ซึมเศร้าเข้าป่ามา...อยู่เถื่อน
ติดตามเค้าด้วยน้า
https://www.thetrippacker.com/th/yungying
*****
รีวิวเดินทางคนเดียว...ลุยเดี่ยวเที่ยวปีนัง
http://www.thetrippacker.com/th/review/PenangMalaysia/10127
*****
รีวิวนั่งรถไฟเที่ยวเมืองคอน...นอนคีรีวง
*****
รีวิวน่าน....ไง
*****
อะ...แฮ่มๆ หายไปนานก็จะเขิลๆๆๆหน่อย จริงๆๆไปเที่ยวมาหลายที่มากมาย แต่เราเลือกที่จะลงเอาแบบที่เจ๋งๆดีกว่าเนอะ มันจะได้ไม่เป็นรีวิวที่น่าเบื่อเกินไป อันที่จริงคนทุกคนมีเหตุผลในการเดินทาง แต่สำหรับเราวันนี้กับการไปเที่ยวอาจจะฟังแล้วดูแย่ๆ แต่ต้องยอมรับความจริงกับสิ่งต่างๆที่ทำให้เสียใจสุดขีด หรือผิดหวังสุดชีวิต โลกนี้ไม่น่าอยู่ บลาๆๆๆ แท่นแทนนนนนน เราพบจิตแพทย์แล้วลงความเห็นว่า ชันคือผู้ป่วยซึมเศร้าขั้นรุนแรง รักษาด้วยยาที่ต้องกินทุกวัน กับต้องพบนักบำบัดจิตเวชทุกเดือน เอาล่ะ เมื่อรู้ตัวว่าเป็นก็ ป่ะ...ไปเที่ยวกันซักหน่อย พยายามอย่าขังตัวเองในห้องสี่เหลี่ยม แต่ก็นั่นแหล่ะที่บ้านไม่ได้ผลิตแบงค์ ก็ไปตามอัธภาพที่มีละกันเนอะ อ่ะป่ะผู้ป่วยซึมเศร้าเข้าป่ากัน
เราไปรถไฟนะจ๊ะจองตั๋วก่อนเดินทางวันเดียวเอง จองรถด่วน ขบวน 51 ชั้น3 กรุงเทพ - เชียงใหม่ และขากลับก็รถด่วน ขบวน 52 ชั้น 3 เชียงใหม่ - กรุงเทพ อย่าถามว่าเมื่อยมั้ย ในใจภาวนาแค่อย่ามีคนมานั่งข้างๆเลย จะได้เหยียดขายาวๆ
มาเล่าเรื่องจองที่พักต่อ (โดดไปโดดมาหน่อยทำใจนะ พยายามทำความเข้าใจผู้ป่วยด้วยค่ะ) ด้วยความกะทันหันที่เกิดขึ้น ไม่กี่วันที่โทรสอบถามอยู่เถื่อน (เข้าเฟสบุ๊คเสิร์ทชื่อก็เจอเลย) ว่าที่พักว่างหรือไม่ในวันที่ไป คำตอบคือว่าง แต่เราไปคนเดียว พี่ต้น (พี่ที่เราติดต่อที่พักด้วย แต่พี่เค้าดูแลเฌอชีวา แต่ช่วยติดต่อที่อยู่เถื่อนด้วย ไม่งงนะ!!) ก็แจ้งว่าที่พักยังว่าง แต่หากมีกลุ่มอื่นมาแจมด้วยสะดวกหรือไม่ เราก็บอกได้เลยไม่มีปัญหา ได้เพื่อนใหม่ๆเจอสังคมใหม่ๆ บ้างก็ดี เมื่อที่พักได้แล้ว
ออกเดินทางงงงงงงงงงงงงงงง ไปแรดกันเถอะซึมเศร้า ชั้นจะร่าเริงให้โลกสะพรึงเลย ไม่เล่าถึงการเดินทางจากบ้านมานะ คาดว่าทุกคนเอาตัวรอดมาหัวลำโพงได้
ดูวิวระหว่างทางสิ ถึงกับต้องจอดรถเพื่อมาซึมซับบรรยากาศเลยนะจ้าาาาาาา
น่าอยู่มากค่ะ ลุงทองเอาของไปวางไว้ที่ห้องนอนให้ ส่วนเราก็เดินเล่นรอบอยู่เถื่อนไป
นี่คือห้องครัวทำอาหารจ้า เดี๋ยวเราจะได้ลงมือโชว์ฝีมือกันหน่อย
ลืมเกริ่นเรื่องที่พักอยู่เถื่อน ทำไมเราถึงเลือกที่จะมาที่นี่ ผู้ป่วยซึมเศร้าแบบเราเข้าป่าไป “อยู่เถื่อน” ปกติเราเป็นผู้หญิงเที่ยวที่ง่ายๆ ไปไหนก็ได้ที่ทั้งตังค์และร่างกายอำนวย ด้วยสภาพจิตใจในตอนนั้นที่ต้องการความเป็นธรรมชาติสูงมากที่สุดในชีวิต อยากไปอยู่แบบโดดเดี่ยว คิดอะไรคนเดียวไปเพลินๆ ฟังเสียงแมลง ลำธาร ป่า เขา ด้วยที่เราติดตามเพจของน้องโบว์ “ตามติดชีวิตผีบ้า” เห็นน้องไปเที่ยวที่อยู่เถื่อน ตัดสินใจไม่นานตกลงใจไปที่นี่เลย อธิบายก่อนว่าอยู่เถื่อนนั้นอยู่ที่แม่แมะ เชียงดาว ที่พักละแวกเดียวกับเฌอชีวา บ้านต้นไม้แม่แมะ แต่อยู่เถื่อนจะมีความต่างตรงที่ ไม่ใช่รีสอร์ทเหมือนทั่วไป ไม่มีไฟฟ้า กับข้าวอาหารเช้ากลางวันเย็นต้องก่อฟืนหุงหาและลงมือทำเองค่ะ ใครทำกับข้าวเก่งก็รอดไป ใครทำไม่เก่งก็ต้องกินไปอ่ะเนอะ สนุกดีค่ะ สัญญาณโทรศัพท์ได้บ้างไม่ได้บ้าง ที่นี่มีพ่อทองอัธยาศัยดีมาก พ่อเป็นคนง่ายๆ พี่ติ่งมีเรื่องเล่าให้เราฟังเพลินๆได้ทั้งคืน ฟังไปฟังมาสไตล์เราคล้ายกันมากเลย รู้สึกดีนะเจอคนที่มีความคิดคล้ายกัน และสุนัขชื่อน้องแดงแสนน่ารัก
ตกเย็นพ่อทองก็ไปเก็บผักกูดสดๆริมธารมาให้ ส่วนพี่ติ่งก็สอนเราก่อไฟ สรุปคนก่อไปคือพี่ติ่ง เพราะสอนไปทำให้ดูไป ได้ไฟใช้พอดีเลย 555555 ตกลงใครต้องเป็นคนทำ แล้วเราก็เอาผักกูดมาผัดกับซีอิ๊วกินกับข้าวสวยร้อนๆ แค่นี้ก็อยู่รอดแล้ว อร่อยด้วย ตกดึกก็นั่งคุยกัน แล้วพี่ติ่งก็ให้ไปปูเสื่อริมลำธารนอนดูดาว อยากจะบอกว่าดาวสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เต็มฟ้าเลย ใครตามล่าช้างมาได้เลยที่นี่ ดีกว่าบ้านต้นไม้ ดีกว่าเฌอชีวา เพราะไม่สามารถมองเห็นดาวได้ แต่วิวดูดาวของอยู่เถื่อนสวยกินขาดค่ะ มีดาวตกด้วย นอนกรี๊ดลั่นป่าเมื่อเห็นดาวตก จะอธิฐานก็ดันนึกเรื่องไม่ทันอีก ตกไว๊ไว ตอนที่เราไปอากาศกำลังดีนะ ไม่หนาวมาก ไม่ร้อน เย็นสบาย ยุงไม่มี นอนตากน้ำค้างเพลินหัวเริ่มเปียกเลยกลับเข้าไปนอนในบ้าน
แม่กำปองก็แม่กำปองเถอะที่นี่สุขกว่าเยอะ เป็นทางไปเฌอชีวา และบ้านต้นไม้ด้วย
เราจะมีเพื่อนร่วมทริปจากบ้านเฌอชีวาไปด้วยกลุ่มหนึ่ง จากคนไม่เคยเจอกัน ไม่รู้จักกัน แต่ธรรมชาติทำให้เราเที่ยวด้วยกันได้ค่ะ ไม่มีขอบเขตของคำนิยามใดๆ เหมือนเด็กๆเวลาเค้าได้เล่นด้วยกันประมาณนั้น ไม่ต้องมองว่าเป็นใครมาจากไหน ระหว่างทางขึ้นและลงก็คอยช่วยเหลือกัน ใครได้เที่ยวแนวนี้ก็จะเข้าใจดี
พอลงมาถึงบ้าน ลึงทองก็เตรียมต้มน้ำชาให้ดื่มเลย ชาปลูกเองทำเองดี๊ดี กินอุ่นๆร้อนๆชื่นใจ
ทางเข้าเฌอชีวาทำน่ารักมากเลยค่ะ จะเจอห้องพักบางส่วนด้านหน้า และมีห้องครัวตรงชานระเบียง
ขาไปถ่ายไม่ทัน ขากลับละกันเนอะ อุโมงค์ขุนตาล
เก็บตกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ถ่ายตีนกัน
ปิดจ๊อบด้วยแผลที่ได้มาทุกครั้งจากการเที่ยว 1 เดือนค่ะ หายสนิท ทิ้งร่องรอยไว้นิดหน่อย
สรุปๆๆๆๆๆค่าใช้จ่ายกัน ไม่นับเรื่องของกินนะแต่ละคนหนักเบาไม่เท่ากัน
รถไฟชั้น 3 ธรรมดา ไป - กลับ 542 บาท
ที่พัก 700 บาท
ค่านำทางเดินขึ้นเขาเพื่อชมวิวสวยๆและอาหารอร่อย 180 แต่ราคาน่าจะไม่เท่ากันเพราะหญิงกินเจในช่วงที่ไปพอดี
ค่าเช่ารถ 1 วัน 900 บาท (มัดจำ 3,000 ได้คืนหมด)
เติมน้ำมันรถก่อนคืนร้าน 400 บาท
รวมทั้งสิ้น 3 วัน 21 - 23 ตุลาคม 2560 ใช้ไป 2,722 บาท (ไม่รวมของจุกจิกนะ อันนนี้รวมค่าเดินทางหลักๆให้ ที่เหลือไปคิดเอาเองนะจ๊ะ แต่ขอบอกไม่ไปจะเสียใจ)