ฝนตกเบาๆแทบทั้งคืน เราตื่นแต่เช้าวันนี้กินข้าวตอน 7โมง แล้วออกเลยเพราะจะไปดูทะเลหมอกที่ดอยขุนคำ
เช้านี้ฝนไม่ตกแล้ว ช่วงแรกขี่ออกมาตามในคลืปหมอกหนาจัดมาดขาวไปหมดคิดในใจสงสัยจะฟ้าปิดหรือปาวนะเช้านี้ พอขี่มาได้ ซัก10โล พ้นหมอก ฟ้าใสแจ่ว แสงแดดเริ่มมา
แล้วก็มาเจอหมอกตรงโค้งนี้ขอจอดถ่ายก่อน
ว้าวๆอีกแล้ว
ขี่มาอีกสักพักก็จะเจอจุดชมวิวดอยขุนคำ ดอยขุนคำนี้ถ้าคนมาจากทางหลักแม่ลาน้อยก็จะผ่านอยู่แล้วครับขวามือ ส่วนผมวิ่งย้อนออกไปก็จะอยู่ซ้ายมือ
ตรงนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆ
เหมือนยืนอยู่บนขอบฟ้า
เดี่ยวเราจะไปที่ยอดดอยขุนคำ น่าลูกในรุปล่างนี้ลงไปตามทางถนนจะเห็นเลยเป็นเขา
ที่จริงตรงนี้แต่ก่อนขี่รถขึ้นไปได้ครับแต่ตอนนี้ชาวบ้านปลูกข้าวโพดกับถั่วเต็มพื้นที่ก็เลยงดขี่ขึ้นไป จอดไว้ข้างๆแล้วปีนข้ามไม้กั้นเดินขึ้นไปได้ครับถามชาวบ้านแล้ว
อยู่ติดถนนเลยแต่เดินชันเอาเรื่องพอได้หอบแฮกๆ ประมาณ 300 เมตรเดินแปบเดียวก็ถึง
ถนนที่เราขี่มาจากจุดชมวิว
เดินถึงข้างบนหมอกเริ่มฟุ้งไปแล้วครับไม่เป็นทะเลหมอกแบบที่เห็นไกลๆแล้ว
แต่ก็สวยงามมากครับ
กว้างใหญ่จริงๆธรรมชาติ
ลงมาถึงรถแล้วครับเดี่ยวไปต่อ
ขับออกมาเรื่อยๆเจออะไรสวยก็จอดถ่าย
แล้วก็ออกถึงถนนหลัก108 แวะไปกินกาแฟที่เฮินไตรีสอร์ท ร้านประจำเลยมาสองครั้งแล้วต้องแวะกินที่นี้รสชาติอร่อยแต่ยังไม่ได้มานอนที่นี้เลยผ่านอย่างเดียวพี่เจ้าของร้านคุยดีมากให้คำแนะนำเส้นทางที่เที่ยวอย่างดีครับและให้เราชาทแบตมือถือกับกล้องอีกด้วยเพราะเมื่อคืนไฟดับไมไ่ด้ชาร์จอะไรเลย
จากนั้นก็ไปต่ออุทยานแม่โถ ตอนนี้วิ่งเส้นหลักแล้วแม่เสรียง-ฮอดแล้วก็มาถึงทางเข้าตรงบ้านกองลอย กำลังจะเลี้ยวเข้าพอดี เพื่อนที่ผมไปจอดรถด้วยขี้เจ้า เวอซีส650จากเชียงใหม่ ขี่มาถึงพร้อมกันแบบเป๊ะเวอร์ กำลังจอดไม่ทันดับเครื่องว่าจะยกโทรศัพท์ดูเพราะพึ่งแชทจากร้านกาแฟว่า กำลังออกจะพิมดูว่าเพื่อนเลยเข้าไปหรือยัง 555
ก็เลยขี่มาหาอะไรกินก่อนเข้า เห็มุมหมู๋บ้านนี้สวยขอถ่ายหน่อย
เติมพลังกันด้วย ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระกองลอย รสชาติเด็ดดวง พริกเผ็ดถึงทรวงครับใส่เบาๆ อร่อยๆครับแวะกินกันได้ริมถนนหลักเลย
จากถนนเลี้ยวเข้ามาอีก16โลก็ถึงอุทยานครับ ระหว่างเส้นนี้ก็เป็นถนนอีกเส้นที่สวยมากๆ
ให้เรียกว่าถนนลอยฟ้าอีกเส้นก็ได้นะครับเส้นนี้สวยจริง
วันนี้เรานัดไกด์ท้องถิิ่น พี่สุวรรณ เบอร์ติดต่อ 0931709631 สุดยอดไกด์ เดี่ยวจะเล่าว่าสุดยอดยังไง นัดแกไว โทรปุ้บไม่ถึงนาทีแกก็ขี่เวฟมาหา แกบอกมารอตั้งแต่ 10โมงแล้วว
แผนแรกเราจะเอาของไปลงที่กางเตนท์ในอุทยานก่อน ตอนแรกตามแผนว่าจะไปนอนข้างบนดอย360 พี่สุวรรณเห็นเวอซิสแล้วกลัวว่าจะไม่ไหว ก็เลยเปลี่ยนแผนมานอนที่ในอุทยาน
พี่สุวรรณมีให้เราหลายแผนมาก อย่างวันนี้ เขาว่าจะให้เลือกเที่ยวในอุทยานก่อนแล้วขึ้นดอย360พรุ่งนี้ แล้วก็น้ำตก หรือจะขึ้นวันนี้พรุ่งนี้ขึ้นอีกก็ได้
แต่วันนี้เราดูอากาศและฟ้าใสไร้ฝนต่างกับเมื่อวานลิบรับแดดอออก เราเลยตัดสินใจ ขึ้นวันนี้แหละ ดีกว่าลุ้นตอนเช้าเผื่อฟ้าปิด แล้วเดี่ยวพรุ่งนี้ดูเหตุการณ์อีกทีว่าจะขึ้นอีกไหม
ก็เลยขี่เข้ามาในอุทยานแค่ทางเข้าประมาณ โลหน่อยๆ เวอซิส650ก็แทบแย่แล้วครับ 55รถเพื่อนหนักไม่ค่อยได้ขี่ทางลุยด้วย ดีแล้วที่จอดไว้ที่นี้
มาถึงต้องโอ้วมันสวยมาก ไม่ได้ดูว่าที่กางเตนท์จะวิวแจ่มแบบนี้
เด่ี่ยวค่อยมากางเตนท์เอาของลงก่อนให้รถเบาๆแล้วไปขึ้นดอย 360 กัน
เพื่อนทิ้งเวอซีสไว้มาซ้อนเวฟพี่สุวรรณไปแทน
เส้นทางลุยจากตัวโครงการหลวงไปดอย360 ประมาณ 7 โล เป็นทางลุย ไม่ได้โหดมาก แต่ก็มีเนินชันเอียง เอาเรื่องอยู่ถ้ารถเล็กๆไม่มีปัญหามาได้หมดครับ แต่ถ้ารถบิ็กไบค์ เอาเป็นทรงทัวริ่งที่มีประสบการณ์ลุยๆบ้างแล้วมาได้สบายครับ มียากแค่เนินเดียวครับ ส่วนรถกระบะ ขับ4มาได้ครับ แต่จริงดอย360ยังไงก็ต้องจ้างไกด์ครับเพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าคนเคยมารู้ทางแล้วรอบหน้าอยากจะมาเองพี่เขาก็บอกว่าได้ไม่มีปัญหาครับ
ช่วงแรกเพื่อนไปนั้งวิบากอีกคัน แต่พอเจอเนินชันๆรถมันสูงเสียวไปหน่อยเลยย้ายไปนั้งเวฟพี่สุวรรณแทนครับ
เนินนี้แหละที่ว่ายากสุดเพราะเป็นดินลื่นๆ เอียงด้วย ยังดีฝนไม่ตกถ้าฝนตกบันเทิงแน่ ส่วนวิบากขึ้นได้สบาย
จริงๆแค่ขึ้นมาตรงนี้ก็สวยแล้วทุ่งสะวันน่าแต่เดี่ยวค่อยมาถ่ายรูปขากลับไปต่อก่อนครับ
ไกดืเรานำไปนู้นเลยชิวเลยเวฟ
เส้นทางต่อจากนี้ก็เป็นทางวิบากหินลอยทางเนินชันไม่ค่อยมีแล้วครับ ไปเรื่อยสบายๆไม่มีอะไรครับ
เจอต้นไม้ล้มนิดหน่อย
เนื่องจากเป็นรถวิบากพี่เขาเลยพาขี่มาถึงสุดทางเลยครับ ปกติจะต้องจอดไว้ที่ลานกางเตนท์ของดอยเราเดินเข้ามาเพราะทางแคบแต่รถเรามาได้เลยไม่ต้องเดินเยอะ
สุดทางรถก็เดินเท้าต่อ คราวนี้ก็ขึ้นเนินยาวๆๆ หอบแดกอยู่เหมือนกันคัรบไม่ได้วอมเลย มาถึงก็เนินตรงเด่
อันนี้คือหินแต่แสงสะท้อนอย่างกับเพชรครับ
พี่สุวรรณบอกเราเป็นกรุ็บแรกเลยหลังจากหมดหน้าหนาวครับพี่เขาไม่ได้ขึ้นมาหลายเดือนละ ที่นี้คนไม่ค่อยมาเท่าไหร่ยังไม่ค่อยดังคัรบ อย่างที่ผมบอกแตกแรกว่าผมก็พึ่งเคยได้ยินเห็นชื่ออุทยานใน mab ตอนดูเส้นทางบ้านห้วยห้อม แต่ที่จริงเขาก็มีนานแล้วครับดอยนี้
ระหว่างทางพี่สุวรรณแกก็จะชี้นุ้นนี้ให้ดูและอธิบายเยอะมากครับ
เดินกันจนลิ้นห้อย
ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็มาถึงครับ ประมาณ น่าจะโลกว่าๆ
ด้านบนเป็นพื้นที่ไม่กว้างมาก เป็นหน้าผาโดยรอบครับ สวยแค่ไหนไปดูกันเลย
สดชื่นน ลมเย็นมาก
นอนพักเหนื่อย
ลืมบอกที่นี้มีทากด้วยระวังให้ดี แต่ฟางกับเพื่อนผมเจอคนละตัวสองตัว แต่ผมรอดครับ
กว้างไกลสุดสายตา ยามฟ้าเปิดจัดๆจะมองเห็นดอยอินทนนท์ด้วยครับ
เช็คอินท่าคู่หน่อยมาถึงแล้วดอย360
ตรงที่เพื่อนไปยืนคนเดียวนี้เป็นหน้าผาครับ น่ากลัวมากผมไม่กล้าลงไป เป็นผาเลยถ้าลื่นตกนี้ไม่รู้จะตามหาที่ไหน555
ซูมลงไปดูข้างล่าง
เราอยู่กันนานพอสมควรนานจนจาดแดดแรงๆกลายเป็นหมอกพัดปะทะเข้ามา
เหมือนจะมีฝนเราเลยลงดีกว่า ขาลงแปบเดียวครับ
แล้วก็ออกมาถึงตรงนี้จะเป็นจุดที่จะกางเตนท์สำหรับคนที่จะมากางบนนี้ครับ เป็นลานกว้างๆมีวิวให้ดู แต่ดูแล้วเราคิดถูกแล้วครับที่กางที่อุทยาน วิวตรงอุทยานสวยแจ่มกว่าอีกครับผมว่า
พี่สุวรรณขอลองคร่อมหน่อยบอกว่าชอบมากให้ลองขี่ชอบสุดๆครับ กำลังทำเรื่องขออนุมัติจากเมียซื้อ CRF มือสองซักคันครับ ไม่รู้ป่านนี้แกอาจจะขี่ CRF แล้วก็ได้ใครไปเจอแกก็เอามาบอกด้วยครับ555
ลงมาถึงทุ่งสะวันนาจอดถ่ายรูปหน่อย
วิวมันสวยงามมากๆครับ
ดูรูปไปยาวๆเลย
แอคหน่อยย
ตะเบ๊ะยกแก๊ง
รุ่งกินน้ำ
ป่ะลงเนินที่ว่ายากสุดกัน
ทำใจแปบเป็นคนกลัวความสูงมากครับ เวลาดันเนินชันแค่ไหนก็ไม่กลัวเพราะมองขึ้นบไม่เคยกลัวเลยบิดสู้ขึ้นได้ตลอด แต่เนินเดียวกันพอเป็นขาลง ทุกครั้งเลย มันเสียวมาก555 การขี่วิบากมันช่วยปลอดล็อคความกลัวได้ระดับนึงเลยนะ นี่ผมหายกลัวขึ้นเยอะตั้งแต่ขี่วิบากครับ แต่ก็ยังกลัวอยู่อิอิ
ดูในรุปเหมือนไม่ชัน แต่มันก็ชันเอาเรื่องนะครับ
โอ้ยย ทั้งสวยทั้งเสียว
ลงมาเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเข้าที่พัก พี่สุวรรณภูมิใจนำเสนอพาไปดูบ้านแกครับ ไม่ใช่รายการตีท้ายครัวเปิดบ้านดารานะ แต่แกจะพาเราไปดู พืชผักผลผลิตต่างๆของแก ที่บ้านพี่สุวรรณ มีแทบทุกอย่าง เลี้ยงไก่ก็มี
ไก่ไข่ พาไปดูตอนบ่ม ตอนมันฟัก
พอมันโตระดับอนุบาลก็แยกมาอีกที่นึง
หรือตะเป็นการเลี้ยงหมูหลุมที่กลิ้นไม่เหม็นแบบหมูที่เราเคยเห็นครับ
และพืชผักต่างๆ บ้านแกปลูกหมด เหมือนในโครงการหลวง และเป็นผักปลอดสารพิษ ที่ส่งออกให้กับ Sizzler เลยเชียวนะ และพี่สุวรรณก็เลยเก็บผักมาเป็นกระสอบ กระสอบจริงๆครับเยอะมากเอาไปให้เรากินคืนนี้
ที่เห็นทั้งหมดนี้เป็นของแกทำกะเมียแกทั้งหมดเลยครับ โอ้วไม่ธรรมดาจริงๆพอรู้แบบนี้ รถกระบะ 3 คัน
นี้พี่เขาแค่ทำงานที่บ้านก็เหนื่อยแล้วแถมรายได้ยังอยู่สบายๆเลย จะมาเป็นไกด์อีกทำไม พอถามแก ก็บอกว่าเป็นสิ่งที่เขารัก และมันทำให้คนได้รู้จักที่แม่โถมากขึ้นด้วย แกเลยชอบเป็นไกด์ อย่างวันนี้พี่สุวรรณบอกแกรีบทำงานที่บ้านให้เสร็จ เพื่อจะไปรอพวกเรามาครับ 555 ประทับใจจริงๆ
อันนี้วิวจากบ้านเขาเลยนะ วิวงามไหมละ
ชมบ้านพี่สุวรณเสร็จก็แวะร้านหมู จำไมไ่ด้ว่ากี่โล แต่น่าจะ2โลกว่า แล้วก็ซื้อของกินเข้าไปครับ
มาที่จุดกางเตนท์ วันนี้พวกเราเหมาอุทยานกันอีกแล้ว วิวงามมาก ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยวันนี้ พี่เขาว่าส่วนใหญ่จะมีแต่หน้าหนาวที่คนมาเที่ยวกันครับ
จัดการเตรียมทำอาารเย็น
อีกหนึ่งตำแหน่งของพี่สุวรรณคือเป็นพ่อครัว แกเล่าให้ฟังอีกว่าแกชอบทำอาหารแกอยากเป็นเชฟครับ แกเลยรับหน้าที่หมักหมูให้เรากิน จริงๆแกอยากทำหลายเมนูให้กินนะแต่เราเอาง่ายๆแกจะได้ไม่เหนื่อย ชาบูปกติแล้วก็ย่างหมูแค่นี้แหละ
พอหมดแสงเราก็กินกันดื่มด่ำกับค่ำคืนแสนพิเศษ มีเจ้าหน้าที่ขี่รถเข้ามาตรวจเช็คตามปกติ เราก็เชิญพี่เขามานั้งกินกับเรา เปิดเพลงฟังกัน พี่สุวรรณบอกแกรู้จักเจ้าหน้าที่ทุกคน คืนนั้นนี้ความรู้สึกเหมือนพี่สุวรรณมาเป็นแขกรับเชิญ แกมีเรื่องเล่าเรื่องคุยเยอะมากๆ แรกเปลี่ยนคุยกัน ที่สำคัญพี่เขาชอบบอยสเก๊าท์มาก โดยเฉพาะเพลง อย่าจากฉันไป ไม่เชื่อใครไปลองถามดูได้เลย วันนนั้นขอเปิดอยู่ 5 รอบ 555 คุยกันมันอยู่จน 5 ทุ่มกว่าจะได้นอนกันครับ
หลังจากที่ตอนกลางวันฟ้าใส วันนี้เลยว่าจะถ่ายดาว รอเวลาช่วงที่ช้างขึ้น สักพัก เห็นชัดเจนเลย ตั้งกล้องถ่ายได้ 3 ใบกำลังหามุมเหมาะ สรุปได้รูปนี้ดีสุดใบเดียว ไม่ถึง 10 นาที ฟ้าปิดเมฆบัง อดเลยยังไม่ทันได้หามุมสวยๆ เลยได้แค่นี้แล้วเมฆก็ปิดตลอด อดถ่ายเลยคืนนั้น
คืนนั้นนอนหลับสบายมากลมเย็นกำลังดี ฝนเหมือนจะตกแต่ไม่ตกครับ
เช้าวันนี้เมฆหมอกหนาเหมือนเมฆฝนอากาศแบบนี้บนดอย360ฟ้าปิดแน่ๆ คิดถูกมากๆที่ขึ้นไปแต่เมื่อวาน วันนี้เราจะไม่ขึ้นแล้วอากาศแบบนี้
ถ่ายรูปกับเตนท์หน่อยวิวสวยๆ
มื้อเช้าวันนี้เปลี่ยนเป็นโจ๊กบ้าง
ทำเป็นหวานฟันก็ยังไม่แปรงง
มีหมูกินไม่หมด มาอุ่นราดน้ำจิ้มห่อด้วยผักอร่อยมาก
ดูชิ้นผักสวยมากและกรอบสุดๆ ปกติผมจะไม่ค่อยกินผัก แต่วันนั้นเป้นวันที่ผมกินผักเยอะที่สุดเลย กินผักไปเยอะมาก เรากินผักกันจนเกือบหมดที่เอามาครับ
เอากินข้าวเช้าแล้ว ก็เก็บของเตรียมกลับ ขอถ่ายรูปคู่พี่สวรรณหน่อย แต่ยังไม่จบยังมีอีกจุดที่พี่เขาจะพาไปที่ น้ำตกแม่แอบ
อ้อลืมบอกราคาที่ตกลงกันสำหรับเราขี่มอไซด์ไปเองพี่เขาขอ 1000 บาท ที่จริงต่อได้พี่เขาถามแต่แรกเลยว่าไหวหรือป่าวสะดวกไหม แต่เราหารคนละ250เองเลยไม่ต่อครับ ได้กินผักแบบนี้คุ้มละ555 พี่เขาดูแลดีตลอดทริปคอนเฟิมร์ครับประทับใจแน่นอน ส่วนถ้าใครไม่มีรถพี่เขาก็มีกระบะ 4WD พาขึ้นไปราคาก็ลองโทรไปคุยสอบได้เลยครับ พี่สุวรรณ 0931709631
หลังจากขี่ออกอุทยานมาหน่อยฝนก็ตกพรำๆครับ แหะมถ้าขี่ขึ้นเช้านี้บันเทิงแน่นอน บันเทิงไม่ว่ากลัวฟ้าจะปิด เป็นแผนที่ลงตัวมากครับทริปนี้
น้ำตกแม่แอบเราต้องขับย้อนเข้าไปประมาณ 8 โลได้ครับใกล้ๆ เจอหมู่บ้าน ทางมันจะเริ่มเละเลยจอดเวอซิสไว้ก่อนครับ
ขับเช้ามาจาหมู่บ้านอีกโลกว่าก็ถึงจอดรถ เดินเท้าเข้าไปอีก 15นาทีได้ครับ
เส้นทางป่ารถเลยแหละ ถ้าไม่มีไกด์ไม่รู้จะเดินถูกไหม
เดินผ่านน้ำตัดไปมาสามสี่รอบครับ
ไม่ไกลเท่าไหร่เราก็มาถึงครับ น้ำตกแม่แอบบ
เธอแอบอยู่ในป่าจริงๆ
สูงใหญ่ไม่เบาเลยครับเทียบจากตัวคนแล้ว
น่าเสียดายตอนนั้นฝนตกครับพรำๆจนเกือบแรง กล้องเราจะเปียกก็เลยอยู่ถ่ายได้แปบเดียว
ละอองน้ำแรงจนกล้องเปียกเยอะเลย ยังดีที่ D7200 มีซีลกันน้ำครับทำให้ลุยฝนแบบนี้ได้ดีระดับนึง
ถ่ายเสร็จแล้วก็เดินกลับครับ
ระหว่างทางออกจากหมู่บ้าน
รูปสุดท้ายที่แม่โถบอกลาพี่สุวรรณและแม่โถมีโอกาศจะกลับมาอีกแน่ชอบมากๆครับที่นี้ สวยดีจริงๆ ข้างหลังนั้นฝนกำลังตกอยู่นะรูปนี้
ออกจากอุทยานมาถึงถนน 108 ฝนหยุดแล้วจ้า อากาศปกติ เลยมากินข้าวที่หน้าสวนสนบ่อแก้ว
และปิดทริปด้วยสวนสนบ่อแก้วเลย
ยังสวยงงามเหมือนเดิม
หลังจากนั้นก็ยิงยาวเข้าเชียงใหม่ พอพ้นเขตภูเขา เข้าเส้นจอมทองถนนหลัก อากาศโคตรเปลี่ยนครับ ต่างจากสองวันที่ผ่านมามาก ร้อนแบบร้อนสุดๆแสบไปหมด ร้อนกว่า กทม.อีกมั้งเนี้ยผมว่า นี่ขี่แค่ 50 โลจากจอมทองมาเข้าเมืองนี้เล่นเอาเพลียแดดไปเลยวันนี้ 55
ถึงบ้านเพื่อนเอารถขึ้น อาบน้ำเปลี่ยนชุดเรียบร้อย ออกจากเชียงใหม่ 14.30 น.
ฟ้าใสไร้ฝน
วิธีใหม่นี้ฟินดีมากครับ ยกมอไซด์ใส่กระบะ ตรงทางยาวๆ 6-700โล ไม่ต้องขี่ให้เหนื่อยครับตากแอร์เย็น แฟนเราก็สบายไม่เพลีย ทางหลักทั่วไปไม่มีอะไรให้เราต้องเสพอยู่แล้ว ไว้ค่อยขี่เฉพาะทางเที่ยวจริงๆ ทริปนี้ขี่มอไซด์ไป 500กว่าโลคัรบ น้ำมัน 600 ยังเหลือ ยังไงมอไซต์ยังสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่ารถยนต์ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถเพราะตามป่าเขาทางจะแคบมอไซด์จอดถ่ายรูปง่ายยกว่า เพิ่มความฟินอีกระดับให้การเดินทางครับ แฮปปี้มากๆ
ขากลับลองมัดวิธีใหม่พี่เขาแนะนำมา ดูแน่นกว่าเดิมรถไม่โยก เพระาเอาขาตั้งขึ้น ตั้งรถตรง จริงๆมัดแค่แฮนสองข้างให้ตึงก็อยู่แล้ว แต่กันพลาดเลยมัดล้อหลังอีกเส้น สบายยัน กทม.
ส่วนเจ้าไทรทันทริปนี้วิ่งไป ประมาณ 1400 โล เติม B20ทั้งหมด 3200 บาท แต่ใช้ไม่หมดเหลือ2ขีด แต่ไม่ได้จดลิตรเป้ะๆไว้ทริปนี้ ตกโลละประมาณ 2.1บาทกว่าๆ ประมาณ 10.5โลลิตรได้ทริปนี้ขับเร็วทั้งไปกลับครับเลยจะกินหน่อย ถึงบ้าน 5ทุ่ม ปกติ B20 ที่ขับกทม หรือไม่เร็ว จะตกโลละ1.7-1.9 บาท 11-12โลลิตรประมารณนี้ครับ อัตราเร่งปกติดีทุกอย่าง ตอนนี้มิตซูพึ่งมาบอกว่ารองรับคงจะใช้ยาวๆประหยัดตังดี แต่สิ้นเดือนนี้เขาจะขึ้นราคาแล้ว แต่ก็ยังถูกกว่า B7 ครับ
ถึงบ้านอย่างปลอดภัยเป็นอีกหนึ่งทริปที่ประทับใจมากๆ ถูกใจสุดๆ แนะนำเลยแม่โถ ต้องไปกันให้ได้นะครับ
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆทริปนี้ไม่ได้จดจริงจัง เพราะไป2คนยังไงฉันก็จ่าย555 ไม่ได้หาร
น้ำมันรถยนต์3200
มอไซด์ 600
ค่าที่พักห้วยห้อม คนละ 400+400 =800
ค่าไกด์พี่สุวรรณ 1000 บาทอันนี้หาร4 สองคนเรา 500
ที่เหลือค่ากินมื้อทั่วไป40-50 มีมื้อเย็นแม่โถ ซื้อหมูกะเครื่องดื่มเยอะหน่อย คนละประมาณ 300
สรุปทริปนี้ผมสองคนหมดไปประมาณ 6000 ได้ ถ้าหาร 2 ก็คนละ 3000 เองครับประมาณนี้
แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าจะไปรถยนต์หรือมอไซด์หรือยกไปทั้งคู่เดี่ยวค่อยว่ากันครับวันนี้สวัสดีจ้า