เสน่หาอัมพวา ความไม่ธรรมดาในวันธรรมดา

สักราวห้าปีก่อน ผมไปเยือนคลองอัมพวา จ.สมุทรสงคราม เป็นครั้งแรก ในตอนบ่ายวันธรรมดาซึ่งปราศจากตลาดน้ำ เป็นการบังเอิญผ่านไปหลังจากเที่ยวพักผ่อนกับผองเพื่อน ณ โฮมสเตย์ริมลำน้ำแม่กลองแห่งหนึ่ง มันเป็นคลองอัมพวาที่แสนเงียบเชียบจนหงอยเหงา ทุกคนสรุปตรงกันว่าอัมพวาในวันธรรมดา “ไม่มีอะไรเลย” พวกเรามาเที่ยวผิดวัน

ตั้งแต่นั้นมา ผมมีโอกาสกลับไปเยือนอัมพวาหลายครั้ง ทุกครั้งคึกคักด้วยตลาดน้ำ คนมากมายมหาศาล แต่เมื่อใกล้ชิดอัมพวาที่ล้นทะลักด้วยผู้คนนานเข้า ความคิดผมกลับเปลี่ยนจากเดิมคืออยากเที่ยวอัมพวาวันธรรมดาซึ่งเงียบสงบดูบ้าง อยากทำความรู้จักกับคลองอัมพวาในแบบที่ผมควรรู้จักตั้งแต่คราวแรกแต่ดันหลงผิดคิดมองข้ามเสียอย่างนั้น และเมื่อมีโอกาสเลยต้องจัดสักหน่อย

ทริปอัมพวาเดินทางจากกรุงเทพไม่ยากแม้ไม่มีรถส่วนตัว ถ้าจะให้ได้บรรยากาศต้องจับรถไฟจากวงเวียนใหญ่ไปลงมหาชัย ขึ้นเรือข้ามแม่น้ำท่าจีนไปต่อรถไฟที่สถานีบ้านแหลมจนสุดปลายทางสถานีแม่กลอง จากนั้นค่อยนั่งรถสองแถวแม่กลอง-อัมพวา แต่สำหรับผมทริปนี้ขอแบบรวดเร็ว (เพราะตื่นสาย) คือใช้บริการรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัย แล่นฉิวตามถนนพระรามที่ 2 เลี้ยวเข้าเมืองแม่กลอง แค่ชั่วโมงกว่าๆ

ปกติเดินทางแบบนี้ผมหาที่นอนราคาประหยัดเอาดาบหน้าสบายมาก แต่ด้วยทริปนี้มาพักผ่อนสบายๆ กับคุณผู้หญิง เลยต้องหาที่พักพอดูดีมีสกุลเสียหน่อย คุณเธอเป็นคนจัดแจงเลือกที่พักถูกใจชื่อ แอท คาซ่า อัมพวา ราคาวันธรรมดาคืนละ 850 บาท ผมยังไงก็ได้เพราะไม่มีสิทธิ์คัดค้านอยู่แล้ว (ฮา...)

แอท คาซ่า ตั้งอยู่ริมคลองอัมพวาในชุมชนหลังโรงเจซำเป้า ห่างจากปลายตลาดน้ำแค่เดินสักสองสามนาที ใครขับรถมาสามารถจอดรถหน้าโรงเจ แต่เหมือนจะคิดค่าจอดรถนะครับ ส่วนผมนั่งรถตู้ตอนเที่ยงมาลงตรงวัดอัมพวันเจติยารามก่อนบ่ายสองนิดๆ จากนั้นโทรศัพท์เข้าไป เขาติดต่อให้รถสามล้อมารับส่งถึงที่เลย

ที่พักไม่ใหญ่โตนักแต่น่ารักสะอาดสะอ้าน มีทั้งหมดสามชั้น ผมพักชั้นสองห้องสแตนดาร์ด หวานแหววถูกใจคุณผู้หญิงเหลือเกิน ชั้นล่างมีระเบียงกว้างขวางสำหรับพักผ่อนชมวิวชิลริมคลอง ฝั่งตรงข้ามคือบ้านเลียบนทีโฮมสเตย์ เยื้องกันคือบ้านครูปู ติดกันคือบ้านรัก อัมพวา บรรยากาศย่านนี้สงบเงียบ ยิ่งวันธรรมดาสบายใจสุดๆ แต่ยังมีลูกค้าเข้าพักอีกสามสี่ห้อง ถือว่ามากพอสมควรสำหรับอัมพวาวันที่ไม่มีตลาดน้ำ

ทริปนี้มีความตั้งใจเดียวคือเดินถ่ายรูปเล่น ชมเรือนไม้ริมคลอง เป็นบรรยากาศที่ไม่มีให้เห็นในวันหยุด พอจัดแจงทุกอย่างพร้อมแล้วจึงเริ่มเดินเก็บรูปเรื่อยเปื่อยแบบสบายอารมณ์ บ้านเรือนเกือบทุกหลังปิดประตู มีแต่ร้านขายของชำเล็กน้อยเท่านั้นที่เปิดขาย เด็กนักเรียนเลิกเรียนเดินกลับบ้าน บ้างขี่จักรยาน เป็นภาพน่ารักดีครับ ผมเดินถึงแม่น้ำแม่กลองตรงสถานีตำรวจ เป็นแหล่งของกินที่มีขายของอยู่ตลอด

ตอนเย็นผมเตร็ดเตร่ริมน้ำและมาเลือกหาอะไรกันแถวสถานีตำรวจนั่นแหละ สอยข้าวต้มแห้งของโปรดมาสองชาม แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะครับ เสิร์ฟปุ๊บซัดปั๊บทันที (ฮา...) ขากลับแวะซื้อพี่เสือดาวสองขวดมานั่งจิบริมคลอง ลมพัดเย็นสบาย นานทีจะมีเรือแล่นผ่านมาสักลำ เป็นวันธรรมดาที่เยี่ยมยอดเหลือเกิน บอกได้เลยว่าทุกคนที่นอนเล่นตรงระเบียงริมคลองค่ำวันนั้นมีความสุขทุกคน

เช้าวันถัดมาอากาศสดใสเชียว อาหารเช้าที่ แอท คาซ่า อัมพวา มีให้เลือกระหว่างอเมริกันเบรกฟาสต์กับข้าวต้มหมูถ้วยพอประมาณรองท้อง กินเสร็จเก็บของเช็กเอาต์แล้วพร้อมขอฝากกระเป๋าไว้ก่อน เพราะวันนี้ยังอยากเดินถ่ายรูปเล่นให้หนำใจเสียก่อน กว่าจะกลับมาเกินเที่ยงแน่นอน

อันดับแรกผมเดินข้ามคลองดาวดึงส์ด้านข้างไปวัดพระยาญาติ แล้วค่อยข้ามคลองอัมพวามาฝั่งตรงข้ามเพื่อถ่ายรูปที่พักจากอีกฝาก เพิ่งมารู้เอาทีหลังครับว่าตรงข้ามวัดพระยาญาตินี้เองที่เคยมีข่าวเศรษฐีเมืองกรุงมาก่อสร้างโรงแรมห้าดาวเมื่อไม่กี่ปีก่อน แต่ในที่สุดเจอเสียงคัดค้านจากทุกฝ่ายจนต้องยอมยุบโครงการ

วันธรรมดาแบบนี้เราสามารถติดต่อนั่งเรือเที่ยวตามสบายครับ จะห้าวัด เก้าวัด ว่ากันไป แต่เพราะผมเคยมาเที่ยวอัมพวาหลายรอบ ไปครบแทบทุกวัดทั้งหมดแล้วจึงไม่สนใจ หากใครยังไม่เคยเที่ยวแนะนำเลยเพราะวันธรรมดาคนน้อย เรือไม่ต้องรีบ สบายกว่าเยอะ

เดินเล่นเก็บทั้งภาพวิวและภาพคุณผู้หญิงจนถึงทางเข้าตลาดน้ำฝั่งวัดอัมพวัน ปรากฏว่ามีเรือขายก๋วยเตี๋ยวจอดอยู่เลยจัดการสอยมาสักสามสี่ชามตามระเบียบ ปกติหากมาวันซึ่งมีตลาดน้ำต้องแย่งกันกินพัลวัน พอเป็นวันธรรมดาช่างชิลเหลือเกิน อิ่มแล้วเดินต่อจนสุดถึงริมแม่น้ำแม่กลองครับ บรรยากาศเยี่ยม ฟ้าใสเมฆสวย ถ่ายรูปเพลินแทบลืมเวลา

ลัดเลาะออกมาทางวัดอัมพวัน ปากทางเข้าคลองฝั่งนี้พอมี่ร้านขายของพอประมาณ เดินเที่ยวแวะเข้าไปกราบพระสักหน่อยตามประสา มองดูนาฬิกาขนาดว่ารู้สึกเวลาเดินเชื่องช้ายังปาเข้าไปบ่ายสาม ได้เวลาต้องกลับที่พักล้างหน้าล้างตาและเอากระเป๋ากลับบ้านเสียแล้ว

ขากลับก็แสนง่ายดายครับ รถตู้จากอัมพวาอาจขาดช่วงเพราะคนน้อย แนะนำให้ไปขึ้นรถที่ตัวเมืองสมุทรสงครามดีกว่า นั่งสองแถวจากหน้าโรงเจซำเป้าเข้าเมืองแม่กลอง พอถึงตัวเมืองแล้วเลือกเลยว่าจะขึ้นรถบริษัทไหนเข้ากรุง มีคิวเพียบไปหมด

ปิดทริปง่ายๆ กับอัมพวาในวันธรรมดาแสนจะเรียบง่ายและดูเหมือนไม่มีอะไรให้ทำ ทว่าในความไม่มีอะไรนี่แหละผมกลับพบว่าอัมพวายังคงมีเสน่ห์ในตัวเองค่อนข้างล้นเหลือพอสมควร ภาพถ่ายในกล้องหลายร้อยรูปเป็นภาพแบบที่ผมต้องการ ไม่ใช่ภาพตลาดน้ำที่คราคร่ำด้วยผู้คน คิดว่าสักวันผมคงกลับมาเยือนอัมพวาอีกครั้งแน่นอน และแน่นอนเช่นกันครับว่าคงไม่ใช่ในวันที่มีตลาดน้ำ...

อยากคุยเรื่อยเปื่อยเรื่องท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล (ถ้าผมมีให้นะ) หรือชวนเที่ยว ยินดียิ่งนะครับ

www.facebook.com/alifeatraveller

หรือ

alifeatraveller.wordpress.com