อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
เราเดินทางมาถึงพร้อมกับฝนเม็ดใหญ่ๆเลย ถึงประมาณ 4โมงเย็น อากาศก็เย็นๆชื้นๆค่ะ
ที่นี่เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่สวยมาก และใหญ่มาก มีหลายบ่อ หลายระดับความร้อนด้วย
ระบบการจัดการอุทยานก็ดี มีที่พัก ร้านอาหาร มีห้องอาบน้ำ เป็นระเบียบไปหมดทุกอย่าง ต้นไม้ก็เยอะ อากาศดีมาก เหมาะกับการจิบเบียร์ (เอาจริงๆ อากาศแบบไหนก็เหมาะกับเบียร์นะ)
ทริปเร่งด่วน 3วัน2คืน คืนแรกเราไปนอนที่บ้านแม่กำปอง
(ตามไปดูได้ที่ บิดสองล้อไปนอนเล่น เดินเล่น ที่บ้านแม่กำปอง)
คืนที่2 ชักจะปวดเมื่อยตัวจากการนั่งอยู่บนหลังมอเตอร์ไซค์นานๆ เราไปนอนแช่บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งกันค่ะ
ตลอดทางที่ไป เชียงใหม่ ลำปาง เจอแดดบ้าง ลมบ้าง ฝนบ้าง หมอกบ้าง เรียกว่าเจอครบทุกฤดูเลย การขับมอเตอร์ไซค์เที่ยว ทำให้เราได้สัมผัสอากาศจริงๆ ในตอนนั้น ด้วยผิวสัมผัสเราเอง (พูดให้ฟังง่ายๆ ก็เอาหน้าโต้ลม โต้แดด โต้ฝน ไปนั่นแหละค่ะ)
ช่วงทำความเร็วบนถนนใหญ่ ก็บิดกันไปร้อยกว่า หูอื้อเลย ลมบาดหน้า หมวกแทบปลิว
หรือช่วงที่เจอฝนก็จอดใส่เสื้อกันฝนก่อนแล้วค่อยลุยกันต่อ เพราะเราเตรียมพร้อมมาแล้วค่ะ เราเตรียมเสื้อกันฝนกันมาด้วยทุกคน ดูพยายกรณ์อากาศแล้วว่า ฝนมาแน่ๆ ใส่ชุดกันฝน ห่อของทุกอย่างดีแล้ว ก็ลุยต่อ
ช่วงแดดเนี่ย ดีสุดละ เพราะเรามั่นใจในความพร้อมของเครื่องแบบเรา เริ่มจาก หมวก ผ้าคลุมหน้า แว่น เสื้อแขนยาว เกงขายาว ซันบล๊อค ลมที่วิ่งผ่านไปตลอดมันก็ทำให้เราไม่ได้ร้อนอะไร กำลังดีเชียว
ช่วงสภาพอากาศที่เราไม่คาดคิดที่สุด นั่นคือ ช่วงหมอก หมอกแบบในหนัง The mist เลย ตอนนั้นเป็นช่วงที่เดินทางจากวัดเฉลิมพระเกียติลำปาง กลับไปเชียงใหม่
(ตามไปดูได้ที่ "วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์" มหัศจรรย์แห่งศรัทธา)
เป็นเส้นทางที่ถนนที่ตัดผ่านยอดภูเขา หลายสิบลูก อื้อหือออ สวยมาก สวยจนบอกไม่ถูก ฟินกับทางช่วงนั้นมาก ถ่ายรูปมาเยอะเลย แต่ไม่ค่อยชัด ฮ่าๆๆๆ ปัดโถ่!!!
เป็นสามวันที่สนุกมากจริงๆ เชิญรับชมการเดินทางวันที่สองได้ค่ะ //ผายมือ
เมื่ออากาศเย็นๆของฝนตก มาโดนกับผิวของน้ำพุร้อน ก็เลยทำให้เกิดหมอกจางๆและควันสวยๆ ฟุ้งๆแบบนี้
น้ำพุร้อน นี่ผุดมาจากพื้นเห็นๆเลย
มีป้ายเตือนเป็นบางบ่อ เพราะแต่ละบ่อ ร้อนไม่เท่ากัน บ่อไหนไม่ร้อนมากก็เล่นน้ำได้ แต่ถ้าเห็นป้ายแบบนี้ อย่าลงไปเชียว ไข่สุกแน่ๆ