ตามล่าหาพี่เสือชมพู ณ ขุนช่างเคี่ยน

มาล้าว มาล้าวว ภาคจบมาล้าวววค่า 
ก่อนอื่นต้องกราบขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามบันทึกคนบ้ากันนะคะ
เค้าไม่มีอะไรจะอ่านกันแล้วรึป่าวเมิง เรื่องคิดไปเองนี่ขอให้บอก ความรักก้เช่นกัน เอ้าเห้ย! ไม่เกี่ยววววว

ละก้ต้องขอโต้ดนะที่เค้ามาช้า เตงอย่าเพิ่งงอลเค้านะ เค้างานเยอะจิงๆนะคะคนดี
กระทู้นี้เป็นกระทู้ตอนจบสำหรับทริปเชียงใหม่-ปายค่ะ
ใครยังไม่ได้อ่านภาคแรก-ภาคสอง ไปอ่านซะ เดี๋ยวจะคุยกะเพื่อนไม่รู้เรื่อง
"ป า ย" กะพี่มั้ยน้อง
กิ่วแม่ปาน – ดอยอิน – แกรนแคนยอน – ท่าแพ

ตอนจบนี้เราจะพาไปเที่ยวเส้นดอยสุเทพ-ปุย และนั่งชิวในเมืองเชียงใหม่กันค่ะ
จะเรียกว่าเป็นไฮไลท์ของทริปเลยก้ว่าได้ค่ะ เพราะทริปนี้พวกเราตั้งใจจะไปดูเจ้าพญาเสือโคร่งกัน
แต่!!! กลับกลายเป็นว่ามันพลิคล็อค หักมุมยิ่งกว่าตอนจบของ series ฝรั่งไปอีกค่า มันเป็นยังไงตามมาดูกัน

หลังจากเที่ยวกันแบบ non-stop กันไป 3 วันติด เดินขึ้นเขา เข้าป่า แว้นมอไซค์ นอนกันคืนนึงไม่ถึง 4 ชั่วโมง 
เช้านี้เราอนุญาตให้ตื่นสายค่ะ วันนี้เราเริ่มทริปกันตอน 9 โมง สาบานว่านี่สายแล้ว !!? 
ถ้าอยู่บ้านนะป่านนี้ยังนอนคลุมโปงตูดโด่งอยู่เลยให้ตายเส่ะ!
ออกจากโรงแรม 9 โมงเช้า จุดหมายแรกเลยคือร้าน iBerry ค่ะ เป็นเหมือน landmark ของนิมมานไปแล้ว
น้องในกลุ่มอยากไปถ่ายรูปกะหัวพี่ นม-อุ-โด้ต โอเคย์ แจ้พาไปค่ะ 

ไปรอบนี้เค้าย้ายหัวมาอีกฝั่งละนะพวกเทอ เพิ่มมาเป็น 2 หัวคู่แล้ว แล้วกุโสดทำไงอ้ะ ไม่ถ่ายก้ได้ ชิ!
ผู้หญิงอยู่ซ้าย ผู้ชายอยู่ขวา ส่วนคู่ตรงกลาง ไม่ต้องสงสัยค่ะ ยืนถูกต้องแล้ว

ร้านเปิด 10 โมงค่ะ เราเดินจากโรงแรมตรงกาดสวนแก้วมาถึงร้านตอน 9 โมงครึ่ง มีเวลาถ่ายรูปเหลือเฟือ

10 โมงเป๊ง ใครอยากกินไอติมไปซื้อมา เอาแบบ take home นะ กุมือสั่นใจสั่นไปหมดละ คิดถึงกาแฟแก้วโปรด

ร้านต่อไปเป็นร้านกาแฟร้านโปรดเราเอง
มาเชียงใหม่แล้วไม่กินกาแฟร้านนี้นะ ใจจะขาดเหมือนพลัดพรากจากแฟน
เดี๋ยว เดี๋ยว เมิงเคยมีความรู้สึกนี้กะเค้าด้วยหรอ ว่าแต่ ไหนแฟน!!!
เออๆ ลืมไปว่าไม่มี จบนะ! ไปๆ กินกาแฟเถอะ จะเป็นร้านไหนไปไม่ได้นอกซะจากร้าน Ristr8to Lab

มันก้คือลูกของร้าน Doppio Ristr8to ที่อยู่ตรงปากซอยนั่นแหล่ะ
คนมันเยอะ เค้าเลยขยายสาขาเข้ามาข้างในซอย
เอาเป็นว่าใครชอบฟีลดาร์คๆ คนเยอะๆ ฮิปๆ ก้ยืนต่อคิวตรงปากซอยไป แต่ถ้าใครอยากได้ฟีลชิลๆให้เดินเข้ามานี่
เดินเข้าไปในซอย 3 เลยค่ะ ตรงไปเรื่อยๆ มองทางขวา หาร้านกาแฟชิคๆ เดี๋ยวเจอเอง
ร้านนี้จะโด่งดังในเรื่อง Latte Art มีกาแฟหลากลายสายพันธุ์จากทั่วโลก
รับรองว่าใครที่เป็นคอกาแฟต้องชอบร้านนี้
เอารูปมาให้ดูนะ ชื่อเมนูลืมไปหมดละ ดองไว้นานไม่มีเวลาเขียนก้งี้

ส่วนแก้วนี้โกโก้ร้อน จำได้ตั้งแก้วนึง เก่งมั้ยหล่ะ

ส่วนที่เป็นเย็นไม่ได้ถ่ายมา เพราะหน้าตาปกติเหมือนร้านทั่วไป แต่รสชาติไม่ทำด๊า ไม่เชื่อก้มาลองเองแล้วกัน

จะเที่ยงละ ไปหาข้าวกินกันเหอะ จะได้ขึ้นดอยกันซะที มาเหนือวันที่ 4 ละ ยังไม่ได้กินอาหารเหนือเลย
เอาร้านประจำ เดินใกล้ๆก้ละกัน ต๋อง-เต็ม-โต๊ะ
ถ้าวันนี้ต้องรอคิวนาน จะงอนเปลี่ยนชื่อร้านให้เป็น ต๋อง-โต๊ะ-เต็มละนะ
คราวก่อนนู้นอยากกินมาก ไปถึงร้านตอนค่ำ ได้คิวที่ 30 กว่า นี่ก้บ้ารอ คิดแล้วก้ตลกตัวเอง เมิงบ้าป่ะเนี่ย!
วันนี้แจ็คพอตมาก ไปถึงไม่ต้องยืนรอ ได้โต๊ะเลย สวรรค์ทรงโปรด ใครอยากกินไร สั่งเลย 
กินให้อิ่มนะ เดี๋ยวกุจะพาไปลำบาก 5555555 

สั่งเสร็จหันไปหน้าร้าน แม่จ้าว!!! ในเวลาแค่ไม่กี่นาที คนยืนรอหน้าร้านเกือบ 10 คิวเห็นจะได้ ดีนะตรูมาก่อน
รอกับข้าวไม่นานมาก ก้ทยอยออกมาเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้นซะที นี่แทบอยากจะตะโกนว่า น้องคะพี่ขอต่อโต๊ะค่ะ!!!
นี่พวกเมิงกินตุนกันไว้ 3 วันหรอ!!?

ไม่ใช่เมนูละจานนะ บางเมนูสั่งเบิ้ลไปอิ้กกกก เอาที่พวกเมิงสบายท้องกันเลอออ
มื้อนี้เราหมดไป 1200 กว่าบาท ตกคนละประมาณ 160 บาท คือถูก คืออร่อย คือดีย์

กินอิ่มแล้วก้โทรนัดแนะกับพี่เก่งรถแดงสุดน่ารัก ให้มารับพวกเราหน้าร้านค่ะ
สถานีต่อไป วัดพระธาตุดอยสุเทพ จากนิมมานไปประมาณ 15 กิโล ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
ทางก้คดเคี้ยว เป็นไงหล่ะพวกเมิง กินกันซะเปรมเชียว อย่าเชียวนะอย่า เสียดายของ 55555

วันนี้คนไม่แน่นเท่าเสาร์-อาทิตย์ค่ะ อากาศก้ดี อะไรๆก้ดี๊ดีย์ไปซะหมด

หลังจากไหว้พระเสร็จแล้วไปเดินเล่นกันที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์กันต่อ
เราชอบมาที่นี่ เพราะเราชอบดอกกุหลาบ ชอบอัลไล ไม่เข้ากะหน้าตาเมิงอีกละ - -*
กุหลาบที่นี่มีหลายสายพันธุ์มาก ดอกใหญ่กว่าหน้าเรายังมีเลย คิดดูดิว่ามันจะใหญ่ขนาดไหนนนน

ดอกไม้สวยๆก้มีเยอะเลยค่ะ

ชอบต้นนี้ ต้นอะไรก้ไม่รู้ มีลูกแดงๆน่ารักเต็มต้นเลย

ที่นี่เค้าปิดตอน 4 โมงเย็นนะคะ ใครที่ชอบดอกไม้ เผื่อเวลามาเยอะๆก้ดี เพราะมันกว้างมว้าก
จากพระตำหนักภูพิงค์ เราจะขึ้นไปที่ลานกางเตนท์ดอยสุเทพ-ปุย คืนนี้เราจะนอนเตนท์กัน 

ระหว่างทางจะมีจุดชมวิว พี่เก่ง จอด จอดดด แวะค่าแวะ เอาจิงพี่เก่งคงปวดหัวกะกุ เดี๋ยวแวะ เดี๋ยวแวะ 555555
พวกเมิงยกมือขวา ทำนิ้วเลิฟกันนน ส่วนคู่โน้น ทำอัลไล ปรึกษากุก่อน ดูสายตาเพื่อนด้วย
เดี๋ยวแม่ยันตกเขาซะเลยหนิ!

หลังจากจุดชมวิว ทางก้เริ่มแคบลง ซ้ายเขา ขวาเหว หลุมเพียบ เวลาสวนทางกันพี่นี่แทบอยากจะเปนลม
กระเด็นกระดอนกันมาพักนึง ในที่สุดก้ถึงค่ะ
ขึ้นมาใจแป้วเลย ทำไมปีนี้พี่เสือขี้อายจัง ดอกหรอมแหรม ปกติปีที่ผ่านๆมามันจะมีเยอะกว่านี้นะ
เอาน่า ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ขึ้นไปข้างบนคงมีเยอะกว่านี้น่า

เอ้าหยุดเดินกันทำไม เมิงไม่ได้นอนเต้นท์นี้ โน่น เดินลงไปอีก เตนท์สุดท้ายลิบๆของภูเขาโน่นนน
แหม่ ทำบ่นกัน แล้วพรุ่งนี้เช้าอย่ามาขอบคุณกุนะ เพราะพวกเมิงจะได้นอนดูพระอาทิตย์ขึ้นจากในเตนท์เลย
เอาของไปเก็บเรียบร้อยก้เดินกลับขึ้นมาแบกอุปกรณ์หมอน ถุงนอน ผ้ารองนอนไปกันค่ะ 
เดินแค่สองรอบ โอ้ยยย เหนื่อยใจจะขาด 

คืนนี้เราฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารตามสั่งป้าเหมือนเดิม 
ป้าดุเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่อาหารป้าก้ยังอร่อยเหมือนเดิม 
ที่เพิ่มเติมคือความเย็นของอากาศที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ และความมืดที่เริ่มแทรกตัวเข้ามาอย่างช้าๆ

วันนี้เราจะนอนดูดาวบนดิน และดาวบนฟ้านับล้านดวงกันตรงนี้ค่ะ

คืนนี้เราจะแค้มป์ปิ้งกัน ใครเคยเรียนลูกเสือ หาฟืน ก่อไฟ เมิงได้เอามาใช้ก้คราวนี้แหล่ะ
พวกเราเช่าเตากับซื้อถ่านร้านป้ามา หมูย่างร้อนๆ เบียร์เย็นๆ กับเพื่อนที่รู้ใจ มันจะมีอะไรดีไปกว่านี้...

เป็นไงล่ะ น้องกุย่างหมูแบบ medium rare ให้กิน นี่มันไม่สุกป้ะวะเมิง 555555555555

คบกันมาตั้งนาน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้แค้มป์ปิ้งกันอย่างจริงจัง 
มันมืดจริงๆนะ ไม่มีอะไรเลย มีแค่ตะเกียงเล็กๆ 4 อัน นั่งคุยกันเงียบๆ เออ มันก้ดีไปอีกแบบว่ะ

เมิงๆ ถ่ายรูปให้หน่อยสิ กุจะไปนั่งในเตนท์กัน แล้วแบบเอาฉากหลังเป็นต้นไม้ มีดาวเยอะๆอ้ะ
เดี๋ยว เดี๋ยว อัลไลของเมิง ถ่ายไม่เป็นว้อยย ไม่เคยถ่าย เอ้าเมิง ของงี้ต้องลองนะ ลองสิลอง
เออ เออออ ลองก้ลองวะ 

เออมันก้สวยไปอีกแบบแฮะ ไหนขออีกซักรูป แต่แบบไม่มีเมิงนะ 5555555555555

Morning my last day in Chiang Mai
นี่ฟิตมาก ตั้งนาฬิกาไว้ตอน 6 โมงเช้า วันนี้พี่จะล่าไข่แดงให้ได้เลย
หน้าไม่ล้าง ฟันไม่แปรง ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันค่ะ

ชั้นมานั่งรอพี่ท่ามกลางความหนาวตั้งแต่ 6 โมง แต่พี่มาตั้ง 7 โมง
บอกชั้นสิ...ว่าพี่ยังอาลัยอาวรณ์พระจันทร์อยู่ใช่มั้ย ถึงได้มาช้าขนาดเน้

บอกแล้ว ว่ามุมนี้มันใช่ พวกเมิงนอนดูพระอาทิตย์ขึ้นจากในเตนท์ได้เลย เป็นไงหล่ะ โด่วววว

เห็นศาลาลิบๆมั้ยคะ เห็นเตนท์จิ๋วๆข้างศาลามั้ยคะ นั่นแหล่ะเตนท์พวกเราเอง

ยังหนาวอยู่เลย เดี๋ยวค่อยอาบน้ำนะ เดินถ่ายรูปเล่นอีกแปปนะ พี่อาบตอนนี้ไม่หว๋ายเจงๆ

อาบน้ำ เก็บของ เก็บขยะหน้าเตนท์ใส่ถุงดำให้เรียบร้อย ฝากท้องร้านป้าเหมือนเดิม เพราะมีร้านเดียว แฮร่ 
กินข้าวเสร็จ วันนี้เราจะขึ้นไปบนหมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยนกันค่ะ เรื่องทางอย่าให้พูด โหดกว่าเมื่อวานไปอีก
ขึ้นไปถึง ใจพี่นี่แหลกสลาย เสือพี่หายไปไหนหม้ดดด โอ้ยย ชั้นมาทำอัลไลที่นี่ ภูเขาสีชมพูของพี่หายไปไหน
ไม่รู้จะพูดอัลไล เอารูปไปดูแล้วกันนะพวกเทอ

มีดอกแค่นี้ ถ่ายดอกอื่นซะยังจะดีกว่า เห้อ พี่เสียจัย

ลูกของร้านที่เราไปซื้อสตรอเบอร์รี่ แหม่ ตัวแค่นี้รู้จักเล่นกล้องซะด้วยวุ้ย

ตอนแรกคิดว่าวันนี้จะอยู่บนนี้ทั้งวัน เย็นๆค่อยกลับไปในเมือง นี่อยู่กันไม่ถึง 2 ชั่วโมงก้ไม่มีอะไรทำละ
อกหัก ช้ำรักจากพี่เสือ กลับดีกว่า

เอารูปของ 2 ปีที่แล้วมาให้ดู 

เป็นไงล่ะ คนละเรื่องเลยอ่ะ ปีที่แล้วว่าน้อยละนะ ปีนี้น้อยกว่าอีก คอตก ลงมาเอาของที่ลานกางเตนท์ดีกว่า
รู้งี้ถ่ายตรงนี้ก้ได้ ไม่ต่างกัน ดอกใหญ่กว่าข้างบนอีก ชิส์!

ลงมาถึงนิมมานประมาณ 4 โมงเย็น หิวโซกันลงมาเลย เอ้ากินว้อยกิน!!!
ร้านประจำเช่นเคย ไก่ย่างเชิงดอย ซอยเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แค่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับซอย 3 เข้าซอยไม่ลึก ร้านอยู่ขวามือ
เมนูเด็ดของร้าน ไก่ย่างหนังกรอบ ไม่อร่อยเท่าไหร่ เราสั่งเมนูนี้มา 6 จาน

ส่วนเมนูอื่นๆก้ตามรูปเลย 12 เมนู แต่! เมนูละ 2-3 จาน โอ้ยยย! ไปอดอยากกันมาจากไหนค้ะคู้นนนน

ปิดด้วยของหวานอันเลื่องชื่อสาคูแคนตาลูป และไอติมกะทิ
ใครจะตามรอย กินแค่สาคูแคนตาลูปพอนะ ไอติมกะทิเฉยๆ บางทีก้เกลียดความตรงของตัวเอง 555555

กระเพาะของคาวจบละ มาต่อกันที่กระเพาะของหวานบ้าง 
เดี๋ยวๆ แล้วสาคูแคนตาลูปกับไอติมมะกี้อ้ะ!? ไม่นับ!!! 
ออกจากซอย ข้ามถนนมากิน โรตีกู ไม่ใช่โรตีเมิงนะ อย่าไปผิดร้านเชียว
อยู่ปากซอยนิมมาน 3 แถวร้านกาแฟ Doppio Ristr8to นั่นแหล่ะ สั่งอะไรบ้างมาดูกัน
เมนูแรกเมนูโปรดเรา โรตีทิชชู่ฝอยทอง ไม่อยากกินเลย สั่งมา 2 จานพอ

เมนูต่อไปจำชื่อไม่ได้แล้ว เพราะไม่ได้สั่งเอง 555

สาบานสิ ว่าเมื่อกี้กินข้าวกันมาแล้ว กลับมานั่งดูรูป กุยังกัวตัวเองอยู่เลย ให้ตาย!!!

ขากลับจองไฟล์ทดึกสุด จะได้อยู่ดื่มด่ำกับบรรยากาศเชียงใหม่จนนาทีสุดท้าย
คนส่วนใหญ่จะจองไฟล์ทเย็น ถึงกทมค่ำ รีบพักผ่อน เตรียมลุยงานวันพรุ่งนี้ แต่เราไม่ค่ะ!!!
เที่ยวแล้ว ต้องเอาให้สุด ไปต่อค่ะ ปิดทริปกันที่ร้าน BEER LAB

เอ้าหมดแก้วว 

มือนี่พร้อมกดเปลี่ยนไฟล์ทกลับตลอดเวลา นอนต่ออีกซักคืนกันมั้ยพวกเมิง 555555 ไม่มีใครคล้อยตามเลยอ้ะ
เซง! กลับก้กลับ ถึงดอนเมืองเที่ยงคืนเป๊ะ เป็นนางซินแบกเป้สภาพสะบักสะบอม

สุดท้าย ต้องขอขอบคุณพี่โก๋ จนท. ลานกางเตนท์ดอยสุเทพ-ปุย
ที่อำนวยความสะดวกให้เราแบบ Exclusive สุดๆ
ซื้อหมูจากในเมืองขึ้นมาให้ย่าง ตังก้ไม่เอา พาขึ้นไปเที่ยวบนหมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน 
แถมขากลับยังลงมาส่งในเมืองอีก ขอบคุณมากค่ะพี่ ปีหน้าเจอกันใหม่นะคะ
ถ้าพี่ยังไม่เบื่อหน้าหนู นี่มา 3 ปีติดละ แฮร่
ที่สำคัญ ขอบคุณเพื่อนบ้า ถ้าไม่มีพวกเมิง ทริปนี้ก้คงไม่สนุกเท่านี้ #รัก

แบกใจช้ำๆกลับมากรุงเทพ เพราะปีนี้พี่เสือไม่ยอมสะพรั่ง 
ไม่!!! เราจะไม่หยุดแค่นี้ พวกเมิง อาทิตย์หน้า กุจะไปภูลมโล ใครจะไปมั่ง ยกมือ!!!