เมื่อฤดูกาลแห่งความชุ่มฉ่ำหวนกลับมา ก็เป็นช่วงเวลาของราชินีแห่งป่าฝน อย่าง ดอกกระเจียว ที่พร้อมจะอวดโฉมให้ผู้ที่เฝ้ารอได้ชื่นชมความงดงามกันอีกครั้ง ในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี ดอกกระเจียว หรือ ดอกบัวสวรรค์ จะเริ่มชูช่ออวดสีสันซึ่งถือเป็นการเชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความสวยงามของทุ่งดอกไม้สีชมพูสดใสโดยจะมีให้ชมยาวไปจนถึงช่วงเดือนสิงหาคม
เราออกเดินทางสู่ อำเภอเทพสถิต เพื่อไปยัง อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ในช่วงเดือนที่ตรงกับเทศกาลดอกกระเจียวบาน นักท่องเที่ยวต้องจอดรถไว้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแล้วเปลี่ยนมานั่งรถราง ซึ่งเป็นวิสาหกิจของชุมชนเทพสถิตโดยคิดค่าบริการคนละ 30 บาท ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามากันเป็นจำนวนมาก
จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวใช้เวลาประมาณ 10 นาที รถรางจะพาเราไปส่งยังจุดแรกนั่นก็คือ ผาสุดแผ่นดิน จุดชมวิวที่สูงที่สุดของเทือกเขาพังเหย (846 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง) บริเวณนี้ถือเป็นรอยต่อระหว่างภาคกลางกับภาคอีสาน สามารถมองเห็นพื้นที่ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จังหวัดลพบุรี ช่วงฤดูฝนโดยเฉพาะในตอนเช้าจะมีไอหมอกปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ ผาสุดแผ่นดินเป็นจุดท่องเที่ยวที่อยู่เหนือสุดของที่ทำการอุทยานฯ ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 2 กิโลเมตร
ต่อเนื่องจากผาสุดแผ่นดินจะมี เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติผาก่อรัก ที่มีระยะทางราว 1 กิโลเมตร ซึ่งเชื่อมต่อไปยัง ทุ่งดอกกระเจียว อันเป็นไฮไลท์ของทริปนี้ ดอกกระเจียวสีชมพูสดใสที่บานรอเต็มทุ่ง ซึ่งจะชูช่ออวดความงามให้เราได้ชมกันแค่ปีละครั้งเท่านั้น ถ้าอยากจะเห็นดอกกระเจียวบานแน่นทุ่งเราแนะนำว่าให้มากันในช่วงตั้งแต่ปลายๆ เดือนมิถุนายน-สิงหาคม ถึงแม้ว่าช่วงนี้อาจจะต้องเสี่ยงกับการเจอฝนกันหน่อยแต่รับรองว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน ตลอดเส้นทางเดินที่ทอดยาวคดเคี้ยวไปตามจุดต่างๆ ของทุ่งนั้น เราจะได้แวะหยุดถ่ายรูปตามจุดต่างๆ กันอย่างจุใจ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจถ้าในช่วงเทศกาลจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาชมความงามนี้กันอย่างแน่นขนัด
เมื่อเต็มอิ่มกับความงดงามของทุ่งดอกกระเจียวกันจนหนำใจแล้ว นักท่องเที่ยวจะต้องเดินมาที่จุดรอรถรางเพื่อไปยัง ลานหินหน่อ สวนหินทรายดึกดำบรรพ์ที่มีอายุกว่า 200 ล้านปี โดยทางอุทยานได้ทำทางเดินให้กับนักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมประติมากรรมธรรมชาติท่ามกลางพรรณไม้นานาชนิดได้อย่างเพลิดเพลิน
ปิดท้ายกับจุดท่องเที่ยวจุดสุดท้าย คือ ลานหินงาม ลานหินทรายสุดกว้างใหญ่ที่รวบรวมตะกอนแห่งกาลเวลารูปทรงประหลาดไว้หลากแบบ ไม่ว่าจะเป็น หินถ้วยฟีฟ่าเวิลด์คัพ, หินจานเรดาห์, หินแม่ไก่ยักษ์, หินช้างเอราวัณ, หินถ้ำมอง, หินหำตั้ง และหินปราสาท นอกจากรูปทรงของหินที่น่าสนใจแล้ว ทิวทัศน์ที่มองหินจากบนลานหินนี้ก็สวยงามไม่น้อยเช่นกัน
เส้นทางท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จะเป็นการไล่จากจุดที่ไกลที่สุดย้อนกลับเข้ามายังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งการรอรถรางในแต่ละจุด ถือว่าใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากจำนวนของรถรางที่มีมากกว่า 10 คัน (รองรับได้ 30 คน/คัน) โดยจะวิ่งบริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม นับเป็นอีกหนึ่งอุทยานฯ ที่มีความหลากหลายในแง่ของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มีทุ่งดอกกระเจียวเป็นเหมือนพระเอกชูโรงช่วยเนรมิตบรรยากาศอันสวยงามสุดบรรยาย ทำให้อุทยานฯ แห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมในช่วงหน้าฝนของใครหลายๆ คน