เช้าวันที่สองกินมื้อเช้าก่อนไปท่าเรือ เติมพลังด้วยโจ๊ก+ต้มเลือดหมู+ติ่มซำ+ปาท่องโก๋
จากนั้นก็ไปขึ้นเรือ บายเกาะพะงัน บนเรือนี้เจอฝรั่งหลายคนยังมีสีอยู่เต็มหน้าและที่ตัวสงสัยจะแดนซ์กันยันเช้าแล้วมานอนกันที่เรือเลยครับ
![]()
เรือมาแล้วตรงตามเวลา
ไปส่งคนที่นางยวนก่อนอีกและ โฉบมา2รอบละเดี่ยวจะไปขึ้นจุดชมวิวข้างบน
ประมาณ 10โมงเราก็มาถึงเกาะเต่า เลทนิดนึงขานี้ รีสอร์ทมารอรับอยู่แล้ว แต่คนเยอะวันนี้รอหลายคน ก็มาถึงที่พัก 10.30น.
สำหรับบนเกาะเต่านี้ เราพักกันที่ ทรายรีฮัทรีสอร์ท อยู่ที่หาดทรายรี อยู่กันแบบแพคเกจราคาโปรโมชั่น 3วัน2คืน รวมอาหาร 6 มื้อ รวมพาไปดำน้ำ วันเดย์ และพาไปจุดชมวิวเลิฟเกาะเต่า และรถ-รับส่งท่าเรือ(บางที่พักอาจต้องเดินทางเองค่ารถแพงเอาเรื่องครับ) รวมราคาคนละ3499 +-แล้วน่าจะคุ้มกว่าซื้อแยกทุกอย่างก็เลยจัดไปครับ
ระหว่างทางเดินเข้ามีเจ้านกขุนทองคอยต้อนรับ เช้าๆจะได้ยินเสียงว่า Good morning ด้วย
ที่พักตั้งอยู่ติดริมชายหาดเลยแต่ในส่วนของห้องพักนั้นจะอยู่ด้านใน แต่เดินนิดเดียวก็ถึงทะเล ที่พักมีห้องเยอะมาก มีหลายโซน เราได้พักที่โซนใหม่ที่พึ่งสร้างครับ ห้องใหม่สอาดกว้างขวางแอร์เย็น เตียงนุ่ม โอเคเลยครับ
ประมาณนี้ครับตัวห้องถ้าแยกเอาแค่ห้องจะอยู่ประมาณคืนละ พันกว่าบาท
โปรแกรมของวันนี้ เราจะไปดำน้ำกันเลยครับ ร่างกายต้องการปะทะทะเลแล้วครับ เมื่อวานยังไม่ได้เล่นน้ำเลย
![]()
เรือพาดำน้ำก็อยู่ในแพคเกจอยู่แล้ว เรามา 6 คน ก็เลยได้เรือส่วนตัวมีแค่พวกเราไปเลย อยากจะแวะกี่จุดก็ตามใจดูตามเวลาเหมาะสม
เพื่อนๆทุกคนมากันครั้งแรก ก็เลยไปขึ้นเกาะนางยวนก่อนเลยครับจุดแรกวันนี้ ตอนเที่ยงๆพอดี
ที่นี้ยังคงสวยงามไม่เปลี่ยนและเข้มงวดเรื่องการห้ามน้ำพลาสติกขึ้นมาบนเกาะครับ
แวะถ่ายรูปมุมประจำของเกาะนางยวน
เดินไปต่อยังจุดชมวิวด้านบนเกาะนางยวน
เดินไม่นานครับสักไม่เกิน10นาทีก็มาถึง เหงือพอออกเบาๆ
ถึงแล้ววิวสสวยงาม ว้าวเช่นเคย ให่มาอีกก็มาได้นะครับ สวยเลยมุมนี้
ซูมไปดูข้างล่างหน่อย น้ำฟ้าใสใช่ย่อย
ถ่ายรูปจนพอใจก็เดินลงกันต่อ
ถ่ายรูปเล่นรอบๆ
ออกจากนางยวนก็ไปดำน้ำที่แรกกันครับ ฟ้าใสแดดดี ที่ไหนว่าลืมชื่อแล้ว รอบๆเกาะเต่านั้นแหละไม่ไกลเท่าไหร่นั่งเรือมาแปบเดียว
ไปดูใต้น้ำจุดแรกกันเลย
พอกระโดดว่ายไปสักพัก พอก้มหน้าลงไป ตกใจมาก ปลามันเยอะมากๆ
เยอะจนแบบน่ากลัวดำแน่นไปหมด เป็นแสนๆตัวเลย เขาบอกว่ามันเป็นอนุบาลปลาครับตรงนี้ปลาเลยเยอะ เดี่ยวพอมันโตอีกระดับมันก็จะไปอยู๋รวมกันอีกจุด
พี่ฝรั่งคนนี้ดำอย่างเก่ง
ตอนเขาว่ายลงไปตรงๆแล้วฝูงปลามันแตกตัวหนีออก เป็นภาพที่อธิบายยากจริงๆ ต้องมาเห็นครับ กล้องก็ถ่ายออกมาไม่ชัด
มาดูอีกด้านกันบ้างมีทั้งประการังและปลาอีกหลายแบบ
ปลาเยอะหลากหลายสวยงามเลยทีเดียวเชียว
ธรรมชาติสมบูรณ์ดีจริงๆครับ ยังมีที่สวยๆอีกหลายจุดแต่ไม่มีเวลาไปครับ
ดำจนหนำใจก็ไปจุดที่สองกินข้าวกันระหว่างมา พอมาถึง ฟ้าเริ่มมีเมฆดำๆ
ดูเหมือนจะครึ้มๆ
ใครใจถึงจะปีนไปโดดก็ได้นะครับ จุดที่สองนี้ถ่ายไมไ่ด้เลยใต้น้ำเพราะฝนมาแดดไม่ส่องถึงข้างล่าง ผมว่ายรอบเกาะนี้แทบตายว่ายน้ำก็ไม่ค่อยเป็น เลยไม่มีรูปใต้น้ำมาให้ชมครับ
หลังจากฟ้ามืดตึ้บเมฆดำกำลังลอยมาอย่างรวดเร็วสายฝนเริ่มโปรยเบาๆ เราก็รีบออกจากพื้นที่
ฟ้ามืดครึ่มมาแต่ไกล ฝูงนกปากห่างรีบบีนหนีอพยพเข้าฝั่ง
พี่คนขับเรือกำลังทำการแสดงขับเรือฝ่าพายุคลื่นสูง 8 เมตรรร
คลื่นลูกแรกซัดมายังไม่เป็น
ลูกต่อไปซัดมาน้ำเริ่มเข้าที่เรือ
ลูกที่สามกระแทกเข้ามาอย่างไว เรือจมหายไปทั้งลำำำ แฮร่ ล้อเล่นนน
กลับเข้าฝั่งทันก่อนที่ฝนจะกระหน่ำพอดีดีว่าดำใกล้ๆไม่ได้ไปไกลครับ
จากนั้นฝนก็กระหน่ำแรงเลยครับ
เจ้าฝูงนกปากห่างตอนแรกที่เราถ่ายเห็นไกลๆ บินมาถึงฝั่งที่เราจอดเรือด้วยครับ สงสัยจะหนีพายุเข้าฝั่งแบบเรา
เยอะมากครับ สมบูรณ์จริงๆที่นี้
ตากฝนกันกลับที่พัก
กลับมาถึงที่พัก ฝนก็ไม่หยุดตกเลยเย็นนี้ แต่เริ่มเบาลง
วันนี้มื้อเย็นก็เลยไม่ได้กินริมหาด กินด้านในแทนลมยังแรงและฝนยังไม่หยุด
ในส่วนของอาหารมื้อเย็นทั้งสองวันเขาจะให้เราเลือกแต่แรกก่อนนมาครับ มีของคาว4อย่างของหวาน
4อย่างสำหรับ 6 คนก็ไม่เยอะไม่น้อย แต่ก็กินอิ่มแน่นกันทุกคนเครื่องดื่มกับข้าวเติมได้ตลอด อร่อยทุกเมนูเลยเพราะที่ทราบรีฮัทนี้เป็นร้านอาหารด้วยครับ รสชาติจึงอร่อยหลายๆคนมากินอาหารกันที่นี้ครับทั้งมื้อเช้ากลางวันเย็น
คาวต่อด้วยหวาน
กินอิ่มประมาณ ทุ่มกว่าฝนก็หยุดก็เลยเดินเล่นริมหาดซะหน่อย
ใกล้ที่พักเราจะเป็นร้าน Lotus bar ที่มีต้นมะพร้าวเอียงยาวเป็นเอกลักษณ์ ที่นี้ก็มีควงไฟด้วย
จากนั้นก็เดินทะลุเข้าไปก็จะเจอกับถนนคนเดินเล็กๆมีบาร์หลายๆร้าน จะนั้งเอาบรรยากาศกันก็ได้
แต่เราเลือกเดินกลับมาที่พัก เพราะว่าที่พักของเรานี้แหละ บรรยากาศโคตรชิลครับขอบอก กับต้นไม้ใหญ่ที่ประดับไฟเก๋ๆ และลมทะเลพร้อมเสียงคลื่น มาฟินดีจริงๆ
คืนนั้นเป็นวันศุกร์ด้วยคนเลยไม่เยอะเท่าไหร่หรืออาจจะเพราะฝนพึ่งหยุดไม่นานคนอาจจะอยู่ที่พักของตัวเองกัน เราเลยนั้งดื่มด่ำบรยากาศไปเรื่อยๆ
ฟลูมูนหน้าฝนนี้หาพระจันทร์ยากจริงๆ เมื่อวานก็ไม่ได้ถ่ายเลยเมฆบังหมด วันนี้พอได้เห็นบ้างแว้บๆ จบคืนที่สอง
เช้าวันที่สาม ตื่นมากินข้าวเช้ากันก่อน
อาหารมีคล้ายทั่วไปมาตราฐาน แต่รสชาติรับประกันเลยว่าอร่อยมาก
เขียวหวานกับข้าวผัดอร่อยจริงๆจนต้องเดินไปตอบอีกรอบครับ
อิ่มอร่อยกับวิวสวยๆ
ถ่ายไปเรื่อย
เดินย่อยหน่อยครับ
แดดอ่อนๆยามเช้ารับวิตามิน
เป็นชาบหาดที่โอเคเลยครับทราบนุ่มน้ำสวยเล่นได้
เปลี่ยนชุดมาเล่นน้ำสระว่ายน้ำกันหน่อย
![]()
สระไม่ใหญ่มากครับแต่สายๆยังไม่ค่อยมีคนมาเล่น
ตั้งใจให้ดูเซ็กซี่ แต่ทำไมดูสะอื่้นน555
เล่นน้ำสระเดินไปชายหาดชิลๆเรื่อยๆไม่ต้องรีบ และก็กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดรอมากินข้าวเที่ยง
![]()
ระหว่างเดินไปมาเจ้าขุนทองก็คุยกะเราทั้งวัน มีหลายตัวนะครับไม่ใช่ตัวเดียว
นั้งรอข้าวเที่ยงวันนี้
ข้าวเที่ยงก็เป็นอาหาจานเดียวข้าวผัดปลาหมึกไข่ดาว น้ำแปปซี่ อิ่มเลยครับ ข้าวผัดไม่ใช่แบบเดียวกะอาหาเช้านะ คนละรสชาติก็อร่อยดีครับ
![]()
สำหรับโปรแกรมวันนี้ ตอนแรกจะเช่ามอไซด์แว้นรอบเกาะ ก็เลยเดินไปหน้าที่พักก็มีอยู่สองสามเจ้า ค่าเช่าแค่วันละ 200หรือ250นี่แหละ แต่คุณพระะะะ ค่ามัดจำคันละ 5000 บาทโอ้วมายก็อด จะเช่า3คันก็หมื่นห้า ถึงจะได้คืนก็ไม่ไหวจะจ่ายทั้งตัวรวมกันน่าจะมีไม่พอเงินสด 5555 แต่เท่าที่คุยเขาก็พูดดีทุกร้าน แต่เขาบอกว่ากลัวเอารถไปล้มเป็นรอยแล้วหนี ยึดบัตรประชาชนคนไทยก็ทำใหม่ได้ แต่ถ้าฝรั่งเขาจะยึดพาสปอร์ตไว้ถ้ารถเสียหายฝรั่งจ่ายแน่ๆ ประมาณนั้น
มีคำแนะนำจากที่พักเขาบอกว่าถ้าเราเช่ามอไซด์จริงๆ ตอนรับรถให่ถ่ายรูปถ่ายคลิปรอบรถให้หมดเลยว่ามีรอยอะไรก่อนรับหรือไม่ครับ เพราะถ้าตอนคืนรถมีรอยนิดๆหน่อยๆเขาก็อาจจะหักเงินมัดจำเราได้ครับ ระวังให้ดีถ้าคนจะเช่าจริงๆ
ก็เลยต้องเปลี่ยนแผน เช่าแท็กซี่บนเกาะแทน แต่ค่ารถก็เอาเรื่องพอสมควรก็เลยเช่าไปแค่ที่เดียวก็ได้ ที่ๆเราจะไป คือจุดชมวิวจอห์นสุวรรณ ดูจากแผนที่ไปกลับประมาณ 10 กิโล ค่ารถที่พักติดต่อให้เขาคิด 900 บาท เขาบอกว่าลดแล้วถ้าฝรั่งแพงกว่านี้ แต่เราไป 6 คนก็โอเคครับคนละ 150 ถึงจุดชมวิวก็เอาเบอร์พี่เขาไว้จะกลับเมื่อไหร่เดี่ยวเขามารับ
ถึงแล้วก็เสียค่าเข้าปกติคนละ 100 พี่เขาคุยให้คนไทย 50 แต่จะไมไ่ด้น้ำอะไรสักอย่าง
เดินขึ้นเขาตอนเที่ยงๆอีกแล้ว นู้นๆเราจะไปบนนุ้น
สูงอยู่นะเนี้ย
ทางเดินช่วงแรกไม่ยากไต่ไปเรื่อยๆแต่โคตรร้อนเลยครับตอนนี้เที่ยงๆบ่ายๆ
ถึงตรงเกือบครึ่งทางจะเจอวิวนี้ น้ำทะเลฟ้าใสมากๆ หยุดถ่ายหน่อย
ช่วงต่อมาจะยากนิดหน่อย อาจจะต้องไต่เชือกเพื่อความปลอดภัย
ในที่สุดก็มาถึงหินก่อนที่เราถ่ายจากข้างล่าง แต่นั้งพักข้างล่างหินก่อนเดี่ยวค่อยขึ้นไป
![]()
ปีนขึ้นมาอีกนิดก็จัถึงยอดจุดชมวิวจอห์นสุวรรณ
วิวสวยเด็ดไม่ธรรมดาเลยครับ
คุ้มค่าหายเหนื่อย ไม่เสียดายเหงื่ออันเปียกชุ่มไปทั้งแผ่นหลัง55
ท่าคู่หน่อย อิอิ
ฝรั่งเขาถอดกันทั้งเกาะขอถอดมั้ง
นั่งสมาธิกลางแดด
เสร็จแล้วก็เดินลงครับ
![]()
ลงมาจากจุดชมวิวที่นี้จะเป็นหาดฟรีดอมด้วยครับ เสียค่าเข้าคัร้งเดียวเที่ยวได้สองที่เลย
หาดเล็กๆสวยงาม
ไม่ไหวร้อนมากขอลงไปเล่น้ำ แต่ที่นี้มีประการังตื้นมากๆให้ดูด้วยใกล้ๆฝั่งเลย เดินกันให้ระวังเลย มีหอยเม่นด้วยเกือบจะเดินไปเหยียบ
![]()
เล่นน้ำจนหายร้อนก็กลับที่พักไม่รู้จะไปไหนค่ารถหลายบาท555
นั่งรีโว้กลับเหมือนเดิมแต่คนละคันพี่คันเดิมติดลูกค้าใหม่ให้อีกคันมาส่งแทน ทริปนี้นั้งรีโว้ประมาณ 5 คัน555
กลับมาแถวหาดทรายรีเหมือนเดิมให้พี่เขาส่งต้นๆทางขอเดินดูตอนกลางวันหน่อย
ต้นพร้าวแบบโลต้สบาร์มีอยู่สองสามต้นนะที่นี้
ส่วนมุมนี้หน้าที่พักเราเอง
จากนั้นก็พักผ่อนตามอัธยาศรัย นั้งๆนอนๆ เดี่ยวบ่าย4โมงกว่าๆ โปรแกรมของที่พักจะพาเราไปอีกจุดชมวิวฟรี
![]()
นั้นคือจุดชมวิวเลิฟเกาะเต่าที่วิวก็สวยเด็ดอีกแล้ว
ลมเย็นๆแดดเริ่มอ่อนแรงเวลาประมาณ 5โมง
จิบเบียร์เบาๆเอาบรรยากษศเสียหน่อยวิวงามมาก
นี้รถของที่พัก ที่บนเกาะนี้มีแต่คนใช้พี่โตโยต้า รีโว้นี้70เปอเซนเลยมั้งเยอะมากๆ
ก่อนกลับพาแวะไหว้กรมหลวงชุมพร
![]()
![]()
กลับมาถึงที่พักโปรแกรมสุดท้ายบนเกาะเต่านี้คือดื่มด่ำบรรยากาศให้เต็มที่คืนนี้
วันนี้อากาศดีไร้ฝน แต่ก็ยังมีเมฆมากทำให้มองไม่เห็นพระอาทิตย์ปกติพระอาทิตย์จะตกตรงนี้หาดทราบรีมองเห็นจะสวยมากเลย
วันนี้เปิดไฟเต็มระบบสวยงาม
ที่พักจัดที่นั่งของพวกเราไว้ให้ตรงกลางเลย อาหารก็อร่อยตามแบบฉบับ
วันนี้วันเสาร์คนดูหนาแน่นกว่าเมื่อวานมากทั้งที่ร้านอาหารของเราและคนเดินไปเดินมาริมหาด และบาร์ข้างๆก็คนเพียบเลย
บาร์ข้างๆฝรั่งล้วนๆ สนุกสนานมาก คืนนั้นก็อยู่กันถึง4ทุ่มกว่าจนร้านเราปิดเลย นอนหลับสบาย
อรุณสวัสดิ์เช้าที่สี่ตื่นแต่เช้ามากินข้าวเช้าก่อนกลับ แกงมัสหมั่นอร่อยมากครับ ทริปนี้ประทับใจอาหารของทรายรีฮัททุกมื้อเลย ที่พักก็โอเคบรรยากาศดีครับ แนะนำเลยที่นี้เป็นตัวเลือกที่ดีจริงๆ รับประกันครับ
แล้วรถก็มาส่งที่ท่าเรือ ก่อนจะกลับมาถึงเกาะเต่าได้เจอเต่าแล้ววว
อ่ะเดี่ยวจะไม่เชื่อว่าที่นี้โตโยต้าคุม ภาพนี้แค่ส่วนนึง 90เปอเซนที่นี้เป็นแต่พี่โตทั้งนั้นนึกว่าสัมปทานเกาะนี้ เส้นทางบนเกาะเป็นเขาตลอดครับที่นี้เลยเลือกใช้พี่โตและเป็น 4*4 ซะส่วนใหญ่ด้วย ของเขาดีจริงๆ ครับ
นั้งรีโว่มาตลอด3วันและ กลับมาขับเจ้าไทรทันของเรากันบ้าง ปิดท้ายทริปนี้ขึ้นจากฝั่งก็ขับมากินข้าวที่ร้านครัวหนังลุงอยู่ไม่ไกลจากตัวชุมพรทางเส้นหลักสาย 4 ที่จะไประนองแยกไปนิดนึงก็เข้าซอยไปหน่อยก็จะถึง พอดีเพื่อนของพี่เขาแนะนำมา
อาหารเมนูคนใต้รสชาติจัดจ้านอร่อยครับ
![]()
และที่นี้ถ้ามากลางคืนจะมีการแสดงหลังตลุงด้วยครับ เป็นร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์ของภาคใต้เอาไว้อย่างสวยงามครับ
มีมุมเก๋ๆให้ถ่ายรูปด้วย
สุดท้ายท้ายสุดขอแวะซื้อทุเรียนชุมพรกินกันหน่อย
ไทรทันคันนี้เป็นมิตรต่อกลิ่นทุเรียน 55อบอวนไปตลอดทางง จากนั้นก็แวะส่งพี่กลับลำปางขึ้นรถที่หัวหินเหมือนเดิมและยิงยาวกลับ กทม. ส่งพ่อหนุ่มขอนแก่นที่นครชัยแอร์ ถึงบ้านดอนเมืองตัวเอง 4ทุ่มกว่าๆ จบทริป 4วัน3คืน แบบชิวๆทริปนี้ ขับรถแค่1040โล
ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ
น้ำมันประมาณ 2200 ตกโลละ 2.1บาทกว่าๆ กับสัมภาระ 6 คน แต่นั้ง4จากกทมมารับอีก2จากหัวหิน ความเร็ว 120-140
ด้วยพลังน้ำมันB20 ใช้ดีไม่มีปัญหาประหยัดตังค์ในกระเป๋าไปเยอะเลย ถ้าขับชิลๆ ตกโลละ 1.7-1.8บาทเองครับสำหรับในเมือง
เรือคนละ 2100
ค่ามอไซด์พะงันคันละ200
ค่าแพกเกจ3วัน2คืนคนละ 3499
ซีฟูดเย็นวันแรก1800
มื้อเช้าวันที่สอง 480
ค่าเข้าจอนสุวรรณ300
ค่ารถไปจอห์นสุวรรณ 900
ค่าบียร์เลิฟเกาะเต่า420
หลักๆประมาณนี้แล้วก็มีค่ากินอย่างอื่นอีกนิดหน่อยและก็ค่าเบียร์
โดยรวมๆแล้วทริปนี้ผมหมดกันไปคนละประมาณ 7500-8000บาทครับ คงพอเป็นข้อมูลให้คนที่สนใจกันได้นะครับ ธรรมชาติสวยงามจริงๆครับ
จบไปอีกหนึ่งทริปเดี่ยวทริปหน้าจะพาไปขี่มอไซด์กันบ้างที่ไหนคอยติดตามกันได้จ้า
วันนี้สวัสดีครับ