เดินทางโดยเครื่องบิน แนะนำไฟล์เช้าจะสะดวกมาก แต่ที่ไปมันเป็นหน้า Low ครับบบบ มรสุมใครเค้าไปทะเล เราไง5555555 ข้อดีของการไปหลี่เป๊ะหน้า Low คือ คนน้อย ที่พักว่าง ของกินไม่ต้องแย่งกัน เดินไปไหนก็มีแต่เรากับหมาแมวบนเกาะ เอาเป็นว่า เกาะนี้เป็นของเรา ฟินไปไหน 

เริ่มเดินทาง เช้าวันที่ 18 มิถุนายน 2559 ขึ้นเครื่อง 9.50 ถึงสนามบินหาดใหญ่ 11.20 ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชม. 20 นาทีโดยประมาณ ด้วยความที่เราเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว อันนี้แนะนำให้ทำนะ เราควรจองทุกอย่างเอาไว้ให้เรียบร้อย ทั้งรถตู้มารับที่สนามบินหาดใหญ่ไปส่งท่าเรือปากบารา จ.สตูล เรือไปเกาะ ที่พักบนเกาะ การเป็น Backpacker ก็ไม่ได้หมายความว่าต้อง Walk-in ทุกอย่าง เราใช้บริการรถตู้และเรือไป-กลับเกาะ ของลุงยาว สนนราคารวมรถเรือ ไป-กลับ คนละ 1300 บาท พอถึงหาดใหญ่ก็เดินไปที่รถตู้และเดินทางไปท่าเรือ ใช้เวลา 2 ชม.นิดๆ ด้วยความที่เกาะหลี่เป๊ะอยู่ จ.สตูล หากเราเดินทางเองแนะนำลงเครื่องที่หาดใหญ่ แต่ถ้ารถ สต หรือ รถสาธารณะ ก็ไปลงที่สตูลได้เลยคะ 

เรามาถึงท่าเรือตอนเกือบบ่าย 2 แต่เรือออก บ่าย 2 ครึ่ง ก็หาอะไรกินก่อน แนะนำให้ซื้อของจากฝั่งไปเลยนะคะ เพราะบนเกาะก็แพงกว่า 2-3 เท่า ที่สำคัญ เงินสดคะ!!!! กดไปเลยคะ ที่เกาะมีแต่ ATM ของกรุงศรี ค่าธรรมเนียม 88 บาทโดนมาแล้ว กะเอารวยเลย พอกินเสร็จก็เดินไปขึ้นเรือที่อาคารตรงข้ามท่ารถตู้คะ

นั่งรอพี่ๆเตรียมเรือ เราก็เจอเจ้าเหมียวเจ้าถิ่น เกือบบ่าย 3 เราก็ได้ลงเรือไปเกาะ อยากจะบอกว่าอยู่บนเรือมันคือฝันร้ายของคนเมาเรือเลยก็ว่าได้ คนข้างๆโอ๊กอ๊ากไป 3-4 รอบ แต่เราเหมือนได้เล่นจานดิสโก้สนุกสนานอยู่คนเดียวบนเรือ 5555555 

นั่งมาได้ 1.30 โดยประมาณ เราก็ถึงเกาะแล้วววว 5 โมงครึ่ง หมดไป 1 วันเต็มๆกับการเดินทางมา โดยความที่เกาะไม่ใหญ่ เนื้อที่เกาะวัดจากหน้าเกาะ ไปหลังเกาะ ความกว้างสุดแค่ 3 กิโลเมตร เราสายเดิน ก็ได้ลุงบนเกาะที่มาเรือลำเดียวกันพาเราเดินไปที่บังกะโลที่เรา Booking เอาไว้เรียบร้อยก่อนมา หมดไป 1 วัน 

ถนนโล่งมากกกกก มาหน้า Low ก็ดีนะ ถนนเส้นสีฟ้าคือทาง Walking Street บนเกาะ ไม่หลงแน่นอน 

บนเกาะมีป้ายครบชัดเจน ไม่หลง 100% เพราะเราเดินทั่วเกาะแล้ว 5555555 

เรานอนที่ Gecko Lipe เจ้าของเป็นคนต่างชาตินิสัยดีน่ารักมาก ที่พักเป็นพัดลม เย็นสบายอากาศไม่ร้อน เพราะต้นไม่เยอะมาก บนเกาะค่อนข้างปลอดภัย ที่พักนี้เราให้ 5 กะโหลก ถูกและดี 

ถึงเกาะหลี่เป๊ะจะเป็นเกาะที่เล็กมากๆเมื่อเทียบกับเกาะโดยรอบ แต่ด้วยความที่เป็นเกาะที่มีวิถีชีวิต ชาวเลอูรัก ลาโว้ย ใช้ชีวิตอยู่บนเกาะ มีประเพณีขนบธรรมเนียมของตัวเอง และภาษาของตัวเอง เกาะหลี่เป๊ะจึงมีทั้ง โรงเรียน ที่สอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล-ม.ต้น 

มีอนามัยและโรงพยาบาลบนเกาะ และรวมถึง วัด โบสถ์ มัสยิด อยู่ด้วย ถือได้ว่าเป็นเกาะที่ไม่ใช่แค่ท่องเที่ยว แต่เป็นเกาะที่มีวิถีชาวเกาะอยู่ จึงทำให้เกาะหลี่ป๊ะเปิดตลอดปี 

ลุงบอกว่า ถักทุกวัน ทักทิ้งไว้เอาไว้ใช้ และทิ้งท้ายว่า อย่าลืมเอารูปไปลง Web นะ จะได้มีคนมาเที่ยวเยอะๆ จัดให้คะลุง คนบนเกาะใจดีมาก เป็นมิตรสุดๆ เดินเข้าไปคุยก็คุยเล่าให้เราฟัง ถามไรตอบหมด ใจดีมากๆ 

ชาวเล 

พี่ชาวเล กำลังยาเรือ ซ่อมเรือที่ทำมาจากไม้ระกำ เพื่อใช้ในพิธีลอยเรือตามความเชื่อของชาวเล ในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า น่าเสียดายช่วงที่เราไป บนเกาะพึ่งทำพิธีลอยเรือไปเมื่อเดือนที่แล้ว มีอีกทีคือสิ้นปี หรือเดือน 12 

พี่บอกว่ามันเป็นรอก ช่วยดึงอวน ดึงกระชัง เราก็นึกว่าเป็นเครื่องราง 5555 

เรือไม้ระกำ

วิถีชีวิตและความเป็นอยู่บนเกาะ 

เจ้าถิ่นบนเกาะเยอะเหลือเกิน แต่เป็นมิตรมาก น่ารักทุกตัวเลย บางตัวเลี้ยงเห็บไว้แก้เหงาด้วย 55555 

น้ำใสๆ ใต้ฟ้าคราม ตัดกับความเขียวของขุนเขาตรงหน้า ทำให้ลืมทุกอย่าง ทิ้งตัวอย่างสบายใจบนหาดทรายละเอียด 

หาดชาวเล 

หาด Sunset ป้าหน้าที่พักบอกว่า ช่วง High แทบไม่มีที่ยืน 

ข้อดีของหน้า Low คนน้อย สงบ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบคนเยอะ เบียดเสียด แย่งกันกินกันอยู่ แต่ข้อเสียคือ ถ้าไปจากหลังเดือน มิถุนายน คนบนเกาะที่เป็นร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นคนบนฝั่ง เค้าจะกลับฝั่งกันหมด บางร้านปิด บางที่พักปิด เกาะรอบปิดเพื่อฟื้นฟูแนวปะการัง 

ข้อดีหน้า High ทุกอย่างเปิด ทัวร์เปิด ทะเลสวยกว่านี้ แต่ข้อเสีย คนเยอะมาก หากไม่ได้จองที่พัก อาจจะได้นอนหน้าหาดก็เป็นได้ และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้รูปงามๆแบบปราศจากคนแบบนี้ 

ถึงเวลากลับ เราออกจากเกาะ ตอน 11.00 กว่าๆ เป็นไปตามพยากรณ์อากาศ พายุจะเข้าวันนี้แบบ Full option นั่งเรือมาได้ 1 ชม.กว่า ก็..แฉะ กันทั้งลำ 5555555 นั่งรถตู้กลับมาสนามบินหาดใหญ่ รอไฟล์ท 3 ทุ่ม ที่เลือกดึกเพราะมันถูก ถึง กทม. 5 ทุ่มกว่า 

จบภาระกิจเสี่ยงตาย ลุยเดี่ยว ที่หลี่เป๊ะ สุดท้ายนี้ อยากออกไปไหนก็ไปเลย อย่ารอ อย่ากลัว ถ้าไม่ก้าวออกมาจะเสียใจ 

สรุปค่าเสียหาย

ค่าเครื่องบินไป-กลับหาดใหญ่ ดอนเมือง 1,100 THB เครื่องหางแดง 

ค่ารถตู้จากสนามบินไปท่าปากบารา+เรือไปเกาะ ไป-กลับ 1,300 THB

ค่าที่พักบนเกาะ 3 คืน 1,650 THB

ค่ากินจิปาถะแล้วแต่การควบคุมตนเอง ปล.ของกินอร่อยมาก ร้านป้าหัวมุมถนนคนเดินต้มยำแซบมาก