เดินทางต่อจนมาถึงอุทยานแห่งชาติเอราวัณ โดยที่ถนนนั้นไม่ได้เดินทางยากเลย ถนนดี และวิ่งตรง ๆ มาเรื่อย ๆ ไม่สลับซับซ้อนอะไร บริเวณก่อนถึงอุทยานฯ ก็มี 7-11 มีร้านขายของแถว ๆ นั้นอีกเยอะ พอมาถึงหมู่บ้านก่อนเข้าอุทยานฯ ก็มีตลาดสดอีก (แต่ผมไม่แน่ใจว่ามีขายของสดไหม เห็นเหมือนมีแต่พวกร้านอาหาร) ครั้นพอเข้าไปถึงหน้าอุทยานฯ ก็มีร้านขายอาหารอีกหลายร้าน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวอด
ผมมาถึงที่อุทยานฯ น่าจะก่อนเที่ยง มีที่จอดรถมอเตอร์ไซค์แยกออกจากรถยนเป็นสัดส่วน ที่จอดรถยนต์ก็กว้างมาก ที่จอดมอเตอร์ไซค์มีโซ่ไว้สำหรับให้เราล่ามเข้ากับรถด้วย (ต้องหากุญแจมาเอง)
ที่นี่ผิดจากที่ผมคิดไว้เยอะ เพราะนักท่องเที่ยวเยอะมาก ๆ แม้ว่าวันที่ผมไปจะเป็นวันอังคาร คนควรจะน้อย และที่ทำให้ผมแปลกใจอีกอย่างคือ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ (อาจจะเพราะเป็นวันทำงานด้วย คนไทยกำลังทำงานกันอยู่)
ผมถึงไม่แปลกใจว่าทำไมแถวนี้ถึงมี 7-11 มีร้านค้าเยอะแยะมากมาย แถมตรงที่จอดรถก็มีบริการจ้างรถกอล์ฟให้เรานั่งได้ 4 - 5 คนเพื่อไปถึงน้ำตกชั้นที่ 1 (จริง ๆ มันก็ไม่ไกลนักหรอก)
ผมจอดรถแล้วก็กะว่าจะเดินไปดูที่ดูทางกางเต็นท์ว่าเป็นอย่างไง ถ้ามันไม่น่าสนใจก็กะว่าะจะได้เปลี่ยนแผนได้ถูกก่อนเย็นเกินไป เดี๋ยวจะหาที่นอนไม่ได้
ระหว่างเดินไปก็ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ด้วย แต่มีปัญหาในการตัดต่อ (ผิดแผนอีกแล้ว) ผมไม่สามารถทำออกมาได้สำเร็จ - -' เสียดายมาก และยังมีคลิปที่ถ่ายตั้งแต่จุดกางเต็นท์จนเดินขึ้นน้ำตกตั้งแต่ชั้น 1 - 7 อีกด้วย ซึ่งเป็นคลิปยาว นั้นก็มีปัญหา เสียดายมาก
พอไปดูจุดกางเต็นท์แล้วรู้สึกว่า ok ดีมาก ห้องน้ำเล็กไปนิด และมีจุดเดียว แต่ก็มีหลายห้อง เป็นห้องส้วม + ห้องน้ำภายในห้องเดียวกันเลย มีบริเวณล้างหน้าอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ ส่วนบริเวณกางเต็นท์ก็เหมือนอ้างล้างหน้า (แต่นักท่องเที่ยวชอบเอามาล้างจาน ผมว่าไม่เหมาะ เพราะตรงจุดนั้นการจัดการของเสียน่าจะไม่ดีเท่าตรงบริเวณห้องน้ำ)
ลานกางเต็นท์ใหญ่ ดูคร่าว ๆ แล้วน่าจะรองรับได้ 200 - 300 หลัง และแน่นอนมีบ้านพักด้วย แต่ผมไม่ได้ดูรายละเอียดบ้านพักเลย
ผมคุยกับเจ้าหน้าที่ว่ามีคนมากางเต็นท์เยอะไหม เพราะผมเห็นนักท่องเที่ยวเยอะมาก แต่ตอนผมมาถึงลานกางเต็นท์กลับมีเต็นท์ที่นักท่องเที่ยวใช้พักนั้นอยู่แค่ 1 หลังเท่านั้น เจ้าหน้าที่บอกว่า เมื่อคืน (วันจันทร์ เป็นวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นวันหยุด) มี 40 หลัง ซึ่งถือว่าเยอะมากเหมือนกันครับ แต่ผมก็ไม่แปลกใจ เพราะส่วนใหญ่คนมักจะมากางเต็นท์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเริ่มเย็น
หลังจากดูที่ดูทางเสร็จ พอใจแล้ว ผมก็กลับมาที่รถ แล้วติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งการจัดการที่นี่ต่างจากอุทยานฯ อื่น เพราะที่อื่นคุณจะต้องจ่ายเงินค่ากางเต็นท์เลย แต่ที่นี่คุณจะเขียนใบลงทะเบียน และเอาบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ไว้ แล้วก็ไปกางเต็นท์ได้เลย จะกลับวันไหนก็มาแลกบัตรคืน คิดเงินในวันที่กลับ ซึ่งก็เหมาะสมดี เพราะที่นี่นักท่องเที่ยวเยอะ ทำแบบนี้จะลดความวุ่นวายได้มาก
ถึงแม้ว่าจะมีที่จอดรถที่หน้าอุทยานฯ แต่คุณสามารถขับรถผ่านเข้าไปเพื่อไปที่จุดกางเต็นท์ จอดรถแถวบริเวณที่จอดรถตรงจุดกางเต็นท์ได้ครับ
อ๋อ ก่อนถึงจุดกางเต็นท์ มันจะมีธารน้ำหลากท่วมสะพานข้ามเล็ก ๆ ถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์ ต้องระวังไว้ให้มาก มันลื่นมาก ๆ ผมเกิดมาไม่เคยเจอถนนลื่นขนาดนี้มาก่อน วิ่งผ่านจุดนี้ 4 รอบ ไถล 3 รอบครับ 1 ใน 3 รอบนั้นต้องบอกว่าล้มไปแล้ว แต่ฝืนใช้มือรั้งรถไว้ ปวดแขนเลยทีเดียว