" น่าน น่า นอน "
ก่อนอื่นสวัสดีทุกท่านที่เข้ามา
การเดินทางในครั้งนี้ ใช้รถส่วนตัวไป-กลับ
ขับจาก ต้นทาง ลำพูน ถึงปลายทาง นครน่าน
รวมระยะทาง ทั้งสิ้น เกือบ 1,000 กิโล
เริ่มต้นขับรถชมเมือง ชมพระอุโบสถจิตกรรมปูนปั้นพญานาคเจ็ดศรีสีทองเหลืองอร่ามซึ่งเป็นจุดเด่นภายในวัดศรีพันต้น
วนในเมืองแบบงง ตรงแต่ล่ะไฟแดง เพราะมีแทบจะทุกแยก แต่ไม่นาน แค่พอระบายรถผ่านแยก
จึงไม่แปลกใจที่ทำไมรถหลายคันมีแผนที่จังหวัดน่านติดท้ายรถ
หลังจากได้ที่ซุกหัวนอนเเล้ว ก็ไปเเวะไปกราบ พระบรมธาตุแช่แห้ง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวน่าน วัดพระบรมธาตุแช่แห้งตั้งอยู่ที่บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตึ๊ด กิ่งอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน อยู่ห่างจากตัวเมืองไปราว 2กม. เส้นทางสายน่าน-แม่จริม
งานหกเป็งนมัสการพระธาตุแช่แห้ง คนน่าน โดยเฉพาะพุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยว จะแห่แหนกันมาทำบุญ นมัสการองค์พระธาตุแช่แห้งกันอย่างเนืองแน่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์พระธาตุแช่แห้งยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีเถาะ
บรรยากาศยามเย็นบริเวณหน้าวัดพระธาตุแช่แห้ง
ชมบรรยากาศยามเย็น และหาของกินแบบเมืองๆ เมืองล้านนา ณ ถนนคนเดินหน้าวัดภูมิทร์
มีทั้งอาหาร และเสื้อผ้า ของใช้สอย
เสื้อมัดย้อม ไออุ่น เสียง กระซิบรัก
หลังจากอิ่มหนำสำราญเรียบร้อย ก็กลับเข้าที่พักเก็บเเรงวันเดินทางต่อสำหรับวันพุ่งนี้
เริ่มต้น การเดินทางวันที่สองด้วยอาหารเช้าของทางที่พัก " สบายน่าน " เตรียมไว้ให้
วันที่สองแห่งนครน่านเริ่มต้นด้วย สิ่งที่เป็นตำนาน อันหวานเยิ้ม
ของคำกล่าวบทหนึ่งคำฮักน้อง กูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว
จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาคะลุม
จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป
ก็เลยเอาไว้ในอกในใจตัวชายปี้นี้
จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา…
นั้นก็คือ " กระซิบรัก บรรลือโลก " ณ วัดภูมินทร์ นั่นเอง
“ความรักของน้องนั้น พี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว
จะฝากไว้กลางท้องฟ้าอากาศกลางหาว ก็กลัว
เมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย
หากเอาไว้ในวังในคุ้ม เจ้าเมืองมาเจอก็จะเอา
ความรักของพี่ไป
เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่ จะให้มันร้องไห้รำพี้รำพันถึงน้อง
ไม่ว่ายามพี่นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น”
วัดมิ่งเมือง ตั้งอยู่ที่ถนนสุริยพงศ์เป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองของจังหวัดน่าน ประวัติของวัดมิ่งเมือง คือ เดิมเป็นวัดร้าง มีเสาหลักเมืองที่เป็นท่อนซุงขนาดใหญ่สองคนโอบ เจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าครองนครน่าน สถาปนาวัดสถาปนาวัดใหม่ ตั้งชื่อว่า วัดมิ่งเมือง ตามชื่อที่เรียกเสาหลักเมืองว่า เสามิ่งเมือง
หลังจากเที่ยวในเมืองน่านสักพัก ก็เดินทางขึ้นไปทางเหนือมุ่งหน้าเข้าสู่ อำเภอปัว แวะชิมกาแฟบ้านไทลื้อ ใช้ระยะเวลาเดินทาง ประมาณ ชั่วโมงครึ่ง
หลังจากพักดื่มกาแฟให้หายง่วง ก็มุ่งหน้าสู่อำเภอบ่อเกลือ อีกประมาณ 50 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทาง 1081 ถนนลอยฟ้า สภาพทางเป็นสองเลนส์ ลาดยางยาว มีบางช่วงเจอไหล่ทางทรุดตัว บางช่วงทำสะพานแต่เส้นทางไม่ถึงกับชันมากมีไหลทางให้จอดถ่ายรูปบ้าง
อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน มีชื่อเสียงในด้านการทำเกลือสินเธาว์บนภูเขาซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแห่งเดียวในประเทศ เมื่อก่อนนี้จะมีบ่อเกลือหลายบ่อ แต่เดี๋ยวนี้ได้แห้งไปหมด เหลืออยู่เพียงสองบ่อเท่านั้น ชาวบ้านจะเรียกว่า บ่อเหนือ และบ่อใต้ บ่อเหนืออยู่ริมแม่น้ำบางส่วนบ่อใต้ห่างออก ไปราว 500 เมตรติดเชิงเขาท้ายหมู่บ้าน
ปัจจุบันชาวบ้านยังคงต้มแกลือด้วยวิธีแบบดั้งเดิมโดยจะตักน้ำเกลือจากบ่อส่งผ่านมาตามลำไม้ไผ่สู่บ่อพัก ตักจากบ่อมาต้มในกะทะประมาณ 4-5ชั่วโมง ให้น้ำเกลือระเหยแห้ง จากนั้นก็จะนำไม้พายมาตักเกลือใส่ตะกร้าที่แขวนไว้เหนือกะทะเพื่อให้น้ำเกลือไหล ลงมาในกะทะทำอย่างนี้ไปเรื่อย จนน้ำในกะทะแห้งหมดแล้วจึงตักน้ำเกลือจากบ่อมาใส่ลงไปใหม่
(แต่ชาวบ้านจะหยุดทำเกลือกันในช่วงเข้าพรรษา ซึ่งถือเป็นประเพณีที่สืบต่อกันมา จึงไม่ได้ภาพขั้นตอนการทำเกลือมาให้ชม)
หลังจากนั้นก็จะนำเกลือที่ได้ใส่ถุงวางขาย และยังได้มีการนำแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เกลือสปาขัดผิว เกลือแช่เท้า สบู่ดอกเกลือ อีกด้วย
และด้วยอำเภอบ่อเกลือ มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม โอบล้อมด้วย ขุนเขาเขียวขจี บ่อเกลือจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดน่านที่รอคอยนักเดินทางเข้ามาสัมผัสกลิ่นไอของธรรมชาติและตำนานการทำเกลือบนที่สูง
วัดภูเก็ต" หมายถึง วัดบ้านเก็ตที่อยู่บนภู หรือ ดอย วัดภูเก็ต ถือว่าเป็นวัดที่มีภูมิทัศน์และวิวที่สวยงาม โดยจุดเด่นของวัด คือ มีระเบียงชมวิวด้านหลังวัด ติด กับทุ่งนาที่กว้าง ไกลพร้อมด้วยฉากหลัง เป็นภูเขาวนอุทยานดอยภูคา
โดยเราพักกันที่ " Pua Good View Homestay " ซึ่งบรรยากาศที่พักแสนจะละมุน ไปกับไอดินกินทุ่งนา โดยมีวิวดอยภูคาเป็นฉากหลัง
บรรยากาศช่วงกลางคืน เเสนโรแมนติก จากแสงวอร์มไวท์ (Warm White)ให้โทนแสงนวลตา สีโทนอุ่น ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
https://www.facebook.com/theportatpua
ก่อนกลับพักผ่อน ในคืนนี้ ( ZZZZZZZzzzzzzzzzZZZZZZZ )
ตื่นเช้าของวันที่สาม เพิ่มแรงข้าวต้มซะหน่อย กับบริการของที่พัก พร้อมขนมปัง ชา กาแฟ โอวัลติน
ในวัดยังมี พิพิธภัณฑ์มงคลธรรมรังสี เรือนไทยล้านนาประยุกต์ ตัวเรือนใช้ไม้สักทองทั้งหมด
กล้องถ่ายรูปสมัยเก่า ขนม ลูกอม ของเล่น ในยุคเก่าที่หลากหลาย อุปกรณ์ที่ใช้ทำมาหากินของคนโบราณ ใบเกิด หรือใบสูติบัตรที่จารึกลงในใบลาน รวมถึงเครื่องเงินต่างๆ
ชั้นล่างจัดทำเป็นระเบียง พร้อมที่นั่งจิบกาแฟชมวิว
ในส่วนของชั้นบน มีทั้งส่วนของห้องโถงซึ่งเป็นที่นั่งพักผ่อน และในส่วนของห้องนอนจำลอง มองเห็นวิวท้องนา ซึ่งบริเวณชั้น 2 บรรยากาศค่อนข้างสบายมาก มีลมโชยตลอด
และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับ ขอบคุณที่เข้ามาชม ติดขัดอะไรก็ ขอสูมาอภัย มานะที่นี้
ขอบคุณ ข้อมูลจากหลานแหล่งที่มาทั้งอินเตอร์เน็ต เวปไซน์ และคนในท้องถิ่น
FB : สุริยา พิละศักดิ์
Page รูปถ่าย : Classice Photography