อีกหนึ่งกิจกรรมที่เหล่านักท่องเที่ยวนิยมมาทำกันเมื่อมาที่จังหวัดกระบี่ นั่นก็คือ “การพายคายัค” ที่ที่เราจะแนะนำนั้น เป็นที่ที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกเลยทีเดียว นับได้ว่าเป็นการผจญภัยแบบหนึ่งที่จะทำให้คุณเห็นกระบี่ในมุมมองที่ต่างออก ไป ถ้าหากพร้อมที่จะไปออกกำลังให้เพลิดเพลินและสนุกไปกับเราแล้ว ไปกันที่อ่าวท่าเลน จังหวัดกระบี่กันเลย

อ่าวท่าเลน อ่าวนี้ถือได้ว่าเป็นสถานที่สำหรับการพายคายัคที่ดีที่สุดในโลกแห่ง หนึ่งเลยทีเดียว เพราะธรรมชาติและก็ความสวยงาม ที่มีทั้งภูเขาหินปูน ป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก และสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ เช่น ลิงแสม ปลา ปู ค้างคาว ที่สามารถมองเห็นได้อย่างใกล้ชิด ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้อ่าวท่าเลนเป็นสถานที่พายคายัคที่สวยงาม และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพายคายัคเพื่อการพักผ่อน ชมวิวทิวทัศน์ในวันหยุดท่องเที่ยวสบายๆ

เมื่อเราไปถึงบริเวณอ่าวท่าเลนกันแล้ว เราก็จะได้เห็นเรือคายัคไฟเบอร์สีสวยสดใส จอดวางเรียงรายอยู่บริเวณริมน้ำเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรือคายัคเหล่านี้มีไว้บริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ สนนราคาค่าบริการของการออกพายคายัคในแต่ละครั้งก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะเลือกพายกันแบบครึ่งวันหรือเต็มวัน เพราะค่าบริการนั้นจะเริ่มกันตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับโปรแกรมของแต่ละบริษัทนำเที่ยว ว่าจะมีบริการเสริมอะไรเพิ่มเติมให้กับนักท่องเที่ยวหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับการต่อรองกันในแต่ละครั้ง แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะรวมบริการรถรับส่งถึงที่พักเอาไว้ด้วย ซึ่งสะดวกมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ขับรถส่วนตัวมา

และเมื่อเราพร้อมจะออกแรงกันแล้ว เราก็ต้องเรียนรู้วิธีการจับไม้พายและการพายคายัคกันซะก่อน ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่นักท่องเที่ยวทุกคนควรจะทำก่อนจะออกพื้นที่ จริง และเราควรจะทำความคุ้นเคยกับไม้พายโดยการทดลองพายในอากาศให้คล่องเสียก่อน ด้วย เพราะระยะทางที่เราจะพายในอ่าวท่าเลนกันนั้นมีระยะทางกว่า 7 กิโลเมตรในรอบใหญ่ และกว่า 4 กิโลเมตรในรอบเล็ก ซึ่งเป็นระยะทางไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นการวอร์มร่างกายให้พร้อมจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากอีกอย่างหนึ่ง ที่เราควรจะต้องทำก่อนออกไปเจอของจริง เมื่อคนพร้อม อุปกรณ์พร้อมเราก็ลงเรือคายัค จับไม้พายให้มั่นแล้วลงมือพายกันได้เลย

เราเริ่มเส้นทางของการพายคายัคด้วยเส้นทางของป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ ของป่าโกงกาง และระบบนิเวศน์ที่อยู่กันอย่างพึ่งอาศัย เกื้อกูลกันอย่างน่าทึ่ง หลังจากที่เราพายคายัคไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยวไปได้ซักระยะหนึ่ง เราก็สังเกตุเห็นว่าน้ำในบริเวณนี้ไม่ได้ใสเหมือนทะเลด้านนอก และยังมีคราบคล้ายคราบน้ำมันลอยอยู่บนผิวน้ำ ซึ่งพี่ไกด์ก็ได้อธิบายให้เราได้ทราบว่า คราบเหล่านี้เป็นของเสียที่เกิดจากการที่ต้นโกงกางเปลี่ยนน้ำเค็มให้กลาย เป็นน้ำจืด ดังนั้นคราบที่เห็นเหล่านี้จึงเป็นคราบของเกลือที่ถูกรากของต้นโกงกางสกัด ออกมานั้นเอง ด้วยคุณสมบัติพิเศษข้อนี้เองที่ทำให้ต้นโกงกางสามารถอาศัยอยู่ในน้ำเค็มได้ ซึ่งหลังจากได้ฟังคำอธิบายของพี่ไกด์แล้ว ก็ทำให้เราได้รับรู้ถึงความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตที่ต้องต่อสู้ ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดไม่ต่างจากคนเราซักเท่าไหร่นัก และทำให้เรารู้สึกรักและหวงแหนธรรมชาติมากขึ้นไปอีก

เมื่อบรรยากาศของสองข้างทางเริ่มเปลี่ยนจากป่าโกงกางเป็นภูเขาหินปูน ก็ทำให้เรารู้ว่า เราเริ่มเข้าสู่แคนยอนกันแล้ว ซึ่ง “แคนยอน” นั้นจะหมายถึงลักษณะภูมิประเทศที่เป็นหน้าผาสูงทั้งสองด้าน และมีสายน้ำพาดผ่านตรงกลาง ซึ่งเมื่อเราเข้ามาถึงบริเวณนี้ ก็จะเหมือนได้พายเรืออยู่ระหว่างหุบเขา และด้วยลักษณะของภูเขาหินปูนที่ตั้งเรียงกันอยู่อย่างสลับซับซ้อน ทำให้ทะเลในบริเวณนี้เหมือนถูกแบ่งเป็นห้องใหญ่ๆ หลายห้องซึ่งเรียกกันว่า “ลากูน” ซึ่งลากูนเหล่านี้เปรียบได้กับเป็นที่หลบภัยของชาวเรือ เพราะแนวผาหินปูนจะเป็นตัวกำบังคลื่นลมจากภายนอก รวมถึงภัยซึนามิเมื่อหลายปีก่อนด้วย ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่ยังอยู่ในบริเวณนี้ปลอดภัยจากเหตุการณ์ครั้งนั้น

หลังจากออกแรงพายคายัคด้วยเวลากว่า 4 ชั่วโมง ความตื้นเต้นของเส้นทางการผจญภัยก็ใกล้จะจบลง และความเมื่อยล้าของแขนทั้งสองข้างก็เริ่มจะเข้ามาแทนที่ แต่เพราะความสวยงามของธรรมชาติที่อ่าวท่าเลนนั้นทำให้เราหายเหนื่อยเป็นปลิด ทิ้ง ซึ่งถ้าหากใครยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปลองพายคายัคชมทิวทัศน์ และความงามของธรรมชาติที่อ่าวท่าเลนแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้รีบบรรจุโปรแกรมการพายคายัคนี้ไว้ในทริปการท่องเที่ยวครั้งต่อ ไปของคุณ เพราะคุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก ที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกต่างถวิลหาและพยายามหาโอกาสมาสัมผัสด้วยตัวเอง ซักครั้งในชีวิต แล้วพบกันที่อ่าวท่าเลนนะครับ....