ลำพูนเพียงลำพัง เที่ยวทั้งเขาเที่ยวทั้งเมือง

เป็นทริปที่อยู่ดีๆก็โผล่ขึ้นมาอีกแล้วค่ะ ก่อนที่จะไป2อาทิตย์ อยู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่ามีวันหยุด 3 วันนี่หว่า ไปไหนล่ะ ไปไหนดี แล้วก็คิดขึ้นมาได้ว่าเคยอยากไปขุนตาน เพราะเมื่อประมาณ7-8ปีก่อนเคยนั่งรถไฟไปเชียงใหม่แล้วเช้าที่อุโมงค์ขุนตาน เห็นสะพานทาชมภูสีขาวตัดกับทุ่งหญ้าสีเขียวมีภูเขาเป็นแบล็คกราวน์ ไอหมอกจางๆชวนฝันเลยค่ะ งั้นก็ไปที่นี่แหละก็เริ่มหาข้อมูลจนเกิดเป็นทริปนี้ขึ้นมา

แผนการคร่าวๆที่เตรียมไว้นะคะ นั่งรถไฟคืนวันศุกร์ไปถึงขุนตานอีกวันนึง ก็เดินเล่นในอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล เช้าอีกวันก็ขึ้นย.4 กลับลงมานั่งรถไฟรอบ11.00โมงเข้าตัวเมืองลำพูน แล้วรอรถรางพาเที่ยวตัวเมืองลำพูนรอย13.30น. ตอนเย็นก็เดินเล่นตัวเมือง อีกวันก็เป็นวันชิลๆเตรียมตัวกลับกรุง แต่...มันไม่ใช่แบบนั้นค่ะ555 เดี๋ยวไปดูกันว่าจะเป็นยังไง

ใหม่เริ่มออกเดินทางคืนวันศุกร์ที่ 2 ธ.ค. ด้วยรถไฟชั้น3ที่สถานีบางซื่อไปลงสถานีขุนตาน ขบวน 51 รถออกเวลา 22.24น. แล้วค่ำคืนอันยาวนานที่แสนจะปวดเมื่อยไปทั้งตัวก็ได้เช้าที่จังหวัดไหนสักแห่งค่ะ วิวข้างนอกเป็นภูเขาปกคลุมไปด้วยหมอกฟรุ้งฟริ้งเลยค่ะ

 

และแล้วเวลา 11โมงนิดๆเราก็มาถึงสถานีขุนตาน ก็เดินเล่นถ่ายรูปไปค่ะ

 

แล้วก็เดินขี้นอุทยานค่ะ จะมีทางให้ขึ้นไปแบบนี้

 

พอเดินขึ้นมาทางซ้ายมือก็จะเจอกับทางขึ้นวัดดอยขุนตานไหนๆมาแล้วก็แวะสักหน่อย

 

เอาล่ะค่ะได้เวลาไปอุทยานกันแล้วซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1300ม.ตามป้ายบอกไว้ค่ะ ทางเดินเป็นบันไดบ้างทางดินบ้าง ทางปูนบ้าง เดินสะดวกค่ะ มีป้ายบอกตลอดทาง เดินถ่ายรูปดอกไม้ใบหญ้ามาตลอดทางค่ะมาถีงทางเข้าอุทยานก็จ่ายค่าเข้าไป 20 บาท จากนั้นก็เดินไปติดต่อเรื่องที่พักด้านใน ใครจะพักบ้านพักอุทยานหรือจะเช่าเต้นท์หรือจะเอาเต้นท์มาเองก็ได้ค่ะ เจ้าหน้าที่ใจดีมากค่ะบอกรายเอียดดีมาก ตรงที่ทำการอุทยานจะมีถนนแบ่งเขตระหว่างลำพูนกับลำปาง และบริเวณนี้เรียกว่าลานชมดาวค่ะ ก็จะมีที่ให้ดูวิวตัวเมืองด้วย มีร้านกาแฟอยู่ในที่ทำการอุทยาน มีโรงอาหารอยู่ใกล้ๆค่ะ

 

 

เดินต่อไปอีกก็จะเป็นหลักเขตจังหวัด

 

เดินไปเรื่อยๆค่ะ จะมีทางถนนกับทางเดินเท้า เราก็เลือกทางเดินเท้าสิคะ

 

เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอกับผากลีบบัว ดูๆไปก็เหมือนดอกบัวนั่นแหละคะ ตรงนี้จะจุดชมวิวด้วย

 

ใหม่พักบ้านพักอุทยานใกล้ๆกับผากลีบบัวนี่แหละคะ เก็บของเสร็จประมาณบ่ายโมงก็ออกเดินขึ้น ย. ค่ะ จุดหมายวันนี้จะไปน้ำตกตาดเหมยค่ะ

เดินตามทางไปเรื่อยๆค่ะมีป้ายบอกตลอดทาง เดินง่ายค่ะไม่มีหลง

 

บริเวณก่อนขึ้นไปจะมีบ้านพัก มีลานกางเต้นท์ เห็นวิวสวยดีค่ะ

 

 

ทางที่จะขึ้นไปย.1เป็นบันไดค่ะ จะผ่านเรือนประทับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน บิดาแห่งการรถไฟ บริเวณใกล้ๆกันนี้ก็จะมีบ้านพักของการรถไฟด้วยค่ะ

 

จากเรือนพักเราก็จะมาเจอทางขึ้นย.1

 

 

เดินไปเรื่อยๆจนถึงย.2ค่ะ ตรงย.2 จะมีจุดชมวิว  ลานสนที่ต้องเดินขี้นเขามาหน่อยมากางเต้นท์ได้ค่ะ

 

 

บริเวณนี้จะมีบ้านพักของท่านคึกฤทธิ์ ปราโมช จะมีคุณลุงชูผู้ดูแล ชายชราผู้โดดเดี่ยวค่ะ พอเข้าไปคุยกับคุณลุงดูคุณลงดีใจมากเลยค่ะ เหมือนคุณลงก็คงจะเหงา คุณลงชวนนอนที่นี่เลยค่ะ555 จะนอนในบ้านหรือเต้นท์ 100 เดียวลุงบอก นั่งคุยกับคุณลุงอยู่พักใหญ่ก็ขอตัวลาไปน้ำตก ซึ่งคุณลุงบอกว่าอย่าไปเลยมันไม่มีน้ำ มาแล้วต้องไปให้ถึงที่สุด

 

 

ไปน้ำตกตาดเหมยกัน เริ่มออกเดินทางประมาณ15.00น. เดินออกไปทางย.3  แล้วจะมีป้ายบอกทางไปน้ำตก ระยะทางประมาณ 1500ม.หรือ 1800ม.เนี่ยแหละ ระหว่างทางย.1มาถึงย.2 ยังเจอคนบ้างค่ะ แต่ทางไปน้ำตกไม่มีคนเลย เป็นทางเดินลงเขา ไม่สิ ทางบังคับวิ่งลงเขา555 ส่วนใหญ่เป็นทางชันค่ะ มันจะวิ่งลงเขาเองค่ะ ถ้าจะหยุดคือมีต้นไม้ช่วยหยุด รู้สึกว่ามันไกล มากกกกกกก แต่ใช้เวลาประมาณ20 นาทีถึงน้ำตก  มันไม่มีน้ำจริงๆค่ะ แล้วก็ไม่สวยด้วย ด้วยความข้องใจกลับมาถามอากู๋ว่าน้ำตกตาดเหมยเป็นไง สรุปว่าไปไม่ถึงน้ำตกค่ะ

 

ถึงช่วงอุโมงค์ต้นไผ่เริ่มมืดแสงน้อย

 

นี่หรือคือน้ำตก????

หลังจากนั้นก็รีบออกจากน้ำตกค่ะ กลัวจะออกจากป่าไม่ทัน จะให้กลับทางเดิมก็คงไม่ไหวแล้วมีทางไปข้างหน้าอีก แต่ไม่เจอน้ำตกตาดเหมยนะคะ ไม่รู้อยู่ตรงไหน หรือเพราะรีบออกมาก็ไม่รู้ค่ะเลยไม่ได้ดู 3 กิโลที่เดินออกมาไม่ได้พักเลย รีบออกมาก่อนจะมืด

แต่ระหว่างทางเดินออกมาก็ทำให้รู้สึกกลัวกับป้ายเตือนอันนี้ "อันตรายห้ามส่งเสียงดังมีรังตัวต่อ" เดินผ่านมาได้สักพักได้ยินเสียงแมลงบินอยู่ข้างๆหูใจนี่นึกไปถึงรังต่อเลยค่ะ แต่สุดท้ายมันคือตัวอะไรก็ไม่รู้

 

อันนี้ภาพน้ำตกตาดเหมยจากในเน็ตค่ะ แต่ใหม่ไปไม่เจอกแบบนี้อ่ะ ขออนุญาตเจ้าของภาพด้วยนะคะ

 

ออกจากน้ำตกมาก็เกือบห้าโมงเย็นแล้วค่ะ ออกมาเจอป้ายเจอบ้านพักเจอถนนดีใจมากค่ะ วิ่งลงมานั่งกับพื้นถนน 3 กิโลที่เดินมาไม่ได้พักเลย

 

กลับที่พักไปอาบน้ำแล้วออกมาดูพระอาทิตย์ตกแถวๆโรงอาหารด้านบนค่ะ

 

ตรงนี้ได้เจอกับพี่ๆที่เขาจะขึ้นย.4พรุ่งนี้ เลยขอเขาไปขึ้นย.4ด้วย

ตกกลางคืนลงไปลานชมดาวค่ะ ได้สมาชิกร่วมขึ้นย.4 อีก2 คนเป็น 2 สาวขาลุยมากค่ะ

 

เรานัดกันขึ้นย.4 ตอนตีสามค่ะ ออกเดินประมาณสีสามยี่สิบ เดินไปเรื่อยๆแหละค่ะ พอช่วงย.2 ไปย.3 ใหม่เริ่มเดินไม่ไหวค่ะ เริ่มเจ็บขาข้างซ้ายมากขึ้น หลังจากเมื่อวานไปน้ำตกเกิดอาการเจ็บขาข้างซ้าย มาวันนี้เลยทำให้เดินไม่ไหว พี่ๆทุกคนช่วยจนไปถึงย.4ค่ะ พี่แอมมาหิ้วปีกข้างซ้ายเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ  เราไปถึงย.4 ประมาณ 6โมงนิดๆค่ะ ขึ้นมาไม่เจอหมอกค่ะ แต่อากาศเย็น ระยะทางจากย.1-ย.4 ประมาณ 7 กิโลค่ะ

กลุ่มพี่ๆที่เดินมาด้วยกันค่ะ  ขอบคุณมากๆนะคะที่พาใหม่มาจนถึงย.4

 

เราใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมงค่ะ แล้วพวกเราก็เดินลง ถ่ายรูปเล่นกันไปตลอดทางค่ะ

ก่อนจะไปถึงย.4ต้องผ่านเนินวัดใจค่ะ เป็นทางชันขึ้นไป

ตรงย.3มีบ้านพักมิชชันนารี วิวสวยมากค่ะ ที่นี่รองรับสำหรับกรุ๊ป10คนขึ้นไปค่ะ 110/คน  ถ้าไม่ถึง10คนต้องจ่าย10คนค่ะ  มีทุกอย่างพร้อม แต่อาหารต้องนำไปเองค่ะ

 

จากนั้นก็เดินลงมาที่พักค่ะ เดินเรื่อยๆ มาถึงที่พักประมาณเที่ยงค่ะ เก็บกระเป๋าไปตัวเมืองต่อค่ะ ก็ร่ำลาพี่ๆทุกคน แล้วก็ไม่ลืมที่จะไปติดต่อขอใบประกาศที่ ที่ทำกาศอุทยานค่ะ มีค่าเสียหาย70 บาท 

 

มาถึงตรงนี้ค่ะ ใหม่ลงเขามาช้าไม่ทันรถไฟเที่ยว 11 โมงค่ะ เมื่อไม่ทันรถรอบนี้ก็จะไม่ทันรถรางในเมืองรอบ 13.30น.ด้วย ซึ่งมีวันละ 2รอบ 9.30น. และ 13.30 น. หยุดให้บริการทุกวันจันทร์ นั่นก็คือวันพรุ่งนี้ที่ใหม่ยังอยู่ลำพูน

ใหม่นั่งรถไฟหรี รอบ 13.30น.ไปลงสถานีลำพูนค่ะ ประมาณ 1ชั่วโมงถึง เรียกพี่วินที่ไม่ใส่เสื้อวินให้ไปส่งที่ Pick Baan ได้จองมาก่อนหน้านี้แล้วค่ะ ที่นี่บรรยากาศเหมือนได้อยู่บ้านค่ะ ทุกคนน่ารักมาก มาถึงก็เจอพี่นัทผู้ชายอ้วนๆที่ทำให้ใหม่ทั้งขำทั้งอมยิ้มกับพี่เขาได้ตลอดเลย

  นอนพักไปตื่นนึงค่ะ ประมาณ4โมงเย็น ก็ปั่นจักรยานออกมาเที่ยว ที่Pick Bann มีจักรยานให้ฟรี ปันวนๆไปค่ะ ดูแผนที่ก็งง อาจจะเป็นเพราะดูไม่เป็น แล้วก็มาเจอวัดพระธาติหริภุญชัย พระธาตุเหลืองอร่ามงามตามากค่ะ จากนี้ไปไหนไม่ถูกแล้วค่ะเริ่มใช้กูเกิ้ลแมพ ไปไหว้พระแม่จามเทวีที่อนุเสาวรีย์ค่ะ

 

ใกล้ๆกันเป็นตลาดโต้รุ่งค่ะ ไปหาของกินที่นั่น พี่นัทที่Pick Baan แนะนำว่าให้มากินที่จ่าเหลา  เสร็จจากที่นี่ก็กลับไปนอนค่ะ

 

เช้าวันใหม่มาเชฟอ้อมก็ทำอาหารเช้าไว้ให้แล้วค่ะ และได้เจอแขกที่มาพักอีก 1 คน นั่นก็คือ คุณครูบิ้วมาจากพะเยาค่ะ มีกันแค่3คนคุยกันสนุกมากค่ะ

 

 

ประมาณ9โมงก็เริ่มออกเดินทางไปพิพิธภัณฑ์มิกกี้เม้าท์ค่ะ คนชอบมิกกี้อย่างใหม่ไม่พลาดแน่นอนค่ะ ได้เจอกับพี่โอ๊ต พี่เขาน่ารักมากค่ะ เล่าประวัติความเป็นมาของลำพูนให้ฟัง รู้สึกดีที่ได้เจอกันค่ะ พี่เขาบอกว่าถ้าจะมาลำพูนให้ไปหาเขาได้ค่ะ พอพี่เขาเล่าให้ฟังแล้วไปเจอ มันรู้สึกอ๋อนี่ไง จริงด้วย อะไรประมาณนั้นค่ะ

 

หน้าพิพิธภัณฑ์เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวค่ะ 

 

ไปต่อกันที่วัดมหาวันค่ะ เป็นทางผ่านไปวัดจามเทวี

 

วัดจามเทวี ปั่นกลับมาทางเดิมค่ะวนๆแถววัดพระธาตุหริภูญชัย ไปวัดพระคงฤาษี

 

 

 ต่อวันสันป่ายางหลวงค่ะ วัดนี้สวยค่ะ  อารมณ์ประมาณว้ดร่องขุ่นนิดนึงค่ะ ประมาณ 5% ได้

 

 

 

ไปต่อกู่ช้าง กู่ม้า ก็มีเรื่องเล่าจากพี่โอ๊ตอีกค่ะ แต่จำไม่ค่อยได้แล้ว

 

แล้วก็วนกับมาวัดพระธาตุหริภุญชัยอีกค่ะ แวะกินเฉาก๊วยอร่อยที่สุดในเมืองมนุษย์ ใครๆก็ต้องมาชิม อร่อยค่ะ หอมน้ำตาลในราคา 35 บาท ร้านนี้ให้ทอนเงินเองด้วยนะคะ

 

ตบท้ายด้วยข้าวมันไก่ไทยแลนด์ ปกติเป็นคนไม่ชอบกินข้าวมันไก่นะคะ แต่เขาบอกว่ามาลำพูนต้องมากินข้างมันไก่ไทยแลนด์ ชิมหน่อยก็ได้ อร่อยอีกแล้ว ข้าวไม่มันมาก น้ำซุปอร่อยให้กระดูกไก่มาเต็มเลย น้ำจิ้มเผ็ดดีค่ะเหมือนจะไปทางน้ำจิ้มซีฟู้ดนิดนึงค่ะ จานใหญ่เลยค่ะ ราคา 30 บาทเอง

 

อิ่มแล้วค่ะ ก็ได้เวลาอันสมควรแก่การลา ณ ตอนนี้บ่ายสองค่ะ กลับไปเก็บกระเป๋า แล้วไปสถานีรถไฟ รอรถรอบ 15.38 กลับกรุง

ทริปนี้สูญเงินไป 1,931 บาทค่ะ

ที่พักอุทยาน  500 บาท

ค่าเข้าอุทยาน 20 บาท

ค่าใบประกาศขึ้นย.4 70 บาท

ที่พักPick Baan 400 บาท

ค่าวินจากสถานีรถไฟไป Pick Baan เที่วละ 40 เป็น 80 บาท

ค่ารถไฟ บางซื่อ-ขุนตาน 260

ค่ารถไฟลำพูน-ดอนเมือง 265

ค่ากินตลอดทริป 336 บาท

 

 

ดอยขุนตาลเหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยเดินป่าค่ะ ส่วนคนที่เคยเดินป่ามาแล้ว ที่นี่ชิลไปค่ะ ทางเดินชัดเจนเดินง่าย จุดชมวิวที่นี่อาจจะไม่รู้สึกว้าวเท่าไหร่นะคะ ใครที่เคยไปที่อื่นวิวสวยๆ อาจจะเฉยๆสำหรับที่นี่ แต่ทุกๆที่ก็มีเสน่ห์ในตัวของมันเองนะคะ^^

 

ตัวเมืองลำพูนไม่ได้มีแค่นี้นะคะ ยังมีวัดมีสถานที่อีกหลายที่ ถ้าได้นั่งรถรางจะดีมากค่ะ รถรางจะพาไปหลายๆที่

ก็คงจะบอกเหมือนเดิมค่ะ สถานที่ที่ไปมีความสวยงามค่ะ แต่ใหม่เป็นคนถ่ายรูปไม่สวย ที่บางที่วิวเขาราคาหลักล้าน ใหม่ก็ถ่ายให้เหลือหลักร้อยได้ค่ะ5555

 

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ พี่แอม พี่บาส พี่เจ พี่สุ พี่พล พี่เมย์ น้องอาร์ทด้วยนะคะ^^ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

เข้าไปติดตามกันได้ที่https://www.facebook.com/mm.maimakoto

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ

ถ้าจะขึ้น ย.4ตอนเช้ามืด เตรียมไฟฉายไปด้วยนะคะ

ที่พักอุทยานสามารถจองได้ที่ http://nps.dnp.go.th/

ที่พักPick Baan จองได้ที่พี่ใหม่ค่ะ 082-493-3838  https://www.facebook.com/pickbaan/?fref=ts

รถรางเที่ยวเมืองลำพูนมี 2 รอบ 9.30 และ 13.30 หยุดทุกวันจันทร์ ไปขึ้นที่วัดพระธาตุหริภุญชัย

พิพิธภัณฑ์มิกกี้เม้าท์  พี่โอ๊ต 084-611-2250 ไปเจอคุยกับพี่เขาก่อนเที่ยวจะสนุกมากค่ะ