เมื่อเย็นนี้เราได้ติดต่อกับทางที่พักไว้แล้วว่าจะขึ้นผานับดาว ที่จริงถ้าไปรถเขาก็รอบละ 500 เอง แต่เราอยากลองรถเลยขอขับตามไปให้พี่เขามานำทางนั้งกะเรา แต่พอตอนตี 5 กว่าเขาบอกว่ามีคนจะขึ้นเยอะเลยเช้านี้ เลยให้เราขับตามได้เลย

ออกมาตี 5 กว่าๆครับเกือบ 6โมง เส้นทางลุยประมาณ 2โลได้ไม่ไกล แต่มีชันหลายเนิน ในช่วงดันเนินต้องรอไปทีละคัน เราก็ปิดท้ายตามมาเรื่อยๆ

แต่มันมีเนินสุดท้าย ที่พอขึ้นมาแล้วจะมี แยกซ้าย ขวา เราก็เอะใจ พี่เขาไปทางไหนว่า มองไม่ให้เห็นแล้ว ก็เลยตัดสินใจไปทางซ้ายตรงไปสักพัก ทางแคบลงๆ แล้วก็เจอ 3 แยกก เอาแล้วไง จอดลงไปดู ทั้งสองแยกเป็นทางดิ่งลง ตอนนี้สัญญาณไม่มีและ
ก็เสียวนิดๆตอนนั้น ไม่นานนักพี่ที่เราคุยไว้ก็ขับมาอย่างไว แกบอกว่า ลืมเรา555 ลืมไปว่าเราไม่เคยมา พอแกขึ้นแล้วก็เลี้ยวขวาไปเลย แต่มันเลี้ยวขวาไปนิดเดียวก็ถึงจุดจอด แกเลยส่งเด็กลงรีบขับมาหา แกบอกว่าถ้าขับลงไปจากแยกนี้จะเป็นบ่อโคลน อาจจะได้ดึงได้ลากกันบ้างละ 555 รอดไป

ขับกลับมานิดเดียวก็ถึงจุดจอดรถ แล้วก็เดินอีก 200 เมตรได้ครับไม่นาน เดินมาได้นิดนึง แสงเช้าก็มาพอดีเริ่มสว่าง

แสงเช้าสวยมาก

หมอกน้อยไปหน่อยครับวันนี้พี่เขาบอกที่จริงมันแน่นกว่านี้

แต่ก็คลอเคลียเขาสวยไปอีกแบบดูรูปไปเลย



ที่นี้เห็นวิว360 เลยครับแต่อีกฝั่งมีหมอกนิดเดียววันนี้




พระอาทิตย์มาแล้ว






แสงอาทิตย์สาดส่องช่างสวยงาม

เดินลงไปที่รถครับ

ระหว่างเดินลงก็เจอน้องๆเดินคุยกัน ตอนแรกเขาคุยกันภาษายาวี เราก็เลยไม่ได้ทัก น้องก็เลยทักเราก่อน จากนั้นก็คุยกันยาวเลย มาอยู่ที่นี้ 3 วันเจอแต่คนใต้ทักเราก่อนครับ อัธยาศัยดีมากๆ น้องบอกมาเที่ยวเหมือนกัน ปกติอยู่ปัตตานี

เลยถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไว้หน่อยคัรบกับน้องๆ


ขาลงพี่เขาให้เรานำเลย ทางเดิมครับไม่ยาก



เส้นทางก็ประมาณนี้ ไม่ยากอะไร

แต่ตรงเนินก็ชันพอควร ใส่ 4L เกียร์1 ปล่อยไหล ไปเลย ดึงๆ


จากนั้นก็มาที่พักเก็บของ ออกไปต่อครับ

ที่พักของเราเมื่อวาน 500 บาทครับนอนได้ 3 คน

ตอนแรกว่าจะกางเตนท์แต่ขับรถมาทั้งวันเหนื่อยและขอนอนสบายๆหน่อย ราคาถูกสอาดปลอดภัย แนะนำเลยครับ

สำหรับวันที่สองนี้ไม่มีโปรแกรมคือขับไปเบตงเที่ยวในเบตงและระหว่างทางครับ
เส้นทางที่เราดูมาประมาณนี้ ทางคนในพื้นที่เราก็ถามเขาก็บอกว่าไปได้ๆๆไปตาม GPS แหละ

แต่วิ่งไปวิ่งมาก็เจอด่านตรวจสอบชุดใหญ่ พี่ขอดูบัตรประชาชน และถามว่าไปไหนแต่พูดดีไม่มีอะไร แต่พี่ทหารบอกไม่ให้ไปทางนี้ เขาบอกว่าจะผ่านหมู่บ้านมุสลิมเยอะ เลยให้เราไปทางอื่นดีกว่า


ก็เอาตามที่พี่เขาบอกเพื่อความสบายใจเส้นทางที่จะไปตอนแรกคดเขี้ยวด้วยซูมดู ตลาดทางในนราธิวาสจะเจอจุดตรวจสอบพี่ทหารเยอะมาก
ก็เลยได้เป็นเส้นนี้ ที่อ้อมมากๆ ผ่านสถานีรถไฟตันหยงมัสและออกไปทะลุเส้นหลักที่มาเมื่อวานและ เลี้ยวซ้ายตัดไปยะลา ครับ

ผ่านรถไฟตันหยงมัส

เจอป้ายยะลาแล้วจ้าา


ตลอดเส้นทางที่เราวิ่ง จะเจอป้ายให้ไปรือเสาะตลอดเหมือนตอนนี้วิ่งอ้อมเพื่อไม่ให้ผ่านรือเสาะไม่รู้มีอะไรหรือป่าวนะครับในรือเสาะ

ตอนนี้อยู่เส้นหลักแล้ว แทบไม่มีด่านทหารเลยเส้นนี้

Advertisement

แวะเขื่อบางลางหน่อยก่อนถึงเบตง


สวยงามมากๆ

วิวงามเลยครับที่เขื่อนนี้



แล้วเราก็เจอแก๊งนักบอลน้องๆมาทักเราก่อนอีกแล้วคุยไปคุยมาว่ามาแข่งบอลจำได้ว่ามาจาก ระแงะครับ คุยเก่งมาก และขอให้เราถ่ายรูปให้หน่อยก็เลยจัดให้น้องไปทุกคนแล้วบอกให้มาเอารูปในเพจ ฮั่นแน่มแอบเพิ่มยอดไลค์ บอกมากดไลค์เดี่ยวลงรูปให้ 555 ขายตรง

เท่าที่เจอพี่น้อง3จังหวัดนี้ส่วนใหญ่จะพูดยาวีครับ กับพูดแบบไทยกลางเลย ไม่ได้พูดแบบคนใต้ครับ น้องบางคนพูดไทยไม่ชัด พูดแต่ยาวีครับ



วิวสวยๆอีกสักชุดก่อนไปต่อ




ถนนจากยะลาไปเบตงจะเป็นลัดเลาะไปตามเขาครับวิวสวยงาม


สะพานข้ามทะเลสาบฮาลา-บาลา หรือแสะพานโต๊ะกูแช

วิวสวยงามดูสดชื่นมากถึงแดดจะร้อนก็ตาม


สวยจริงๆครับสองฝั่งนี้




ในที่สุดเราก็มาถึงเบตงจนได้ กว่าจะถึงก็ 3โมงกว่าไปแล้ว นี้วิ่งมาแค่จังหวัดเดียวนะเนี้ยเขาเยอะพอควร

เช็คอินป้ายโอเคเบตงเรียบร้อย แวะไปเช็คอินที่พักแปบเดี่ยวค่อยดูรูป


แวะไปอีกสองสามที่

ที่อุโมงปิยมิตรเบตง


เสียค่าเข้า 40 บาทแต่เราไปถึงเย็นแล้ว เดี่ยวจะเดินรอบไม่ทัน เลยขอเดินไปดูต้นไม้ยักษ์พันปีครับ


ใหญ่อลังการพอๆกับต้นกระพงษ์ยักษ์เมื่อวานเลย

เลนส์วายบางทีถ่ายคนมันก็แปลกๆนะยาวๆ55

ใหญ่จริง

ถ่ายรูปต่อเรื่อยๆรอบๆ




ขับต่อออกมา

แวะเก็บภาพที่บ่อน้ำพุร้อนนิดหน่อย





รถกระบะที่นี้อย่างเฟี้ยวครับ 6 ล้อเลย

จากนั้นก็ไปต่อที่ป้ายใต้สุดสยามม มีช้างด้วยข้างทาง เห็นอะไรก็ถ่ายหมดถ้าหยิบกล้องทัน


ในที่สุดก็ได้มาเหยียบแผ่ดินมาเลเซีย

ได้ขับรถข้ามประเทศแล้วครับ คิคิ แวะวนไปเหยียบแผ่นดินเขานิดนึง เลยหลักกิโลได้นิดเดียว

ป้ายใต้สุดสยาม

นี้หลักกิโลของแท้

จากนั้นก็วนกลับมาในเมืองเบตงครับ เขาเล่ามาว่าให้มากินร้านนี้ครับทีเด็ด ต้าเหยิน ชื่อจีนเลยครับ เพราะที่เบตงนี้ก็ชาวจีนมาตั้งถิ่นฐานที่นี้เยอะพอสมควรเลยครับ เจ้าของที่พักเราคืนนี้ก็น่าจะเป็นชาวจีนเหมือนกันครับฟังจากสำเนียงตอนที่คุยกัน

ผัดหมี่เด็ดมากๆอย่างชอบ

แล้วก็ไก่เบตง ไม่ควรพลาดนะครับถ้ามาถึงเบตงแล้ว อร่อยมากๆ

ปลานี่ก็อร่อยครับ

3อย่าง 3 คนแน่นเลย

กินอิ่มเสร็จ กำลังโพล้เพล้จะมืดพอดี เดินเล่นในเมืองสักหน่อย



วันนี้มีงานครับ ที่อุโมงค์เลยห้ามรถเข้าถ่ายรูปคนง่ายเลยแต่อดถ่ายกะรถ


ประดับประดาไฟสวยงาม


เดินมาถึงอีกฝั่งเป็นงานวัด


ป้ายใต้สุดสยามอีกป้าย


มาดูไก่เบตงแท้ๆ


เดินเล่นงานไปมาแล้วก็เดินขึ้นไปถ่ายภาพมุมสูงหน่อย



หอคอนในรูปแรกที่ติดกับอุโมงค์ครับแต่ว่าตอนนี้เขาปิดแล้วเลยเข้าไปได้แค่ชั้น 2

เลยถ่ายมาสองสามรูป


จากนั้นก็เดินลง มากินโรตีวงเวียนหอนาฬิกาเลย ใกล้ๆเลยเห็นแน่นอน

ถ่ายรูปตรงนี้อีกนิดก่อนไปนอน


ที่พักของเราคืนนี้ เบตงโอมสเตย์ เป็นดึกแถวมีห้องพักประมาณ 5-6ห้องได้มั้งครับ มีที่จอดรถให้ครับ

แต่ห้องน้ำจะรวม แต่วันที่เราไป มีห้องชั้นสองอีกห้องเดียว แล้วก็ห้องผมอยู่ชั้น 1 ราคา 450 บาท สุดประหยัดแอร์เย็น เจ้าของก็คุยดีมากๆ ตอนแรกทักในเพสแชท ให้คำแนะนำดีสุดประทับใจจริงๆ จนมาถึงที่เช็คอินเมื่อบ่าย 3 พี่คนที่ดูแลก็คุยเก่งให้คำแนะนำที่เที่ยวได้ดีมาก รีบนอนพรุ่งนี้ตื่นตี 3 อีกแล้ววววว
