เกาะพยาม...ที่ไม่ต้องใช้ความพยายาม
เคยมีสถานที่ที่เราไปแล้วรู้สึกรัก รู้สึกหวงไม่อยากให้ใครไปไหม?
ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นหลังกลับมาจากระนอง สถานที่ที่เราไป... ความเรียบง่าย ความสงบคือสิ่งที่ทำให้เราประทับใจจึงอดไม่ได้ที่จะนำมาแบ่งปัน เพราะฉะนั้นเราจึงอยากให้คนที่คิดจะไปได้อ่านรีวิวนี้ก่อน อย่าเพิ่งแค่ดูรูปแล้วตัดสินใจไป หวังว่ารีวิวนี้น่าจะมีประโยชน์บ้างหากมีสิ่งใดผิดพลาดไปโปรดชี้แนะคะ
ทริปนี้มีโจทย์ว่าเที่ยวทะเลฝั่งอันดามันแต่มีงบไม่มาก ขับรถไปกันเองซึ่งเป็นการขับรถลงใต้ครั้งแรกของเพื่อนจึงเลือกที่ใกล้ๆ จุดหมายปลายทางจึงมาตกที่เกาะพยาม จังหวัดระนอง พวกเราไปกัน 4 คน มีเวลาเที่ยว 2 คืน 3 วัน (ไม่รวมคืนเดินทางไปและคืนเดินทางกลับ) เราวางแผนเที่ยวไว้แค่คืนแรกคือพักและเที่ยวที่เกาะพยาม ส่วนอีกวันเราอยากไปเกาะช้างแต่ไม่สามารถติดต่อที่พักได้ ขอไปลุ้นเอาข้างหน้า
สามารถติดตามการเดินทางของเราทริปอื่นๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/KeepGoingThailand/
การเดินทางไปเกาะพยาม
รถประจำทาง >>> รถทัวร์กรุงเทพฯ-ระนอง มีหลายบริษัท บขส โชคอนันต์ทัวร์ สมบัติทัวร์ เที่ยวละสี่ร้อยกว่าบาทไปลง บขส.ระนอง เดินออกมาต่อสองแถวไม้สีฟ้าไปสะพานปลา
รถส่วนตัว >>> ต้องบอกไว้ก่อนเราไม่บ่อยเลยที่เราเดินทางด้วยรถส่วนตัวจะอธิบายคร่าวๆ แล้วกันนะคะ เราใช้ Google Map ในการนำทางตั้งจุดหมายปลายทางว่า “ระนอง" ช่วงที่งงที่สุดคือออกจากกรุงเทพฯ ผ่านเส้นพระราม 2 คราวนี้ก็สบายขับยิงยาวผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพรชบุรี ช่วงนี้ก็เปิด Google Map เป็นช่วงๆ ป้ายบอกทางใช้ได้ดีช่วง ช่วงประจวบฯ ชุมพร ระนองทางบางจุดกำลังซ่อมแซมต้องขี่ด้วยความระมัดระวัง จอดแวะถามบ้างไม่กล้าคาดหวังกับเทคโนโลยี หนทางไม่ซับซ้อนค่ะอย่างที่บอกเพื่อนเราเพิ่งขับรถลงใต้ครั้งแรกยังมาได้สบายๆ ออกจากปทุมธานีสามทุ่มกว่า ถึงระนองตะวันขึ้นพอดี
ท่าเรือข้ามไปเกาะพยาม คือ ท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ
มีเรือให้เลือกหลายรูปแบบ
-Speed boat คนละ 350 บาท ใช้เวา 45 นาที
-Express boat คนละ 280 บาท เรือติดแอร์เพิ่งมาใหม่ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง
-Ferry boat 200 บาท เรือช้ามีวันละ 2 เที่ยว 09.00 น. และ 13.00 น.ใช้เวลาการเดินทาง 2 ชั่วโมงค่ะ เราเลือกไปเรือช้าของไต๋แขกมีที่จอดรถฟรี บนเรือมีฟรี wifi กว่าจะถึงตั้งสองชั่วโมงกลัวผู้โดยสารจะหิวมีกล้วยหอมลูกโตให้กินฟรีด้วยค่ะ สามารถเดินไปหยิบได้เลย
สองชั่วโมงหน่อยๆ ก็มาถึงเกาะพยาม เราก็พยามมากๆ เช่นกันในการขนของกินมาจากฝั่ง เบียร์หนึ่งถาด น้ำอัดลมมะนาวโซดา มาม่า ขนม และอาหารสดเพื่อมาปิ้งย่าง อยากประหยัดด้วยส่วนหนึ่ง และอยากทำอาหารปิ้งย่างตั้งวงเบาๆ
ลงจากเรือเดินเข้ามาจะเจอร้านเช่ามอเตอร์ไซด์เลือกได้เลยชอบแบบไหน เราเลือกแบบออโต้มา 2 คัน คันละ 250 บาทพร้อมน้ำมัน จากนั้นก็เข้าที่พักเลยค่ะ ซึ่งที่พักของเราในคืนนี้คือ “กวางปีปรีสอร์ท" อยู่หาดกวางปีปและเป็นที่พักเดียวบนหาดแห่งนี้ จึงค่อนข้างเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัว ทางเข้ายากลำบากมากเป็นทางลูกรังเล็กๆ ที่ดินเป็นร่องพอดีกับล้อรถมอเตอร์ไซด์ขึ้นเนินลงเนินมีครบคนที่ขี่รถไม่แข็งเราไม่แนะนำเลยค่ะ
เป็นทางเล็กๆ ประมาณนี้สลับกับทางลูกรัง
การเข้า Check-in ที่พักไม่มีอะไรยาก เดินเข้าไปพี่เจ้าของเห็นหน้าเพื่อนก็จำได้ (เพื่อนเราเป็นคนติดต่อที่พักผ่านทาง Facebook) ยื่นกุญแจห้องให้เลย ถ้าใครสนใจที่พักหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ Facebook กวางปีบรีสอร์ท "รีสอร์ทในอ้อมกอด ของธรรมชาติ"
ที่พักเราติดทะเลและเป็นส่วนตัวมาก แยกมาเป็นบ้านหลังเดียวถ้าจะเดินไปร้านอาหารของที่พักต้องออกแรงนิดนึง ห้องน้ำกว้างขวางเป็นแบบเปิดไม่มีหลังคาไม่ค่อยมิดชิดแต่อย่างที่บอกว่าบ้านหลังนี้แยกมาเป็นส่วนตัวเลยอาบน้ำได้อย่างสบายใจ ปลั๊กมีที่เดียวไว้เสียบพัดลมในห้องซึ่งมีตัวเดียว ความจริงห้องนี้นอนได้แค่ 2 คน แต่ขอเสริมที่นอนอีกสองที่โดยใช้เก้าอี้หน้าบ้านเป็นเตียงเสริมพวกเรานอนง่ายๆ อยู่แล้ว เพิ่มเงินไปอีก 500 บาทเป็น 2000 บาท มีไฟฟ้าช่วงบ่ายจนถึงเช้า (ขนาดเราตื่นเจ็ดโมงยังไม่ทันไฟเลยค่ะ) ต้องบอกก่อนว่าที่พักและร้านค้าบนเกาะส่วนใหญ่มีเวลาในการให้ใช้ไฟฟ้า ส่วนน้ำมีให้ใช้ตลอด น้ำแข็งที่นี่แพงมากค่ะเป็นราคาที่เราเข้าใจได้
เอาเตามาปิ้งย่างกันที่หน้าห้องเลย แจ้งทางที่พักให้เตรียมไว้ให้ ใช้วิชาลูกเสือจุดเตาสู้กับลมทะเล
แต่ต้องเก็บให้เรียบร้อยและไม่ทิ้งเศษอาหารลงทะเลเด็ดขาด!
จากห้องพักมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้แต่ข้อเสียคือแสงแดดสาดเข้ามาในห้องพัก อ่อ...แถวๆ ที่พักสามารถดำน้ำตื้นได้ด้วยนะคะ พี่เจ้าของบริการแบบเป็นกันเอง ช่วงที่ไปพี่เขาให้ลูกจ้างกลับบ้านอาจจะบริการไม่ทั่วถึง ของบางอย่างต้องเดินไปหยิบเองอันนี้เราไม่มีปัญหาเลยค่ะ ทำให้ได้คุยกับพี่เจ้าของด้วย อยากได้อะไรหยิบไปก่อนค่อยคิดเงินทีเดียวตอน Check out
พักผ่อนกันพอหายเหนื่อยจากการเดินทางแล้ว ตอนกลางคืนเราฝ่าหนทางอันยากลำบากออกไปที่ Hippy bar พี่เจ้าของที่พักบอกว่ามาเกาะพยามต้องมา Hippy Bar เป็นบาร์ที่ดีงามมากอารมณ์เหมือนหลุดเข้าไปในดินแดนโจรสลัดผีสิงดูลึกลับ ไฟสีแดงสีเขียวกับควันไฟที่จุดไล่ยุงมันให้ความรู้สึกแบบนั้น
ของทานเล่นไม่มีค่ะ ถ้าอยากกินพี่เขาบอกว่าเดี๋ยวจะไปปีนเก็บกาหยูมาคั่วให้รอได้ไหม ฮ่าๆ พี่ที่ร้านน่ารักและอารมณ์ดีมากๆ ให้พี่เขาแนะนำ Cocktail แบบเด็ดที่สุดให้ จัดมาสองแบบอย่างละสองแก้วจำชื่อไม่ได้แก้วละ 180 บาท แก้วใหญ่ดื่มแล้วเพลินเมาดีค่ะ จิบ Cocktail ฟังเพลงเรกเก้ คือดี...^^
บาร์ริมหาด...พื้นเป็นทรายมันดีตรงที่เวลาเราเดินเซเพราะเมา คนรอบข้างจะไม่รู้ 'ไม่ได้เมา พื้นแค่ไม่เท่ากัน'
ตื่นเช้ามาก็ได้ยินเสียงคลื่น เปิดประตูออกมาก็เจอทะเลอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ แต่ไม่สามารถทำได้เพราะวันนี้เรามีจุดหมายที่ต้องไปต่อ
หลังจาก Check out ที่กวางปีปรีสอร์ทเรียบร้อยแล้วก็ขี่รถมอเตอร์ไซด์เที่ยวต่างจุดต่างๆ ของเกาะไม่ได้ไปทุกที่เพราะเวลามีไม่มาก
หินทะลุอ่าวเขาควาย ที่นี่มีหินรูปทรงแปลกตาอยู่มากมายเป็นอีกจุดที่เหมาะแก่การชมพระอาทิตย์ตกค่ะ
The Blue Sky Resort เรามาผิดเวลา...ตอนนี้น้ำลงก็เลยดูไม่ค่อยเป็นมัลดีฟส์เมืองไทย สามารถเข้าไปนั่งทานอาหาร ขนม เครื่องดื่มได้ค่ะ
วัดเกาะพยาม ทางเข้าจะมีจุดให้ทำบุญ หลวงพี่ท่านบอกว่าร่มสามารถหยิบไปได้เพราะกว่าจะเดินไปถึงตัวโบสถ์แดดร้อนมาก แต่ไหว้พระเสร็จแล้วต้องเอามาคืนนะคะ ใต้โบสถ์มีปลาเล็กปลาน้อยอาศัยอยู่มากมาย สามารถมองเห็นปลาได้แบบไม่ต้องดำน้ำ วันที่เราไปเจอปลาสลิดลายกับปลาสิงโต
จากนั้นคืนรถมอเตอร์ไซด์และรอเรือจากบ้านโจรสลัด Green banana เกาะช้างมารับคืนที่สองพวกเราจะไปนอนที่นั่น
-ที่พักมีเยอะราคาตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน ถ้าใครอยากลุยเดี่ยวเรื่องราคาที่พักไม่น่าจะเป็นปัญหาค่ะ
-ที่พักส่วนใหญ่มีเวลาในการใช้ไฟฟ้า อาจจะไม่ได้มีไฟฟ้าให้ใช้ทั้งวัน แต่ที่พักที่มีไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมงก็มี
-หาดทรายที่นี่ไม่ขาว น้ำทะเลไม่ฟ้า แต่ใสและสะอาด
-ช่วงที่เหมาะแก่การมาท่องเที่ยวคือเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน ถ้ามานอกเหนือช่วงเวลาดังกล่าวแนะนำว่าให้โทรตรวจสอบกับที่พักก่อน เพราะหน้ามรสุมที่พักและร้านค้าบางแห่งไม่เปิดค่ะ
-ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีขนมกินร้านขายของชำมีอยู่ทั่วไปราคาแพงกว่าบนฝั่งไม่มาก แต่ไม่มีร้านค้าจำพวกร้านสะดวกซื้อ
-ถ้าใครต้องการหนีความวุ่นวายที่นี่ตอบโจทย์ชอบที่นี่อีกอย่างตรงที่คนขายตั๋วเรือ คนที่เกาะพยาม พี่ที่ Hippy bar พี่ที่เกาะช้าง ดูเหมือนจะรู้จักกันไปหมด ในความตั้งใจตอนแรกคือคืนที่สองเราจะไปค้างที่เกาะช้างบ้านโจรสลัด Green Banana แต่ไม่สามารถติดต่อได้เลย เราจะไม่มีโอกาสได้ไปที่นั่นได้เลยถ้าไม่พูดกับคนที่ขายตั๋วเรือของไต๋แขก เขาโทรติดต่อให้พร้อมกับให้เบอร์โทรติดต่อกับพี่เคเจ้าของบ้านโจรสลัด Green Banana เหมือนทุกอย่างเป็นใจให้พวกเราไป ที่พักมีว่างพอดีพร้อมเรือมารับเราที่เกาะพยามเพื่อไปเกาะช้าง ค่าเรือคนละ 200 บาทค่ะ