ทุ่งดอกกระเจียว อันกว้างใหญ่ พร้อมด้วยเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเรียบขอบผา ถือเป็นไฮไลต์ที่โดดเด่นของ อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ และเนื่องจากมีอาณาเขตที่ติดกันกับ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อีกหนึ่งจุดชมดอกกระเจียวที่สวยงามขึ้นชื่อ ทั้งสองอุทยานฯ จึงมักจะถูกเปรียบเทียบความสวยงามกันอยู่เสมอ แต่ส่วนตัวเรามองว่าแต่ละจุดมีความสวยงาม และเสน่ห์ที่แตกต่างกันพอสมควร
ในส่วนของ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม มีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มีจุดท่องเที่ยวให้แวะหลากหลายที่ อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบครัน เช่น รถราง, ร้านค้า, ห้องน้ำ, ศาลานั่งพัก อีกทั้งระยะทางเดินเท้าในเส้นทางศึกษาธรรมชาติก็เป็นระยะทางสั้น ๆ ทำให้ที่นี่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัว มีเด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุมาด้วย แต่สำหรับที่ อุทยานแห่งชาติไทรทอง จะเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ โดยมีลักษณะเป็นทางดินไป-กลับเรียบขอบผา มีจุดแวะชมวิวตลอดทาง ไล่มาตั้งแต่ ผาพ่อเมือง, ผาหำหด, ทุ่งบัวสวรรค์ 3-4-5 (ทุ่งดอกกระเจียว), ผาอาทิตย์อัสดง, ผาสวนสวรรค์, ทุ่งบัวสวรรค์ 2 และ 1 ซึ่งมีระยะทางรวมกว่า 2.5 กิโลเมตร นอกจากนี้ที่นี่ยังมีจุดจอดรถ และลานกางเต้นท์ไว้ให้บริการกับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
จุดที่เป็นทุ่งดอกกระเจียว ทางอุทยานแห่งชาติไทรทองจะเรียกว่า ทุ่งบัวสวรรค์ ซึ่งมีด้วยกันถึง 5 จุด แต่จุดที่เป็นไฮไลต์ประทับใจนักท่องเที่ยวมากที่สุดจะอยู่ที่บริเวณทุ่งบัวสวรรค์ 1 ด้วยทิวทัศน์ที่โล่งกว้างละลานตาไปด้วยช่อดอกกระเจียวสีชมพูเต็มพื้นที่ เนินเขาตรงจุดนี้สามารถมองเห็นทะเลหมอกเบื้องล่างได้อย่างตื่นตาตื่นใจ หากเดินมาจากฝั่งผาพ่อเมืองบอกได้เลยครับว่า เห็นภาพนี้แล้วต้องลืมเหนื่อยกันอย่างแน่นอน
ดอกกระเจียวที่บานในท้องทุ่งของอุทยานแห่งชาติไทรทอง เป็นกระเจียวบัวที่เรียกว่า “ปทุมมา” บางชุมชนเรียกว่า “ขมิ้นโคก” หรือ “บัวสวรรค์” เช่นเดียวกับที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ซึ่งจริงๆ แล้วดอกของมันจะแทรกอยู่ตามกลีบ ส่วนที่เราเห็นเป็นสีชมพูนั้นนักวิชาการพฤกษศาสตร์ระบุว่ามันคือ “ใบประดับ” ซึ่งที่นี่ถือว่าเป็นพื้นที่ที่สามารถพบเห็นได้มากที่สุดในประเทศไทย โดยในช่วงเดือนมิถุนายนจะเริ่มเบ่งบานทีละน้อยจนกลายเป็นทะเลดอกไม้สีชมพูสะพรั่งประมาณช่วงเดือนกรกฎาคมไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคม ความสวยงามในยามที่ดอกกระเจียวพร้อมใจกันเบ่งบานอวดโฉม ทำให้หลายคนต่างยกย่องดอกกระเจียวในช่วงเวลานี้ว่าเป็น “ราชินีของป่าฝน” และหลังจากนั้นประมาณ 1 เดือนก็จะถึงระยะพักตัวในช่วงฤดูหนาวถึงฤดูร้อน กระเจียวก็จะทิ้งดอก และใบ เหลือแต่เหง้าในดิน รอยคอยให้ฤดูกาลแห่งความชุ่มฉ่ำหวนคืนมาอีกครั้ง
บริเวณทุ่งกว้างแห่งนี้ นักท่องเที่ยวยังจะได้พบเห็น "ต้นเหียง” รูปทรงคดงอแปลกตากระจายอยู่ทั่วบริเวณ เป็นที่มาของฉายามิตรแท้แห่งทุ่งดอกกระเจียว เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายแม้จะเจอกับไฟป่าก็ตาม
ไหนๆ ในช่วงนี้ก็เป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงามแล้ว ก็ถือโอกาสหนีฝนในเมืองมาเจอฝนเย็นๆ ที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิกันดูนะครับ รับรองว่าจะต้องประทับใจไปกับความงดงามตระกาลตาของสิ่งที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้น ยิ่งถ้าใครยังไม่เคยมีโอกาสมาเยี่ยมเยือนทุ่งดอกกระเจียวด้วยแล้ว คงต้องบอกว่าให้รีบมาเที่ยวชมความสวยงามนี้ด้วยตาตัวเองซักครั้ง ถ้าพลาดโอกาสในปีนี้คงต้องตั้งตารออีกทีปีหน้ากันเลย