ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
พิชิตเขาหน่อ แล้วเหาะไปน้ำตกคลองลาน กลับมาตูดบานวันเดียว 700 โล เขาหน่อเขาแก้ว บรรพตพิสัย นครสวรรค์
    • โพสต์-1
    Boy •  สิงหาคม 30 , 2560

    สวัสดีครับ ทริปนนี้กลับมาขี่2ล้ออีกแล้ว สลับกันไปตามแต่สถานการณ์นะครับ ทริปนนี้เป็นทริปแรกที่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้าอะไรเลย มีเวลาว่างวันเสาร์วันเดียว คืนวันศุกร์ 3-4ทุ่มนั่งดูรูปไปเรื่อยคิดว่าจะไปไหนดีนะขอใกล้ๆ เปิดมาเจอเขาหน่อ อยู่นครสวรรค์นี่เอง กด google map ดู เอ้อ260 โลเองเว้ยจากบ้านดอนเมือง ตัดสินใจตอนนั้นเลย เอาวะอย่างรู้ต้องมาดูให้เห็นกับตา ทริปนนี้จึงเกิดขึ้น

     

     

    ทริปนนี้ไปวันนี้ 15/7/2560

    ทริปคร่าวๆก็ เขาหน่อ-น้ำตกคลองลาน-วัดคีรีวงศ์-สะพานเดชาติวงศ์ แล้วกลับ กทม.

    รูปทั้งหมดเช่นเดิมถ่ายจาก Nikon D7200 18-140 Fix 50 และ gopro hero 4 Silver ครับ

    ชมคลิปก่อนได้ และขอฝาก เหลี่ยมพาเที่ยว ด้วยจ้า

    • โพสต์-2
    Boy •  สิงหาคม 30, 2560
    • โพสต์-3
    Boy •  สิงหาคม 30 , 2560

    หลังจากตัดสินใจได้แล้ว ก็ รีบนอนทันทีตั้งใจมาเช้าแถวนครสวรรค์นนี้แหละ หลับไปกำลังได้ที่ช่วงตี3-4 เป็นช่วงที่หลับสบายลึกๆสุดก็ต้องดีดตัวเองออกจากที่นอน สู้กับตัวเองอยู่พักนึก หมอนก็ดูดวิญาณ นอนเถอะวัยรุ่นไม่ต้องไปหรอกก แต่ใจ ไม่ได้ข้าต้องไปให้เห็นกับตา สู้กันอยู่สักพักใจก็ชนะเอาตัวเองไปอาบน้ำได้ 555  

    ออกจากบ้านเวลากำลังดีตี4.30 อากาศสดใสไร้ฝนบิดทำเวลา120-130รีบหน่อยเช้านนี้เผื่อจะมีอะไรดีๆให้ชม ไม่นานนัก 2ชั่วโมงกว่าๆ เราก็เข้าตัวนครสวรรค์ฝนเจ้ากรรมก็ตกจนได้วิ่งลุยฝนมาสักพัก ฝนแรงไม่ไหวเจอศาลาจอดพักมันตรงนนี้แหละ หันขวาไปดูอ้าวเขาหน่อแล้วนี่ ทางมาเขาหน่อง่ายมากครับใครคิดเหนือทุกคนต้องผ่านแต่คงไม่ได้สังเกต ทางเข้าอยู่ริมถนนสายเอเชียเลยพอออกเลี่ยงเมืองมุ่งหน้าไปกำแพงเพชรประมาณ20กว่าโลได้มั้งก็ถึงแล้ว แต่ตัวยอดเขาหน่อไม่ใช่เขาลูกที่ติดถนนนะครับ ต้องเลี้ยวเข้าไปอีกหน่อยแต่สังเกตุเห็นเขานนี่ก็แปลว่าใช่แล้วแต่มีป้ายบอกตลอดไม่ต้องห่วง

    โชคดีที่แวะปั้มเติมน้ำมันแล้วซื้อมื้อเช้ามาพอดีกะไปกินบนเขาหน่อแต่ฝนแรงแบบนนี้จอดพักกินตรงนนี้เลย

     

    พักอยู่นานพอสมควรรอฝนซาก็ขี่ต่อเข้ามาเขาหน่อแค่ทางเข้าเท่านั้นก็พบได้ว่านี่มันภิพบวานรชัดๆ

     

    อะไรจะเยอะเบอนี่เจ้าจะกระโดจิกหัวเราไหม

     

    แต่ลิงที่นนี้ไม่ดุร้ายครับไม่ต้องกลัว

     

    หลังจากขับรถเข้ามาในเขาหน่อแล้วให้ดูทางขวาจะมีที่จอดรถกันลิงอยู่ครับใหญ่โตมโหฬารมีทั้งของรถยนและมอเตอร์ไซด์ของมอไซด์นี้อย่างดีกันรอบด้านลิงไม่เข้าไปแน่นอนส่วนรถยนต์ก็กันรอบด้านแค่ไม่มีหลังคา มั่นใจได้รถของท่านไม่เสียหายแน่นอน

     

     

    หลังจากจอดรถพร้อมแล้วอย่าลืมซื้อน้ำมาด้วยเหนื่อยแน่ๆ ทางขึ้นยอดเขาหน่อนั้นจะอยู่ตรงก่อนถึงซุ้มประตูวัดครับ มีเขียนลางๆแบบในรูปด้านล่าง

     

    พอเดินเข้ามาแล้วจะเจอหญ้ารกทึบมากๆ แต่ขณะนี้เขียนตอนนี้เห็นมีคนไปล่าสุดเหมือนเขาจะฟันหญ้าที่รกออกแล้ว หากเข้ามายังรก ให้เลี้ยวซ้ายนะครับ มันมีซ้ายกะขวา พอซ็ายมาจะเป็นทางเดินเรื่อยๆ

     

    แล้วจะมีบันได แปลว่าใช่แน่นอนเดินกันเลย

     

    วันที่ผมไปฝนพึ่งหยุดแต่ยังไม่สนิทดีแล้วหญ้าต้นไม้ก็รกมากผมเลยใส่เสื้อกันฝนดีกว่ากลัวตัวอะไรจะมาเกาะ เพราะเราจะได้พบอภิมหาฝูงกึ้งกือตัวสีเทา ขาแดง ไม่รู้ตัวสีเทาตลอดหรือเพราะโดนฝน มันเยอะมากๆยั้วเยี่ยเต็มไปหมดยิ่งวันที่ไปต้นไม้รกมากต้องเดินก้มหน้าต่ำๆพอก้มหน้าต่ำสายตาก็ไปเจอกับก้งกือพอดี มันมีอยู่เกือบทุกขั้นบันได ที่นี้พอต้นไม้ใบมาเกี่ยวตัวเราเราก็จะมโนว่ากุโดนกึ้งกือหรือป่าววะเนี้ย ก็จะหลอนๆหน่อยในช่วงแรก

     

    แต่ไม่นานเท่าไหร่ทางก็จะหายรก เราต้องเดินบันไดปูน หลายร้อยขั้นมาก เจอลุงคนพื้นที่เขาบอกว่าบันไดปูน1000 ขั้น แต่ผมว่าไม่น่าจะถึงแต่ก็ไม่ต่ำกว่า600ขั้นแน่ๆ เดินกันจนหอบแหกๆเหงือซกคอแห้งเหือดทีนี้ก็หมดบันไดปูน เราก็จะพบกับบันไดลิงอีกประมาณ300ขั้น ที่มีความชันมาก แต่มีราวจับอย่างดีไม่ต้องห่วงค่อยๆไต่ไปอย่ามองหันกลับลงมา

    หลังจากไต่มาได้ประมาณ2-3รอบก็เจอวิวแบบนี้แล้ว พอหายเหนื่อยได้บ้าง

     

     

     

     

    หลังจากนั้นก็ปีนกันต่ออีก2ช่วงได้และเราก็มาถึง ว้าวว

     

     

    วิวมันว้าวมากๆครับ

     

    นั้งพักถ่ายรูปตรงนนี้อยู่พักนึงทั้งสวยทั้งเสียวครับ โปรดใช่ความระมัดระวังให้ดี

     

    แต่ยังไม่ถึงดีต้องเดินไปอีกนิดนึงจะถึง ผมใช้เวลาทั้งหมด50 นาทีครับที่นี้ไม่ยากแค่มันจะเสียเวลาตอนไต่บันไดลิงเพราะเราจะเสียวเลยต้องค่อยๆไต่แต่ไม่ยากอะไรทางเดินง่าย

     

    ด้านบนจะมีรอยพระพุทธบาทให้กราบสักการะและระฆังให้ตีด้วยครับ

     

     

     

    เราไปดูวิวรอบๆบนเขาหน่อกันเลยดีกว่า พื้นที่ด้านบนไม่กว้างมากถ้าคนมาเยอะๆก็จะแน่น มุมถ่ายรูปจะติดกันได้ครับ

     

     

     

     

     

    หิินลูกนนี้มีความเสียวนิดๆ

     

     

     
    • โพสต์-4
    Boy •  สิงหาคม 30 , 2560

    ยังมีมุมอีกฝั่ง กลับมาอีกฝั่งเดินเลาะด้านหลังระฆังลงมาหน่อย จะเจอวิวอีกมุมที่สวยเหมือนกันและเสียวมากด้วย แถมหินก็แแหลมมากระวังๆด้วยนะจ๊ะ

    จะโพสท่าอะไรก็ตามใจแต่อย่าให้ตกลงไปคงจะสาหัสน่าดู 55

     

     

    วิวกว้างไกลสุดสายตา

    ผมใช้เวลาอยู่เกือบชั่วโมงก็เดินลง

    ขาลงก็ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงเพราะมัวแต่เสียวตอนบันไดลิงต้องค่อยๆถัดตูดทีละก้าวๆหรือใครจะหันหลังลงก็ได้แล้วแต่ถนัด แนะนำใครจะมาควรมาช่วงเช้าหรือไม่ก็เย็นๆนะครับเพราะถ้ามาช่วงที่แดดแรงมากๆราวที่จับบันไดลิงเป็นเหล็กทั้งหมดจะร้อนมากแล้วจะปีนกันลำบาก

    ลงมาถึงก็พักกินน้ำกินท่าเตรียมไปต่อก่อนไปแวะให้อาหารลิงก่อน

     

    มาดูความน่ารักของลิงที่นี้กัน

     

    ทุกตัวจะรุมขนมกันิย่างเมามันแต่เท่าที่ดูไม่โหดร้ายกันเท่าไหร่ไม่มีตีกัน แลดูน่ารัก

    แฃะความไวเปิ็นเลิสโปรยอาหารปุ้บแว้บเดียวใครไวกว่าก็ได้ไปหมดเกลี้ยง

     

    ได้เวลาไปต่อนู้นยอดที่คืนไป ออกจากวัดเลี้ยวซ้ายไปประมาณ500 เมตรก็จะเจอร้านข้าวผมแวะกินข้าวเที่ยวกันก่อนจากนั้นก็คิดอยู่ว่าจะเที่ยวอยู่ในนครสวรรค์หรือไปไหนต่อดี เลยคิดว่าอยากไปดูน้ำตกคลองลานเคยไปมานานแล้วไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไง

    ว่าแล้วก็บิดกันต่ออีกเกือบร้อยโลไม่นานนักพอให้หนังตูดเริ่มมีอาการเมื่อย เราก็มาถึง

    ยังคงยิ่งใหญ่อลังการเหมือนเดิมแต่ทว่ารอบนนี้น้ำน้อยกว่าเดิมมาก รอบก่อนมาเดินมาถึงตรงที่ถ่ายรูปละอองน้ำก็เต็มฟุ้งไปหมดเขามาถ่ายใกล้ๆไม่ได้เลยกล้องเปียกหมด รอบนนี้เข้ามาได้ใกล้ๆเลยน้ำไม่แรง

     

    น้ำใสเย็นมาก นักพักถ่ายรูปกันอยู่พักใหญ่

     

    ท่าประจำตัวต้องมา

     

     

    บ่ายสองแก่ๆเราก็เดินทางกลับมาที่นครสวรรค์อีกรอบ

     

    แวะกินข้าวร้านข้างทางแล้วก็ขี่ขึ้นมาที่วัดคีรีวงศ์หรือพระจุฬามณีเจดีย์ ด้านบนเจดีย์นนี้จะสามารถมองเห็นวิวเมืองนครสวรรค์ได้อย่าง360องศา

    รอบๆสวยงามมากผมมาถึงประมาณเกือบ 5 โมงกว่าพอดีแสงกำลังเริ่มอ่อนแรง

     

     

     

     

     

     

    สวยงามมากครับ

     

     

     

    ปิดท้ายทริปนนี้ก่อนจะยิงยาวกลับด้วยริมน้ำเจ้าพระยา สะพานเดชาติวงศ์

    บรรยากาศเย็นริมน้ำช่วงเวลา6โมง

     

    กับสองล้อคู่กาย

    และคนรู้ใจ

    จากนั้นก็ยิงยาวกลับบ้านถึงบ้าน 3ทุ่มพอดี ทริปนนี้700กิโล เป็นทริปแรกเลยที่บินเดี่ยวมาไกลขนาดนนี้ มีความเมื่อตูดพอประมาณแต่ก็ยังไหวไม่ได้เมื่อยมากมาย ซ้อมไว้ก่อนเพราะว่าทริปต่อไปจะควบอาชาศึกคันนี้ไปตลุยน่าน2000กิโล ที่พิมน์นี้คือไปมาแล้วครับ เดี่ยวจะรีวิวให้ฟังกับถนนสายโรแมนติกจังหวัดน่านเร็วๆนี้

     

    สำหรับทริปนนี้ค่าใช้จ่ายมีแค่ค่าน้ำมัน 690 บาท ความเร็วทริปนี้เฉลี่ยที่ 115-120 ที่เหลือค่ากิน3มื้อครับแค่นั้น ทริปสั้นๆแต่เติมพลังให้ชีวิตได้เป็นอย่างดีครับลองดูนะครับ สำหรับผมวันหยุดไม่ใช่นอนอยู่บ้าน วันหยุดคือวันที่ต้องออกไปพบเจออะไรใหม่ๆเพื่อเติมไฟให้ชีวิตครับ

    แล้วพบกันใหม่กับเราสองคนวันนี้สวัสดีจ้า