สะพานมอญ ณ สังขละบุรี

          แรงบันดาลใจที่ทำให้เลือกที่นั้นคือภาพถ่ายสวยๆ จากรีวิวหลายๆ เว็บนั้นเอง แถมใกล้กรุงเทพด้วยเพราะมีเวลาแค่เสาร์-อาทิตย์

          เราไปกับเพื่อน 1 คน เรานัดเจอกัน 9 โมงเช้า ด้วยความที่รีบกลัวเที่ยวได้น้อยเลยนั่งรถตู้จากกรุงเทพไปลงขนส่งจังหวัดกาญจนบุรีใช้เวลาไป 3 ชม. ถึงขนส่งจะรอช้าอยู่ใย

เราก็ต้องรีบหารถต่อไปสังขละบุรี รีวิวที่ศึกษามาบอกให้ลงตลาดสังขละเรากับเพื่อนก็กระโจนถามพวกลุงๆ ที่ขายตั๋วในนั้นทันที(กลัวไปถึงช้า) ลุงเค้าก็ชี้ให้ดูนั้นรถพัดลม นั้นรถแอร์ รถตู้ก็มี เอาอะไร ด้วยความที่อยากประหยัดและอยากได้ฟิวแฟนฉัน เราเลยเลือกรถพัดลม ลุงบอกว่าออกบ่ายโมง เมื่อดูเวลายังพอเหลือก็ไปหาของลองท้องสักหน่อย เรา2 คน ก็พากันเดินหาร้านข้าวใกล้ๆ มีร้านให้เลือกอยู่แค่ 3 ร้านเอง ฮึ้ย!!นั้นข้าวมันไก่อยากกิน แล้วเราก็จบด้วยการเลือกข้าวมันไก่ สั่งมาคนละจาน ตอนเค้าเรียกให้ไปเอาตกใจมาก

 

 

          เฮ้ยทำไมน้อยจังวะ!!! มองหน้ากันแบบงงๆ ได้ยินคนที่พึ่งเข้าร้านสั่งข้าวมันไก่ 4 จาน เราก็หันไปมองกันมากัน 2 คน ทำไมเค้ากินผิดปกติ กวาดตาไปทั่วร้านเห็นป้ายแปะราคา 10 บ.เราเองแหละที่ผิดปกติฮร่าๆๆๆ กินไปก็อร่อยดีแต่ 5 คำก็หมดและ กินคนละจานก็พอและเดี๋ยวไม่ทันรถ ไปจ่ายเงินอาแปะสรุปจานละ 10 บ.จริงๆ ด้วยขากลับต้องแวะมากินให้ได้(ปณิธานที่เราตั้งกันไว้) เดินมาถึงขนส่งก็ตรงไปซื้อตั๋ว ไปสังขละขึ้นคันนี้เลยลูก แล้วลุงก็เก็บตังคนละ 155 บ. (ถ้าจำไม่ผิด) แล้วก็เดินพาไปส่งรถทัวแอร์ อ่าวไม่ใช้รถพัดลงหรอลุง ออรถพัดลมออกไปแล้ว อ่าว...ไปก็ไป ขึ้นรถแบบงงๆ นั่งไปถึงช่วงอุทยานแห่งชาติไทรโยคก็มีเจ้าหน้าที่ขึ้นรถมาตรวจบัตรปชช.

 

 

นั่งต่อไปอีกนานมากก็มีด่านตรวจอีกด้าน(ตื่นเต้นดีนะ)

 

 

พอใกล้จะถึงที่หมายลุงที่นั่งมาข้างหลังก็สะดุ้งแล้วบอกว่ากระเป๋าสตางค์หาย ทุกคนในรถวุ้ยวายช่วยกันหาใหญ่แต่ก็ไม่เจอ แล้วจู่ๆ ป้าคนนึ่งก็มาถามเรา 2 คนว่ามาจากไหนจะไปไหน คุยไปคุยมาลงที่เดียวกันเลยถือโอกาสถามทางเลย

          พอมาถึงตลาดสังขละบุรีก็ปาเข้าไป 4 โมงเย็นเลยแวะกินข้าวในตลาดเสียเลย หลังจากอิ่มท้องก็ต่อวินไปสะพานมอญก่อนแล้วต่อด้วยการเดินหาที่พัก

 

 

 

ที่พักมีให้เลือกหลายแบบ แต่ด้วยความที่อยากซึมซับบรรยากาศที่นี่อย่างแท้จริงพวกเราจึงเลือพักอยู่ฝั่งมอญ (แหมได้บรรยากาศเลยทีเดียวอยากให้ไปลอง)

 

 

 

 

ได้ที่พักก็ 5 โมงเย็นพอดีเพื่อไม่ให้เสียเวลาก็ออกเดินเท้าไปวัดวงก์วิเวการาม เห็นยอดทองๆก็เดินตรงเข้าไปเลย

 

 

บรรยาการเงียบสงบ มีเด็กวัยรุ่น คนแก่ไปนั่งสวดมนต์กันด้วยบอกเลยว่ารู้สึกดีน่าเลื่อมใสมากค่ะ

 

 

 

ขากลับก็เดินชมหมู่บ้าน แล้วก็เจอร้านเช่ามอเตอร์ไซค์แต่ดีแล้วที่เราเจอกันช้าไปเพราะการเดินทำให้เราเก็บรายละเอียดวิถีชีวิตคน2ข้างทางได้เยอะขึ้น

 

 

วันที่ 2 วันสุดท้าย

 

 

 

 


เราวางแผนกันไปใส่บาทตอนเช้า

 

 

และต่อด้วยการไปนั่งเรื่องชมวัดใต้น้ำส่วนค่าเรือก็ต้องรอให้คนครบ 6 คนต่อเรือ1ลำแล้วหารเงินกันหัวละ 84 บาท แต่มีพี่คู่รักใจดีออกเศษค่าเรือให้เราเราเลยเสียแค่คนละ 80 บาท

 

 

ระหว่างล่องเรือก็นั่งชมบรรยากาศ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

การชมวัดต่างๆ ของทริปนี้ก็มีมัคคุเทศก์ที่เป็นลูกพี่คนขับเรือนั้นเองคอนบอกประวัติความเป็นมาของสถานที่นั้นๆ (เล่าเก่งมาก)

 

 

ค่าใช้จ่าย


ค่ารถตู้ไป-กลับ 120บ. x 2 = 240

ข้าวมันไก่+น้ำ 11บ.

ค่ารถทัวร์ด่านเจดีย์3องค์ 155บ.

ก๋วยเตี๋ยวไก่ 30 บ.

วินมอเตอร์ไซร์ 20 บ.

ที่พัก 350 บ.

ทำบุญ 15 บ.

ใส่บาตร 50 บ.

น้ำ 7 บ.

โจ๊ก 25 บ.

รถตู้ขากลับจากสังขละบุรี-กาญจนบุรี 175 บ.

เรือชมวัด 80 บ.

 

ทั้งหมดก็ประมาณ 1158 บ.