ในบรรดาเกาะบริวารของภูเก็ต ผมว่า “เกาะไม้ท่อน” เป็นหนึ่งในเกาะที่ครบเครื่องที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมีทั้งหาดทรายสวย น้ำที่ใสไม่แพ้สิมิลัน มีฝูงปลาโลมาอาศัยอยู่รอบๆ เกาะ คอยโผล่มาทักทายนักท่องเที่ยวเป็นระยะ ส่วนปะการังน้ำตื้นก็ยังมีให้ชมกันตรงหน้าเกาะด้วย ที่สำคัญการเดินทางไปเกาะไม้ท่อนนั้นแสนสะดวกสบาย ใช้เวลาราว 20-30 นาทีก็ถึงแล้ว โดยมีบริษัททัวร์ให้บริการอยู่หลายราย แต่วันนี้ผมจะพาไปเที่ยว “เกาะไม้ท่อน” กันแบบเจาะเลึก เพราะเราจะเดินทางไปกับ “ไม้ท่อนรีสอร์ท” เจ้าถิ่นตัวจริงเสียงจริง
ก่อนออกเดินทางขอฝากช่องทางติดตามผลงานของ "นายมด" ด้วยนะครับ
Blog : www.9mot.com
fb : @นายมด
youtube : @9Mot-Photography
ig : @9mot
โปรแกรม day trip เที่ยวเกาะไม้ท่อนของไม้ท่อนรีสอร์ทนั้น จะมีอยู่สองแบบใหญ่ๆ คือเดินทางด้วย speed boat ใช้เวลาราว 30 นาทีก็จะถึงเกาะ โดยมีกิจกรรมให้ทำหลากหลายได้แก่ Snorkeling, ขึ้นจุดชมวิวชมทิวทัศน์ 3 จังหวัด รวมอาหารเที่ยงแบบ BBQ buffet บนเกาะ หรืออีกแบบจะเดินทางด้วยเรือ Catamaran ซึ่งจะแวะดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นหลังเกาะ ถ้าโชคดีอาจเจอฝูงน้องโลมาด้วย จากนั้นก็จะพาเรือไปลอยลำให้ตกปลากันสนุกๆ ก่อนจะขึ้นเกาะเพื่อทานอาหารและเล่นน้ำริมหาด … สำหรับการเดินทางด้วยเรือ Catamaran จะมีเวลาให้เลือก 2 ช่วง คือออกเช้ากลับบ่ายแก่ๆ หรือจะออกเที่ยงกลับถึงค่ำซึ่งได้บรรยากาศคนละแบบ … แต่สำหรับรีวิวนี้ผมจะให้ดูบรรยากาศทั้งสองแบบกันเลยคือไปเช้ากลับค่ำ ทั้งนี้รายละเอียดของ package ผมจะเขียนไว้ตอนท้ายของรีวิวนะครับ
เอาล่ะเกริ่นมาซะยาว เราออกเดินทางกันเลยดีกว่า อิอิ … สำหรับเพื่อนๆ ที่พักโรงแรม ในโปรแรมก็จะเริ่มตั้งแต่ไปรับมาจากที่พัก แล้วมาเจอกันที่ท่า Dolphin ตรงท่าเรือน้ำลึกของภูเก็ตครับ
เช้าวันนี้ผมเดินทางด้วยเรือ Catamaran ซึ่งข้อดีก็คือเรือจะวิ่งนิ่มกว่า speed boat เยอะ แถมไม่ต้องนั่งเบียดกันด้วยเนื่องจากพื้นที่บนเรือมีเยอะมาก จะนั่งหลบแดดด้านใน ชมวิวชั้นบนหรือจะไปโพสท่าเก๋ๆ ถ่ายภาพตรงหัวเรือก็ได้ ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมง เรือก็เดินทางมาถึงเกาะไม้ท่อน … โปรแกรมแรกวันนี้คือดำน้ำชมปะการังน้ำตื้นที่บริเวณหลังเกาะอันเป็นจุดที่อับคลื่นลมสำหรับช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ถ้าโชคดีอาจเจอฝูงปลาโลมาแถบนี้ด้วย แต่เสียดายวันนี้น้องโลมาไม่ทำงานครับ สงสัยตรงกับวันหยุด อิอิ … เรือมาลอยลำท่ามกลางน้ำใสแบบนี้ ผมอดไม่ได้ที่จะลองลงน้ำไปดูปะการังสักหน่อย เท่าที่สำรวจดูก็มีปะการังพอสมควรนะครับ แต่ไม่ถึงกับว้าว จะว่าไปก็คล้ายๆ กับเกาะอื่นรอบภูเก็ต ถ้าอยากเจอมากกว่านี้ อดใจอีกแป๊ปไปดำกันอีกทีที่หน้าเกาะได้เลยหลังจากกิจกรรมดำน้ำ เรือก็แล่นไปทอดสมอห่างฝั่งออกไปหน่อย แล้วแจกเบ็ดให้เหล่านักท่องเที่ยวได้ลองตกปลากันสนุกๆ ใครได้ปลาก็จะเฮเสียงดัง ชูปลาอวดเพื่อนๆ กันใหญ่ วันนี้ก็มีคนตกปลาเก๋าได้ 2-3 คน สีหน้าภาคภูมิใจมาก
เสร็จจากกิจกรรมตกปลาก็ได้เวลาทานข้าวเที่ยงพอดี (สำหรับเรือที่ออกรอบเช้า) .. เรือค่อยๆ นำเราไปเทียบท่าแล้วปล่อยให้เป็นเวลาอิสระ ใครจะทานข้าวเลยก็ได้หรืออยากจะเดินเล่นถ่ายภาพก่อนก็ไม่มีปัญหาเพราะอาหารเป็นแบบ Buffet ที่สามารถทานได้ถึงราวบ่ายโมงครึ่ง
ส่วนผมก็ถ่ายภาพก่อนเลยครับ อากาศวันนี้ดีมาก ฟ้าสวย ทะเลใส เมฆกระจายเป็นริ้วเป็นใจกับการถ่ายภาพเหลือเกิน สวยแบบไหนไม่ต้องบรรยายล่ะครับ ชมจากภาพกันดีกว่า … มากี่ครั้งก็ต้องยอมรับครับว่าไม้ท่อนยังสวยไม่สร่างจริงๆ โดยเฉพาะสีของน้ำตรงสะพานเทียบเรือนี่สวยเต็มสิบเลย
ผมเดินลัดเลาะไปทางหัวเกาะ มีชิงช้าอยู่ริมหาดด้วย จุดนี้เป็นอีกจุดนะที่เหมาะมากสำหรับถ่ายภาพเก๋ๆ ของเหล่านางแบบ ถ่ายภาพอยู่พักใหญ่ก็ได้เวลามื้อเที่ยงของผมแล้วล่ะครับ สำหรับผู้ที่เดินทางมากับไม้ท่อนรีสอร์ท จะทานข้าวเที่ยงกันที่อาคารกลางของรีสอร์ท โดยให้บริการแบบ buffet มีรายการอาหารแบบมาตรฐานทัวร์อาทิ ข้าวผัด, ไก่ทอด, แกงจืด, สปาเก็ตตี้, ผลไม้สด แต่ที่เพิ่มเติมคือ seafood BBQ ที่ทานกันได้แบบไม่อั้นเลยหลังจากเติมพลังแล้วผมมีโปรแกรมสำรวจจุดที่น่าสนใจต่างๆ บนเกาะครับ ซึ่งตอนนี้บางจุดใครอยากไปก็สามารถติดต่อกับทางรีสอร์ทได้ เพราะตามโปรแกรมจะรวมเฉพาะขึ้นไปจุดชมวิวองค์พระเท่านั้น … แต่บอกแล้วไงว่าวันนี้มาแบบ VIP กับเจ้าถิ่น เลยพากันชมให้ครบเลย หุหุ … จุดแรกเราแวะที่ อ่าวเรือแตกครับ ชื่อนี้ก็ได้มาจากการที่เรือของนักท่องเที่ยวซึ่งเจอลมมรสุมจนอับปางและถูกพัดมาติดอยู่ที่ฝั่งของหาดแห่งนี้นั่นเอง เนื่องจากเรือเสียหายมากเจ้าของชาวเยอรมันจึงทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์บนเกาะไม้ท่อน … ใครไปที่นี่ก็ได้พร็อพถ่ายภาพอย่างดีเลยล่ะ
จากจุดนี้นั่งรถไปอีกหน่อยก็จะถึงจุดชมวิวเขาช่องลม เป็นจุดนึงที่ผมชอบมากเลย เพราะด้านนึงจะมองเห็นสีน้ำทะเลสวยฝั่งตะวันออกของเกาะไม้ท่อน อีกด้านจะเป็นแนวผาหินและอ่าวเล็กๆ ในใสแจ๋วทางฝั่งตะวันตกของเกาะ ซึ่งในช่วงฤดูมรสุมนั้นลมตรงจุดนี้จะแรงมากจนเป็นที่มาของชื่อ “ช่องลม” นั่นเอง จุดถัดมาที่เราแวะไปเที่ยวกันคืออ่าวน้ำห้อง ซึ่งก็คืออ่าวเดียวกับที่เรือมาลอยลำให้เราดำน้ำชมปะการังเมื่อช่วงเช้า จุดนี้เป็นจุดอับลมในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว บรรดาเรือต่างๆ จึงมักมาทอดสมอลอยลำเพื่อหลบคลื่นลมกันที่นี่เสมือนเป็นห้องพักสำหรับเรือนั่นเอง … ทรายที่หาดตรงนี้ไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ สวยสู้หาดด้านหน้าไม่ได้ครับจุดสุดท้ายเป็นจุดชมวิวเด่นอีกแห่งของเกาะชื่อว่าจุดชมวิวองค์พระ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปประจำเกาะ นอกจากนั้นยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวของ 3 จังหวัดได้แก่ภูเก็ต พังงาและกระบี่ด้วย ในวันที่ท้องฟ้าสดใสแบบวันนี้สามารถมองเห็นเกาะพีพี ได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว
กลับลงมาจาก Jungle trip แล้ว ทางรีสอร์ทได้จัดวิลล่าริมหาดให้ผมได้พักผ่อน … วิลล่าเหล่านี้จะอยู่ทางด้านทิศใต้ของเกาะ ซึ่งทางรีสอร์ทจะกันพื้นที่บริเวณหน้าหาดไว้ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามา จึงทำให้ชายหาดหน้าวิวล่าเป็นส่วนตัวมาก ๆ เพราะมีเพียงคนที่เหมาวิลล่าแบบ day use หรือจองที่พักแบบค้างคืนเท่านั้นที่สามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้ได้
ในส่วนของวิลล่านั้นได้รับการปรับปรุงจากส่วนที่เป็นห้องพักเดิม นำมาตกแต่งใหม่ให้พื้นที่ภายในกว้างขวางโอ่อ่าขึ้น แต่เนื่องจากไม่ได้สร้างขึ้นมาใหม่ ทำให้รายละเอียดบางอย่างไม่ได้เนี้ยบเหมือนโรงแรมใหม่กิ๊ก อย่างไรก็ตามเรื่องวิวกับบรรยากาศนั้นไม่ต้องพูดถึงครับเต็มสิบเลย จะว่าไปทะเลโซนนี้น้ำสวยไม่แพ้มัลดีฟส์เลยจริงๆ นะ
วิลล่าแต่ละหลังจะใช้โทนในการตกแต่งแบบเดียวกันแต่มี layout ที่แตกต่างกันครับ บางหลังมีอ่าง Jacuzzi อยู่ตรงระเบียง บางหลังก็อยู่ด้านใน ส่วนบางหลังเป็นอ่างน้ำแบบลอยตัวให้ความรู้สึกโรแมนติกไปอีกแบบ … การตกแต่งภายในใช้โทนสีขาวสะอาดตา มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องไม่ต่างจากโรงแรมเลย เพียงแต่ในปัจจุบันทางรีสอร์ทยังไม่ได้เปิดให้บริการในลักษณะโรงแรมเต็มรูปแบบ ดังนั้นการเข้าพักแบบค้างคืนอาจจะขาดบริการแบบโรงแรม อาทิ bellboy, reception ไปบ้างแต่ในเรื่องของความปลอดภัยนั้นมีพนักงานดูแลอย่างดี
ในส่วนของราคาการใช้วิลล่าแบบ day use นั้นอยู่ที่ 6,000 บาทซึ่งก็อาจจะดูแล้วสูงสักหน่อย แต่ก็ทำให้ได้นอนตากแอร์เย็นๆ ชมวิวสบายๆ และพักผ่อนบนหาดโซนส่วนตัวที่ไม่พลุกพล่าน คุ้มหรือไม่คุ้มก็คงขึ้นอยู่กับมุมมองและความพร้อมของแต่ละท่านเลยครับ … สำหรับคนที่อยากค้างคืนก็มี package รวมอาหาร 3 มื้ออยู่ที่ 24,000 บาทสำหรับสองท่านนะครับ หากได้เห็นบรรยากาศที่เงียบสงบยามเย็น และได้ลองนอนชมพระทิตย์ขึ้นจากเตียงนอนผมรับรองว่าจะไม่รู้สึกเลยว่าราคานี้สูงเกินไป
ลองดูบรรยากาศหาดโซนที่กันไว้สำหรับลูกค้า day use และ over night สิครับว่าสวยขนาดไหน
นอกจากกิจกรรมเล่นน้ำที่หน้าหาดแล้ว ที่นี่ยังมีบริการอื่นๆ อาทิ นวดไทย, scuba diving, kayak ด้วย ซึ่งสามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่ได้เลยครับ
ขากลับผมไปพร้อมกลุ่มที่มารอบบ่าย บรรยากาศนั้นดีงามไปอีกแบบ เนื่องจากแดดไม่แรงแล้วจึงเหมาะมากกับการมานอนรับลมเย็นๆ ที่หัวเรือชมพระอาทิตย์ที่กำลังตกลงหลังเกาะภูเก็ต ขอบอกเลยว่าโรแมนติกจริงๆ
คู่ฮันนีมูนที่กำลังมองหาโปรแกรมสำหรับช่วงเวลาพิเศษ ผมว่าทัวร์เกาะไม้ท่อนนี่เหมาะนะครับ หรืออยากมาเที่ยวภูเก็ตแบบไม่เหมือนใครก็เหมาะอีกเช่นกัน บอกได้เลยว่าอารมณ์น้องๆ เที่ยวมัลดีฟส์เลยล่ะ … สำหรับข้อมูลด้านล่างเป็นรายละเอียดแพ็คเกจเที่ยวเกาะไม้ท่อนของไม้ท่อนรีสอร์ทนะครับ
แบบเดินทางด้วย Speed Boat ราคา 2900 บาท
- 8.00 บริการรับจากโรงแรม
- 9.00 ถึงท่าเรือ Dolphin Seaway Marina ออกเดินทางไปยังเกาะไม้ท่อน
- 9.30 ถึงเกาะไม้ท่อน
- 10.00 กิจกรรมอิสระบนเกาะ เล่นน้ำหรือ Snorkeling
- 12.30 อาหารเที่ยงแบบ Buffet
- 13.30 กิจกรรมเดินป่าขึ้นจุดชมวิวองค์พระ ที่จะเห็นวิว 3 จังหวัด (ภูเก็ต-พังงา-กระบี่)
- 15.30 เดินทางกลับสู่ท่าเรือ
- 16.00 ถึงท่าเรือ เดินทางกลับโรงแรม
แบบที่เดินทางด้วย Catamaran ราคา 3900 บาท (มีสองรอบ เช้า – บ่าย)
- 8:00/12:00 บริการรับจากโรงแรม
- 9:00/13:00 ถึงท่าเรือ Dolphin Seaway Marina ออกเดินทางไปยังเกาะไม้ท่อน ทำกิจกรรมดำน้ำชมปะการัง, ดูปลาโลมาและตกปลา
- 11:30/15:30 ถึงเกาะไม้ท่อน
- 12:00/16:00 พักรับประทานอาหารแบบ Buffet
- 15:00/18:00 เดินทางกลับสู่ท่าเรือ
- 16;00/19:00 ถึงท่าเรือ เดินทางกลับโรงแรม
Option
- day use วิลล่าริมหาด 6,000 บาท
- นวดไทย 1 ชม 1,000 บาท
- Scuba diving 30 นาที 3,000 บาท
เพื่อนๆ ที่จองแพ็จเกจข้างต้นสามารถติดต่อขอราคาห้องพักของโรงแรมต่างๆ ที่ภูเก็ตในราคาพิเศษจากทางรีสอร์ทได้ด้วยนะครับ เพราะเค้าเป็นพันธมิตรกัน ยังไงลองสอบถามจากทางรีสอร์ทดูได้เลย
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ website ของรีสอร์ท www.maitonprivateisland.com หรือติดต่อทาง facebook @maitonislandphuket นะครับ