เหตุผลที่เราเรียกที่นี่ว่าภูเขารูปหัวใจ ไม่ใช่เพราะว่ากำลัง In Love นะคะ ฮ่าๆๆๆ ... แต่ภูเขานี้ ถ้าเรามองจากมุมสูง เราจะมองเห็นยอดภูกระดึงเป็นรูปหัวใจ (ตามในรูป).. แต่จริงๆ เราก็แอบได้ยินมานะว่าหลายๆคู่ ก็มาตกหลุมรักหรือบอกรัก (หรืออาจบอกเลิก)กันที่นี่..ทำไมนะเหรอคะก็เพราะว่าหนทางปีนขึ้นไปยอดดอยนะสิคะ โหดใช่เล่นใครยังไม่เคยมา และอยากมาก็ลองฟิตร่างกายกันนิดนึง หรือแอบหาคนรู้ใจมาด้วยกันก็อาจดีนะคะ ฮิ้วววว :p อ่ะ ก่อนเริ่มรีวิวภูกระดึง เราอยากให้เพื่อนๆรู้ประวัติของที่นี่กันสักหน่อย เผื่อใครสนใจและเก็บข้อมูลจะได้เที่ยวแบบรู้ที่มาที่ไปกันนะคะ...ตามตำนานภูกระดึงมีเรือ่งเล่าว่า มีนายพรานคนหนึ่งตามล่ากระทิงโทนขึ้นไปบนยอดเขาสูงลูกหนึ่งในเขตตำบลศรีฐาน ได้พบพื้นที่บนยอดเขาราบเรียบและกว้างใหญ่มากเป็นทุ่งหญ้าสลับกับป่าสน มีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างเรียงรายเป็นระเบียบ และยังเต็มไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด เช่น ช้างป่า ฝูงกระทิง เก้ง กวาง ซึ่งหากินอยู่เป็นฝูง ๆ ไม่ตระหนกตื่นกลัวนายพราน เนื่องจากไม่เคยเห็นคนมาก่อน นับจากนั้นมา ภูกระดึงก็เริ่มเปิดตัวเองสู่สายตาชาวโลก เล่าลือกันมาแต่โบราณว่า มีผู้ได้ยินเสียงระฆังของพระอินทร์ที่อยู่บนเขานี้ดังนั้นจึงให้ชื่อว่า ภูกระดึง หรือ ภูกะดึง เพราะคำว่า “ภู” หมายถึง ภูเขา และ “กระดึง” มาจาก “กระดิ่ง” ภาษาพื้นเมืองจังหวัดเลยแปลว่า “ระฆังใหญ่”...

อ่ะ ... ความรู้เยอะแล้ว.... ตอนนี้เพื่อนๆพร้อมจะไปเที่ยว ... ภู เ ข า ร ะ ฆั ง ใ ห ญ่... กันรึยังคะ....

เรานั่งรถทัวร์นอนจากหมอชิตไปลงที่ผานกแอ่นตอนเช้าถึงประมาณตีสี่คะ ราคาประมาณ 400 กว่าบาทนะคะ ภาพผานกเค้าตอนเช้ามืดคะ... มาถึงรถทัวร์จะจอดหน้าร้านเจ๊กิม..ที่นี่มีห้องน้ำ จุดบริการหก็ล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนชุด เพื่อเตรียมพร้อมพิชิตยอดภูกระดึงกันคะะ และแล้ว...ก็ถึงเวลาอาหารเช้า... จริงๆยังไม่หิวกันนะ แต่เพื่อตุนแรงไว้ปีน ซำๆๆๆๆ ทั้งหลายวันนี้อ่ะ สะหน่อย... กินอิ่ม..ก็ถึงเวลาเดินทาง..แก๊งค์เรามีกัน 9 คน ก็เหมาสองแถวกันซะเลยยยยย

ลมตอนเช้าเย๊นเย็นทำให้รู้สึกจริงๆว่า การเดินทางเริ่มขึ้นจริงๆแล้วสินะะ :)

ถึ ง แ ล้ ว ว ว ว ว ~~

ก่อนจะขึ้นเขาระหว่างทางเดินแต่ละซำ จะมีแผนที่บอกระยะทางปีนภูกระดึงให้ ระยะทางทั้งหมด 5.5 กม. เป้าหมายของเราคือถึงก่อนเที่ยง รวมกินข้าวระหว่างทางคะ...

โม้ซะเยอะ เ ริ่ ม เ ดิ น เ ล ย ล ะ กั น น น น น น..

เดินมาได้สักพัก..เจอพี่ลูกหาบที่หาบสัมภาระของพวกเราขึ้นมา เลยขอถ่ายรูปด้วยซะหน่อย พี่ลูกหาบก็ใจดีถึงจะเหนื่อยแต่ก็ยิ้มสู้ ชูนิ้วสู้ตาย .. เห็นละพวกเราจะยอมแพ้ได้ไงงงงง ... อ่ะ กลั้นใจ ปี น ต่ อ

มิ ต ร ภ า พ ร ะ ห ว่ า ง ก า ร เ ดิ น ท า ง ...

Trick: เนื่องจากเรามากันเป็นกลุ่มใหญ่จึงไม่สามารถเดินทางไปพร้อมๆกันหมดได้ เลยตัดสินใจแยกกันเดินแล้วนัดกันว่าจะทานข้าวที่ซำกกกอก (ถ้าจำไม่ผิดนะ) ใครเดินเร็วก็เดินไป เดินช้าก็เดินไปคะ ฮ่าๆ .. แต่จะดีก็จับคู่หาบั๊ดดี้ไปด้วยกัน เผื่อเดินไม่ไหวให้เพื่อนลากขึ้นให้ ^^

เ เ ล้ ว ก็ ถึ ง สั ก ที .. ที่ นี่ มี ชื่ อ ว่ า .. ซำ เ เ ฮ ก..

เราก็เดินกันมาเรื่อยๆคะ หลังจากซำสุดท้าย ทางเดินจะเป็นสันปีนกันเหนื่อยๆหน่อย..บางจุดก็เป็นบันไดให้ไต่ขึ้นคะ.. เดินๆไปคนก็ให้กำลังใจกันไป

"ใกล้แล้วอีกนิดเดียว สู้ๆนะ" เสียงคนที่กำลังลงเขา พูดให้กำลังใจ..

เอาว่ะ..เดินต่อ..ไม่วายหันไปมองเพื่อนร่วมทาง อยู่กันครบมั๊ย.. เป้าหมายไม่ไกลแล้วว..

เราขึ้นมาถึงเป็นกลุ่มสุดท้ายเพราะมัวแต่อู้...เอ๊ย...เดินอย่างตั้งใจอยู่ :D ที่ตรงนี้เรียกว่าหลังแป..เป็นจุดที่เราต้องมาถ่ายป้ายผู้พิชิตภูกระดึง..

~~ แ ต่ ! อ ย่ า เ พิ่ ง ดี ใ จ ค ะ .. ดู ป้ า ย ข้ า ง ล่ า ง สิ  ~~

...เ ร า ต้ อ ง เ ดิ น ต่ อ เ เ น ว ร า บ อี ก 3, 1 7 0 เ ม ต ร  ...

เหนื่อยเราไม่เหนื่อย เมื่อยเราไม่เมื่อย เราเดินไปเรื่อยๆ เราทั้งเหนื่อย เราทั้งเมื่อย T_T  (ร้องเป็นรอบที่ 18 ... ถึงรึยังละ).. 

รับกระเป๋าเสร็จแล้ว.. จริงๆ ตามสูตร ควรจะตรงไปห้อง เก็บของ ล้างหน้าล้างตา .. แต่ .. เมื่อสิ่งที่เรียกว่า " ความหิว " มาเยือน.. สิ่งที่เราทำคือ แบกกระเป๋าตรงเข้าร้านอาหารคะ ฮ่าๆ ... ขนาดปีนเขาไปทานไปแล้วนะ มันหายไปไหนหมด ..

อิ่ม ฟินนนน ... ก็กลับบ้านนอน ... เอ๊ย ... กลับบ้านเก็บกระเป๋า .. เตรียมตัวไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูด.. หนุ่มๆขยันขันเเข็ง เข็นกระเป๋ามายังบ้านพัก ..

Home Sweet Home .. เมื่อมาถึงบ้านก็แทบจะล้มตัวลงนอน .. ขุดตัวเองขึ้นมาได้ เพราะได้ยินเสียงเพื่อน..

" ถ้าอยากทันเห็นพระอาทิตย์ตก เราต้องออกเดินตอนนี้ละนะ " เสียงหัวหน้าทัวร์ดังมา

Trick: บนภูกระดึงมีจักรยานให้เช่านะคะ คันละ 40 บาท.. สามารถขี่ตั้งแต่หลังเปลมาได้เลยนะคะ แต่วันนี้มาถึงสายเช่าละไม่คุ้ม แก๊งค์เราแพลนจะเช่าวันพรุ่งนี้ เพราะแพลนจะไปผาหล่มสัก จริงๆ ก็เดินไม่เยอะมากนะ ไปกลับประมาณ 20 โล เอ๊งงงง (เสียงสูง)..

เดินไปต่อสักพัก อ้าววววววววว ทำไมมีฝูงชนเดินสวนกลับมา ... งั้นก็แปลว่าพระอาทิตย์ตกไปแล้วนะสิ TT_TT แป่วววววววว..แต่ไหนๆเดินมาละ ไปต่อละกันไปดูแสงทไวไลท์ก็ยังดี.. "แ ส ง สุ ด ท้ า ย" - ภาพแสงสุดท้ายช่วง Twilight ไม่เคยทำให้เราผิดหวังจริง ๆ

เช้านี้พวกเราแยกย้ายกันไปหาของอร่อยทานตามอัธยาศัย ก่อนนัดเจอกันที่ร้านอาหารแถวจุดกางเต๊นท์ .. เช้าๆที่นี่มีร้านอาหารเปิดหลายร้านทั้งโจ๊ก (หมูเยอะมากกก), ไข่กระทะ, ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้, ข้าวแกง อาหารกล่อง, กาแฟสด (อันนี้ปลื้มเป็นพิเศษ)... ราคาก็ตกจานละ 50-60 บาท ซึ่งแพงกว่าข้างล่างแน่นอน แต่จากที่เราเห็นลูกหาบแบกของขึ้นภูแล้ว.. เราว่าให้เค้าเถอะ ..เราแนะนำทั้งโจ๊กแล้วก็ไข่กระทะเลยคะ..อร่อยจริง!! ถ้าไปอีกก็จะทานอีก.. วันนี้เราซื้อข้าวเหนียวหมูกระเทียมเป็นเซ็ตพกติดตัวไปด้วยคะ เพราะเราจะต้องเดินทางไกลผ่านจุดที่ไม่มีร้านค้า เซ็ตละ 60 บาท กันตายคะ :D

เสบียงพร้อม คนพร้อม ก็เริ่มเดินทางกันโลดด ...วันนี้เราเดินทั้งวันคะ.. เริ่มจากตัดเข้าใจกลางภูกระดึง ผ่านทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ผ่านสระอโนดาต และไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก.. เดินไม่ไกลมากก็ประมาณ 20 โลเท่านั้นเอ๊งงงงงงงงง...

Trick: ถ้าอยากจะเช่าจักรยาน ยังไงลองไปติดต่อร้านเช่าแต่เนิ่นๆ ตั้งแต่วันก่อนหน้านะคะ (เราไปเช่าแล้วจักรยานหมดคะ).. 

ผ่านจากองค์พระจะเจอน้ำตกหลายแห่ง แต่วันนี้เราเดินข้ามไปก่อน .. ค่อยมาลุยกันพรุ่งนี้ พร้อมถุงกันทากนะ .. ^^a

ทุ่งหญ้า ป่าสน ป่าเต็ง ท้องฟ้า สายลม แสงแดด .. ขาดก็แต่คำว่า .. "ส อ ง เ ร า".. ฮิ้วววว (เพราะไปกันแก๊งค์เบ้อเริ่มม)

ด้วยแดดที่ร้อนบวกใช้พลังงานในการเดินทางแบกเสบียง แบกกล้อง..ไม่ทันไรก็หิวอีกแล้ว เราเลยแพลนกันว่าจะแวะทานข้าวเที่ยงที่ ส ร ะ อ โ น ด า ต ซะเลยยยย.. ที่นี่อากาศร่มรื่น น้ำนิ่งมากแต่แอบน้อยไปหน่อย..คงเพราะเลยหน้าฝนมานานแล้วววว..

นั่งจกข้าวเหนียวหมูกันใต้ต้นไม้นี่หละคะ... อ้อ เพื่อนๆ อย่าลืมพกขยะของตัวเองไปทิ้งบริเวณที่เค้าจัดให้ ณ. จุดกางเต๊นท์ด้วยนะคะ .. ถือว่าช่วยกันรักษาแหล่งท่องเที่ยวสวยๆให้อยู่คู่คนไทยไปนานๆคะ ^^