นรถ2คันแรกที่มาถึง มืดมาก จับจองที่ยืนฮะ
ยืนวนไป เราได้อยู่หน้าสุดเลย
รอๆๆ พระอาทิตย์ไม่ขึ้นสักที หมอกน้อยจัง
มาแล้วจ้าาาาา
พระอาทิตย์ขึ้นที่ภูทอกเด้อออ
ขอจับตะเว็นหน่อย
สมใจแล้วกลับฮะ
ภาพบนคือคนที่มารอดู
ภาพกลางคือคนต่อแถวกลับลงไปข้างล่าง
ภาพล่างนี่ตอนขึ้นรถค่ะ
นี่งาย รถสกายแลปของเรา พี่โอเล่ฮะ ส่งถึงที่พัก ไป/กลับ100฿
นอนพักสักหน่อย ก่อนเตรียมตัวเช็คเอาท์ คืนคีย์การ์ดได้เงินคืน100 ไปรอรถตรงแยกซ.21 กินก๋วยเตี๋ยวไป40฿
รอสองแถวตรงนี้ เพื่อนั่งไปบขส.เลย 35฿
ถึงบขส.เลย ก็ซื้อตั๋วรถไปบขส.อุดร2ค่ะ 91฿ รถออก13:10น.
ถึงบขส.อุดร2 ก็ต่อสกายแลปไปสถานีรถไฟค่ะ 100฿
รอรถไฟวนไปค่ะ2ชม. กินโจ๊กกล่องที่สถานี 25฿
รถไฟมาล้าววววว ขบวนใหม่ไฉไลกว่าเดิม
ปล.ตอนจองตั๋วผ่านเว็บต้องปริ้นออกมาด้วยนะคะ เพราะสามารถใช้ขึ้นรถไฟได้เลย และจำเป็นต้องปริ้นทุกครั้ง ไฟล์pdf.ไม่สามารถใช้โชว์ต่อเจ้าหน้าที่ได้
บนรถไฟค่ะ นี่มันโฮสเทลหรือเปล่า เราจองเตียงล่างไป อยากชมวิวระหว่างทาง แต่เปล่าเลยล้มตัวนอนเท่านั้นแหละ ตื่นมาอีกทีตี5 ไม่ได้เดินชมตู้อาหารเลยค่ะ คราวหน้าคาดว่านอนเตียงบนดีกว่า ราคาถูกกว่าอีก
31 ธ.ค. 2560
ถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง6โมงพอดีค่ะ เป๊ะมาก
ด้วยความอยากนั่งรถไฟกลับบ้าน เดินไปซื้อตั๋วเพื่อไปสถานีบ้านพลูตาหลวง แต่! เสาร์-อาทิตย์รถไฟวิ่งไม่ถึงฮะ
แป่วววว เปลี่ยนแผน เดินไปmrt นั่งลงสถานีสุขุมวิท 28฿
ต่อbtsที่สถานีอโศกไปลงสถานีเอกมัย 26฿ แวะเซเว่น64฿ เพราะอยากกาแฟมาก ซื้อตั๋วรถตู้กลับสัตหีบ145฿ ขึ้นรถทันที 7โมง ถึงสัตหีบ10โมงฮะ ต่อสองแถวเข้าบ้านอีก15฿ ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ 10:30น.
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบค่ะ การเดินทางคนเดียวไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วสำหรับเรา มันเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่ง สอนให้เราระวังตัว หัดให้เราคอยสังเกตสิ่งรอบตัว ถ้าเราทำได้คุณก็ทำได้เชื่อสิ ชอบคำพูดน้องที่ขึ้นรถไปภูทอกกับเรา เขาบอกว่า "ถ้าโตขึ้นหนูจะแบกกล้องเที่ยวคนเดียวแบบนี้บ้าง" ชื่นใจค่ะ หวังว่าเราจะเป็นเพียงไม้ขีดไฟเล็กๆที่จุดประกายในตัวคุณ
เจอกันทริปหน้า #หัวเหม่งพาเที่ยว
Facebook : Kun CLip