อาบน้ำแต่งตัวนั้งเล่นริมชายหาดถึง 9 โมงกว่าเตรียมออกเดินทางต่อ
![]()
สรุปแล้วที่แหลมกุ่มบีชรีสอร์ทนี้เป็นจุดกางเต็นท์ที่ดีมากๆบรรนกาศดีสุดๆสงบ ชายหาดส่วนตัวคนน้อยมาก แนะนำเลย ที่พักก็มีนะครับถ้าไม่กางเต็นท์มีสระว่ายน้ำด้วย
![]()
ออกจากแหลมกุ่มบีช ก็ขับมาอีกหน่อยแวะเที่ยวชายหาดทับสะแก และกินมื้อเช้าที่ร้านอาหารท้องถิ่นเลย ร้านเด็ดแน่นอนลูกค้าชาวบ้านเพียบ แบบนี้ต้องลอง
![]()
มีทั้งก๋วยเตี๋ยวอาหารตามสั่ง มาต่างถิ่นทุกทีจะสั่งกระเพราเนื้อ ร้านนนี้ก็ไม่ผิดหวังอร่อยมากราคาถูกด้วยครับ
![]()
![]()
![]()
ร้านอยู่ใกล้ๆสะพานไม้ทับสะแก
![]()
แวะดูความสวยงามแต่เขาห้ามเดินนะครับชำรุดอยู่
![]()
![]()
![]()
มาดูประวัติสะพานไม้กัน
![]()
![]()
![]()
ขยับกลับมาอีกนิดใกล้ๆกัน คาเฟ่สวยๆริมหาด PISCES
![]()
![]()
![]()
รับอะไรดีคะลูกสาว
![]()
รับน้ำสดชื่นๆแก้อากาศร้อนหน่อย
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
ร้านเล็กๆไม่ใหญ่มากๆแต่ก็มีมุมให้ถ่ายรูปได้อยู่ครับ
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
ออกจากร้านเกือบ 11 โมงยิงยาวกันต่อคืนนี้จะไปนอนที่แก่งกระจานใกล้ชิดภูเขาบ้างวันนี้
![]()
ดิ่งมาถึงสันเขื่อนแก่งกระจานบ่ายแก่ๆ
![]()
แวะถ่ายรูปกันสักหน่อย
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
เมื่อไหร่พะเนินทุ่งจะเปิดน้าอยากพาเจ้าไทรทันขึ้นไปบ้าง
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
จาดนั้นก็ไปจุดกางเต็นท์วันนี้ผิดแผนนิดหน่อย ตอนแรกจะไปกางจุดกางเต็นท์ที่ดังๆ แต่พอไปถึงจองไว้แล้วแหละ แต่คนแน่นเกินไปรู้สึกแออัด ก็เลยขับออกมาหาที่กางจุดอื่น ก็เลยมากางที่ ชลลดา ริเวอร์รีสอร์ท ตอนแรกนี้โทรคุยกัยกับป้าไว้นี้แหละแต่ป้าบอกที่ป้ายังไม่ได้เปิดให้กางเต็นท์เต็มระบบเลยอาจจะไม่สะดวกป้าเลยแนะนำไปที่ที่ดังๆนั้นแหละ แต่คนเยอะเลยมาหาป้าป้าเลยให้เลือกกางเลย ลานเลยจะไม่ได้สวยงามนัก แต่มีห้องน้ำ และมีสายไฟยาวๆพ่วงไฟได้ ตอนแรกว่าจะเช่าห้องป้าหลังนึง แต่วันนี้ป้าบอกมีแขกพักเต็มทุกหลังเลย ป้าเลยบอกวันนี้กางฟรีไปเลยไม่เก็บเงิน แถมยังพาเดินรอบรีสอร์ทพื้นที่ป้าเยอะมาก แต่ยังไม่ได้ปรับปรุง ก็เลยมาประชาสัมพันธิ์ให้ป้าสะเลย ที่นี้หากใครหาที่พักแบบเป็นหมู่คณะที่นี้มีหลายหลังครับ บรรยากาศดี ติดน้ำสามารถเล่นน้ำได้ ส่วนจุดกางเต็นท์ลองสอบถามป้าอีกทีตอนที่จะมา ป้าใจดีมากครับ รอบหน้าถ้ามาเป็นหมู่คณะจะมาพักที่นี้อีกครับ
![]()
![]()
![]()
มื้อเย็นวันนี้เราแวะซื้อหมูมาทำชาบู และหมึกย่างตั้งแต่ทับสะแกมะวานซื้อไว้ยังไม่ได้ย่าง
![]()
![]()
บรรยากาศที่นี้ตอนกลางวันจะร้อนมากครับ ควรมาถึงเย็นๆหน่อย แต่พอกลางคืนลมเย็นสบาย ตกดึกมีหนาวอากาศดี
![]()
หมดสภาพลูกสาวขอนอนเติมพลังแปบบนะพ่อ
![]()
![]()
![]()
คืนนั้นพี่ที่สนิทกันขับตามมากางด้วย นี้แหละเต็นท์ตัวท๊อปกางง่ายใน 2 นาที ปลดสลักแล้วยกขึ้นจบเลยครับ ง่ายสุดๆ
![]()
มอนิ่งเช้าวันต่อมาที่นี้ร้อนไวครับบรรยากาศจะร้อนนกว่าทางสวนผึ้งถึงเมื่อคืนจะเย็นสบายแต่พอแดดออกก็ร้อนเลยครับ
![]()
เจ้าพัดลมเมื่อวานแบตหมดตอนกลางดึก เลยเสียบ Power bank 20000 แอมต่อ อยู่ได้สบายทั้งคืน
![]()
ตื่นเถอะลูกสาวทำหน้างงๆ
![]()
![]()
![]()
พ่อหน้าจะมึนๆหน่อยเมื่อคืนบรรยากาศดีมาก ดื่มกันถึงเกือบตี 2 ปวดหัวเลยเช้านี้
![]()
ให้ดูอีกที่เต็นท์ Maxx Equip รุ่น AluMax ราคาตอนนี้59000 กางเก็บง่ายสุด ยกขึ้นยกลงเสร้จ แต่พื้นที่อาจจะไม่ใหญ่มากเหมาะสำหรับสองคนครับ กับเด็กเล็ก ความกว้างพอๆกะของผม รุ่นนี้น่าจะ 1.5 เมตร แต่ความยาวจะสั้นกว่าของผมนิดนึง
![]()
![]()
![]()
เก็บของเสร้จแล้ว อีกข้อดีสำหรับของแพง บางมากก เทียบกันเลย ประมาณ 16 ซม. ตามสเปคของผมน่าจะ เกือบฟุตหรือเกินฟุตนิดหน่อย
![]()
![]()
สายๆก็เดินทางกลับกันครับแยกย้ายกับพี่ๆ
![]()
เจอร้านริมทางตามสั่งกระเพราเนื้อเด็ดอีกแล้ว แล้วก็ยิงยาวกลับบ้านเลยครับทริปนี้
![]()
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าน้ำมัน เติมน้ำมันไป 2360 บาท
ค่าข้าวซี่โครงปราน 160
ค่าเครื่องดื่มน้ำแข็ง 688
ปลาหมึกย่าง 275
ค่ากางเต็นท์ 300
ค่าห้องพัก 600
อาหารเย็นวันแรก 1000
อาหารเช้าวันที่สอง 170
เครื่องดื่มวันท่ี่สอง 360
ชาบูวันที่สอง 307
ข้าวบ่ายวันที่สอง 260
ข้าวเช้าวันที่สาม 205
รวมแล้วทริปนี้ 4 คน คนละเกือบ 2500 บาท
สรุปค่าน้ำมันทริปนี้
วิ่งไป = 813 กิโลเมตร
เติมน้ำมัน B10 ไป 2360 บาท หรือ 90.74 ลิตร
เท่ากับทริปนี้ อัตราบริโภคอยู่ที่ 8.95โลต่อลิตร
หรือ โลละ2.90 บาท
กับความเร็ว 120-140 ตลาดทางไปกลับ ของเต็มลำเต็นท์หลังคา ก็ยังไม่ทะลุ 3 บาทยังถือว่าโอเคอยู่ตามสภาพกับการบรรทุกและน้ำมันที่แพงขึ้นครับ
![]()
มาสรุปข้อดีข้อเสียสำหรับ Roof top tent ขณะที่เขียนนี้ใ้ช้งานไปแล้ว ประมาณ 7 ครั้ง
ข้อดี
1. กางง่ายเก็บง่าย ตอกเสมอแค่ 2 อัน เสียเวลาแค่ตอนเสียบหน้าต่างตอนกางแปบเดียวครับ (อันนี้เทียบกะเต็นท์พื้นปกติแต่ถ้าเทียบกะเต็นท์หลังคา รุ่นหลังอ่อนของผมนี้จะกางใช้เวลานานกว่าหลังแข็ง)
2. นอนสบายมากที่นอนหนา และเราเอาหมอนผ้าห่มตุ๊กตาลูกใส่ทิ้งไว้ในเต็นท์ได้เลย ไม่ต้องเอาขึ้นลง กางเสร็จนอนได้เลย
3. ไม่ต้องกลัวเปียกผ้ากันฝนได้ อันนี้อาจใกล้เคียงเต็นท์พื้นที่ใช้อยู่ แต่ที่เหนือกว่าคือไม่ต้องห่วงเรื่องฝนตกน้ำไหลที่พื้นในเฉอะแฉะเวลาจะขึ้นลงหรือเวลาจะเก็บเต็นท์ เพราะเต็นท์กางบนหลังคาพื้นไม่เปียกหรือซึมแน่นอน
4.วิวดีอยู่เปิดเต็นท์มาไม่ติดเต็นท์คนหน้าแน่นอนได้วิวสูงลมเข้าง่าย
นึกออกประมาณนี้ถ้าคิดออกอีกจะมาเพิ่มใหม่
ข้อเสีย
1.ราคาสูง เริ่มต้น 2หมื่นกว่าจะสามหมื่นแล้วบางคนนานๆออกทริปทีอาจจะรู้สึกไม่คุ้ม
2.การไว้ที่หัวเก๋งแบบผม ทำให้รถต้านลม และหนักขึ้นต้องแบกเต็นท์ไปมา ทำให้รถกินน้ำมันขึ้นอีกหน่อยและมีเสียงลมดัง และอีกข้อมันเข้าที่กลับรถที่ต่ำๆไม่ได้ หรือเข้าที่จอดรถห้าง รพ. ไม่ค่อยได้(แต่ในข้อเสียมันก็มีข้อดีคือเราจะได้จอดรถตรงที่จอดรถสำหรับรถหลังคาสูงซึ้งมันจะอยู่ชั้นล่างไม่ต้องวนขึ้นที่จอดรถ แต่ว่าพวกที่จอดหลังคาสูงมันก็ไม่ได้ได้เยอะไงเช่นพาคุณแม่ไป รพ ก็ต้องวนรอเขาอออก แต่ถ้าไปห้างนี้จะง่ายหน่อยเขามีโซนใว้ให้หลังคาสูงเลย )
3. สำหรับรุ่นที่ผมใช้ยังถือว่ากางยากหากใครสนใจแนวนี้แนะนำหาหลังคาแข็งเลย จะไม่เสียเวลาตอนคลุมผ้า และป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเผื่อเข้าป่า ไว้มีตังค์จะซื้อใหม่ครับ
4.สำหรับคนฉี่บ่อยอาจไม่ชอบแนวนี้เพราะต้องปีนขึ้นปีนลงบ่อยยิ่งถ้ารถสูงก็อาจจะขี้เกียจได้ครับ
5.ในบางสถานที่รถเราจะเข้าไม่ถึงตรงวิวที่ต้องการเพราะบางที่ไม่ให้รถเข้าเลยอาจต้องกางไกลหน่อยครับ
แต่โดยรวมแล้วผมกะฟางชอบมากๆ แฮปปี้ ตอนจะซื้อคิดว่าต้องกางให้ได้ 15-20ทริปเพื่อให้คุ้ม แต่พอได้ใช้งานแล้วมันไม่ใช่แค่คุ้ม แต่เราซื้อในความสบายๆในหลายๆอย่างที่กล่าวมาแค่นี้ก็คุ้มแล้วไม่ต้องนับเป็นจำนวนเงิน
ก็ประมาณนี้ครับทริปต่อๆไปก็คงจะได้ใช้เจ้าเต็นท์นี้สักพักกำลังเห่อ ออกไปหลายทริปแล้ว555
แล้วพบกันใหม่ทริปหน้ากัลครอบครัวตะลอนเที่ยว วันนี้สวัสดีจ้า
![]()