เชี่ยวหลาน ไร้สัญญาณ แต่ไม่ไร้ความสุข

เขื่อนเชี่ยวหลาน กับการเปิดโหมด Airplane

อีกหนึ่งการเดินทางที่ทำให้เราสบายอก สบายใจ กับท้องฟ้าใสๆ น้ำมีเขียวๆ

3 วัน 2 คืน กับเขื่อนเชี่ยวหลาน และตัวเมืองสุราษฎร์

25.03.17

วันนี้เราตื่นเช้ามาก เช้ากว่าไปทำงานซะอีก

เราเริ่มต้นการเดินทางด้วย สายการบินไทยสมายล์ รอยยิ้มคู่ฟ้า :) ไฟลท์บิน 07.35 น.ถึงสุราษฎร์ 08.50 น. แต่จริงๆแล้วเราถึงเร็วกว่านั้นประมาณ 10 นาทีแหละ

ครั้งแรกกับการมาสนามบินสุวรรณภูมิ ตื่นเต้นนิดๆ คนเยอะมากกกก แต่ทุกอย่างก็รวดเร็วดี เข้าไปรอที่เกตอย่างชิวๆ

หลังจากที่เครื่องขึ้นได้สักพัก ก็จะมีบริการ ขนม น้ำ วันนี้เป็นขนมปังไส้พิซซ่า นุ่มๆหอมกรุ่น กับน้ำเต้าหู้

ท้องฟ้าระหว่างการเดินทาง วันนี้ฟ้าใสมากก ชอบ

แอบเห็นอ่าวไทยนิด คิดว่าน่าจะใช่เเหละ

ไม่ถึง 1 ชั่วโมงดีเราก็มาถึงสนามบินนานาชาติสุราษฎร์ธานีแล้ว

ก่อนจะมา เราได้โทรจองรถตู้จากในเมืองให้มารับที่สนามบิน รอสักพักรถตู้ก็มาถึง ลืมถามชื่อคนขับมาแต่ขอเรียกว่าลุงเบอร์แปดล่ะกัน เพราะลุงขับรถหมายเลขแปด อิอิ ลุงคุยง่าย อัธยาศัยดีมาก รู้ว่าเราเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก แนะนำทุกอย่าง ที่ไหนน่าสนใจ มีตลาดน้ำเปิดใหม่อยู่ในเมืองนะ ออกจากเขื่อนแล้วไปไหนต่อ นอนเรือนอนไปเกาะสมุยไหม ท่าเรืออยู่ในตลาดเลย แล้วพรุ่งนี้ออกจากเขื่อน โทรมาเบอร์ลุงนี่แหละ เดี๋ยวพาเที่ยวสันเขื่อนกับพาไปภูเขารูปหัวใจ ที่สำคัญลุงบอกพาไปฟรีไม่คิดตังค์เพิ่ม แล้วเดี๋ยวค่อยเข้าเมือง

ทำเลดี ได้นั่งหน้า เลยได้เห็นบรรยากาศระหว่างทางแบบเต็มที่ 555 เขียวขจีตัดกับท้องฟ้ามากๆ

จำได้ว่าตรงนี้ลุงชะลอรถให้ถ่ายรูปด้วย ใจดีที่สุด

ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงที่สันเขื่อนแล้ว ลุงพาวนชมเขื่อนรอบนึงก่อน ก่อนที่พรุ่งนี้จะพามาถ่ายรูปอีกรอบ

น้ำสีเขียวมาก

เราจองเรือของรุ่งโรจน์ ได้แชร์กับอีกกลุ่มนึง อืมมม อีกคู่นึงสิ เพราะเขามากับ 2 คน ซึ่งเป็นความน่ารักของคนรับจองเรืออีกแล้ว เห็นว่ามาเวลาใกล้เคียงกัน ไปแพเดียวกัน เขาก็ถามเราว่าสะดวกแชร์ไหม จะได้ประหยัดด้วย ดีที่สุดอ่ะ

ผู้ร่วมแชร์ค่าเรือกับเรา

ส่วนใหญ่ภูเขาที่นี่จะเป็นภูเขาหินปูน

และน้ำก็ลึกชนิดที่ว่าถ้าทำอะไรตกก็ไม่ต้องจมหาเลยจ้าา

นั่งเรือให้ลมปะทะหน้ามาชั่วโมงกว่าๆ เราก็มาถึงที่หมายแล้ว

แพคลองคะ เป็นแพของอุทยาน จะจองผ่านหน้าเว็บ หรือโทรจองโดยตรงก็ได้

ช่วงที่เราไป ทางแพกำลังปรับปรุง ทำใหม่อยู่ ซึ่งดีงามเทียบเท่าแพเอกชนได้เลยนะ ถึงจะยังไม่เสร็จดีก็เหอะ จนเราอยากจะกลับมาอีรอบถ้าเสร็จเลย

เราจองมาสำหรับพัก 1 คืน อาหาร 2 มื้อ เย็น-เช้า ส่วนมื้อกลางวันใครจะจองมาด้วยก็ได้ หรือมาสั่งเป็นจานเดียวแบบเราก็ได้เช่นกัน ราคาไม่ได้แพงมากนะ ให้เยอะด้วย

ที่พักของเราคืนนี้ มันดีจริงเลย มีห้อง 3 แบบ คือ กระท่อมไม้ไผ่ ห้องกระจก และบ้านหลังใหญ่ ส่วนเราคืนนี้นอนห้องกระจกจ้า ที่จริงมันมีห้องน้ำในตัวด้วยนะ แต่ว่าเขายังทำไม่เสร็จ เลยต้องใช้ห้องน้ำรวม ซึ่งสะอาด และโอเคดี

***อ้อ สัญญาณโทรศัพท์ไม่มีนะจ๊ะ ถึงจะมีของ AIS อยู่บ้าง แต่ก็เบาบางมาก มันดีตรงนี้แหละ ไม่ต้องรับรู้ อยู่กับธรรมชาติบ้าง ตัดขาดโลกภายนอกไปเลย

ในช่วงที่เราไปกลางวันอากาศค่อนข้างร้อน แต่ก็ยังพอมีลมอยู่บ้าง จริงๆ เราอยากให้ฝนตกนะ เผื่อจะเจอหมอกที่ชัดเจน 555+

และกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ของการมาพักแพก็คือ การเล่นน้ำ!!!!!! ก็แน่ละ หันซ้ายก็เจอน้ำ หันขวาก็เจอน้ำ ร้อนๆแบบนี้ด้วย โดดแม่มเลยดีกว่า

***ชูชีพเอาขึ้นมาจากเรือที่เรานั่งมาเลยนะ บนแพไม่มีให้

เด็กแพที่นี่ว่ายน้ำเก่ง โดดน้ำไม่ต้องใช้ชูชีพช่วยกันเลย

มีเรือคายัดให้พายเล่นด้วย

ก่อนตะวันจะลับฟ้า

หลังจากเล่นน้ำกันจนเหนื่อย พายคายัคให้ลมปะทะหน้า กล้ามแขนขึ้นกันจนเมื่อย ไปอาบน้ำ เตรียมตัวไปเจอกับมื้อเย็นที่ดีกว่า วันนี้มีอะไรกินบ้างน้าาา

จัดโต๊ะหรู ดูไฮโซมาก อุปกรณ์พร้อม คนพร้อม นั่งสวยๆ รออาหารมาเสริฟ

ปลาทอด ไม่แน่ใจว่าปลาอะไร แต่ทอดมากรอบมาก พร้อมกับน้ำจิ้มสุดแซ่บ

แกงเหลืองปลา หน่อไม้ อันนี้เราชอบ ปลาชิ้นโต หน่อไม้เต็มคำ

ผัดผัก ถึงจะดูธรรมดา แต่มากินกลางเขื่อนห่างไกลจากฝั่งขนาดนี้ มันก็พิเศษขึ้นมาทันที

*** มีไข่เจียวอีกอย่าง อยู่มุมด้านขวานั่น

อาหารที่นี่เติมได้ไม่อั้น ยกเว้นปลาทอด แต่บอกเลยว่าที่ให้มาตอนแรกนั้น ทางเราก็ทานกันเเทบจะไม่หมดเลย ส่วนของหวานเป็นแตงโม แต่ไฟดับ เลยไม่ได้ถ่าย กว่าไฟจะมาแตงโมหมดพอดีเลย 555

คืนนี้ตอนแรกตั้งใจจะดูดาว แต่ฟ้าไม่ค่อยเปิดเท่าไหร่ เพลงที่เตรียมโหลดมาซะเยอะแยะฟังไปได้ไม่กี่เพลง ก็หลับซะแล้ว คืนนี้เลยกลายเป็นว่านอนหลับเร็วมาก

26.03.17

เช้าๆ กับวิวหลังห้องพัก

มื้อเช้าวันนี้เป็นโจ้กไก่ ได้มา 1 โถใหญ่ๆ พร้อมเครื่องเคียงและถ้วยแบ่ง

มีชา กาแฟ โอวัลติน สามารถชง และปรุงแต่งรสชาติได้ตามใจชอบ

ไฟลท์บังคับ ถ่ายป้ายมาเป็นหลักฐานว่าเรามาแล้วนะ

ที่จริงแล้วตอนเช้าที่นี่จะมีอีกหนึ่งกิจกรรม คือ ล่องแพ ส่องสัตว์ พร้อมอาหารเช้า แต่เราไม่ได้ไป TT

หลังจบมื้อเช้า เราต้องเตรียมตัวกลับล่ะ ฮืออออ อยู่ต่อเลยได้ไหม หลงรักที่นี่ซะแล้ว

รอขึ้นเรือ เอ่อออ ไม่ใช่ลำนี้นะ

นี่ๆๆ ลำนี้ต่างหาก 013

กลับจริงๆ ล่ะนะ บ๊ายบุย แพคลองคะ

ขากลับคนขับ พาไปชม หินสามเกลอด้วย นับ 1 นับ 2 นับ 3 ชัดสุดล่ะรูปนี้

ขึ้นฝั่งปุ๊ป เราก็โทรหาลุงเบอร์แปด ไปชมวิวที่สันเขื่อนกันต่อ ถึงวันนี้จะไม่มีหมอก แต่ท้องฟ้าสดใส ฝนไม่ตกทางเราก็พอใจล่ะ

ไปต่อคะ อีกหนึ่งไฮไลท์บ้านตาขุน สะพานแขวนกับภูเขารูปหัวใจ

กลังจากนี้ เรานั่งรถยาวๆ กลับเข้าเมือง ไม่มีแพลนที่จะไปไหนต่อ ไม่รูจะพักที่ไหนด้วย 555 ลุงเบอร์แปด ก็ยังคงแนะนำตลาดน้ำที่เปิดใหม่ ตลาดน้ำประชารัฐ จนทางเราสนใจ และคิดว่าไปกันเถอะ ลุงมาส่งในตัวตลาด และครั้งแรกกับการ walk in หาที่พัก ปกติไปไหนวางแผนตลอด ไปแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ไปดูก่อน ชอบใจ ราคาได้ ก็เช็คอินเลย คืนนี้เราพักกันที่ myplace

กลังจากเก็บสัมภาระ ล้างหน้าซักนิด ทากันแดดเพิ่ม พร้อมออกไปลุยต่อ

สวัสดีตลาดน้ำประชารัฐ แดดร้อนสาสสสส

ไม่ต้องพูดอะไรมาก ลุยกินอย่างเดียวเลยล่ะกัน

ทอดมันหัวปลี

ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ กะโกโก้สักแก้ว วิวดีๆ แบบนี้กินอะไรก็อร่อย

ไปนั่งเรือเที่ยวสักรอบ กับคลองบางใบไม้

กับอุโมงค์ต้นจาก ที่ทำให้เราร่มระหว่างนั่งเรือ

กลับมานอนชิวๆที่โรงแรม รอแดดร่ม ออกไปปั่นจักรยานเล่นรอบเมือง กินอะไรกินที่ตลาดศาลเจ้า ชมวิวชิวๆ ที่ริมน้ำตาปีต่อ

ณ ตลาดศาลเจ้า ของกินเยอะมาก กินมันทุกอย่าง 5555

เริ่มที่อย่างแรก ทอดมันเนื้อปลาย่าง เห็นคนน้อยๆ คิดว่าจะได้เร็ว ที่ไหนได้เขาสั่งกันไว้เต็มเลยจ้าา ยืนรอจนหิวเลย อย่างนี้แหละ ของอร่อย ของดี ต้องอดทนรอ