. . .ในคืนแรกที่พักนั้น ไม่มีเพื่อนมาเพิ่ม เรา 3คนรวมพี่นก เลยจัดปิ้งย่างกันตามภาษาและนั่งคุยกันจนดึกดื่น พี่นกเล่าว่านอกจากอาหารต้อนรับเช้าเย็น หากว่าผู้มาพักอยากปิ้ง ย่าง สังสรรค์กันอย่างไร พี่นกก็พร้อมเตรียมอุปกรณ์ให้ในระดับหนึ่ง โดยมีชุดเตาถ่านไว้ หากว่าค่ำคืนอยากที่จะดื่นด่ำด้วยกันก็สามารถซื้อหากันมาได้เลย ที่บ้านมีพื้นที่พร้อมรองรับ
ผ่ า น มาในเช้าวันขึ้น เราตื่นมาเตรียมตัวกันแต่เช้าพี่นกก็จัดการปรับแต่งบ้านที่น่ารักของแกเรื่อยไป เราก็ได้ช่วยบางอย่างเท่าที่จะสามารถทำได้ ชุลมุนวุ่นวายกันไปทั้งวัน เนื่องจากวันนี้เรายังไม่มีปลายทางของการเดินเที่ยว แต่ช่วงบ่ายพี่นกบอกให้ฟังว่าจะมีเพื่อนมาเข้าพักอีกหลายคน เราจึงตั้งหน้าตั้งตารอการมาถึงของเพื่อนใหม่อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากเริ่มรู้สึกดี อยากจะรู้ว่าวันนี้จะมีคนแบบไหนมาให้รู้จัก เขาจะมีอะไรมาเล่าให้เราฟังบ้าง หรือเขาอาจจะเป็นคนที่ไม่ได้คุยกับเราเลยก็ได้ แต่ก็ยังอยากเจอ. . .
แล้วในที่สุดช่วงเย็นของวันนั้นพี่ชายคนแรกก็มาถึง "พี่สไปซ์" เดินทางมาคนเดียว เช่ารถมอเตอร์ไซค์จาก แอร์พอร์ตเชียงใหม่ ขับเที่ยวไปที่ต่างๆมาแล้วหลายวัน และวันนี้ออกจากเชียงดาว "บ้านระเบียงดาว" มาแม่กำปอง ซึ่งเชียงดาวก็เป็นที่ผมยังไม่เคยไปเหมือนกัน วันนี้ก็ได้เรื่องเล่าสนุกๆอีกเช่นเคย
พี่ไปซ์มาถึงไม่นานเก็บของไปเล็กน้อย ฝนก็ตกลงมาอย่างหนักชั่วครู่ ระหว่างนั้นเองพี่นุชและเพื่อนอีก 2คนก็เดินทางมาถึง สำหรับวันนี้เราจึงพร้อมหน้ากันเร็ว หลังทุกคนเช็คอินเข้าห้องแล้ว พี่ไปซ์เดินลงมาช่วงฝนซา เช่นเคยในฐานที่เรามาถึงก่อนหนึ่งวัน พี่นกว่าให้พาพี่เขาไปเดินเล่น (ว่าจะอยู่ช่วยงานในครัวพี่แก) เราจึงได้โอกาสทำความรู้จักกันมากขึ้น และกลายเป็นเดอะแก๊งค์ไปในบัดดล. . . พร้อมๆกับการทัวร์แม่กำปองที่เราผู้ซึ่งมาถึงก่อนก็ยังไม่รู้อะไรเช่นกัน!?
อ า ร ม ณ์ ห ลั ง ฝ น ต ก ฟ้าที่ดำมืดไปทุกขณะกับเส้นทางที่สูงชันนิดหน่อย กับความลื่นเล็กน้อยที่ลงตัว อ่อ! ลืมผสมหมาลงไปอีกหน่อยนึง ทำให้เราจมไปกับความรู้สึก และรู้สึกได้ นี่แหละเรามาถึงแม่กำปองแล้ว รู้สึกเหมือนคนที่นี่ แม้เขาจะเข้านอนกันไวก็ตามที หมาก็มีเห่าบ้างตามประสาความไม่รู้จักกัน ก็เราหน้าแปลก เอ้ย! แปลกหน้า
ด้วยความสงบเงียบของแม่กำปอง บวกกับอากาศที่ชุ่มชื่น ความไกลไม่ใช่ปัญหา แต่จะว่าก็ไม่ไกลเท่าไหร่การเดินซะอีกจะทำให้เราเก็บรายละเอียดของความรู้สึกไม่ให้ตกหล่นหายไประหว่างเส้นทาง บางทีเราก็อยากหวงและเห็นแก่ตัวเก็บความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ แม่แต่ในรีวิวนี้แมวก็มีบางความประทับใจที่ไม่ได้เล่าลงมาเหมือนกัน
. . .มาถึงวัดคันธาพฤกษา กับบรรยากาศในช่วงเย็นๆ จริงๆแอบรักหมู่บ้านนี้ในช่วงเย็นวันฝนตกมากเลย เวลาเราเดินชมหมู่บ้าน ท่ามกลางความมืดครึ้มรอบตัว เราจะเห็นควันไฟขึ้นจากหลังคาบ้านแต่หลัง นั่นเขากำลังทำอาหาร กำลังทานข้าวเย็นกัน อาจจะกำลังนั่งล้อมวง พูดคุยเรื่องต่างๆของห้วงวันที่ผ่านมา มันทำให้เรารู้สึกดีที่ได้คิดไปว่าอย่างน้อยก็คงมีความสุขในช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนสนทนานี้อยู่หลายครอบครัว
. . .เพื่อนชอบบ้านหลังนี้มากเป็นพิเศษ เราเองก็รู้สึกดีกับมุมนี้อยู่ เนื่องจากพึ่งเก็บอารมณ์จากการดูหนังที่มีบรรยากาศของญี่ปุ่นเอาไว้หลายเรื่องมาใช้เป็นต้นทุนจินตนาการในช่วงนี้ ก็น่ารักดีไปอีกแบบ
เดินเล้นกันเพลินไปถึงร้านลุงปุ๊ด-ป้าเป็ง นู่น เวลาเตือนเราด้วยความฝ้าฟางของดวงตา จึงชวนกันเดินกลับที่พัก
ตัดภาพไปที่ความพร้อมเพรียงบนโต๊ะอาหาร ขอข้ามรูปเมนูไปเลย แล้วบรรยายแทน. . .
. . .เมนูบนโต๊ะนั้น พี่นกจะเป็นคนจัดการ วัตถุดิบก็หาได้จากพื้นบ้าน พี่นกจะมีวันที่เข้าไปตลาดก็ลงไปจากแม่กำปองเข้าตัวอำเภอหรือระหว่างนั้น และซื้อหาผักต่างๆจากชนบทที่มีอยู่นั่นเอง เมนูก็จะเป็นอาหารทางเหนือเป็นส่วนมาก แต่หากแพ้หรือไม่ทานอะไรให้บอกพี่นกล่วงหน้าตั้งแต่โทรจองหรือเข้าพักแล้ว พี่นกจะสามารถจัดการให้ได้เป็นพิเศษเนื่องจากพี่นกต้องทำต้องหมดนี่และดูแลเราด้วยตัวเอง ด้วยว่าการเอาใจใส่ดูแลพวกเราเหมือนพี่น้อง อย่างวันนี้เมนูก็เป็นจอผักกาด รสชาติคล้ายแกงส้มของทางภาคกลางแต่จะเปรี้ยวนำกว่าและที่สำคัญไม่ต้องตำพริกแกงส้ม แก้เลี่ยนไปเป็นอย่างดี นอกนั้นก็เป็นพวกไส้อั่วหรือต่างๆนาๆ เมนูแต่ละวันมักจะไม่เหมือนกัน หลักๆก็แล้วแต่วัตถุดิบที่มีพร้อมไว้นั่นเอง