First time - First Riding Koh Payam ( First Review )
- 11/4/15 ขึ้นรถทัวร์สายใต้ค่ะ รถเราออกสามทุ่ม แน่นอน เราไปถึงก่อนเวลาอยู่แล้ว รอค่ะรอ ถึงเวลารถออกตรงเวลาเป๊ะ แต่ผู้โดยสารไม่ครบนะคะ เราก็คาดเดาไปรับข้างหน้าแน่อนแต่จุดไหนไม่รู้ เอาละขับไปจนถึงจุดที่รับคนขึ้นรถ ค่ะเพื่อนบ้านเราขึั้นมาเกือบครึ่งคันรถ (ชาวพม่า) ค่ะแน่อนจังหวัดระนองอยู่ติดกับพม่า เพื่อนบ้านเราก็กลับบ้านกันในช่วงวันหยุดยาว อ้าววววฝนตกซะงั้น อ่อเราไดนั่งแถวหลังสุดนะเพราะตอนจองเหลือ2ที่สุดท้ายแล้ว ที่นั่งแคบอ่ะแต่ก็ไม่เป็นไรระนองแค่นี้เองเนอะ ยังไม่ทันไร น้ำรั่วลงมาสิคะ เหอๆๆๆ ทำใจ ฝนหยุดก็โอเคละ ขอบอกนอนไม่หลับเลย...
- 12/4/15 ในที่สุดก็ถึงสถานีขนส่งระนองประมาณ 06.00 น. ลงจากรถตรงรี่ไปรับกระเป๋าเข้าห้องน้ำจัดระเบียบตัวเอง ตื่นๆๆๆ ถึงแล้ว หลังจากนั้นก็หารถไปท่าเรือค่ะ มีรถสองแถวไปท่าเรือค่ะ แต่เราไม่เห็นสักคันเลยไม่อยากรอไม่รู้จะมากี่โมง และแล้วก็ไปเจอรถกะบะถามพี่เขาไปท่าเรือเกาะพยามเปล่า เขาคิดคนละ 100 เอาละจัดไปส่งถึงท่าเรือ เราบอกพี่เขาให้ไปส่งที่ท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ แต่พอมาถึงอ่ะเป็นอีกท่าเรือคือท่าเรือ ของ แพไต๋แขก อ่อท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำอยู่ถัดไป แต่เราก็ได้ซื่อตั๋วเรือกับ แพไต๋แขกไปแล้ว เที่ยวละ 200 บาท เราซื้อไป-กลับ จ่ายแค่ 350 บาท เรือออกเวลา 09.30 น.(ทางท่าเรือแจกแผนที่บนเกาะให้ด้วยนะ ไม่หลงแล้วเรา)รออีกสิคะ มีสปี๊ดโบ้ทค่ะ คนละ 350 บาทต่อเที่ยว มีตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเลย แต่เราไม่ไปค่ะ (เซฟหน่อยก็ดีนะ) มีเวลาเหลือเกือบ2ชั่วงโมง หาอะไรใส่ท้อง ทำให้ตาสว่าง เดินไปกินข้าวต้มร้าน บลูมังกี้ สั่งคาปูชิโน แค่นี้ละทำเราตื่นละ ได้เวลาเดินกลับไปท่าเรือมีรถมารับไปขึ้นเรืออีกท่าคือท่าเรือสะพานปลา อ่าาาา เห็นเรือแล้วลำใหญ่ มีชูชีพ และทุกคนต้องใส่นะ เพื่อความปลอดภัย มีนายท่ามาตรวจความเรียบร้อยด้วย ใช้เวลาในการเดินทางประมาน 2 ชั่วโมง เอาละสิหลับแน่ๆ บนเรือก็มีขายน้ำดื่ม เบียร์ แต่ราคาสูงกว่าบนฝั่งแน่นอนอยู่แล้ว นั่งไปนั่งมา หลับบ้างตื่นบ้าง ชมวิว ถ่ายรูป ในที่สุดก็ถึง เกาะพยาม เห้ยๆๆๆ เรามาถึงจนได้สินะ อ่าที่นี่จะไปที่พักไงดี เดินไปหาเช่ามอไซค์ดีกว่า.....แต่ไม่มีเลย(เห้ยเราขับไม่เป็นนะ...แต่เคยขับนานมากแล้ว ขอเกียวร์ออโต้นะ) อดเช่าเลย ก็เลยตกลงกันว่า หามอไซค์ไปส่งที่พักแล้วค่อยว่ากันแถวนั้นมีให้เช่าอยู่แล้วละ (มอไซค์ที่นี่คือ TAXI) อ่อการเดินทางบนเกาะต้องมอไซค์เท่านั้น ใครขี่ไม่เป็นอยากเที่ยวรอบเกาะก็ต้องจ้างมอไซค์ค่ะ แต่ราคาคงแพง และแล้วเราก็ให้มอไซค์มาส่งที่พัก คิดคนละ 70 บาท นึกในใจแพงนะ แต่พอนั่งมาดูระยะทางอ่ะเอาไปเถอะค่ะ 70 และทางก็แคบด้วย ที่พักเราอยู่อ่าวใหญ่ไกลพอสมควรจากท่าเรือ เอาละถึงที่พักสักที Littel Hut บรรยากาศชิลมาก โดนใจใช่เลย อ่อที่พักเราไม่ติดชายหาด แต่เราเห็นทางเดินไปชาดหาดแล้วนะ (หูตาแพรวพราวสำรวจไปรอบๆ) ติดต่อขอรับกุญแจ ตรงรี่ไปที่ห้อง เราได้ห้องเบอร์ 2 ใกล้กับ ส่วนกลาง และห้องอาหาร ของรีสอร์ท ไม่รีรอไขกุญแจ.....ว้าวๆๆๆ ห้องเตียงใหญ่ มีมุ้ง มีพัดลม ปกติ ไหนๆๆๆๆ ห้องน้ำ หูย อาบน้ำท่ามกลางหมู่ดาว ฮ่าาาาา.... open air ค่ะ ชอบมากๆๆๆๆ เอาๆเก็บข้าวของ ไปหาอะไรกินกันเริ่มหิวแล้ว มองเวลานี่ก็เกือบบ่ายแล้ว จัดการสั่งอาหารจากทางรีสอร์ท ข้าวเปล่า 2 ต้มยำกุ้ง ผัดกระเพราปลาหมึก ขอแซ่บๆ เอาโค้กมาดื่มให้ชื่นใจก่อนแล้วกัน แล้วอาหารเราก็มา (ก้มหน้าก้มตากิน....อร่อยนะเนี่ย) อาหารรสชาติใช้ได้ และราคาก็ไม่แพงมากค่ะ อิ่มแล้ว เอาไงต่อดีละ นั่นไงทางลงหาด ไปๆๆๆ เลย ไปเดินเล่นสำรวจหาดกัน อ่อเราจะไปตามหา Lazy Hut ที่เราตั้งใจจะพักตั้งแต่แรก จากการดูตามแผนที่ อยู่อ่าวใหญ่นี้แหละ แล้วเราก็เริ่มเดินค่ะ เดินไป ชมวิวไป ถ่ายรูปตามรีสอร์ทต่างๆ เห็นฝรั่งมาเล่นน้ำกันบ้าง ช่วงนี้แดดเปรี้ยงเชียว กลัวที่ไหนแดด ดำอยู่แล้ว ฮ่าาาาาาา...เห้ยทำไมมันไกลจัง ยังไม่เจอ Lazy Hut เลยก้มดูแผนที่อีกที อ่ออีกนิดเดียว ร้อนค่ะเหนื่อยค่ะเดินบนทราย ถอดรองเท้า เอ้าาาาาๆๆๆๆ ถึงแล้ว.....เย้ น่าพักอะสมชื่อ แบบว่าอยากทิ้งตัวลงนอนที่เลย หิวน้ำอ่ะสั่งสิคะ แตงโมปั่น ชื่นใจ นั่งชิล มองทะเล มองฝรั่ง เพลินตาเพลินใจ เวลาผ่านไป ฝนตกปรอยๆ แล้วนันนี้จะเห็นพระอาทิตย์ลับขอบทะเลไหม( เขาบอกกันว่าอยากชมพระอาทิตย์ตกดินต้องมาชมที่อ่าวใหญ่ค่ะ) นั่นไงน้องเราหลับไปแล้ว ให้ชีพักซะหน่อย เราก็ยังชิลชมวิวไปเรื่อย เห้ยๆๆๆสะกิดน้อง โน่นน่ารักมาก ฝรั่งวัยรุ่นมากับแฟน น้องไหนๆๆๆ ไม่ทันแล้วเดินไปแล้ว แล้วเราก็ชวนกันเดินกลับไป ขากลับเริ่มมีผู้คนมากมายมาเล่นน้ำ ฝรั่งเล่นเซิร์ฟ เริ่มคึกคักสินะ ตาลายไปหมด แล้วก็ดินมาถึงแถว JJ RESORT ตรงนี้ผู้คนคึกคักมาก และฝรั่งก็เล่นเซิร์ฟกันเยอะ เราก็เลยตกลงกับน้องว่าหาร้านนั่งชิลไหม จัดเลยพี่ เราก็นั่งร้าน JJ SEAFOOD ซึ่งอยู่ด้านหน้าจอง JJ RESORT.....เปิดเมนูอันดับแรก กินไรเบียร์หรือเหล้า ฮ่าๆๆๆๆ แสงโสมค่ะ กับข้าว สั่งยำอย่างเดียวเลย ไหนๆๆๆๆอ่ะข้าว ไม่กิน นี่ละข้าว มันชิลจริงๆนะ รอดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ดูฝรั่งเล่นเซิร์ฟ ได้คุยกับพนักงานของร้าน พี่เขาบอกว่าปกติจะมีแต่ฝรั่งคนไทยน้อยมาก คนไทยเพิ่งเริ่มมาเที่ยวเมื่อ 2 ปีนี้เอง นั่นสินะมาครั้งแรกคนไทยเพียบเลย นั่งไปนั่งมา สามทุ่มแล้ว เหล้าหมดแล้ว กลับห้องกันเถอะ เราก็เดินกลับห้องทะลุออกทาง JJ RESOT ทางมืดนะ เรามีไฟฉายจากมือถือ สบายยยยย .....ถึงห้องแล้วอาบน้ำท่ามกลางแสงดาว แล้วก็นอน Zzzzzzzzzzzzzz
- 13/4/2015 วันนี้เราจะเช่ามอไซค์ขับจริงๆแล้วละ แต่ที่รีสอร์ทไม่มีว่างเลย คงต้องไปหาที่อื่นมีบ้างละ อาหารเช้าเราก็กินกับร้านอาหารของรีสอร์ท อิ่มแล้วก็เดินหา ร้านเช่ามอไซค์ เจอร้านป้า ป้าๆๆๆๆคะ มีเกียร์ออโต้ไหม หนูขับไม่แข็ง ป้า ขับได้นะ ได้สิป้า แค่ไม่ได้ขับนานแล้ว นานแล้วกี่ปี 5 ปีเปล่า...(ป้ามากกว่านั้น แต่ไม่ได้บอกนะ) ค่าเช่า 250 บาทต่อวัน ค่านำมัน 50 บาท/ขวด จัดไปค่ะ ลุย บิดเลยค่ะ (จริงๆก็ไม่มั่นใจเท่าไรนะ...แต่เราต้องทำได้สิ) ในที่สุดก็ขับได้ค่ะ ขับไปเรื่อยๆให้น้องมองป้ายมองทาง เราจะไป อ่าวกวางปีบ ก่อนเลย เจอแยกเอาละสิไปทางไหน เลี้ยวซ้ายยยย เห้ยยยยยยย ......หลุดโค้งลงพงหญ้า (ยังจะหัวเราะได้ ไม่เจ็บนะ กลัวรถเขาเป็นไรไปอย่างเดียว ) สรุปรถไม่เป็นไรเลย มีพี่ที่เป็นคนพื้นที่เขามาช่วย เอามอไซค์ขึ้นจากพงหญ้า นี่สินะ ที่บอกว่าขับเป็น ฮ่าาาาาา.... แต่เราก็ขับไปได้เรื่อยระวังมากกว่าเดิม ทางไปอ่าวกวางปีบแคบมาก และถนนไม่ค่อยดีเท่าไร แตาเราก๋มาถึงจนได้ อ่าวกวางปีบ เป็นอ่าวทีี่เงียบสงบมาก มีที่พักเพียวแห่งเดียว คือ กวางปีบ รีอสร์ท ส่วนตัวมากๆ ชายหาดเงียบสงบ อ่อที่นี่เหมาะแก่การดำน้ำดูปะการังน้ำตื่น เราทั้งสองคนทิ้งตัวลงนั่งอยู่ที่นี่สักพัก แล้วก็ขับลุยต่อ อ่าวเขาควาย ลงไปสำรวจ อ่าวเขาควาย เราเข้าตรง เดอะซัน รีสอร์ท ตรงนี้คนไทยเยอะ พูดถึงอารมณ์คนละแบบกับอ่าวใหญ่ แล้วแต่ใครจะชอบ สำหรับเราเฉยๆ จริงๆแล้วอ่าวเขาวควายเข้าได้อีกทาง แต่เรายังไม่ได้ไป ฝนเริ่มมาอีกแล้ว แต่เราก็ยังบิดมอไซค์ไปแถวท่าเรือ แวะไป ดู บลูสกาย รีสอร์ท และแล้วเราก็ติฝนอยู่ที่นั่น นั่งรอฝนหยุดสั่งเค้ก มากินซะเลย ถามว่า รีสอร์ทสวยไหม ก็สวยนะ อ้าวๆๆๆ ฝนหยุดแล้ว บิดไปอีกที่อ่าวแม่หม้ายไปชมวัดเกาะพยาม ไปไหว้พระซะหน่อย เริ่มหิวแล้ว อยากกินส้มตำ (มีร้านหนึ่งเราเล็งไว้ตอนมาถึงเกาะวันแรก) ร้านอยู่ทางไปอ่าวใหญ่ ไปกินส้มตำกันเถอะ จอดรถหาที่นั่งกันเลย คิวยาวแตาเราก็รอ กว่าจะได้กินเกือนหนึ่งชั่วโมง ขอบอกว่าอร่อย ทุกอย่าง (ร้านชื่อส้มตำแม่ไก่) ฝนตกอีกแล้วคราวนี้ลมแรงด้วย กินเสร็จฝนหยุดพอดี บิดมอไซค์กลับที่พัก นั่งพักสักครู่ แล้วค่อยไปต่อ ตกเย็นเราก็ไปที่เดิม JJ SEAFOOD แล้วก็สั่งเหมือนดิม วิวดี เพลินตา โอ้ยยยยยย.....ไม่อยากกลับกรุงเทพเลย คืนนี้นั่งแป๊บเดียวแล้วเราก็ย้ายมานั่งกินต่อที่ร้านอาหารของรีสอร์ที่เราพัก สั่งอาหารมากิน เริ่มหิว เหล้าหมด ก็เข้านอน ตามสูตร ฮ่าาาาา Zzzzzzzzzzzzzzzz
- 14/4/2015 อะไรเนี่ยวันสุดท้ายแล้วเหรอ ทำไมมันเร็วจังอ่าาาาา ยังไม่อยากกลับเลย ยังเที่ยวไม่ครบเลย ต้องคืนมอไซค์แล้วสินะ (เย้ๆขับมอไซค์เป็นแล้ว ล้มไปครั้งเดียว ทางโหด ถือว่าผ่านนะคิดเองอิอิ) ไปหาข้าวเช้ากิน บิดไปร้านเก๊่ยวเตี๋ยว ใกล้ร้านส้มตำแม่ไก่ จัดการคนละชาม ไปคืนมอไซค์เสร็จ ขอไปนั่งชิลริมหาดอีกครั้ง กลับมาอาบน้ำเตรียมตัวกลับ เรือขากลับออกบ่ายสามโมง ฝนตกอีกแล้วอ่ะ เหอๆ ให้ทางรีสอร์เรียกมอไซค์มารับไปส่งท่าเรือ แล้วเราก็ไปหาอะไรกินที่ท่าเรือ รอเวลาขึ้นเรือกลับ.......ได้เวลาแล้วสินะ อ้าวววว เรือออกแล้ว โห....ฝนมามืดเลย แล้วมันก็ตก เราก็อยู่กลางทะเลเลยนะ ตกอยู่สักพักใหญ่ แล้วเราก็มาถึงฝั่ง หารถไปบขส. มีรถมาจอดรอ มีไปบขส.ด้วยคนละ70บาท ขึ้นเลย เรามานั่งรอที่บขส.รถออก 20.00 น. .......ต้องกลับแล้ว เวลามันผ่านไปเร็วจริงๆ ครั้งเดียวคงไม่พอสำหรับเรา "เกาะพยาม " ( Time files when you're having fun )