หลงรัก

 

 

สายเที่ยวและสายกิน มักไปด้วยกันได้ดีเสมอ ในฤดูฝนพรำแบบนี้บางคนบอกว่าขี้เกียจไปเที่ยวไหนเฉอะแฉะไปหมด แต่วันหยุดก็เยอะอยู่นะ จะมัวนอนเฉยอยู่บ้านทำไม ออกมาสัมผัสธรรมชาติสีเขียวในฤดูฝนกันเถอะ แล้วจะพบว่าธรรมชาติในฤดูฝนนั้นจะสวยกว่าที่เคยเห็น จุดหมายปลายทางของเราสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เมืองแห่งขุนเขาและสายน้ำ "ทองผาภูมิ"

 

มีหลายคนรวมถึงเพื่อนร่วมทางถามเราว่า "ทองผาภูมิ" มีอะไรให้เที่ยว ทำไมไม่ลองเลยไปเที่ยวปิล็อกหรือสังขละบุรีดู น่าจะสวยกว่านะ ก็ตอบเพื่อนไปว่าเรามีเวลาน้อย 2 วัน 1 คืนเอง อยากใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติสีเขียวนาน ๆ ไม่ต้องขึ้นไปไกลหรอก แค่ตัวเมืองทองผาภูมิก็พอแล้ว รีวิวนี้จึงขอเอาใจสายเที่ยว เราไปหาคำตอบมาให้ว่าทำไมต้องไปทองผาภูมิ และก็ไม่ลืมเอาใจสายกินกับแนะนำคาเฟ่ชิคเก๋ระหว่างทาง กับรีวิว "หลงรักทองผาภูมิ ในฤดูฝนพรำ แวะชิมบิงซูหวานฉ่ำที่ U&ME COFFEE"

 

-----------------------------------

 

     

การเดินทาง

 

แนะนำการเดินทางไปอำเภอทองผาภูมิกันหน่อย หลายรีวิวก่อนหน้านี้ เคยนำเสนอการเดินทางมาเที่ยวกาญจนบุรีโดยใช้เส้นทางที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย คือ เส้นทางถนนบรมราชชนนี ผ่านจังหวัดนครปฐม ผ่านอำเภอบ้านโป่ง และเข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรีทางถนนแสงชูโต แต่รอบนี้มีโอกาสเปลี่ยนเส้นทาง รู้ไหมว่าปัจจุบันนี้การเดินทางจากกรุงเทพฯ มาเที่ยวกาญจนบุรีมีอีกหนึ่งเส้นทางหลักที่คนนิยมใช้กัน   ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 346 (รังสิต – พนมทวน)   ต้นทางจากปทุมธานี - บางบัวทอง เข้าสู่แยกต่างระดับลาดหลุมแก้ว - อำเภอบางเลน - อำเภอกำแพงแสน - เข้าสู่อำเภอพนมทวน เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 324 (อู่ทอง - กาญจนบุรี) ตามป้าย "กาญจนบุรี" - หลังจากนั้นเจอสี่แยกวังสารภี เลี้ยวขวาเข้าสู่ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 367 (ถนนเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี) - และจะพบสี่แยกแก่งเสี้ยน วิ่งตรงสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 ตามป้าย "ไทรโยค ทองผาภูมิ" ระยะทางจากตัวเมืองไปถึงตัวอำเภอทองผาภูมิประมาณ 145 กิโลเมตร

 

-----------------------------------

 

 

  U&ME COFFEE

 


ประเดิมเริ่มต้นการเดินทางด้วยการหาพิกัดคาเฟ่น่านั่งและอาหารอร่อยลองท้องกันสักหน่อย กาญจนบุรีเดี๊ยวนี้มีคาเฟ่เปิดขึ้นใหม่เยอะมาก ในฐานะที่เรานอกจากเป็นสายเที่ยวแล้ว ยังเป็นสายท่องคาเฟ่ จึงไม่พลาดจะหาคาเฟ่เก๋ ชิค น่านั่ง บนถนนหมายเลข 324 (อู่ทอง - กาญจนบุรี) มาฝาก ที่ต้องรีวิวคาเฟ่นี้เพราะประทับใจเหลือเกินกับบรรยากาศของร้าน การบริการ และเมนูความอร่อย แวะเติมน้ำมัน แต่ไหงอิ่มท้องออกมาซะงั้น   U&ME COFFEE คาเฟ่สไตล์ Loft ผสมปูนเปือยที่แฝงไปด้วยความอบอุ่น แค่เปิดประตูร้านเข้าไปก็จะพบกับตุ๊กตาน้องหมีน่ารักนั่งอยู่ตามมุมต่าง ๆ ของร้าน ผสมผสานกับแกลลอรี่ภาพ และต้นไม้สีเขียว ทำให้บรรยากาศทั้งโซน Indoor และ Outdoor น่านั่งไปซะทุกมุม แถมสายแชะไม่ต้องพก Props มาเองเพราะที่ร้านจัดเตรียม Props ถ่ายรูปเก๋ ๆ ไว้ให้เข้าเฟรมเพี๊ยบ บรรยากาศร้านว่าอบอุ่นแล้วอบอุ่นยิ่งขึ้นเมื่อได้รับบริการดีเยี่ยมระดับ First Class ก็เจ้าของร้านเค้าเป็นสจ๊วตหนุ่ม ที่หากมีเวลาว่างเว้นจากตารางบิน ก็จะมาคอยต้อนรับและปรุงเมนูอร่อยให้เราได้ลิ้มลองกัน (ให้เห็นหน้าแว่บ ๆ พอ อยากเจอตัวจริงต้องแวะมาเยือนเอง ฮ่า ฮ่า)

 

บรรยากาศโซน Indoor

 

 

บรรยากาศโซน Outdoor

 

 

มาดูเมนูอาหารของที่ร้านกันบ้างดีกว่า ก่อนอื่นคลายร้อนด้วยเครื่องดื่มเย็น ๆ ชา กาแฟ สมูทตี้ผลไม้หลากหลายเมนู ตามด้วยจัดอาหารหนักทานแก้ท้องร้องกันก่อน ตามเมนูแนะนำเลย สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล ซี่โครงหมูอบราดซอสบาร์บีคิว ไข่กระทะ สลัดทูน่า ซึ่งทุกเมนูปรุงด้วยผักสดปลูกพิเศษโดยทางร้านเองด้วย รับประกันความสด อร่อย ไร้สารพิษ และระหว่างรออาหาร เลยจัดเมนู ชีสบอล มาทานเล่นเพลิน ๆ ระหว่างรออาหารสักหน่อย

 

  ( เมนู ชีสบอล )  

  ( เมนู สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล )  

  ( เมนู ซี่โครงหมูอบราดซอสบาร์บีคิว )  

 

( เมนู ไข่กระทะ )   

  ( เมนู สลัดทูน่า )  

 

ทานอาหารคาวแล้วต้องปิดท้ายแบบหวาน ๆ กับขนมโฮมเมดหลากหลายเมนู เลยขอจัด บิงซูสตอเบอร์รี่เนื้อหวานฉ่ำ และ ฮันนี่โทสต์ ถ้ามาทันช่วงทุเรียนจะจัดเมนู Durian Bingsu ด้วย คือรวม ๆ แล้วดีงามมาก  

 

( เมนู Very Strawberry Bingu )   

  ( เมนู Chocolate Honey Toast )

  

 

หลังจากนั้นเพื่อนเริ่มสะกิด พร้อมกับคำถามจะถึงไหมทองผาภูมิ ?? ฮ่า ฮ่า เอาเป็นว่า U&ME COFFEE เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่ควรค่าแก่การแนะนำและบอกต่อ ถึงไม่ใช่หมึกแดงแต่ก็อยากชวนชิม อิ่มอร่อย ในราคาสบายกระเป๋า ถ้ามีโอกาสมาเที่ยวกาญจนบุรี ควรไปลิ้มลองด้วยตนเอง

 

พิกัด : ตั้งอยู่ในปั้มน้ำมัน PT ริมถนนหมายเลข 324 ( อู่ทอง - กาญจนบุรี ) ฝั่งขาเข้าเมืองกาญจนบุรี ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 07.30 - 21.00 น.

โทรศัพท์ : 082-388-7711

FACEBOOK :   U&ME COFFEE  

 

-----------------------------------

 

 

"ทองผาภูมิ" มีอะไรให้หลงรัก

 

 

อำเภอทองผาภูมิ เชื่อว่าหลายคนคงมีโอกาสเคยไปเยือน เมืองเล็ก ๆ ที่ห้อมล้อมไปด้วยขุนเขาและสายน้ำ โดยการเดินทางรอบนี้เราเน้นเที่ยวสถานที่ละแวกตัวเมืองทองผาภูมิ ซึ่งหลายคนชอบบอกว่าไม่ค่อยมีอะไรให้เที่ยว ทำให้คนมักขับผ่านขึ้นไปปิล็อก หรือไม่ก็เลี้ยวไปสังขละบุรีซะก่อน เราเองมีโอกาสไปทองผาภูมิอยู่หลายครั้ง แต่ครั้งล่าสุดนี้คือไป แล้วจะต้องจัดรีวิวสักหน่อย คือสวยมาก ฤดูฝนพรำแบบนี้ก้อนเมฆ และหมอก ลงมาปกคลุมเมืองเป็นทิวสาย จึงไม่อยากให้เมืองแห่งนี้เป็็นแค่ทางผ่านอีกต่อไป แต่อยากให้คนได้หยุดสัมผัส และลองใช้เวลาที่ทองผาภูมิ แล้วจะรู้ว่าทำไมเราถึงหลงรักเมืองนี้ "ทองผาภูมิ"

 

-----------------------------------

 

 

ตักบาตรยามเช้า สะพานแขวนหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน

 

กาญจนบุรีเป็นเมืองแห่งสายน้ำ ดังนั้นเราจะเห็นสะพานแขวนโบราณตั้งอยู่ตามหมู่บ้านหลายแห่ง เป็นวิถีชีวิตที่คนใช้เดินข้ามแม่น้ำเพื่อเดินทางไปอีกฝั่งเมือง เราถามจากชาวบ้านทำให้ทราบว่าในตอนเช้า พระภิกษุจากวัดท่าขนุน จะเดินข้ามสะพานแขวนหลวงปู่สาย เพื่อมารับบิณฑบาตฝั่งตลาด จึงไปยืนรอที่วัดเพื่อตักบาตรเวลาประมาณ 05.45 น.

 

 

-----------------------------------

 

วัดท่าขนุน

 

วัดสำคัญที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายมอญ พม่า และกระเหรี่ยง ที่อาศัยในพื้นที่ตัวเมืองทองผาภูมิและละแวกใกล้เคียง ชาวบ้านเรียก "วัดหลวงปู่สาย" พื้นที่ของวัดติดริมแม่น้ำแควน้อย มี "พระพุทธเจติยคีรี" ตั้งตระง่านอยู่บนยอดเขาสูง ซึ่งเราสามารถขึ้นไปสักการะได้ และด้านบนยังทำให้เราสามารถเห็นความสวยงามของเมืองทองผาภูมิมุมสูงได้แบบ 360 องศา

 

 

-----------------------------------

 

  ตลาดเช้าทองผาภูมิ

 

ตลาดเช้าคือแหล่งรวมความสุขยามเช้า พ่อค้าแม่ค้าพากันจัดร้านเตรียมของขายเสียงจอแจ ตลาดเช้าทองผาภูมินั้นมีธรรมชาติสวยมาก ด้านหลังเป็นทิวเขาเคล้าสายหมอก เหมือนเราเดินช็อปปิ้งท่ามกลางแอร์เย็น ๆ แต่แอร์เย็นที่ว่า คือแอร์ธรรมชาติ จาก หมอกรอบตัว ได้กินหมูปิ้งร้อน ๆ จิบชาอุ่น ๆ ฟินเหลือเกิน

 

 

 

-----------------------------------

 

จุดชมวิวแม่น้ำแคว สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9

 

จุดชมวิวริมน้ำแคว ตั้งห่างจากตัวตลาดทองผาภูมิประมาณ 200 เมตร เป็นต้นน้ำจากเขื่อน บางช่วงน้ำเป็นสีฟ้าเหมือนบลูลากูนเลย บรรยากาศสวยงาม มีคนมาเล่นน้ำ และพักผ่อนกันสบาย ๆ  

 

 

 

-----------------------------------

เขื่อนวชิราลงกรณ

 

เดิมชื่อ "เขื่อนเขาแหลม" เป็นเขื่อนขนาดใหญ่และสำคัญมากอีกหนึ่งแห่งในกาญจนบุรี ตั้งอยู่เลยตัวเมืองทองผาภูมิขึ้นไปประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นเขื่อนที่มีทัศนียภาพสวยมาก บนสันเขื่อนสามารถขับรถขึ้นไปเที่ยวได้ เวิ้งน้ำเบื้องหน้าสวยงามยาวไกลสุดลูกหูลูกตา ดังนั้นถ้ามาทองผาภูมิห้ามพลาดที่จะแวะไปเยือน

 

 

 

 

-----------------------------------

 

พื้นที่เหนือเขื่อนวชิราลงกรณ

 

หลังจากเที่ยวบนสันเขื่อนแล้ว แนะนำไปต่อยังพื้นที่เหนือเขื่อน โดยต้องออกมาที่ประตูทางเข้าด้านหน้าเขื่อน และวิ่งตรงขึ้นไปเส้นทางเดียวกับที่ไปปิล็อก ระยะทางจากเขื่อนประมาณ 4 กิโลเมตร เราจะเห็นพื้นที่น้ำเหนือเขื่อน และกระชังปลา หาทางเข้าแล้วจะได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้ หยิบมือถือแล้วเปิดเพลง Vacation Time สร้างบรรยากาศ มันใช่มาก ๆ อ่ะ

 

 

-----------------------------------

  สะพานคอนกรีต ทองผาภูมิ

 

ก่อนเข้าสู่ตัวเมืองทองผาภูมิ จะต้องวิ่งผ่านสะพานแห่งนี้ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำแควน้อย ดูวิวด้านหน้าสิ ต้องร้องว้าว !! สวยจริง ๆ คนพื้นที่จะได้เห็นบรรยากาศแบบนี้เกือบทุกวันในช่วงเช้า และจะมีหมอกลงมามากกว่าเดิมหลังฝนตก แต่ถ้าจะจอดรถถ่ายรูปโปรดระมัดระวังรถกันนิดหนึ่ง หาที่จอดรถที่ปลอดภัย แล้วยืนถ่ายกันบนฟุตบาทริมสะพานด้วยนะจะ


 

 

-----------------------------------

 

ชิม เงาะ มังคุด ทุเรียน สด ๆ จากสวน

 

เงาะทองผาภูมิ มันก็จะกรอบ หวาน น้ำไม่ฉ่ำ ดีต่อใจมาก เชื่อว่าในทุกปีหลายคนรอการจะได้ชิมเงาะทองผาภูมิ ถ้าเดินทางช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน จะได้เห็นเงาะทองผาภูมิวางเรียงรายขายเต็มพื้นที่ ขอให้ลองแล้วจะติดใจ


 

 

 

นอกจากเงาะทองผาภูมิแล้ว ทุกวันนี้ยังมีอีกหนึ่งผลไม้ไฮไลท์ที่ใคร ๆ ต่างบอกว่าอร่อยไม่แพ้ที่ไหน นั่นก็คือ ทุเรียนทองผาภูมิ หวาน มัน กรอบ อร่อย นี่มีโอกาสเข้าไปถึงสวนเลยเก็บภาพมาฝาก

 

 

แต่งตั้งให้เงาะ และทุเรียน เป็นพระนาง แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งผลไม้ดาวรุ่งที่กำลังได้รับความนิยมปลูกกันมากในทองผาภูมิ นั่นก็คือ มังคุดทองผาภูมิ คือดีงาม เนื้ออร่อย หวานชุ่ม

 

 

 

ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสถานที่เที่ยวในตัวเมืองทองผาภูมิเท่านั้น ยังมีที่เที่ยวอีกมาก ที่กินอีกเยอะ เมืองเล็ก ๆ แต่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามและสมบูรณ์ เมืองเล็ก ๆ ที่หันไปทางไหนก็ได้เห็นรอยยิ้มของผู้คนส่งให้ ไม่แปลกใจใช่ไหมที่เราจะหลงรัก เมืองแห่งนี้ "ทองผาภูมิ"