กาลครั้งหนึ่งของเรา...ที่..."เขาสก"
สวัสดีปีใหม่ทุกท่านค่ะ..
วันนี้มาทักทายด้วยรีวิวแรก ของปี 2015
หลังจากที่ครั้งที่แล้ว เราไปผจญภัยที่ภาคตะวันตกหรืออาจจะภาคเหนือตอนล่างมาแล้ว
ในรีวิวนี้..
http://www.thetrippacker.com/th/review/%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%A5/7221
คราวนี้เราจะพาลงใต้กันแบบยกแก๊งค์กันบ้างค่ะ...
ที่ เขาสก จ.สุราฎษร์ธานี
จริงๆไปเที่ยวมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว..แต่เพิ่งจะมาเขียนรีวิวย้อนหลัง..(อย่าว่ากันนะคะ ^^”)
__________________________________________________________________
ให้เวลาเราได้เดินทางไปกับความคิดความรู้สึก
และให้เวลาความคิดความรู้สึกเดินทางไปกับเรา
เราอาจจะได้เจอกับอะไรที่ตามหามานานหรือหล่นหายไปนานก็เป็นได้
การเดินทางของความคิดและความรู้สึกที่ตกตะกอนและเติบโตขึ้นจากการเดินทาง
จึงเป็นสิ่งมีค่าที่สุดสิ่งหนึ่งที่การเดินทางมอบให้เรา
แต่น่าแปลกที่ไม่ว่าจุดหมายในการเดินทางจะไกลสักแค่ไหน
จุดหมายปลายทางสุดท้ายของเราก็เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน คือที่เดิมเสมอ
คนเราเดินทางเพื่อกลับสู่จุดเดิม แต่ด้วยความคิดความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิม
ณ ประตูบานเดิมที่เราเพิ่งออกไปเมื่อหลายวันก่อน
เรา ณ วันนี้ เป็นคนละคนกับ เรา เมื่อวันที่แล้ว ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง...
____________________________________________________
โลกไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาล...
และเราก็ไม่ใช่จักรวาลของสิ่งใดๆ
บางความสุข...
เราจึงต้องออกแรงเหวี่ยงตัวเองเข้าไปหามันบ้าง
ไม่ใช่คอยแต่ดึงดูดเข้ามาอย่างเดียว..
>>>>>>>>>>
เขาสก...คืออีกหนึ่งสถานที่ ที่คิดไว้ว่า..จะต้องกลับไปอีกสักครั้งหนึ่ง
หลังจากที่ไม่เจอกันมานาน 7 ปี
วางแผนการเดินทางล่วงหน้ากันหลายเดือน เพื่อตั๋วเครื่องบินราคาโปรโมชั่น พร้อมจองที่พัก
เราจองแบบแพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน จาก บริษัท สุราษฎร์อินเตอร์ทัวร์
พักที่แพ 500 ไร่ 1 คืน + เดอะนิน รีสอร์ท 1 คืน
ซื้อบริการรถรับ-ส่งที่สนามบินและรีสอร์ทเพิ่มอีก 500 บาท
รายละเอียดการเดินทาง ตามนี้เลยค่ะ
____________________________________________
"ฉันรักการเดินทาง ชอบเดินทางไปยังสถานที่ที่ฉันไม่เคยไปมาก่อน
เพราะฉันเชื่อว่าโลกของเรากว้างเท่ากับจำนวนพื้นที่ที่เราเคยสัมผัส
มีผู้คนมากเท่ากับจำนวนคนที่เราได้รู้จัก
ยิ่งเดินทาง โลกก็ยิ่งกว้าง ยิ่งหลากหลายและน่าอยู่ขึ้น"
>>>>>>>>>>>
เขาสก...เขื่อนเชี่ยวหลาน จะอยู่ใน อ.บ้านตาขุน
ซึ่งห่างจากสนามบินสุราษฎร์ฯ ประมาณ ชั่วโมงกว่า
หลังจากที่ลงเครื่อง ก็จะมีรถตู้จากบริษัท มารับเราไปที่ออฟฟิศของบริษัท สุราษฎร์ฯ
เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของแพคเกจ หลังจากนั้นก็จะพาเราแวะที่ 7-11
เผื่อใครอยากตุนขนมนมเนยไว้ไปรับประทานที่แพเพิ่มเติม
(อ้อ..ที่แพเค้ามีอาหารกลางวัน อาหารเย็น และอาหารเช้าบริการนะคะ..รสชาติอร่อยใช้ได้
แต่ไม่อนุญาตให้นำพวกเครื่องดื่มเข้าไปนะคะ..)
ตุนของกินของใช้เรียบร้อย...สถานที่เช็คอินที่แรกก็คือ...ที่นี่ค่ะ
“เขื่อนรัชประภา”
"เขื่อนรัชประภา เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ ใช้ประโยชน์ทั้งในด้านการชลประทานและการผลิตกระแสไฟฟ้า
สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ชื่อเดิมเรียกว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เริ่มดำเนินการก่อสร้าง เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2525 แล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2530
เมื่อสร้างแล้วเสร็จได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชประภา”
มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร"
>>>>>>>>>
ขอแชะภาพที่ระลึกภาพแรก..กับสันเขื่อนกันก่อนเลย...บรรยากาศดีมาก..วิวสวยมากๆค่ะ
________________________________________________
ที่ขาดไม่ได้ก็คือ...ป้ายสถานที่ค่ะ....
>>>>>>>>
"ความสวยงามของภาพ อยู่ที่ ความทรงจำที่ถูกบันทึก ไม่ใช่สื่อในการบันทึก
อุปกรณ์ราคาแพงมันจะไม่มีค่าเลย ถ้าเรามองรูปเหล่านั้นแล้วเราไม่รู้สึกอะไรกับมัน”
จากนั้นก็ไปลงเรือค่ะ..
ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางไปที่แพ 500 ไร่ประมาณชั่วโมงครึ่ง
ซึ่งเป็นแพที่อยู่ลึกที่สุดค่ะ ระหว่างนี้หากจะติดต่อใคร หรือจะเช็คอิน ให้รีบจัดการเลยนะคะ
เพราะหลังจากที่เรืออกจากฝั่งแล้ว...
สัญญาณโทรศัพท์ สัญญาณอินเตอร์เนตของทุกค่ายจะมลายหายไปหมดเลยค่ะ ^^
__________________________________________________
ล่องเรือมาเรื่อยๆ จะมีไกด์คอยอธิบายให้ฟังค่ะว่า..
เขื่อนนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ภูเขาลูกนั้น ลูกนี้ชื่อว่าอะไร มีแวะจอดให้ถ่ายรูปอยู่เรื่อยๆค่ะ..
รับรองว่าตลอดชั่วโมงครึ่งนี้ ไม่เหงาแน่นอน...^^
______________________________________
ระหว่างทาง...ที่ไร้สัญญาณโทรศัพท์ ไร้อินเตอร์เนต
....#มันสวยงามแบบนี้นี่เอง..^^
และแล้วก็มาถึงที่หมายของเราแล้วค่ะ...
“แพ 500 ไร่”
"ใครๆต่างก็มีฝันใหญ่ๆ ที่ปลายทาง...
แต่ก็ไม่แปลกที่ระหว่างทางเราจะค่อยเก็บเกี่ยวฝันเล็กๆของเราไปด้วย
เพราะการเดินทางของชีวิตนั้นระหว่างทางก็เป็นช่วงที่น่ารื่นรมย์ไม่แพ้กัน..."
>>>>>>>>>>
เมื่อขึ้นแพมา...จะพบกับ Welcome Drink และอาหารกลางวันที่รอบริการเรา
เป็นแบบบุฟเฟ่...
(ไม่ได้ถ่ายภาพอาหารมาเลย..เนื่องจากว่าหิวมาก..เอาเป็นว่า..อาหารอร่อย สะอาด และปริมาณเพียงพอสำหรับทุกท่านแน่นอนค่ะ ^^)
ชมวิวไปพลางๆ ระหว่างมื้ออาหารไปก่อนนะคะ..^^
__________________________________
ป่ะ...เอากระเป๋าเข้าไปเก็บที่บ้านพักกันเถอะ ^^
ในช่วงกลางวัน...ที่นี่จะไม่เปิดแอร์นะคะ จะเปิดแค่ช่วงหกโมงเย็น - เจ็ดโมงเช้าเท่านั้น
เพราะฉะนั้นเรามาถึงที่พักเกือบบ่าย ก็ต้องอยู่แบบธรรมชาติแบบนี้ไปค่ะ...
>>>>>>>>>
แค่ได้เห็นวิวแบบนี้ก็มีความสุขแล้ว... ^^
___________________________________
มุมมองจากนอกบ้าน...
แอบมีสาวๆติดมาด้วย...^^
________________________________________
อ้าแขนสองข้างของคุณให้กว้างเพื่อเปิดรับชีวิต...
วันนี้คือวันที่หนังสือของชีวิตคุณเพิ่งจะกำลังเริ่มต้นขึ้น
ที่เหลือ... มันยังไม่ได้ถูกเขียนขึ้นเลยล่ะ....จริงไหม?
_________________________________________
ห้องน้ำที่นี่ จะถูกแยกออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งที่เป็นห้องอาบน้ำ และห้องส้วม
มีอ่างล้างหน้าอยู่ด้านนอกบริเวณโต๊ะเครื่องแป้ง
นี่คือส่วนของห้องอาบน้ำค่ะ
อีกฝั่งคือส่วนของห้องส้วม ^^
มีบันไดสำหรับปีนขึ้นไปข้างบนด้วยนะคะ..
ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่บนนั้น...เพราะระเบียงก็ไม่มี...
ไหนๆ...ลองปีนขึ้นไปดูซะหน่อยดีกว่า ^^
หลังจากปีนบันไดขึ้นมา...จะพบกับสิ่งนี้ค่ะ..."ห้องใต้หลังคา"
ชอบมากๆ..คืนนี้ขอจองตรงนี้ละกันนะ..
____________________________________
เราก็ไม่รู้นะว่าการเดินทางคืออะไร
แต่คนที่เดินทางทุกๆ คนอาจจะคิดเหมือนกันว่า...
เราไม่อยากอยู่ในที่ ที่เคยอยู่ ไม่อยากทำในสิ่งที่เคยทำ
ไม่อยากอยู่กับสังคมหน้ากาก และคงมีหลายคน...ที่พร้อมจะไป
ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่ามีอะไรรอเราอยู่ ......
>>>>>>>>
แอบติดเพื่อนมาด้วย...ฟีลกำลังมาเลย ^^
_________________________________________
"คุณต้องออกไปสัมผัสกับหยาดฝนที่หล่นลงบนผิวคุณด้วยตัวเอง...
ไม่มีใครสัมผัสหรือรู้สึกแทนคุณได้ มีแต่คุณเท่านั้นที่ทำได้" ^^
_____________________________________________
การเดินทาง คือ การเปลี่ยนที่ทาง หากรู้สึกเบื่อที่เดิมๆ
การเดินทาง คือ การหาที่ใหม่ทบทวนเรื่องเดิมๆ ของที่เก่าๆ
การเดินทาง คือ การได้คิดถึงคนบางคนมากเป็นพิเศษ
การเดินทาง คือ การได้รู้จักเพื่อนคนนั้น คนนี้มากขึ้น
การเดินทาง คือ การได้มิตรภาพ และประสบการณ์ดีๆ ด้วยกัน
การเดินทาง คือ การได้มีอดีตให้กลับไปนึกถึง
การเดินทาง คือ การได้ค้นหาใจและคำตอบบางเรื่องสำหรับตัวเอง...
ฉันมีความทรงจำดีดี ในหลายที่ที่เคยไป
ทะเลภูเขา สายธารเมฆหมอกขาว
แต่มีเรื่องราวที่หลากหลาย
ได้เคยเห็นความหวัง ในรอยยิ้มของผู้คน
เคยมีความกังวล บนถนนเมื่อฝนพรำ
และมีความสุขใต้ฟ้าสีดำ ในคืนที่มีดาวพร่างพราย... ^^
__________________________________________
บางครั้งการเดินทางของเรา อาจไม่ใช่การค้นหาเสมอไป
บางคร้งการเดินทางของฉัน...มันเป็นเพราะหัวใจพาไป หรือไม่ก็เพื่อนลากไป
แต่หลายๆครั้งที่เดินทางถึงจุดหมายแล้ว
บางทีเราอาจได้พบสิ่งใหม่ๆ หรือไม่ก็เป็นสิ่งดีๆระหว่างการเดินทาง
รู้สึกมีความสุขกับการได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก ได้จับ ได้ถือกล้อง ได้ถ่ายรูป สุขที่ได้เห็น สุขที่ได้ไปในสถานที่สวยๆ
สุขเวลามีคนยิ้มกลับมาให้ตอนที่นับ 1 2 3..(แม้จะผ่านเลนส์ก็เถอะ..^^)
และเหนือสิ่งอื่นใด..คือ มิตรภาพ ที่ได้รับจากเพื่อนๆ
ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนอีกครั้ง...ที่ไม่มีการเขินกล้อง(เลยสักนิด) ไปไหนไปกัน ช่วยเหลือเกื้อกูล
และแบ่งปันมิตรภาพอันแสนจะวิเศษสุดนี้ เป็นทริปที่น่าจดจำอีกหนึ่งทริป...
_______________________________________
อาจจะมี gene บางคู่ที่แปลก ๆ ในร่างกายของเราล่ะมั๊ง?
ทำให้มีความสุขทุกครั้งที่ได้ออกเดินทางไปตะลอนๆ ตามที่ต่างๆ
บางครั้งปลื้มใจตั้งแต่การเตรียมข้อมูลการเดินทาง เตรียมอุปกรณ์ หรือแม้แต่การจัดของลงกระเป๋า
แค่ได้รู้ว่าพรุ่งนี้เราจะได้เดินทาง หัวใจมันก็ลิงโลด อยากให้ถึงพรุ่งนี้เช้าไว ๆ ... ^^
________________________________________
การเดินทาง...เพื่อหาคำตอบที่เป็นตัวเอง
เพื่อ...ค้นหาอะไรซักอย่างที่ตอนนี้เราเองก็ยังตอบไม่ได้
เพื่อ...ไปให้ธรรมชาติช่วยปลอบโยนจิตใจของเราเอง
รสชาติของชีวิต...ที่ทุกคนสามารถให้กับตนเองได้ตลอดเวลา
ขึ้นอยู่กับเราเองว่าจะต้องการสชาติชีวิตแบบนี้หรือไม่
สำหรับเรา....การเดินทางเป็นรสชาติที่ดีที่สุด ที่หาซื้อไม่ได้
หรือไปซื้อซ้ำก็ไม่ได้ เป็นรสชาติที่ให้ความแปลกใหม่ทุกครั้งที่ได้ลิ้มรสมันเข้าไป...
เผลอแป๊บเดียว...ก็ได้เวลาท้องฟ้าเปลี่ยนสีซะแล้วสิ..^^
เตรียมไปทานมื้อค่ำกันนะคะ...(ไม่ได้ถ่ายภาพอาหารมาอีกแล้ว...แย่จัง)
ขอบอกราตรีสวัสดิ์ไปด้วยเลยนะคะ....zzZZZ
__________________________________________
อรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่...
>>>>>>>>>
บางครั้งเราก็อดถามตัวเองไม่ได้ว่า...มาทำไม?
ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นนักเดินทาง มันดูโก้เก๋เกินไปสำหรับเรา
ในเมื่อตัวเราเองยังไม่รู้เลยว่าการเดินทางคืออะไร?
จะเดินไปสู่หนใด จะสิ้นสุด ณ โค้งรุ้งไหน และเมื่อดาวดวงใดจะแตกดับ
แต่เราก็ไม่เคยใส่ใจที่จะหาคำตอบจริงจังอะไร...
เพราะนอกจากคำตอบสั้นๆ ชัดๆ ว่า “ไม่รู้” ก็ไม่มีสิ่งใดที่เป็นเหตุผล
นอกเหนือไปจากอะไรบางอย่างเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่อย่างสงบเสงี่ยม...ในทุกก้าวย่างของการเดิน
______________________________________________
การได้ออกไปปลดปล่อยและได้ไปนั่งกับลม กับฟ้า กับอากาศ
ไปยังสถานที่ที่เราไม่เคยไป...และที่พิเศษที่สุดก็คือ...การได้นั่งดูใจตัวเองด้วย
สูดอากาศยามเช้าไปเพลินๆ ก็ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว..
ทานเสร็จแล้วก็เตรียมตัวเช็คเอ้าท์เลยนะคะ..^^
สถานที่ที่เราจะต้องไปต่อ...ก็คือ..
"เดอะนิน รีสอร์ท" ตั้งอยู่บนหาดขนอม อยู่ในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช
ก่อนที่จะไป...ก็แวะนมัสการพระธาตุศรีสุราษฎร์ เขาท่าเพชร สุราษฎร์ธานี
เพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ...^^
ถึงแล้ว..."หาดขนอม"
>>>>>>>>>
แน่นอนว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่พบเจอระหว่างการเดินทาง อาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหวัง
หรือไม่ได้เป็นตามที่เราต้องการ แต่อย่างน้อยมันก็จะเป็นบทเรียน
เพื่อให้เราได้มีโอการเรียนรู้ที่จะปรับตัวเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างกลมกลืน
บางครั้งก็อาจเป็นไปได้ว่าสายลมจะพัดพาเราไปพบไปเจอกับสิ่งดีดี
ได้พบมิตรภาพใหม่ ๆ หรือเปิดโลกที่เรามองเห็นในมุมมองใหม่ที่เราอาจไม่มีวันได้ค้นพบ
ในการใช้ชีวิ