เพราะเดือนเมษายนนี่ร้อนแทบละลาย จขกท.เลยคิดกับเพื่อนอีก 2 คนว่าจะไปไหนดีที่เย็นๆ คือเล็งไว้ไม่กี่ที่ค่ะ แต่คิดในเรื่องการเดินทางด้วยว่าไม่ควรไกลเดินไป ไม่ควรเกิน 500 กม.จากชลบุรี(ฐานที่ตั้งค่ะ) คิดไปคิดมา.......

สรุปจะไป จ.ตาก ค่ะคือ ไม่เคยไปด้วย ไปเห็นทะเลหมอกที่ อช. แม่เมย !! อะดรีนาลีนนี่หลั่งเลยค่ะ เก็บเป๋า ซิคะ รออะไร!!(เดินทางช่วงวันที่ 14-18 เมษายน 2558)

จขกท.กับเพื่อนได้สมุดตามล่าปั้มตราอุทยานมาด้วย คราวนี้เลยต้องตามหาอุทยานในแต่ละจังหวัดที่ไปเพื่อตามล่าตราปั้ม ซึ่งสุโขทัยมี อช.รามคำแหง ที่สามารถไปถึงได้ เลยจัดซิคะ !!

ความจริงที่อช.นี้มีเขาหลวงให้ขึ้นด้วย แต่ฤดูนี้เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีใครขึ้น ต้องขึ้นหน้าหนาว เลยได้มาแต่ภาพ ไว้ค่อยมาพิชิตโอกาสหน้า!!

หลังจากเที่ยวสุโขทัยมาได้สักนิดนึงและ เป้าหมายต่อไปของเราคือ อช.แม่เมย เราใช้เส้นทาง แม่ระมาด-ท่าสองยาง ซึ่งวิวสวยมากๆ มีที่ให้แวะเยอะเลย และที่ไม่พลาดคือ อช.ขุนพะวอ เดิมชื่อ อช.แม่กาษา ซึ่งเหมาะมากสำหรับหน้าหนาวที่นี่มีน้ำตกด้วยค่ะ แต่ต้องเดินเข้าป่าไปอีก แน่นอนไปไม่ทันค่ะ บายย

ต่อมาระหว่างทางเราผ่านศูนย์อพยพชาวกะเหรี่ยงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ศูนย์อพยพพักพิงชั่วคราวจากการสู้รบบ้านแม่หละ(ศูนย์แบเกาะ) ตั้งเมื่อพ.ศ. 2537 พื้นที่ใหญ่มากจริงๆค่ะ ซึ่งไปหาประวัติอ่านได้นะคะในอินเตอร์เน็ท บ้านยังใช้ใบตองตึงมุงกันอยู่เลย

และในที่สุดเราก็มาถึง อช.แม่เมยกันแล้วค่ะ แต่ช่วงเราไปเป็นช่วงสงกรานต์ ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวของ อช.นี้ จึงไม่มีอาหารขาย แต่เจ้าหน้าที่บอกว่ามีเตาแก้สค่ะ ซื้ออาหารมาทำได้นะคะ เราจัดมาม่า ปลากระป๋อง ไปเลยค่ะสำหรับอาหารเช้า ส่วนอาหารเย็นกินที่ร้านค้าก่อนขึ้น อช. ให้เรียบร้อยค่ะ

เย็นนั้นเราตรงดิ่งขึ้นไปที่ ม่อนครูบาใสเลยค่ะ แต่ระหว่างทางมีไฟป่าเป็นระยะ ทางก็ค่อนข้างลำบากสำหรับรถยนต์ เพราะผิวถนนพังเป็นหลุม ระยะทาง 7 กม. ขับไป 30 นาที มันใช่ไหมคะ? 5555

ควันไฟป่าทั้งนั้นค่ะ ไม่ใช่หมอกนะคะ 5555+ พอดีคิดบวก เออสวยอีกแบบ T-T นี่มันอาเจนติน่าแลนด์ชัดๆ  รอจนมืด ทั้งม่อนมีแค่ 3 คน วังเวงค่ะ กลับดีกว่า!!

คืนที่ จขกท. ไปโชคดีมากค่ะ ประมาณ 3 ทุ่ม เครื่องปั่นไฟเสีย นอนกันในความืดเช่นนั้นแหละค่ะ 5555 เลยได้ภาพถ่ายดาวมามากมาย พรั่งพรูค่ะ ที่ติดสีแดงๆ นี่น่าจะไฟป่านะคะ

บรรยากาศอช.แม่เมย ร่มรื่นมากๆค่ะ สดชื่นนนนนนนนที่สุด แม้น้ำจะน้อย แต่ก็เย็นสบายค่ะ

ที่ต่อไป จขกท.ไป ถ้ำแม่อุสุ ต่อค่ะ เป็นถ้ำที่ใหญ่มาก เย็นสบายมากๆ ต้องเดินลุยน้ำไปหน่อย บริเวณปากถ้ำชาวบ้านแถวนั้นชอบมานั่งปูเสื่อที่ปากถ้ำค่ะ ลมเย็นสบายดีจังค่ะ

ก่อนเข้าปากถ้ำต้องจ้างไกด์นำทางนะคะ น้องๆชาวกะเหรี่ยงแถวๆนั้นแหละค่ะ กระจายรายได้สู่ชุมชน

วันนี้ จขกท. ไปนอนที่แม่สอดค่ะ แวะเที่ยวริมเมย กินสุกี้หม้อไฟร้านดังของแม่สอด นอนที่ไมตรี บูติกรีสอร์ท ราคาประหยัดพร้อมอาหารเช้าด้วยค่ะ 3 คน 640 บาท เท่านั้น 

เช้าวันต่อมา จขกท.แวะเที่ยว วัดไทยวัฒนาราม สวยมากกกกกค่ะ ศิลปะพม่างามงดจริงๆค่ะ ที่วัดมีชาวพม่าแต่งตัวมาทำบุญสวยมากๆค่ะ เมียวดีสไตล์ ค่ะ 

ที่ต่อไป อช. ลานสางค่ะ เห็นแบบนี้ไม่ธรรมดานะคะ เป็น 1 ใน 6 น้ำตกของประเทศไทย ที่เป็นน้ำตกที่เกิดจากการเลื่อนตัวของเปลือกโลก หินน้ำตกเป็นหินแปร ซึ่งปกติอยู่ใต้เปลือกโลก ไม่ต้องขุดไปดูหินแปรให้ลำบาก มาดูที่นี่ค่ะ! 

ทริปนี้เดินทางระหว่าง 14-18 เมษายน 2558 ค่ะ

ค่าใช้จ่าย 3 คน คนละ 3,500 บาท(รวมทั้งหมดอาหารทุกมื้อ น้ำมันด้วยค่ะ)

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ