ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    Aumika •  สิงหาคม 21 , 2558

    backPack ขึ้นดอยฟ้าห่มปก อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน ep.1

    จุดเริ่มต้นของการเดินทาง

     

    สอบเสร็จเเล้วปีนี้เด็กมหาลัยอย่างเราปิดเทอมพอดีกับหน้าหนาว เลยตัดสินใจ backpack ไปเชียงใหม่กับเพื่อนๆ จุดมุ่งหมายของเราคือจะต้องขึ้นดอยให้ได้ นอนกลางทะเลหมอก

    หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตดอยที่เราเลือกไปกันคือ ดอยฟ้าห่มปก อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

    สิ่งเเรกที่ทำคือจองตั๋วรถทัวร์ โทรกันจนสายไหม้ติดยากมาก ช่วงเทศกาลคนไปเที่ยวเยอะละยังช่วงปีใหม่อีก โทรกันอยู่สองวัน ในที่สุดก็ได้ตั๋วมาในราคา 657 บาท

    //เสียดายตอนนั้นเจ๊เกียวยังไม่ลดราคา ฮ่าๆ

    โอเค ได้ตั๋วไปละสบายใจ ยังไงก็ถึงเชียงใหม่เเน่ๆ ที่นี้ก็ต้องหาที่นอนเข้าไปดูในเว็บไซต์ของอุทยานฟ้าห่มปกมีบริการให้เช่าเต๊นท์ 225 บาท/1คืน นอนได้ 3 คน

    ถือว่าได้ที่พักถูกมาก จองได้ผ่านทางเว็บไซต์เลย 

    เเละเเล้วการเดินทางก็เริ่มขึ้น

    .....

    ..

     

    ออกเดินทาง

     

     รถออก 20.30 น. พอขึ้นไปบนรถตื้นเต้นมาก มีจอทีวีส่วนตัวมีหนัง การ์ตูน รายการต่างๆให้เลือกดู มี GPS 

    เราสามารถตรวจสอบได้ว่าถึงไหนเเล้ว มีบริการหูฟังให้ยืมด้วย นอนฟังเพลงไปจนหลับ

    ประมาณ ตี 4 พี่พนักงานก็ปลุกให้ตื่นมาดื่ม กาแฟ

    ดู GPSอยู่ลำพูนเเล้ว ขนาดนั่งอยู่ในรถยังรู้สึกเลยว่าอากาศข้างนอกหนาวแค่ไหน

    ตี 5. ถึงเชียงใหม่ ลงรถที่อาเขต สัมผัสอากาศหนาวเย็นยะเยือก 

    พอถึงอาเขตมีบริการทั้งรถตุ๊กตุ๊ก รถแท๊กซี่ รถเหมา

    ที่เราต้องไปคือประตูช้างเผือกเพราะเราต้องไปต่อรถที่นั้นไป อ.ฝาง ถ้าเหมารถก็หลายร้อยบาท เลยเดินกับเพื่อนๆไปด้านหน้าอาเขต

    รอรถสองเเถวข้างถนน เเต่ด้วยความที่ยังเช้ามากๆ รถก็เลยยังไม่เยอะนัก รอประมาณ15นาที

    สองเเถวเเดงก็ขับผ่านมาต่อราคากับลุงคนขับได้ 40 บาท ทั้งรถมีเเค่พวกเรา 3 คน

    นั่งรถไปนานก็ถึงประตูช้างเผือก ที่นี่ต้องไปซื้อตั๋วรถเมย์ส้ม คนละ 80 บาท ตอนเเรกคิดในใจว่าทำไมเเพงจัง พอนั่งมาสักพักเห็นป้าย อ.ฝาง 100 กว่ากิโล 

    นั่งรถยาว 3 ชม.  ผ่าน อ.เชียงดาว ผ่าน ดอยอ่างข่าง พระอาทิตย์เริ่มขึ้น หมอกเริ่มหนา เเทบมองไม่เห็นวิวสองข้างทางนั่งไป หลับไป เวียนหัวไป อ้วกไป กว่าจะถึง  รถจอดที่ตลาด อ.ฝาง เเวะกินอาหารเช้าที่ตลาดเเล้วก็เหมารถสองเเถวไปส่งที่อุทยานฟ้าห่มปก

    วันที่ 1

     

    พอมาถึงอธุยานก็ตรงไปส่วนบริการนักทองเที่ยว อยู่ติดกับลาดจอดรถเลยค่ะ เดินข้ามสะพานหินมา

    บ้านเล็กๆตรงนั้นคือ ห้องติดต่อเจ้าหน้าที่อุธยานค่ะ

     

    สอบถามข้อมูลไปที่ลานกลางเต๊นท์  ปรากฏว่ารถที่จะขับขึ้นดอยไปลานกลางเต๊นท์ได้นั้น

    ต้องเป็นรถของอุทยานหรือรถส่วนบุคคลที่เป็นโฟร์วีล ค่าเหมารถอุทยานขึ้นดอย 1800 บาทต่อ1คัน อือหืออเเพงมาก เลยตัดสินใจรอกลุ่มนักท่องเที่ยวคนอื่นๆเพื่อที่จะหาคนหารค่ารถ

    ระหว่างที่รอก็เดินเล่นในอุทยานไปพลางๆ 

     

    เเละเเล้วก็มีกลุ่มนักท่องเที่ยวมา เเต่มากันเป็นทัวร์เลย มีไกต์ชื่อพี่แจ้ จริงๆกลุ่มลูกทัวร์ของพี่เเจ้ก็สิบกว่าคนเเล้วเเต่พี่เขาก็ยินดีรับพวกเราอีกสามคนขึ้นไปด้วยขอบพระคุณมากค่ะ 

    จ่ายค่ารถในส่วนนี้ไป240บาท รวมทั้งขาไปเเละขากลับ 

    รถของอุทยานมาถึงเป็นรถกระบะ 2 คัน เเบ่งเป็นคันเเรกให้กลุ่มลูกทัวร์นั่งคันที่สองใส่กระเป๋า สัมภาระต่างๆ 

    พวกเรานั่งไปในคันที่สอง ระยะทาง 32 กิโลขึ้นเขา ทั้งชัน ผ่านโค้งหักศอกนับไม่ถ้วน ยิ่งขึ้นสูงอากาศก็ยิ่งเย็นลง วิวสองข้างทางก็สวยขึ้นเรื่อยๆ

     

    พอเริ่มถึงจุดชมวิว รถก็จอดเพื่อให้นักท่องเที่ยวลงไปถ่ายรูป

    จากนั้นก็เดินทางต่อ

    จนถึงลานกางเต็นท์อุณภูมิตอนนี้ประมาณ 15 c ลานถูกเเบ่งเป็นโซนๆ โซน A, B, C, D 

    โซน A อยู่สูงสุด วิวสวยเชียว เราจองโซน A ไว้ ก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ พี่ทหารที่ดูเเลก็ใจดีมากบอกให้ไปเลือกเองเลย อยากนอนเต๊นท์ไหน

    โดยเขามีหมอน กับผ้าใบปูรองพื้นให้ค่ะ ส่วนผ้าห่มกับถุงนอนเราเอาไปเองจากที่บ้าน

    ลานกลางเต็นท์โซน A

    ลานกลางเต็นท์ โซน C

     

    เลือกเต็นหน้า สุดผาเลย วิวสวยไม่มีอะไรบังเเต่หารู้ไม่ว่าตอนกลางคืนนี้ เป็นจุดที่ลมเข้าจังๆ

    ถึงเต็นท์เเล้วโยนของเเล้วพักกินข้าวกัน มื้อเเรกคืออาหารกระป๋องที่เตรียมาตั้งเเต่กรุงเทพค่ะ

    เพราะไม่รู้ว่ามา บนนี้เเล้วจะมีของขาย เลยเอามาสะเยอะเลย

     

    พอเริ่มเย็นก็ไปอาบน้ำ มีบริการอาบน้ำอุ่นด้วยครั้งละ 50 บาทเเต่ถ้าใครเเข็งเเกร่งพอก็อาบน้ำเย็นไม่เสียค่าใช้จ่าย เเน่นอนว่าชฎาพรเลือกอาบน้ำอุ่นค่ะ ฮ่าๆ

    นอกจากนี้ยังมีร้านขายของเล็กๆของชาวดอยด้วย อาบน้ำเสร็จก็มาตั้งกล้องดูพระอาทิตย์ตก มืดมานอนดูดาวต่อ ไม่เคยเห็นดาวเยอะขนาดนี้ ใก้ลขนาดนี้มาก่อน :) 

     

    เเสงสุดท้ายของวันนี้

    • โพสต์-2
    Aumika •  สิงหาคม 21 , 2558

    backPack ขึ้นดอยฟ้าห่มปก อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน ep.2

    วันที่ 2

    อากาศหนาวมากนอนเเทบไม่หลับ ถุงเท้า ถุงมือใส่มาทุกอย่าง วันนี้เราตื่นตั้งเเต่ ตี 2 เพื่อเตรียมตัว

    เดินขึ้นดอยไปดูพระอาทิตย์ในตอนเช้า 

    ตี 3 การเดินขึ้นดอยก็เริ่มขึ้น ระยะทาง 3 กิโล เส้นทางสุดโหดทั้งชัน ทั้งมืด อากาศก็หนาว

    ยิ่งสูงก็ยิ่งหายใจยาก พกน้ำขึ้นไปหนึ่งขวด หมดไปตั้งเเต่กิโลเเรก ใช้เวลาในการปีนป่าย

    อยู่ 3 ชั่วโมงถึงบนจุดสูงสุดเวลา 6 โมงเช้าพอดี หมอกหน้ามาก เเทบมองไม่เห็นพระอาทิตย์

    เเต่ไม่เป็นไร เราได้รูปทะเลหมอกมาเเทน

    ลำพังเเบกตัวเองขึ้นมาก็ว่ายากแล้ว แต่พี่ยังเอากีต้าร์ขึ้นมาได้ด้วย นับถือจริงๆ

     

    พอฟ้าสว่าง ก็เดินลงไปลานกลางเต๊ทน์ใช้เวลา 3 ชั่วโมงเช่นกัน

    เเต่ตอนเดินลงไปไม่ค่อนเหนื่อย เดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ

    มาถึงเต๊นท์ที่พักประมาณ 9 นาฬิกาหมอกยังหนาอยู่เลย

    คืนที่ 2 เราตัดสินใจลงไปนอนที่อุธยานสู้อากาศหนาวบนนี้ไม่ไหว 

    เก็บของเสร็จก็ไปกินข้าว มีชาวเขามาขายส้มด้วย อร่อยมาก หวานสุด เพื่อนเลยซื้อเก็บไว้กินระหว่างทาง

     มื้อเเรกของวันนี้คือ ข้าวต้มกับมันเผา

    ระหว่างรอรถมารับ ก็เจอ พี่โบ้ 

    พี่โบ้เป็นสุนัขของพี่ทหารที่ดูเเละอุธยาน น่ารักมาก ขี้เล่น

    เอารูป พี่โบ้มากฝากค่ะ

    พอสายหน่อยหมอกก็เริ่มจางลง

    ลุงคนขับรถก็มารับเเล้ว

    วันที่ 2 นี้ไม่ได้ไปไหนค่ะ พักผ่อนอยู่ที่อุธยาน อากาศเย็น สบาย 

    ที่อุธยานจะมีโซนขายอาหารกับของที่ระลึกเล็กๆอยู่ค่ะ มื้อนี้ก็เลยจัดหนักเลย

    ตัวนี้อุ้มไม่ได้กินนะ ฮ่าๆ เห็นน้องมานอนข้างๆโต๊ะเลยเเอบถ่ายสะหน่อย

    เต็นท์ที่นอน ในคืนที่ 2 

    คืนที่ 2 หลับสนิทมากค่ะ ตื่นมาอีกทีก็เช้าเลย

    ที่ลานกลางเต็นท์ เราได้รู้จักครอบครัวของน้องพี น้องพีกับคุณพ่อคุณเเม่ขับรถมาจาก นนทบุรี

    เช้าวันนี้เราทานอาหารเช้าเเบบปิกนิคค่ะจริงๆก็คือจะเคีลยอาหารกระป๋องที่เหลืออยู่ให้หมดนั้นเอง

    คุณเเม่น้องพีใจดีให้ขนมกับให้ยืมเตาปิ้งขนมปังมาด้วย

                                                                                                           

    นอกจากจะไม่ช่วยเพื่อนทำกับข้าวเเล้วยังก่อกวนโดยการหยิบของที่นางจะใช้มาจัดถ่ายรูปตลอด ฮ่าๆ

    ด้านหลังนั้นคือห้องน้ำรวมค่ะ ถือว่าสะอาด ไม่สกปรกมากนัก ส่วนผู้หญิงที่ยืนมองเราอยู่นั้น

    คือคุณเเม่ของน้องพีค่ะ ฮ่าๆ

     

    ขากลับก็ติดรถ น้องพี ไปลงท่ารถเพื่อต่อ รถเมย์ส้มไป ประตูช้างเผือกเเล้วต่อรถไปขนส่ง กลับกรุงเทพ ค่ะ 

    สิ่งทีประทับใจ นอกจากธรรมชาติที่สวยงานเเล้ว คือมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างทาง

    ไม่ว่าจะเป็น กรุ๊ปทัวร์ของพี่เเจ้เเละครอบครัวน้องพี ขอบคุณในความช่วยเหลือนะคะ

     

    จบการเดินทาง :)

    • โพสต์-3
    Aumika •  สิงหาคม 21, 2558
    • Chonlapin  เพลงในวิดีโอชื่ออะไรคะ เพราะดีค่ะ 15 พฤศจิกายน 2558 20:49:04
    • โพสต์-4
    Aumika •  สิงหาคม 21, 2558
    เว็บไซต์จองที่พักของทางอุธยานค่ะ http://www.dnp.go.th/parkreserve/schedule_np_menu.asp?lg=1
    Mika