ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    0.3 •  กุมภาพันธ์ 07 , 2559

    "ลมพ๊าดดด...ตึ่ง...จากภูกระดึง เขตเมี๊ยงงงเลย"

    เป็นเสียงเพลงที่ญาติพี่น้องร้องเล่นกันอย่างสนุกสนานในคืนสุดท้ายของปี

    มาสะดุดก็ท่อนนี้แหละ ภูกระดึง มันตรึงใจเลย เอาวะ ทริปแรกของปี ขึ้นภูหน่อยละกัน

    .....................

    ...หัวลำโพงเป็นจุดเริ่มต้นทริปของใครหลายๆคน กับรถไฟฟรี ขบวนที่ 133 ต้นทางกรุงเทพ ปลายทางหนองคาย

    ...กว่ารถไฟจะออกก็ 2ทุ่ม 45นาที ยังไงล่ะ มาถึง 6โมง อย่างรีบ ไม่ใช่อะไร คือตื่นเต้นเว้ย ไม่เคยไปที่ไหน แล้วผ่านบ้านตัวเองแบบนี้มาก่อน แต่ที่นี่มีอะไรให้ดูเยอะแยะ ทีวีจอใหญ่ๆมีนะ แต่ไม่ดูไง ชอบดูของจริง ดูฝรั่งดีกว่า 5555 หัวเราะแบบร้ายกาจ

    ...ถึงเวลาก็ไปที่รถไฟ เอ้อ..อากาศร้อนจริงๆ แต่พอรถไฟวิ่งไปเรื่อยๆ ผ่านอยุธยาเท่านั้นแหละ รู้เรื่อง ทั้งหู ทั้งหน้า แข่งกันชา(ไม่ใช่กัญชา) ไม่เกรงใจกันบ้างเลย

    ...ถึงอากาศจะหนาวเท่าไร แต่รถไฟไทยสายวินเทจที่ฝรั่งชอบถามว่ามันวิ่งได้จริงหรอ ขบวนนี้ ไม่เคยขาดความอบอุ่น พี่ป้าน้าอา ที่ไม่เคยรู้จักกัน กลับคุยกันอย่างกับบ้านอยู่ติดกัน บันเทิงดี เอาบ้างดีกว่า ส่งยิ้มหวานๆให้กับผู้หญิงหวานๆที่นั่งฝั่งตรงข้าม เฮ้ยๆๆๆ เขายิ้มกลับมาด้วยเว้ย นี่มัน...ยิ้มมายิ้มกลับ ไม่โกง นี่หว่า เขาคงแอบด่าในใจว่า เชรี่ยนี่บ้าป่ะวะ ชัวร์เลย

    ...หลับๆ ตื่นๆ สะดุ้งเตะสาวน้อยฝั่งตรงข้ามอยู่หลายที (จนเขาคิดว่าเป็นบ้าจริงๆแล้วมั้ง) ก็มาโผล่ที่เมืองขอนแก่น และอาหารสายพานประจำแถวนี้ คงหนีไม่พ้น ไก่ย่างเขาสวนกวาง เป็นไก่ 3 สายเลือด เนื้อมันจะคล้ายๆไก่บ้าน ลองแล้วจะติดใจ รอบแรกที่ขึ้นมาตัวละ 120 รอบสอง 60 ขนาดตัวต่างกันนิดเดียว ถ้าใครมาอย่าพลาดเชียว

    ...8 โมงหน่อยๆ ก็มาถึงปลางทางที่ต้องลง สถานีรถไฟอุดรธานี แล้วรู้อะไรมั้ย การขับถ่ายในช่วงเวลา ตี 4 - 7 โมง เป็นเวลาที่ดีที่สุด แต่วันนี้เลทไปชั่วโมงนึง โอ้ยๆ...จะออกแล้ว ตาลุงคนขับรถสกายแลปก็เดินมาหา แล้วอาสาพาไปส่งเว้ย "จักคราวลุง ขอเวลานอกจักหน่อย" แต่ลุงโคตรใจดีเลย ใจดีไม่เกรงใจ ลำใส้ตรงบ้างเล้ย "ไปเข้าปั๊มข้างหน้า สะอาดกว่าเด้อ" เอาที่ลุงสบายใจเลย ไปก็ไป

    ...mission complete เดินทางต่อได้ บขส.2 แมร่งอยู่ไกลมากๆ มากถึงมากที่สุด พอถึง บขส. ไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินดุ่ยๆไปขึ้นรถคันส้มๆ ข้างๆรถเขียนว่า อุดร-เมืองเลย นั่นแหละ คันนั้นแหละ ไปเลย

    ...นี่มันรถหวานเย็นนี่หว่า ดูในแผนที่รู้สึกจะไม่ไกลเท่าไรนะ แต่ใช้เวลาไปกลายๆ 4 ชั่วโมง ตัดภาพไปที่หิวมาก และก็ตัดกลับมาที่ บขส.เลย การที่จะไปเชียงคานเนี่ยนะ ต้องขึ้นรถสองแถวหกล้อไป ถามว่าได้นั่งมั้ย อย่าถาม..เกือบตกรถ 55555

     

     

     

    • โพสต์-2
    0.3 •  กุมภาพันธ์ 07 , 2559

    ...เย้ๆ ถึงเชียงคานแล้ว แล้วโรงแรมอยู่ไหนวะ แล้วจะไปถามใครดี "อ้ายๆ แคปซูล มันอยู่หม่องได๋น้อ" "โอ๋ แคปซูลบ่หล่า บ่ไกลดอก ซอย 20 เด้อ" พอได้คำตอบเลยเดินไปเรื่อยๆ เดิน เดิน ไหนวะซอย 20 ทำไมมันไกลจังวะ เดินจนสุดถนนคนเดินแล้วยังไม่เจอ พอถึงอุโมงค์ต้นสัก รู้สึกเเหนื่อย ถอดใจ ถอยดีกว่า พอหันหลังกลับแล้วเดินไปอีกนิดเดียวเท่านั้นแหละ ปั้ง...ป้ายซอย 20 ทิ่มตาเลย ...สัส เดินเลยซอย โถๆ..ควายล้วน ไม่มีวัวปน

    ...บรรยากาศภายในแคปซูลก็ไม่ต่างจากโฮสเทลทั่วๆไป เพิ่มตรงที่มีความเป็นส่วนตัวสูงขึ้นมาหน่อย ชอบที่ห้องน้ำโอเคกว่าที่อื่นที่เคยพักมา หลังจากนี้มาสำรวจเมืองกันดีกว่า ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง จำได้ว่าค่ำวันนั้น เดินไปๆกลับๆ อยู่ถนนคนเดิน 3-4 รอบ โคตรชิว 55555+

    ...เริ่มจากตรงที่โง่ๆนี่แหละ ซอย 20 ตรงนี้จะเป็นทางเดินเรียบแม่น้ำโขงไปเรื่อยๆ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นฝั่งประเทศลาว บรรยากาศจัดว่าดี ชนะเลิศ แต่ถ้าถามว่าสัมผัสวิถีชีวิตมั้ย ตอบเลยว่าไม่ คือมีแต่คนกรุงเทพ กับจังหวัดอื่นไง คนพื้นเมืองไปไหนกันหมดก็ไม่รู้ เฉพาะบริเวณนี้นะ

    ...อันนี้เป็นร้านอาหารริมโขง ถ้าได้นั่งตรงนี้ แล้วดินเนอร์ใต้แสงเทียนอุ่นๆ กับคนรู้ใจ 2 คน คงจะดีกว่านี้ถ้ารีบตื่นจากฝันแล้วเดินต่อ

    ...นี่ๆ อันนี้เด็ด ชอบอันนี้สุดละ  สังเกตุที่หน้าต่าง มีการเล่นระดับด้วย เดาว่าตรงบริเวณหน้าต่างต่ำ อาจจะเป็นที่นั่งพื้น อีกอันคงนั่งเก้าอี้ มั้ง 5555+  ดูเอฟเฟ็ค ของระแนงที่ห้อยๆตรงกระจกดิ ดูดีอะ แล้วอาคารยังยอมให้ธรรมชาติเข้ามาเกาะเพื่อเป็นฉนวนด้วย เจ๋งๆๆ

    ...มาเปลี่ยนบรรยากาศ เดินฝั่งถนนคนเดินบ้างดีกว่า ถ้าเก้าอี้สองตัวในบ้าน มันฉันกับเธอนั่งกุมมือกัน คงจะดีกว่านี้ (เพ้อไปอิก)

    ...กุ้งแม่น้ำโขง 10 บาท ถามป้าเขาบอก ใสซอสแล้วย่าง อร่อยดี ได้กลิ่นคาวกุ้งนิดๆ (ภาพนี่ปรับซะส้มเลย 5555)

    ...ดูจากป้าย จะบอกว่าเต็ม บางที่บอกด้วยภาษาที่น่าร๊ากกกก มาก วันที่ไปเต็มทุกที่ เกือบได้นอนวัดละ ถ้าไม่จองมา

    ...เดินๆอยู่ เหลือบไปเห็น เจดีย์สูงๆ สีทองๆ เลยเดินไปดู มันก็ไม่มีอะไร เป็นส่วนประดับของยอดหอระฆัง หรืออะไรนี่แหละ จำไม่ได้ เดินออกมาเจอของแถม น่ารักอีกแล้ว ชอบๆ ชอบอะไรที่มันกลมกลืนกับสิ่งที่มันมีอยู่แล้ว แอบเห็นผู้ชายขาสั้นๆส่องกล้องตรงกระจกด้วย 55555+

    • โพสต์-3
    0.3 •  กุมภาพันธ์ 07 , 2559

    ...ค่ำแล้ว ออกล่าเหยื่อได้ บรรยากาศกลางคนนี่แทบไม่ต้องเดิน อยู่เฉยๆก็ไหลไปข้างไหนได้ คนอย่างเยอะ
    • โพสต์-4
    0.3 •  กุมภาพันธ์ 07 , 2559

     

    ...นี่ๆ ป้ายหน้าร้านเขาบอกว่าเด็ด เราจะมาพิสูจน์ว่าเด็ดจริงมั้ย ก็ตรงตามป้ายนะ ในร้านจะมีผสมกับบาร์ด้วย เห็นถังไม้โอ๊คหมุนไปหมุนมาอีกแล้ว สงสัยตั้งแต่เดินตอนแรกละว่ามันคืออะไร  เพิ่งเคยเห็น ถังเบียร์วุ้น เด็ดสัส เดินต่อดีกว่า เดี๋ยวค่อยกลับมากิน

     

    ...ร้านนี้ชอบมาก เป็นโปสการ์ดสีน้ำ นี่สิเขาถึงเรียกถนนคนเดิน ถนนที่มีแต่ของ DIY ดิ ถึงจะมีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์ดี สอยไปใบนึงสวยมาก โดน

     

    ...เดินมาสุดทาง แล้วย้อนกลับไปร้านผัดไทย ไปดื่มเบียร์ไทยในบรรยากาศชิวๆ ดีๆ ลมพัดเย็นๆ วิวสวยๆ แต่มืดมน มองไม่เห็นอะไรเลย ได้ฟิลมาก

     

    • โพสต์-5
    0.3 •  กุมภาพันธ์ 07 , 2559

    ...ตอนเช้าอยากไปภูทอกมาก ไปคนเดียวค่ารถไปกลับ 200 มากกว่านั้นคนละ 100(ติดต่อได้ที่โรงแรมที่พัก) เอางี้ หาคนหารดีกว่า พอดีเจอฝรั่งคู่หนึ่งหน้าโฮสเทลท่าทางจะไม่ได้มาด้วยกัน เลยเข้าไปทักแล้วบอกน่ารักชิมิชิมิ ไม่ใช่! ชวนไปขึ้นภู เขาไม่รู้จักเว้ย เลยเปิดอากู๋ให้ดู ไปกับพี่ดีๆซะคุณหนู  "So pritty" เขาพูดประมาณ 3 แสนรอบได้มั้ง แล้วบอก หนูจะไปกับพี่ค่ะ ได้เลยจ่ะ จัดไป ตี 5 เจอกันหน้าโรงแรมนะ

     

    ...ไม่ผิดหวัง เจอหมอก สวยด้วย คนเยอะมากกกก แย่งที่กันยืน รอดูแสงแรกของวัน พลาดนิดเดียวนี่คือตกผาชัวร์ บนภูเท่าที่มองด้วยตา ไม่มีหัวทองเลยสักคน มีแต่ที่พามา 2 คนนี่แหละ เขาบอกว่าประทับใจมาก ยินดีที่ได้แนะนำสถานที่ที่เขาประทับใจให้

     

    ...ลงจากภู แล้วจะไปขึ้นภูตามจั่วหัวแล้ว เย้ๆ มันจะมีท่ารถนครชัยอยู่ บอกเขาลงผานกเค้า เดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง

    กำลังรอรถออก ก็เห็นสาวคนนึงเดินขึ้นรถมา เอ้านั่นมันคนที่เราพาขึ้นภูทอกนี่ ทำไมไม่มาด้วยกันเลย ยิ้มให้กัน อิอิ

    • โพสต์-6
    0.3 •  กุมภาพันธ์ 07 , 2559

     

    ...ถึงที่หมาย ลงรถแล้วท้องมันเรียกหาอาหาร เลยเดินไปร้านเจ๊กิม จัดข้าวกล่องไปหนึ่งกล่องสำหรับขึ้นภู แล้วเหมารถแดง ว่าจะรอคนอื่นละ แต่พี่แกบอก เวลานี้ไม่มีใครมาหรอก ง่ะ...ไปคนเดียวก็ได้ เขาคิด 100 เดียว

    ...ที่หน้าสำนักงานอุทยาน จ่ายค่าอุทยานอะไรเสร็จสัพ เขาถามจะจ้างลูกหาบมั้ย ไอ้เรามันก็เปรี้ยวบอกไปว่า"ไม่" พอเดินขึ้นซำแรก นี่รู้เรื่องเลย กระเป๋า 8 โล กับทางชันๆ ตอนเที่ยงๆ อากาศร้อนๆ ในใจก็คิดนะ จะลงไปจ้างลูกหาบแล้วเดินตัวปลิวดีมั้ย ไม่ๆ ใจต้องสู้ดิวะ ชนะใจตัวเองให้ได้ มาขนาดนี้แล้ว 300 เมตรเนี่ย 5555+ เดินไปคุยไป เพื่อนเต็มเส้นทาง ป่าไผ่ก็สวย หยุดถ่ายรูปบ้าง พอให้ลืมความเหนื่อย ช่วยได้จริงว่ะ เดินไป คุยไปเนี่ย

     

    ...ถึงแล้ว ซำแฮก แฮกๆๆๆ เหนื่อยมาก อยากกลิ้งลงเขา แต่เปลี่ยนใจหาวิวดีๆหม่ำข้าวเที่ยงดีกว่า เดินไปเดินมาเจอวิวที่โล่ง โปร่ง สบาย เหมาะกับการจะรับประทานอาหารกลางวัน วันนี้กินข้าวบนที่สูงซะด้วย แล้วจัดแตงโมต่อ แตงโมน่ารักดี ยิ่งสูง ยิ่งบาง 55555+

     

    ...เดินผ่านซำแล้ว ซำเล่า ก็ได้พี่ลูกหาบ แล้วก็เสียงเพลงโจ๊ะๆของพี่เขานี่แหละ ทำให้คิดว่ากำลังดิ้นอยู่ในผลับ อย่างชิว แต่จริงๆพักทุกซำ นานด้วย แล้วอย่าลืมช่วยกันอุดหนุนพ่อค้า แม่ค้า ที่เอาของมาขายในแต่ละซำนะ ผมกินแตงโม และนอนเล่นทุกซำ ใช้เวลาเดินทั้งสิ้น 6 ชม. กว่า เพื่อนผมไปทีหลัง มันบอกเดินแค่ 2 ชมครึ่ง สงสัยเรามันเต่า เต๊า เต่า

    ...ช่วงซำกกโดนจะมีเมเปิลให้ดูอยู่ อยู่ตรงหน้าห้องน้ำ รูปปกนั่นแหละ รูปจากต้นนั้น

     

    ...ในที่สุดก็ถึงละ จุดหายเหนื่อย เดินมาประมาณ 5 ชั่วโมง พักแต่ละซำเพลินไปหน่อย แล้วต้องเดินต่ออีก 3โล ทางราบ ดีหน่อย เอ้าไป เดินๆๆๆๆ เดินชิวๆ

     

     

    ...ท่ามกลางป่าสนในแดนสนธยา ได้มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินนำหน้า อิจฉามาก ตาร้อนเลย พอๆจบเรื่องนี้ ไปพูดถึงอากาศดีกว่า บนนี้ลมพัดแรง เย็นด้วย มีแต่เสียง วิ้วววววว วิ้วววววว ถ้ามาคนเดียวตอนกลางคืนนี่ป่าคงราบไปแล้วววว 5555+ ระหว่างทาง เจอเมเปิลประปลาย แต่ต้องสังเกตุหน่อย มันผลิใบเขียวหมดแล้ว

     

    ...จุดกลางเตนท์ ถ่ายตอนเช้าวันกลับ แต่อยากให้ดู เลยเอามาแปะก่อน

    ...ถึงจุดกางเต้นก็มืดแล้ว และเย็นมาก น้ำไม่ต้องพูดถึง ยังกับน้ำที่ละลายจากน้ำแข็ง อย่าถามว่าอาบน้ำมั้ย รู้ๆกันอยู่ อาหารบนภู มีให้เลือกหลายร้าน ลองไปเลือกๆดู ร้านคาไม่แพงจนเกินไป กินเสร็จก็นอนเลย ทั้งเหนื่อย ทั้งหนาว หลับสบาย คร๊อกฟรี้  Zzzzzz...

    • โพสต์-7
    0.3 •  กุมภาพันธ์ 07 , 2559

     

    ...ตี 5 ของวันถัดมา อุณหภูมิต่ำสุด 11 องศา ตอนเช้าของทุกวัน จะมีเจ้าหน้าที่นำทางไปผานกแอ่น จุดชุมวิวพระอาทิตย์ขึ้น หนึ่งเดียวของภูกระดึง สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับมาภูกระดึง คือไฟฉาย อย่าลืม ทางมืดมาก พอถึงผา คือลมพัดตึ่งจริงๆ เหมือนกับเพลงเลย หน้านี่ชาไปอีก นั่งดูไฟ รอพระอาทิตย์ขึ้นฟินๆ เอนหลังลงพื้นแล้วมองดาว

     

    ...พอกลับจากผานกแอ่นแล้ว ก็กลับมากินข้าวเช้า ร้านเจ๊อะไรสักอย่าง จำไม่ได้ ถ้ามองตรงไปจะอยู่ร้านสุดท้ายฝั่งซ้ายมือ บรรเทิงยามเช้ามาก แกพูดกับพี่คนจดเมนูฮาดี แล้วก็ซื้อข้าวใส่ถุง ถุงพลาสติก นึกถึงเด็กบ้านนอกห่อข้าวไปโรงเรียน อารมณ์นั้นเลย เอาไว้กินตอนเที่ยง ระหว่างทาง

    ...น้ำตกวังกวาง เส้นทางไปจะเลาะตามทางน้ำ น้ำดำๆที่เราอาบแล้วทิ้งนี่แหละ ในใจคิดว่าน้ำตกคงไม่ใช่น้ำนี้นะ สรุปมันใช่เว่ย มีทั้งฟองมีทั้งกลิ่น ระหว่างเดินๆดูน้ำตกอยู่ก็มีชาย 3 คนเดินมาพอดี เลยเข้าไปคุยๆด้วย คุยไปคุยมาชวนไปด้วยกัน เอ้า...ไปสิครับ รอรัย พี่เขาบอก ต่างคนต่างมา แล้วมาเจอกัน คนแรกชื่อพี่หมอ เซียนภูกระดึง พี่เขาจะขึ้นมาปีละ 2 ครั้ง ถัดมาเป็นพี่จ๋าย ตอนแรกนึกว่าพี่ป้าง หน้าเหมือนมาก และคนสุดท้ายพี่โจ

     

    ...น้ำตกเพ็ญพบใหม่ มันจะมีหินยื่นๆอยู่ น่ากลัวดี แต่สวย ลงไปข้างล่างได้ด้วย จะมีสเปซคล้ายๆถ้ำ

     

    ...น้ำตกโผนพบ (ทำไมพี่หมอดูเท่ห์ พอเราไปยื่นแล้วเหมือนหมาเห่าเหครื่องบินยังไงไม่รู้) ตอนนั้นสามารถเดินบนแก่งหินได้เลย หันไปข้างหลัง เอ้าพี่โจกินอีกแล้วหรอ 5555+

    ...ต่อไป น้ำตกเพ็ญพบ มันมีวีรกรรมของ 4 ชายโฉดอยู่ 555+ คือน้ำตกเพ็ญพบมันเป็นทางตันพอดี ซื้งพวกเราไม่รู้ พอดีไปเห็นเนินๆแล้วมีไม้ปิดอยู่ พี่จ๋าย แกก็บอกว่า "เนินมันชัน สงสัยจะกั้นไม่ไห้คนกลิ้งตก" อะเราก็เดินตามทางนั้นไปเรื่อยๆ สัญญาณมือถือก็หายไปเรื่อยๆเหมือนกัน พี่หมอ แกก็ทักเล่นๆว่า "ทางมีแต่รอยช้างเท้าว่ะ" เออจริง ขี้ช้างก็ยังสดๆ พวกเราเริ่มรู้ละว่ามันไม่ใช่ทางปกติที่คนเขาเดินกัน "พี่ นี่ขี้อะไร" "หมาไน" เอ้าเวรละ ถ้ามันมาตอนนี้นะ ไหนจะมีแต่รอยหมูป่าเต็มป่าหญ้า สักพักพี่ โจ ก็ทัก "เฮ้ยๆ สัญญาณมีขีดนึง" ไม่รอช้า รีบเข้าGPS ปรากฏว่าเราอยู่กลางหัวใจภูกระดึงพอดีเป๊ะ(ถ้ามองจากด้านบน ภูกระดึงจะคล้ายรูปหัวใจ) เขาเรียกพื้นที่แถวนี้ว่าป่าปิด เมื่อรู้ว่ากำลังมาบุกเบิกเส้นทาง(หลง) เราไม่กลับทางเดิม พยายามหาทางออกอีกทางให้ได้ สักพักวิธีนี้ไม่เวิร์ค เลยกลับทางเดิม แล้วก็มาโผล่ที่น้ำตกเพ็ญพบที่เดิม จำได้ว่าตอนไปมีคนสวนลงมา ไม่บ่งไม่บอกพวกสักคำ เสียใจ เฮ้อ...เหนื่อย เลยนั่งพักเอาเท้าแช่น้ำที่น้ำตก พอหันหลังว่าจะไปคุย "กินอีกแล้วหรอพี่โจ" 5555+

    ...เป็นประสบการณ์ที่ดี เพราะเสน่ห์ของการท่องเที่ยวคือหลง 555 

     

    ...มาเห็นตอนขากลับ น่ารักไหมล่ะ

     

    ...น้ำตกถ้ำใหญ่ กับน้ำตกธารสวรรค์ จะอยู่ใกล้ๆกัน ช่วงนี้เมเปิลจะค่อนข้างเยอะ แต่มันไม่สวยแล้วแห้งหมดละ

     

    ...สระอโนดาด เป็นจุดที่คนส่วนมากพักกินข้าวเที่ยว เราก็เช่นกัน ทำไมอาหารมมื้อนี้มันอร่อยเป็นพิเศษวะ อ๋อ เหนื่อยนี่เอง

     

     

     

     

    • โพสต์-8
    0.3 •  กุมภาพันธ์ 07 , 2559

     

    ...น้ำตกถ้ำสอเหนือ

     

    ...ระหว่างทางมาไฮล์ไลท์ของภูกระดึง เราฝ่าทะเลทรายมา เดินยาก และไกลมาก แต่มาถึงก็หายเหนื่อยเลย ได้กินน้ำแข็งใสเย็นๆ ส่วนพี่หมอนั้น แกสั่งบราวนี่กับพี่นก เจ้าของร้านชมพู่มะเหมี่ยวเอาไว้ ร้านดังประจำผาหล่มสัก พี่นกนี่เขาเป็นเน็ตไอดอลเลยนะ ลองเสิร์ชดูได้

     

    ...วันนี้ฟ้าไม่ระเบิด เลยอดเห็นพระอาทิตย์กลมๆ

    ...พอพระอาทิตย์ตก บนภูจะมืดทันที มืดมากๆ เราเดินกลับกันแค่ 4 คน นอกนั้นปั่นจักรยาน แต่เรามีอุปกรณ์ให้แสงสว่างยังกับว่าเป็นโรงไฟฟ้า ไฟฉาย 2 ตะเกียงอีกสอง สว่างโตคร สว่างจนใครเห็นก็ต้องมารวมกลุ่มกับเรา เดินไปเดินมา จากสี่ชีวิต เพิ่มมาอีกเป็นสิบ พี่หมอกลายเป็นผู้นำทางไปในทันที ใครจำได้ว่าวันนั้นเดินกลับพร้อมพี่หมอ ทักมาคุยเล่นกันได้นะ
     

    ...แล้วเราก็กลับมาถึงที่พักอย่างปลอดภัย ไหนๆก็เจอกันทั้งที จัดหมูกระทะหน่อยพี่ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับที่พัก แล้วตอนเช้าเราจะลงภูพร้อมกัน

     

    ...ไปซ้ำผานกแอ่นอีกเช้า วันนี้เป็นดวงสวยกว่าเมื่อวาน อากาศก็เย็นกว่าเมื่อวาน วัดได้ 7 องศา

     

     

    ...ถ้ามาตอนเช้า มาอ่างเก็บน้ำก็สวยไม่แพ้กันนะ มีต้นสนดึกดำบรรพ์ด้วย

    ...8 โมง ได้เวลาลงภู ระหว่างทางเจอค่างด้วย พี่หมอแกก็เก็บขยะใหญ่เลย ได้เกียรติบัตรด้วยนะ อยากให้ทุกๆคนช่วยกัน ไม่ช่วยเก็บไม่เป็นไร แต่ไม่ทิ้งก็พอ

    ...แล้วนั่งรถบัสหน้าร้านเจ๊กิมกลับ กทม. นอนยาวๆ

    ...ภูกระดึงไม่ใช่ภูธรรมดา แต่เป็นภูแห่งมิตรภาพ ใครได้ไปหนึ่งครั้ง ก็ต้องมี สอง สาม สี่ และผมคงต้องซ้ำเหมือนกัน หลงรักภูกระดึงเต็มๆ

    .................

    ช่องทางการติดต่อ กับแฟนเพจเล็กๆ เป็นกันเองของผม

    https://www.facebook.com/0.3milbackpacker