ปลายปีจนถึงต้นปีเนี้ย ฤดูหนาวกำลังมาเยือนภาคเหนือ ภาคอีสาน ส่วนภาคกลางและกรุงเทพ ก็เย็นบ้างไม่เย็นบ้างแล้วแต่อารมณ์ฟ้าฝน ส่วนภาคใต้นะหรอ ฝนตกซิ ฤดูมรสุมเลยทีเดียว ใครๆ เลยแห่กันไปเหนือกันหมด ส่วนเราไม่อยากจะไปเจอคนเยอะ (จริงๆ อยากเจอนะ ฮาๆๆๆๆ) ก็เลยแวะลงใต้ 

>> https://www.facebook.com/singletraveltobestrong/  << กดไลท์เลย รีวิวเที่ยว คำแนะนำเที่ยว แบบง่ายๆ ไปพูดคุย ไปชวนเที่ยวกันได้ครับ

จะไปหาดใหญ่ยังไงได้บ้าง ได้หลายวิธีเลยครับ จะรถทัวร์ รถไฟ หรือเครื่องบิน มีหมด ทริปนี้เราเห็นแก่ของถูก บริการดี และอยากไปขึ้นที่สุวรรณภูมิ เลยเลือกสายการบิน Thaismile ในราคาที่ประทับใจ พร้อมแซนวิชอร่อยๆ และน้ำส้มแจ๋มๆ บริการบนเครื่องบินจ้าาา พอถึงหาดใหญ่ วิธีเข้าเมืองมีตั้งแต่นั่งลีมูซีนของสนามบิน รถตู้สนามบินก็มี แท็กซี่ก็ได้ หรือจะเดินมานั่งรถสองแถวสีฟ้าๆ ด้านหน้าสนามบิน จะเช่ารถก็มีบริการนะครับ ราคารถที่บริการนั้นไม่ทราบจริงๆ ขออภัยด้วย (ไม่ได้ถามมาให้ด้วยนะสิ) ส่วนผมให้ที่บ้านมารับครับ ฮาๆๆๆๆ

***รีวิวนี้ทำผมแผนที่คร่าวๆ ให้นะครับ อาจจะไม่ละเอียดมาก แต่รับรองไม่หลง เพราะหาดใหญ่เมืองเล็กๆ น่ารัก ไม่ซับซ้อนครับ

มาถึงแล้วก็ต้องหิว ไม่ได้กลับหาดใหญ่มาน๊านนานนนน เลยหาอะไรกินอร่อยๆ ซะหน่อย มาทริปนี้ ไม่เน้นแต่เตี้ยม (ติ่มซำนั้นแหละ) เพราะกินบ่อยแล้ว ร้านแรกเลยดีกว่า ร้านต้าซือสี่ ราเมง เขาบอกว่าเป็นบะหมี่เบตงอะไรทำนองนั้นครับ ที่สำคัญเปิดบริการ 24 ชั่วโมง การเดินทางคือ เข้าเมืองทางทางถนนเพชรเกษมเรื่อยๆ ผ่านวงเวียนมา ดูขวามือจะเจอห้างสยามนครินทร์

ถ้าชอบกินบะหมี่น่าจะชอบร้านนี้นะครับ กินได้อร่อยดี ราคาไม่แพงด้วยครับ

เริ่มต้นเที่ยวเลยดีกว่า วันนี้เที่ยวหาดใหญ่อย่างเดียวครับ พอพูดถึงหาดใหญ่ หลายๆ คนก็จะถามหาตลาดกิมหยง ป๊ะๆ เราไปตลาดกิมหยงกันก่อนเลย ตลาดกิมหยงจะมายังไง ถ้าที่พักอยู่ใกล้ถนนเพชรเกษม ก็ออกมายืนรอรถสองแถว (แต่ก่อนเรียกว่ารถสามบาท เพราะเก็บค่าบริการแค่สามบาท) จะเป็นรถหลังคาสูงๆ สีฟ้า สีแดง สีเขียว สีขาว แต่ละสีก็ไปแต่ละจุดหมายต่างกันครับ แต่กิมหยง ผ่านทุกคันครับ ขึ้นฝั่งให้ถูกนะ ก่อนขึ้นถามคนขับก่อนได้ครับ พอถึงตลาดกิมหยง กดกริ่งลงเลยครับ สังเกตุง่ายๆ ตลาดจะอยู่ตรงสี่แยกใหญ่ๆ มีโรงแรมวีแอล มีสะพานข้ามไปหาดใหญ่ใน 

ตลาดกิมหยงก็แนวๆ ขายขนม ของฝากต่างๆ ครับ ถ้ามาเช้าๆ จะมีตลาดสด ข้างๆ กิมหยง จะมีอาหารขายนะครับ คือแบบ ด้านในมืด ถ่ายอะไรไม่ค่อยเห็น แต่ก็เป็นพวกขนมที่นำเข้ามาจากต่างประเทศนั้นแหละครับ แต่ก่อนนี้จะนำเข้าจากมาเลเซีย แต่เดี๋ยวนี้ ขนมมาจากญี่ปุ่นเลยจ้าาาาาาา

เดินจากกิมหยงมาเรื่อยๆ จะเจอแยกฉือฉาง ตรงนี้จะมีวัดฉือฉางครับ สังเกตง่ายๆ คือ วัดจีนที่เหมือนยังสร้างไม่เสร็จนั้นแหละครับ

ด้านในเข้าไปไหว้ขอพรพระได้นะครับ แม้จะดูเหมือนวัดกำลังสร้างอยู่ (เท่าที่ทราบคือวัดขาดปัจจัย งบประมาณครับ บ้างก็เป็นความเชื่อว่าวัดจะสร้างเสร็จไม่ได้ เอาจริงๆ ตั้งแต่ผมเรียนที่หาดใหญ่ ยันไม่ได้อยู่หาดใหญ่ย้ายมากรุงเทพฯ แล้ว ก็ยังสร้างไม่เสร็จครับ) จากวัดฉือฉาง เดินเข้าทางซอยข้างๆ วัดเลยครับ จะซอยด้านไหนของวัดก็ได้นะครับ ผมเลือก ถ.แสงจันทร์ ครับ เดินมาสักพัก จะเจอประตูวัดสีแดงๆ หน้าปากซอย เดินเข้าไปเลยครับ วัดต่อไปคือ วัดถาวรวราราม

วัดจีนอีกวัดครับ เวลาถึงเทศกาลกินเจจะคึกคักมาก แต่ก่อนไม่ได้ใหญ่โตเท่านี้นะครับ เดี๋ยวนี้ เห็นมาแต่ไกลเลย

อยากแนะนำให่ไปเดินเล่นย่านการค้าใจกลางเมืองหาดใหญ่ ใครสายช้อปผมอยากแนะนำ สันติสุข ครับ ใครชอบช้อปสินค้าราคาเป็นกันเองมาที่นี้ได้เลย ด้านในถ่ายรูปไม่ได้ครับ เขาห้าม เอ๊ะๆๆๆๆ อยากรู้ใช่ไหมละทำไมห้ามม ฮาๆๆๆๆ หลังไมค์มาถามได้ครับ ไม่กล้าบอกตรงนี้ งิ้งงงง

หรือจะไปถนนนิพัทธ์อุทิศ 1-3 ก็ได้นะ คนท้องถิ่นเรียกแถวนี้ว่า สาย1 สาย2 สาย3 แถวนี้มีร้านค้า ร้านอาหารเต็มไปหมดครับ ห้างสรรพสินค้าก็มีครับ ตึกชิโนโปรตุกีสแบบภูเก็ตก็มีนะครับ (แม้จะมีน้อยไปหหน่อย) เอาละ ไปต่อดีกว่า ใครอยากกินอาหารที่ขายบนรถไฟ มาที่ชุมทางหาดใหญ่ ก็มีให้ได้ทานกันนะครับ (ไม่ต้องขึ้นรถไฟก็กินได้เน้อ)

มาต่อที่ มหาปัญญาวิทยาลัยครับ วิธีมาก็ง่ายมากครับ (ดูตามแผนที่เอานะตัว) 

วัดจีนวัดที่สามของวันนี้ครับ จริงๆ ผมเรียกวัดนี้ว่า วัดถาวร2 ที่นี้ก็จะเจอพระจีนด้วยนะครับ สถานที่ใหญ่โต เขาบอกว่าเดินขึ้นไปชมวิวด้านบนเจดีย์ได้นะครับ (แต่ผมไม่ได้ขึ้นนะสิ)

จากมหาปัญญาวิทยาลัย ไปต่อกันเลยที่ พระมหาธาตุเจดีย์ไตรภพ หรือ เจดีย์สแตนเลส อยู่บนเขาครับ ขับรถขึ้นไม่ยาก ไม่ได้ชัน ไม่ได้โค้งครับ วิธีไปก็ออกจากมหาปัญญาวิทยาลัย ตรงออกมาถึงสามแยก เลี้ยวขวา แตกไปเจอสามแล้ว เลี้ยวซ้าย ตรงไปเรื่อยๆ ตามถนน

จะเจอป้ายแบบนี้ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปเลยครับ ไม่หลงแน่นอน

ถนนทำโอเคเลยครับ อาจจะเล็กแคบไปนิด แต่ขับขี่ปลอดภัย จะรถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์ขึ้นได้หมด (ผมแว๊นมอเตอร์ไซร์คนเดียวเหงาๆ เลยละ)

ถึงแล้วพระมหาธาตุเจดีย์ไตรภพ หรือ เจดีย์สแตนเลส

เข้าไปบริเวณเจดีย์ ต้องถอดรองเท้าด้วยนะครับ ด้านในเจดีย์สามารถเข้าได้ และขึ้นไปด้านบนได้ครับ

วิวด้านนอกเจดีย์ก็ประมาณนี้ครับ (ไม่คิดว่าหาดใหญ่จะมีวิวทิวเขาสลับซับซ้อนกะเค้าด้วย)

ไปต่อกันเลยดีกว่า จะไปไหว้พระบนเขาต่อครับ ที่สวนสาธารณะหาดใหญ่ เดินทางก็ง่ายอีกแล้ว ลงเขาแล้วออกมาทางเดินครับ พอถึงสามแยก ก็เลี้ยวขวา แล้วยิงยาวววววววววววววววว ดูป้าย สวนสาธารณะหาดใหญ่ไว้ครับ ไม่หลงแน่ๆ ตรงอย่างเดียว สวนสาธารณะจะอยู่ทางขวามือครับ

ก่อนถึงสวนสาธารณะ จะเห็นพระพุทธมงคลมหาราช และ เจ้าแม่กวนอิม บนเขาคอหงส์มาแต่ไกลเลย

ก่อนจะขึ้นเขามาเดินเล่นกันก่อน สโลว์ไลฟ์งี้หรอ ฮาๆๆๆๆ แต่ก่อนมีสวนสัตว์ในนี้ด้วยนะ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว มีกิจกรรมอื่นๆ มาแทน มีสวนน้ำให้เล่นน้ำด้วยนะ หรือจะให้อาหารปลา ปั่นเรือชิวๆ นั่งระบายสี หรือจะนอนพักเอาแรง ก็ยังได้ฮ๊ะ (ทุกคนดูชิว)

ไม่รอช้า ขี่มอเตอร์ไซต์ขึ้นเขาเลยดีกว่า ที่แรก "ท้าวมหาพรหม" นักท่องเที่ยวเยอะมาก โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย 

ไฮไลท์ของสวนสาธารณะหาดใหญ่ คือการมานั่งกระเช้าไหว้พระครับ หากใครไม่ได้ขับรถมาเอง จะมี shuttle bus ให้บริการจากตีนเขา ไปยังพระพุทธมงคลมหาราช แล้วนั่งกระเช้าจากตรงนั้นมายัง ท้าวมหาพรหม แล้วนั่งกลับครับ (พอดีผมขี่รถมาเองและแอบขี้งก เลยไม่นั่งนะสิ)

วิวจากตรงนี้จะเห็นไปยังทะเลสาปสงขลาเลยละครัช

ขี่ไปเรื่อยๆ เพื่อไปที่ พระพุทธมงคลมหาราช เป็นพระพุทธรูปประจำเมืองหาดใหญ่ ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  เป็นพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ครับ

ดูวิวหาดใหญ่กันครับ มองไปด้านนึงจะเจอเมืองหาดใหญ่ มองอีกด้านจะเจอทะเลสาปสงขลา

มองไปทางกระเช้า ตรงนั้นเป็น ท้าวมหาพรหม 

ลงเขาไปอีกนิด จะเป็น เจ้าแม่กวนอินครับ พอเสร็จจากเจ้าแม่กวนอิมก็หมดวันแล้วว หิวมากก ไปหาอะไรกินดีกว่า

มากินร้านข้าวต้มนายยาวกันครับ เป็นร้านที่ค่อนข้างดังมากเลยทีเดียว อาหารโอเค คนเยอะ แต่แพงครับ (ถามว่าทำไมถึงบอกว่าแพง ก็มันราคาสูงจริงๆ) ผมเป็นคนไม่ค่อยเน้นกินมาก เลยพยายามเลือกร้านที่คิดว่าตัวเองอยากกิน ฮาๆๆๆๆๆๆ ความเก๋ของร้านนี้คือ นางคิดราคาเป็นแสนจ๊ะ สามร้อย นางบอก สามแสน คือเป็นความเขื่อของเขา ว่าเรียกเก็บเงินสูงๆ ก็จะได้รวยๆ มีเงินเข้าเยอะๆ เสร็จจากร้านนี้ ผ่านร้านๆ นึงที่แบบ เฮ้ย อยากกิน อารมณ์ ติ่มซำฮ่องกงเลยแวะซะหน่อย

เดินมาไม่ไกลจากร้านนายยาว มาถึงก็ร้านนี้เลย a little dim sum 

อาหารราคาไม่แพงนะครับ กำลังโอเคเลย แต่เสียดาย เสี่ยวหลงเปาหมด ความอร่อยถือว่าใช้ได้ แต่แอบจืดไปนิดนึง (หรือจริงๆ เราเป็นคนกินเค็ม) กินแล้วก็ไม่ได้เลี่ยนมากนะ กำลังโอเคเลย พอกินเสร็จ หนังตาหล่อน กลับบ้านนอนดีกว่า พรุ่งนี้ต้องลุยต่อ

ตื่นเช้าวันใหม่ ร่างกายต้องการพลังงานมากๆ มาเดินเล่น ตลาดเกาะเสือ ครับ ของกินเยอะมากกกก มาดูผู้คนชาวบ้านมาจ่ายตลาดตอนเช้าๆ มาหาข้าวเหนียวไก่ทอดพร้อมหอมเจียวอร่อยๆ พูดถึงไก่ทอดหาดใหญ่ นักท่องเที่ยวมักจะพูดถึงไก่ทอดอยู่ร้านนึง ชื่อร้านมี ด เด็ก กับ ช ช้าง เขาว่าร้านนี้ดังมาก ผมเคยกินนะ แต่ผมว่ามันไม่อร่อย แต่ก่อนชอบไก่ทอดรถเข็นหลัง รพ หาดใหญ่มากๆ เจ้แกจะมาขายเย็นๆ บอกเลยเด็ดจริงๆ อีกร้านก็แถวๆ วัดฉือฉาง เป็นรถเข็นเหมือนกันครับ และเจ้าที่ตลาดนัดเกาะเสือนี้แหละ แต่เหมือนตอนนี้เขาบอกว่าร้านไก่ทอดแถวๆ ตลาดกิมหยงอร่อย แต่ยังไ่ม่เคยไปลองเหมือนกัน เออ อาหารที่ตลาดเกาะเสือถูกมากนะครับ แต่ก่อนเคยซื้อแกงถุงละ 20 ตอนนี้ก็ยัง 20 (แม้ปริมาณจะลดลงก็ตาม แต่ราคาเท่าเดิม กินอิ่มนอนหลับนะจ๊ะ) ใครอยากกินแกงใต้แบบประหยัดงบ มาตลาดนี้ได้เลย

เอาละ เที่ยวต่อสิ วันนี้ขอเริ่มจากวงเวียนน้ำพุละกันครับ ขับรถเข้าถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 1 มายาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะเจอ ถ.ลพบุรีราเมศวร์ เลี้ยวขวาตรงไปยาวๆ อีกเช่นเคย สังเกตุด้านซ้ายมือจะเจอ มัสยิดกลางสงขลา นะครับ แวะถ่ายรูปกันก่อนเลย

ออกจากมัสยิดตรงไปเรื่อยๆ จะเจอ ห้าแยกน้ำกระจาย ก็ตรงไปอีกครับ เข้าเมืองสงขลากัน (ตอนนี้มีก่อสร้าง ไม่ทราบว่ายังจะใช้ได้ไหม ยังไงใครจะไปตรวจสอบอีกทีนะครับ ที่นี้จะผ่าน ม.ทักษิณแล้วจะเจอสามแยก เลี้ยวไปทางซ้าย สังเกตุซุ้มจังหวัดสงขลา พอเห็นไฟแดงแรก เลี้ยวขวาไปเลยครับ (ดูป้ายหาดเก้าเส้งไว้) พอตรงไปอีกนิด ดูป้ายวัดเขาเก้าแสนนะครับ เลี้ยวตามป้ายไปเลยครับ 

ในส่วนของวัดเขาเก้าแสน

ตรงนี้คือ หัวนางแรง ตรงนี้มีประวัติที่ว่า นายแรงเป็นพ่อค้าสำเภาที่ร่ำรวยมาก เมื่อทราบข่าวว่า มีการสร้างพระธาตุที่เมืองนครศรีธรรมราช ก็แล่นเรือไปเพื่อจะร่วมบุญในการสร้างด้วย แต่ปรากฏว่าเมื่อเรือมาถึงสงขลา เกิดพายุเรือแตก ได้จอดซ่อมเรือที่บริเวณหาดเก้าเส้งจนกระทั่ง ทราบข่าวว่า พระธาตุเมืองนครสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว นายแรงมีความเสียใจเป็นอย่างมากที่ไม่มีส่วนร่วมบุญและล้มป่วยไข้ จึงขนทรัพย์สมบัติจำนวนแสนฝังไว้ที่เชิงหน้าผา และอธิษฐานว่าขอให้มีเรี่ยวแรงยกก้อนหินใหญ่มาปิดไว้ ก่อนตายได้อธิษฐานว่าผู้ที่จะมาเอาสมบัติดังกล่าวนี้ จะต้องเป็นลูกหลานของนายแรงเองหรือเมื่อพระธาตุมีสภาพชำรุดทรุดโทรมต้องการที่จะนำเงินไปบูรณะปฏิสังขรณ์จนปัจจุบันนี้ยังมิอาจหาผู้ใดมาผลักหินก้อนนี้ตกหน้าผาได้ (ข้อมูล : Sanook Travel)

อีกด้านครับเป็นทะเล ลมเย็นๆ สบายๆๆๆๆๆๆ ไปต่อเลยดีกว่า ผมจะไปถนนนางงามครับ ไปถ่ายรูปกับ Street Art กินไอติมโอ่ง กันดีกว่า

ถนนนางงาม เป็นย่านเก่าแก่ของสงขลาครับ เดี๋ยวนี้มี Street ตามจุดต่างๆ แผนที่ street art กูเกิลได้เลยครับ 

หับโห้หิ้น (โรงสีแดง) ในระแวกนั้น สังเกตุง่ายๆ ตึกโรงสีแดงๆ เลยละครับ เดินเข้าไปด้านในจะเป็นทะเลสาปสงขลาครับผมมมม

เดินมา บ้านนครใน พิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมๆ ครับ 

เดินมาศาลหลักเมืองครับ

ตรงศาลหลักเมืองมี ก๋วยเตี๋ยวใต้โรงงิ้ว แต่ปิดแล้ว ไม่เคยได้ทานเลย เพราะเพิ่งรู้จัก ฮาๆๆๆๆๆๆ

กินไอติมโอ่งปลอบใจแทนก็ได้ ลองไปชิมดูครับ มีไอติมอีกร้านที่คนกินเยอะเหมือนกัน แต่อิ่ม เลยไม่ได้ชิมมานะครัช

ออกจากย่านเมืองเก่านิดนึงจะมาที่ เขาตังกวนครับ เราจะขึ้นไปบนยอดเขากัน ไม่ต้องเดินนะ มี Tram ให้บริการครับ (ไม่ฟรีนะจ๊ะ มีค่าใช้จ่าย) บนยอดเขาตังกวนเป็นที่ประดิษฐานโบราณสถานสำคัญ ประกอบด้วย พระเจดีย์หลวง พลับพลาที่ประทับ รัชกาลที่ 4 และประภาคาร (ตอนแรกคิดว่าถ่ายพลับพลาที่ประทับมาแล้ว พอมาเช็คดู เอ้า ลืมมมมมม ขอโทษนะๆๆๆๆๆๆ)

ออกจากเขาตังกวน จะไปต่อที่พญานาคตรงสวนสองทะเล ระหว่างทางมีดอกทานตะวัน แวะถ่ายซะหน่อย ไม่ได้เป็นสวนแบบใหญ่โตนะ เป็นแบบปลูกไว้เล็กๆ ริมข้างทาง เก๋ดีนะตัวเธอ

ถึงแล้ว แลนมาร์คอีกทีของสงขลา พญานาคพ่นน้ำ (อารมณ์ Merlion) มีทั้งหัว ทั้งสะดือ และหาง แต่อยู่คนละทีนะสิ

ทริป สองวันหนึ่งคืน ก็สิ้นสุดลงที่พญานาคพ่นน้ำครับ เห็นไหมพูดถึงหาดใหญ่พูดถึงสงขลาไม่ได้จำเป็นต้องนึกถึงไก่ทอดหาดใหญ่และตลาดกิมหยงก็ได้ เพราะที่นี้มีที่เที่ยวมากเลยละ นี้ยังไม่หมดนะ นี้แค่แบบมือใหม่หัดมาซะหน่อย ยังมีน้ำตก มีเขา มีทุ่งดอกปอเทือง โอ้ย เยอะแยะมากมายจริงๆ เอาไว้ครั้งหน้า ถ้ามีโอกาสกลับบ้านอีกจะพาไปชมสถานที่เที่ยวใหม่ๆ อีกครับ

ติดตามรีวิวท่องเที่ยวและพูดคุยกันได้ที่ : Fanpage เที่ยวคนเดียวต้องสตรอง