วันปิยมหาราชที่ผ่านมา พวกเรา Hanako Twins ได้ตัดสินใจไปเที่ยวแบบกะทันหัน ไม่มีเเพลน สิ่งที่เป็นรูปเป็นร่างอย่างเดียวของพวกเราคือ budget ที่มีจำนวนแน่นอน  เราวางเงินกองกลางของทริปนี้ไว้คนละ500บาท เท่ากับทริปนี้เรามีเงินกองกลางทั้งหมด 1,000บาท 

 

เราสองคนเดินทางโดยtaxiจากเอแบคหัวหมากตอน06.15น.ไปยังสถานีรถไฟธนบุรีเพื่อไปขึ้นรถไฟฟรี ขบวน9257กรุงเทพ-น้ำตก  ถึงสถานีรถไฟ 06.53 น. เราก็ตรงดิ่งเข้าไปซื้อตั๋ว แท่นเเท๊นน~ ได้ตั๋วมาแล้วค่ะ

**อย่าลืมนำบัตรประจำตัวประชาชนติดตัวมาด้วยตอนซื้อตั๋วรถไฟ

หลังจากนั้นเราก็ตรงดิ่งไปซื้อหมูปิ้งอย่างไม่รีรอ จัดมารองท้อง2ไม้ ข้าวเหนียว2ห่อ รวมเป็นเงิน30บาท พอซื้อหมูปิ้ง เราก็จัดแจงมองหาที่นั่งกิน แต่คนเยอะมากๆ หาทำเลทองไม่ได้สักที เลยตัดใจยืนกินแถวๆข้างถังขยะ...แค่กลิ่นก็ฟินแล้ว เลือกไม่ถูกเลยค่ะว่าจะกินขยะหรือหมูปิ้งก่อนดี 55555507.50 พอรถไฟเทียบชานชลา เปรียบเสมือนกรรมการเป่านกหวีด แน่นอนว่าศึกการแย่งชิงที่นั่งได้เริ่มขึ้นแล้ว เราสองคนสู้ไม่ไหวแน่ๆเลยเล็งเป้าหมายไปที่นั่งที่มี2สามีภริยาชาวอังกฤษนั่งอยู่ แน่นอนค่ะเราได้ที่นั่งมาครอง แต่ต้องขอบอกก่อนว่ารถไฟคนแน่นมากๆค่ะ อย่าว่าแต่นั่งเลยค่ะเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีที่ให้ยืนนนนพอเวลา10.30รถไฟก็เข้าเที่ยบชานชลาที่สถานีทุ่งทอง เกือบjump offผิดสถานีซะเเล้ววว เลยตัดสินใจหันไปถามสองสามีภริยาชาวอังกฤษที่นั่งข้างๆพวกเรา เลยรู้ว่าผิดสถานี นี่ทุ่งทองค่ะนางงง ไม่ใช่สถานีกาญจนบุรี โชคดีที่พวกเค้าก็จะลงที่สถานีกาญจนบุรีเหมือนกัน เราก็สบายใจค่ะ ลงตามๆเค้า2คนไป พอลงสถานีเราก็จัดไอติมโบราณไป20บาทก่อนจะไปขึ้นรถสองเเถวไปบขส. พอขึ้นไปบนสองเเถวก็เพิ่งจะคิดได้ว่าจะซื้อไอติมทำไมฟระเนี่ยยย  มืออีกข้างก็ต้องโหนสองเเถว เกือบอาสัญเพราะไอติมที่ซื้อแล้วมั้ยล่ะ โชคดีที่มีน้องๆม.ปลายกลุ่มหนึ่งลุกให้นั่ง(น้องคงสงสารพวกเราเต็มที55555)  ขอตัดภาพไปตอนถึงบขส.เลยนะคะพอถึงบขส.ก็ตรงดิ่งไปซื้อตั๋วรถบัส(รถหวานเย็น)ไปน้ำตกเอราวัณคนละ50บาท  tadaaa~ ได้ตั๋วมาแล้ววววววหันไปเช็คตารางการเดินรถกันอีกซักรอบเพื่อความมั่นใจว่าเราจะทำเวลาได้ ไม่ตกรถ เพราะถ้าตกรถนี่งานงอกค่ะะพอขึ้นรถ เราก็เลือกนั่งที่นั่งหน้าสุด เพราะดูแล้วน่าจะดูวิวได้ชัดเจน ชัดเจนค่ะแดดเผาตัวเต็มๆ 55555

รถบัสที่ขึ้นคนก็เยอะไม่แพ้บนรถไฟเลย ครึกครื้นกันเลยทีเดียว

จากบขส.ไปอุทยานแห่งชาติเอราวัณใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมง45นาที (รถออก11.45 ถึงประมาณ13.30)บังเอิญจริงๆค่ะ น้องๆม.ปลายที่มีน้ำใจกับพวกเราตอนที่อยู่บนรถสองเเถวก็มาเที่ยวที่เดียวกัน  น้องๆบอกว่ามาติวหนังสือกันที่กาญจนบุรี ในใจก็คิดว่าพวกนี้หนีพ่อแม่มาเที่ยวกันแน่ๆ ใช่ค่ะคิดไม่ผิด มันหนีพ่อแม่มาเที่ยวแล้วต้องรีบกลับให้ทันเวลา นั่นก็คือต้องกลับให้ทันรถบัสคันสุดท้ายเหมือนพวกเรา  เราก็ตัดสินใจร่วมทริปกันกับน้องๆค่ะ  Deal! 

 

พอถึงอุทยานเราก็รีบควัก must have item ออกมาค่ะ นั่นก็คือบัตรนักศึกษา เพื่อเป็นส่วนลดค่าเข้าอุทยาน50%  จากคนละ100บาท เหลือเพียงคนละ50บาทค่ะ

พอถึงอุทยานเราก็ตรงดิ่งไปร้านไก่ย่างส้มตำ เพื่อซื้อไปกินที่น้ำตกชั้น2ค่ะ รีบเดินกันมาก ณ จุดจุดนี้ เพราะหิวไก่ย่างกับคอหมูย่างมากกกก ไก่ย่าง50บาท คอหมูย่างชุดละ70บาท ข้าวเหนียว2ห่อ ห่อละ10บาทพอหาที่วางหลักปักฐานได้แล้ว เราก็โซ้ยแข่งกับเวลา เพราะเหลืออีกตั้งหลายชั้น กลัวจะกลับลงมาไม่ทันรถบัสคันสุดท้ายเส้นทางของน้ำตกชั้นแรกๆก็เดินไม่ยากค่ะ แค่ระวังลื่นก็พอ เพราะเมื่อคืนฝนตก ดินเลยกลายเป็นโคลนเราก็เดินขึ้นมากันเรื่อยๆค่ะ ชั้นที่4-5-6 นี่เริ่มเดินลำบากแล้ว เดินไม่ค่อยถนัด อยากจะเขวี้ยงเป้กับกระเป๋ากล้องทิ้ง โมโหตัวเองมากค่ะ จะเเบกมาทำไมเนี่ยยยย รองเท้าก็เปลี่ยนจากรองเท้าผ้าใบเป็นรองเท้าแตะคีบ ที่สำคัญรองเท้านี่แทบไม่มีดอกยางเลยค่ะะะะะะ ดีค่ะดี เห็นแววว่าชีวิตเริ่มดี ทุลักทุเลกันไปตามสภาพ ภาพสวยๆนี่ไม่มีกับเค้าหรอกค่ะ น้องๆมันเร่ง ก็เลยตัดสินใจว่าจะขึ้นไปถึงชั้น7 แล้วค่อยไล่ถ่ายจากชั้น7ลงมาแล้วกัน ไม่ค่ะ เราต้องหยุดถ่ายแล้วไปต่อ ต้องรีบไปให้ถึงชั้น7!!!พอถึงชั้น6 เเล้วกะระยะทางที่จะขึ้นไปชั้น7ลองบวกเวลาขาลงของเรา ถ้าขึ้นไปไม่น่าทันรถบัสแน่ๆค่ะ  พูดยังไม่ทันขาดคำ หันไปอีกทีพวกเด็กที่บอกให้เรารีบขึ้นไปชั้น7มันลงไปเล่นน้ำตกแล้วค่าาาา เร็วไวอย่างกับสายฟ้าฟาดดด

พวกเรา2คนยังไม่ทันได้ลงเล่นน้ำตก เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็เป่านกหวีดให้ลงแล้ว เพราะชั้น6-7จะปิดประมาณ 16.00 ชั้น1-2จะปิดประมาณ16.30 ตอนนั้นก็เวลาประมาณ15.45-15.50 พวกเราก็โอเค ให้น้องๆรีบขึ้นมาเปลี่ยนชุดจะได้รีบลงไปขึ้นรถบัสให้ทันรอบ 16.30 

แต่ทันใดนั้นค่ะ!!!! หนึ่งในผู้ร่วมทริปของเราดันตะคริวกินขั้นหนัก ลุกไม่ได้ ร้องโอดโอย แล้วพี่ๆอย่างพวกเราสองคนจะทำไรได้ นวดให้ก็ไม่หาย น้ำตกชั้นบนก็จะปิดแล้ว เหลือพวกเราเป็นกลุ่มสุดท้ายบนสวรรค์ชั้น6(ที่กำลังจะกลายเป็นนรกของน้องคนนี้)แล้วน้องเอ้ยยย ต้องสู้นะน้อง! เอาไงดีติ๊กตอกๆ ขาน้องแบบนี้ถ้าช่วยกันแบกลุยโคลนกับปีนโขดหินได้สไลด์ลงน้ำตกยกทีมแน่ๆ เลยตัดสินใจให้หนึ่งในพวกเราเดินตามเสียงนกหวีด ให้พี่เจ้าหน้าที่อุทยานมาช่วยค่ะ พอพี่เค้ามาถึงก็ละเลงน้ำมันมวยแล้วยืดกล้ามเนื้อให้ ซักพักน้องก็ดีขึ้นค่ะ ค่อยๆพากันเดินลงอย่างทุลักทุเล 

 ไม่ค่ะเหตุการณ์ยังไม่จบ พอถึงน้ำตกชั้นที่1น้องอีกคนก็ลื่นตรงทางต่างระดับ เลือดออกกันเลยทีเดียว ตอนนั้นก็16.15แล้ว แต่เราจะไม่ทิ้งเพื่อนร่วมทาง มาด้วยกันต้องกลับด้วยกันสิ!  ปล.รูปน้ำตกนี่ก็เเทบจะไม่มีเลยค่าาา อดถ่ายทั้งขาขึ้นขาลง โอ๊ยยย55555555 ไม่เป็นไรรีบกลับๆ รอบหน้าค่อยมาแก้ตัวก็ได้

16.30 พวกเราก็มาถึงจุดจอดรถบัส ไม่เอาสิไม่ช็อค รถบัสออกไปแล้วค่าาาาาาาาาาา T T 

ทางออกวิธีแรก จะเหมารถตู้จากน้ำตกเข้าไปบขส.เค้าคิด1000บาท แต่น้องๆsay noเพราะน้องๆบอกไม่ไหว เราก็โอเคหาทางออกอื่น

มีทางเลือกอีกแค่2ข้อ คือ 1.หารถสองแถวสีส้มที่มีคนเหมามาเที่ยวน้ำตก แล้วลองขอเค้าติดรถไปด้วยแล้วช่วยค่าน้ำมัน แต่วันนั้นไม่มีรถสีส้มเลยค่ะ เลยต้องข้ามมาข้อ2

2.ลองมองหารถกระบะที่เค้าจะขับผ่านบขส.แล้วขอเค้าติดรถเข้าไปบขส. 

เราก็เดินถามแทบทุกคันค่ะไม่มีคนผ่านไปทางนั้นเลย จนมาถึงรถกระบะคันสุดท้ายที่จอดอยู่ พี่เค้าสปิริทแรงกล้ามากค่ะ พี่เค้าเป็นกทม. ไม่รู้ทางไปบขส.แต่เค้าจะไปส่งพวกเราค่ะ พอคุยไปคุยมากลายเป็นว่าไปส่งเราถึงในกทม.เลย พวกเราช่วยค่าน้ำมันเค้าก็ยืนยันที่จะไม่รับ ถึงขั้นยัดใส่มือก็เดินเอามาคืน จำได้ว่าพี่เค้าชื่อใบปอกับแฟน ถ้าพี่เห็นรีวิวนี้ อยากบอกพี่อีกครั้งว่าขอบคุณมากๆนะคะ  :)

ขอจบรีวิวนี้ด้วยภาพพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า ที่ถ่ายจากท้ายรถกระบะ ขอบคุณที่อุตส่าห์อ่านมาจนจบนะคะ และขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ เจอกันใหม่ทริปหน้าค่ะ :)

___________________________________

สรุปค่าใช้จ่าย:

ค่าtaxi                          270บาท

ค่ารถไฟ                        ฟรี

หมูปิ้ง                           30บาท

ไอติม                           20บาท

ไก่ย่างคอหมูย่าง           140บาท

สองเเถว                        40บาท

รถบัส                           100บาท

ค่าเข้าอุทยาน                    100บาท

รวม                             700บาท (350บาท/คน)

 

ติดตามพวกเราในอีกช่องทางนึงได้ที่ :

FB: http://www.facebook.com/thehanakotwins