รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของผมซึ่งจะเล่าถึงประสบการณ์การเดินทางไปพิชิตยอดเขาช้างเผือก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 21 ถึง 23 ธันวาคม 2557 สำหรับการทริปนี้ เริ่มต้นด้วยการฟอร์มทีมสมาชิกเพื่อสำหรับจองขึ้นไปเส้นทางเขาช้างเผือก สำหรับทีมผมเอง มี ช 2 ญ 5 ซึ่งสมาชิกหลายคนก็พอมีประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบลุยๆ พวกภูกระดึงหรือกิ่วแม่ปานมากันบ้างแล้ว
หลังจากจองวันขึ้นเขาช้างเผือกได้เเล้ว (สำหรับทีมผมได้วันที่ 22ธันวาคม2557 โดยโทรไปจองวันที่ 15ธันวาคม2557 เวลา 09.05น.) เราก็เริ่มเตรียมอุปกรณ์สำหรับช่วยในการพิชิตยอดเขาช้างเผือกกันเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดผมว่า รองเท้าที่เหมาะสำหรับการปีนเขาหรือเดินป่า นอกนั้นก็เป็นอุปกรณ์เดินป่า พวกชุด หมวก ไฟฉาย ยา และเงิน
** สำหรับผมเเล้วการจองขึ้นเขาช้างเผือกเป็นอะไรที่ยากที่สุดสำหรับทริปนี้ ***
21 ธันวาคม 2557
การเดินทางเริ่มต้นด้วยการขึ้นรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยสรภูมิไปลงที่กาญจนบุรี (คนละ120บาท) เริ่มออกเดินทาง 06.00น. เเล้วต่อรถตู้จากกาญจนบุรีไปลงที่ตลาดทองผาภูมิ (คนละ115บาท) เมื่อไปถึงตลาดทองผาภูมิเเล้วต้องต่อรถสองเเถวสีเหลืองที่ข้างรถเขียนว่า อีต่อง-อุทยาน (คนละ70บาท รถรอบสุดท้าย11.30น.) รถนี้จะนำเราไปถึงหมู่บ้านอีต่องซึ่งเป็นสถานที่ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นขึ้น พิชิตยอดเขาช้างเผือก เเต่ระหว่างทางต้องเเวะที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิเพื่อยืนยันกับเจ้า หน้าที่ว่าเรามาพิชิตยอดเขาช้างเผือก พร้อมจ่ายค่าเข้าอุทยาน/ค่ากางเต็นท์/ค่ามัดจำ 1000 บาท
บนราวสะพานใกล้ๆตลาดอีต่อง มีการเอาแผ่นไม้ที่มีการเขียนข้อความไปผูกเพื่อเป็นสัญญานว่าเราเคยมาพิชิตเขาช้างเผือกหรือมาเยือนหมู่บ้านอีต่องแล้ว แต่สำหรับทีมผมไม่ได้ผูกเพราะตามหาเเผ่นไม้นั้นไม่เจอ
กลางคืนก็ออกมาถ่ายรูปบรรยากาศหมู่บ้าน
ถ่ายดาวเล่นๆบ้างบริเวณหมู่บ้านอีต่อง เป็นครั้งเเรกที่ได้ถ่ายดาว ก็สวยไปอีกแบบนึง
22 ธันวาคม 2557
08.30น. ของวันขึ้นพิชิตยอดเขาช้างเผือก พวกเราก็ต้องนำสัมภาระ/เสบียงะมาให้ลูกหาบ ถ้าขาดเหลืออะไรไปหาซื้อได้ทุกอย่างครับ น้ำดื่ม หมวก เสื้อผ้า หมู่บ้านอีต่องพร้อมให้บริการทุกอย่าง และทำความรู้จักกับเจ้าหน้าที่อุทยาน นัดแนะเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นสู่เส้นทางเขาช้างเผือกถ้าสมาชิกลูกทีมพร้อมแล้วเราก็เดินทางกันเลยครับ ทางเดินเท้าประมาณ 8 กิโลเมตร แต่กว่าจะถึงจุดเริ่มต้นจริงๆก็ราวๆกิโลแล้วครับ สรุปว่ามันต้องเยอะกว่า 8 กิโลเมตรแน่ๆ
ส่วนมาทางเดินช่วงหลังจะเป็นทุกหญ้าและมีแดดค่อนข้างร้อน เเต่ลมพี่พัดมาเย็นมากครับ สบายๆชิลๆไปกันต่อ
แวะถ่ายรูปที่วิวด้านหลังเป็นเขาช้างเผือกกันหน่อย อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงยอดเเล้ว สู้ตายครับ
23 ธันวาคม 2557
ภาพนี้พระอาทิตย์ขึ้นครับก่อนวันกลับ ตอนเเรกว่าจะไม่ตื่นมาถ่ายเเล้ว เมื่อคืนประมาณ 8 องศาเซลเซียส ประกอบกับลมเเรงหนาวมากๆ ตอนเจ็ดโมงที่ตื่นมาถ่ายภาพนี้ประมาณ 18 องศา ลมก็พัดตลอดเวลาหนาวมากๆขากลับแล้วครับ เเต่ก็ต้องขึ้นเขาอยู่ดี เห็นจุดกางเต็นท์และยอดเขาช้างเผือกอยู่ไกลๆ
เมื่อลงจากเขาช้างเผือกแล้วก็ไม่พลาดที่จะซื้อของฝาก เขียนโพสการ์ดส่งให้คนที่เราคิดถึง มีร้านค้าของฝากหลายร้านในหมู่บ้านอีต่องที่อยากให้เราเขียนความประทับใจและส่งต่อ...
หลังเดินทางออกจากหมู่บ้าน ก็ต้องไปแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ พร้อมจ่ายค่าเจ้าหน้าที่นำทาง รับเงินมัดจำคืน และรับประกาศณียบัตรที่ในนั้นระบุว่าเราได้พิชิตยอดเขาช้างเผือกครั้งหนึ่ง ในชีวิตแล้วครับ
จบทริปแล้วหลายคนถามผมว่าขึ้นไปเดินตามสันเขานี้ได้อะไร ทำเพื่ออะไร?
ผม ก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าผมได้อะไรหรือทำไปเพื่ออะไร รู้แค่ว่าสิ่งที่ผมได้ทำไปมันทำให้ผมมีความสุข ได้ทำในสิ่งที่ชอบ ได้ทำในสิ่งที่รัก หลายครั้งก็ไม่จำเป็นว่าต้องมีเหตุผลว่าทำไปทำไม หรืออาจจะเป็นเพราะพวกผม คือ "นักเดินทาง"
เรื่องและภาพ : ณัฐพล นพพรเจริญกุล
www.facebook.com/iSIRBOOM