“พี่ยุทธ ไปเกาะศรีบอยา กันมั้ย” คำเชิญชวนของสหายของน้องก๊วนเที่ยวขาประจำของผม ผมนึกในใจ “เกาะเหี้ยอะไรของมึงหว่ะ ไม่เคยได้ยินชื่อเลย” ผมก็ลองค้นหาคำว่า “เกาะศรีบอยา” ใน Google หาข้อมูลใน Internet ดูปรากฏว่าเกาะแห่งนี้น่าสนใจดีแท้ จึงตอบตกลงไปอย่าไม่รอช้า และเห็นว่ายังมีรีวิวของเกาะแห่งนี้น้อยอยู่จึงตัดสินใจเขียนรีวิวชิ้นนี้ เมื่อผมได้ออกเดินทางไปยังเกาะแห่งนี้ทำให้ผมได้สัมผัสถึงความเงียบสงบดี จริงๆเหมาะแก่การพักผ่อน หรือภาษาที่เขาฮิตๆกันที่เรียกกันว่า Slow Life

สำหรับกิจกรรมบนเกาะก็ไม่มีอะไรมากมายนอกจากไปพักผ่อนนอนเล่น ดูวิถีชีวิตผู้คน สำหรับการเดินทางของผมครั้งนี้นอกจาก “เกาะศรีบอยา” แล้วพวกเราตัดสินใจอยู่ต่ออีกหนึ่งวันเพื่อไปต่อยัง “เกาะจำ” เป็นเกาะใกล้ๆกับเกาะศรีบอยา เรานอนเกาะจำอีกหนึ่งคืนไหนๆก็มาแล้วเอาให้คุ้มค่ากับการออกเดินทาง

เกาะศรีบอยาแห่งตั้งอยู่ที่จังหวัดกระบี่ อยู่ในเขตอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ คำว่าชื่อของเกาะศรีบอยา เป็นภาษามลายูแปลว่าจระเข้ สอบถามชาวบ้านที่นั้นเขาเล่ากันว่าเมื่อก่อนเกาะแห่งนี้มีจระเข้น้ำเค็มอยู่ เยอะมาก เกาะแห่งนี้เป็นเกาะเล็กๆเงียบและสงบมากครับ ชาวบ้านก็อัทธยาศัยดีมาก ชาวบ้านส่วนใหญ่จะเป็นชาวมุสลิมประมาณ 80% เกาะศรีบอยานักท่องเที่ยวคนไทยยังไม่ค่อยรู้จักเท่าไร ส่วนจะรู้จักกัน “เกาะจำ” โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติจะนิยมมาพักที่เกาะจำมากกว่า

การเดินทางของพวกเราเริ่มจากภูเก็ตขับรถมาที่ท่าเรือแหลมกรวด อยู่ที่ ต.คลอง ขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ท่าเรือแห่งนี้จะเป็นท่าเรือไปเกาะศรีบอยา เกาะจำ เกาะปู เราใช้เวลาเดินทางจากภูเก็ตประมาณ 4 ชั่วโมง สำหรับคนที่ขับรถมาต้องฝากรถไว้ที่ท่าเรือจะมีที่ฝากรถค้างคืนวันละ 100 บาทสามารถสอบถามจากชาวบ้านแถวนั้นได้เลยปลอดภัยครับ สำหรับเรือโดยสารไปเกาะจะมีเรือออกทุกเกือบทุกชั่วโมง ส่วนค่าโดยสารก็ 20 บาทต่อคน สามารถนำรถจักรยายนต์ลงเกาะได้อีกด้วยก็ราคา 20บาท เช่นกัน

สำหรับคนที่ขับรถยนต์มาท่าเรือเองผมให้พิกัดท่าเรือแหลมกรวด 7.89002N 99.02717E สามารถใช้ App GoogleMap นำทางมาได้เลย

สำหรับคนที่นั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินกระบี่ ต้องนั่งรถสองแถวโดยสารประจำทางจากตัวเมือง มาลงที่อำเภอเหนือคลอง แล้วต่อรถมาลงที่ท่าเรือแหลมกรวดระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร

สำหรับเรือที่ใช้โดยสารจะเป็นลักษณะเรือหางยาวขนาดใหญ่ ส่วนหัวเรือด้านหน้าจะเป็นแบบเปิดได้ จะมีไม้สะพานไว้สำหรับขนย้ายรถจักรยานยนต์ เรือแบบนี้แปลกดีเหมือนกันผมไม่เห็นที่ไหนนอกจากที่นี่

ได้เวลาเรือออกผู้โดยสารส่วนใหญ่ก็จะเป็นชาวบ้านบนเกาะศรีบอยาที่จะไปซื้อของ ทำธุระ ที่ตัวเมืองกระบี่

เราใช้เวลาจากท่าเรือแหลมกรวดถึงเกาะศรีบอยาใช้เวลาประมาณ 15-20นาทีก็ถึงแล้ว

ถึงท่าเรือเกาะศรีบอยาจะมีป้ายตารางเวลาเรือกลับไปยังฝั่งที่ท่าเรือแหลมกรวดกระบี่มีเวลาทุกชั่วโมงเหมือนกันเลือกเวลากลับได้ตลอด

สำหรับการเดินทางภายในเกาะศรีบอยาส่วนใหญ่แล้วจะใช้รถมอเตอร์ไซค์ ส่วนรถยนต์จะมีน้อยมาก สำหรับคนที่จองที่พักไว้แล้วลองสอบถามทางรีสอร์ทดูเขาจะมีบริการมารับเราที่ ท่าเรือเลย

สำหรับที่พักบนเกาะศรีบอยาจะมีน้อยมากส่วนใหญ่จะเป็นแบบบังกะโลบนเกาะแห่งมีเพียงประมาณ 3-4แห่ง ครั้งนี้เราพักที่ “ศรีบอยา บังกะโล (Siboya Bungalow)” ที่นี่มีห้องพักหลายแบบให้เลือกไม่ว่าจะเป็นห้องแอร์ ห้องพัดลม สำหรับเนื้อที่ของบังกะโลแห่งนี้มีเนื้อที่กว้างพอสมควร พวกเราเลือกพักบังกะโลแบบพัดลมอยู่ริมหาดเลย ช่วงที่พวกเราไปมันเป็นหน้า Low Season ราคาเพียงหลักร้อยเท่านั้นเอง สำหรับใครสนใจลองเข้าไปดูเว็บไซต์ของที่นี่ได้ที่ http://www.siboyabungalows.com/

ห้องแอร์จะเป็นลักษณะแบบนี้

หลังจากเก็บกระเป๋าข้าวของเข้าที่พักเสร็จเราก็ได้เวลาออกไปเป็นเด็กแว้นกัน แล้ว พวกเราเช่ามอเตอร์ไซค์กันที่รีสอร์ทวันละ 100 บาทต่อคัน แนะนำให้เช่ามอเตอร์ไซต์สะดวกที่สุดในการเที่ยวบนเกาะแห่งนี้

เราขับสำรวจรอบเกาะ เรามายังอีกฝั่งของเกาะก็จะเจอส่วนที่เป็นชายหาดของเกาะแห่งนี้ สำหรับหาดของที่นี่ไม่ได้ขาวสะอาดเหมือนภูเก็ตบ้านผมเลยพวกก็จอดแวะถ่ายรูป กันสักพักหนึ่ง เราก็ได้เจอกับฝูงนกกำลังบินเล่นน้ำกลุ่มใหญ่เลย

ได้เวลาช่วงเย็นๆพวกเรากลับมายังที่พักเพื่อรอแสงสุดท้าย แสงทไวไลท์ของเกาะศรีบอยาแห่งนี้ขอบอกเลยครับว่าสวยจริงๆครับ เสียดายครั้งนี้ไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไปไม่งั้นคงได้รูปสวยๆกว่านี้เยอะ

เช้าของวันใหม่ที่เกาะศรีบอยาพวกเราตั้งใจกันว่าจะตื่นแต่เช้าเพื่อออกมา ถ่ายแสงเช้าแสงแรกของเกาะศรีบอยากันแต่พวกเราตื่นไม่ทัน อิอิ กว่าจะมาถึงอีกฝั่งของเกาะศรีบอยาแสงก็ใกล้จะหมดแล้วได้มาแค่นี้ น่าเสียดายจริงๆ สำหรับวิถีชีวิตของคนเกาะศรีบอยาอีกอย่างหนึ่งก็คือการทำประมง เราได้พูดคุยกับชาวบ้านเขาบอกว่าช่วงนี้เขาจะออกไปจับแมงกระพรุน ช่วงนี้จะเยอะวันๆจับได้เป็นพันๆตัว ผมจำราคาไม่ได้แล้วว่าเขารับซื้อกันตัวเท่าไร

หลังจากพวกเราถ่ายรูปได้สักพักใหญ่ ได้เวลาอาหารเช้าพวกเราแวะทานอาหารแบบง่ายๆแบบวิถีชีวิตชาวบ้านแถวนั้นเขา ทานกัน ราคาไม่แพงส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกข้าวยำ น้ำบูดู ขนมจีน หรือทานพวกชา กาแฟกินกับขนมข้าวเหนียว ชาวบ้านแถวนั้นเป็นมิตรมาก อัธยาศัยดี พูดคุยกับผู้มาเยือนอย่างพวกเราเป็นอย่างดี

หลังที่พวกเราได้อิ่มอร่อยอาหารเช้าแบบง่ายๆ ราคาไม่แพง ช่วงเช้าพวกเรามีเวลาพอสมควรขี่มอเตอร์ไซต์ตะลอนทั่วเกาะศรีบอยา เราก็ได้เจอแปลงนาข้าวเขียวขจี สำหรับเกาะแห่งนี้มีการปลูกข้าวด้วยเป็นการปลูกข้าวแบบนาปรัง ช่วงที่เราไปต้นข้าวเขียวขจีกำลังออกรวง

และอีกวิถีชีวิตของคนบนเกาะที่พบเห็นเป็นส่วนใหญ่ก็คือการปลูกยางพารา พวกเราได้แวะสวนยางของชาวบ้านได้เข้าไปดูการทำยางแผ่น ได้ดูขั้นตอนแรกตั้งแต่การนำน้ำยางมาผ่านขบวนการใส่สารให้น้ำยางมันแข็งตัว หลังจากนั้นก็ทำการเหยียบยางแผ่นให้แบนเป็นแผ่นและขั้นตอนสุดท้ายการบดยาง ด้วยเครื่องบด พวกเราได้อยู่ที่นี่หลายชั่วโมงเลย 555

ผมได้ถ่ายวีดีโอแบบ Time Lapse ด้วยกล้อง GoPro ระหว่างที่เขากำลังทำยางแผ่น ลองชมกันดูครับ

ได้เวลาเที่ยงพวกเราเก็บข้าวของที่รีสอร์ทเพื่อเดินทางต่อไปยังเกาะจำ โดยให้ทางรีสอร์ทหาเรือหางยาวให้เพื่อไปส่งที่เกาะจำ เรือใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีก็ถึงเกาะแล้วเกาะใกล้มาก ค่าใช้จ่ายต่อคน 100 บาท

เกาะจำ (อาจจะเขียนเป็น เกาะจัม) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เกาะปู ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลเกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่  มีทั้งหมด 3 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่บ้านเกาะปู หมู่บ้านเกาะจำ และหมู่บ้านติงไหร วิถีชีวิตชาวบ้านส่วนใหญ่ทำประมงและทำสวนยางพาราอยู่บ้าง ระยะหลังการท่องเที่ยวเริ่มเข้าเริ่มมีรีสอร์ต บังกะโล ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ

เมื่อเดินทางถึงท่าเรือที่เกาะจำก็จะมีรถรับจ้างสามล้อตอนรับไว้ให้บริการ เราตอนที่พวกเราไปที่เกาะจำพวกเราไม่ได้หาที่พักไว้ก่อนเลยกะว่ามาหาเอาข้าง หน้าเลยถามลุงสามล้อว่ามี รีสอร์ทที่ไหนถูกๆน่าพักบ้าง แกบอกว่ามีเลยให้แกพาไปที่รีสอร์ท

ลุงแกพามาที่รีสอร์ท “Golden Pearl Beach Resort” ถือว่าใช้ได้เลยสำหรับรีสอร์ทแห่งนี้ราคาไม่แพงช่วงที่เราไป มันเป็นหน้า Low Season ราคาประมาณ 500-800บาท แล้วแต่ห้องและความสามารถในการต่อรองราคาอิอิ

พวกเราพักบนเกาะจำเพียงแค่คืนเดียว พวกเราได้สัมผัสถึงความเงียบสงบ ธรรมชาติที่สมบรูณ์สวยงามผู้คนบนเกาะก็เป็นมิตร มันเหมาะสำหรับการพักผ่อนของคนที่อยู่ในสังคมเมืองที่มีแต่ความวุ่นวายเสีย จริงๆ บรรยากาศยามเย็นของที่เกาะจำแห่งนี้ท้องฟ้าสวยงาม พระอาทิตย์ตกดินยามเย็นสวยมากจริงๆเลย

การได้มาเที่ยวสัมผัสและได้รู้จัก “เกาะศรีบอยา และ เกาะจำ จังหวัดกระบี่” แห่งนี้ทำให้ผมได้เก็บความประทับใจของธรรมชาติที่สวยงามที่หลบซ่อนอยู่บน เกาะที่มีคนรู้จักยังไม่มากเท่าไรและความประทับของผู้คนบนเกาะที่มีอัธยาศัย เป็นมิตรยิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้นักเที่ยวต่างแดนอย่างผมประทับใจและอยากจะกลับมายังที่นี่อีกครั้ง…..

ติดตาม Blog การเดินทางของผมได้ที่ http://www.yutphuket.com