ฝ่าฝน ตะลุยหมอก หยุดชีวิตช้าๆ ไปพักผ่อน ณ ปิล็อก
ถ้ากรุงเทพฯ จะฝนตกหนัก แล้วรถติดขนาดนี้ คุณคะ ดิฉันจะไม่ทนค่ะ ขอลาเมืองกรุงสักแป๊ป ผนวกกับได้จังหวะเพื่อนต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทยพอดีเลยอยากพาเพื่อนไปสัมผัสความเป็นไทยแท้ ลองหาที่พักจากเว็บไซต์ใหม่ๆดูบ้างไปเจอlocalpillow ( https://www.localpillow.com ) เวบไซค์น้องใหม่ที่รวบรวมโฮมสเตย์ ที่พัก ของคนในท้องถิ่น ที่นอกเหนือจาก
เราจะได้พักผ่อนแบบไกล้ชิดธรรมชาติอย่างแนบแน่นแบบหายใจรดต้นคอแล้ว เรายังมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับเจ้าของพื้นที่ และเรียนรู้วิถีชุมชนด้วยแหละ ใครชอบท่องเที่ยวแนวนี้ ลองเข้าค้นหาโฮมสเตย์ตามไลฟ์สไตล์ตัวเองได้เลยค่ะ localpillow รวบรวมโฮมสเตย์จากทั่วประเทศในเว็บไซต์เดียว
แต่ละที่น่าพักมากๆ แต่ทริปนี้เรามีเวลาน้อย เพราะเพื่อนดิฉันจะไปเชียงใหม่ต่อ กาญจนบุรีจึงตอบโจทย์ของทั้งหมดค่ะ จะไปกาญจนบุรีแบบเดิม สังขละ แม่น้ำแคว น้ำตก เขื่อน ก็ไปมาหมดแล้ว รอบนี้จึงไปลองที่ใหม่บ้าง ตามมาเที่ยวด้วยกันค่ะ
ชอบท่องเที่ยว ชอบถ่ายภาพ เข้าไปเมาส์มอยกันได้ที่เพจนะคะ FB Page :Goanywhere E-mail : Yaowanee.n@gmail.com photo / Story by LamHub ปิล็อก ? คือที่ไหน ?
สาวกเขาช้างเผือกคงรู้จักหมู่บ้านอิต่อง ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ เป็นอย่างดีดี เพราะเป็นจุดเริ่มต้นเดินขึ้นเขาช้างเผือก แต่น้อยคนที่จะแวะพักที่นี่ ส่วนใหญ่มีเป้าหมายไปที่สันคมมีด บนเขาช้างเผือก
ข้อมูลเบื้องต้นของเหมืองปิล็อก ปิล็อก เป็นเหมืองแร่เก่า ผลิตวุลเฟรม ดีบุก ทังสแตน และทองคำ พ.ศ. 2483 องค์การเหมืองแร่ จึงได้จัดตั้งเหมืองแร่แห่งแรกขึ้นในตำบลปิล๊อก หลังจากนั้นก็เปิดให้สัมปทานแก่นักลงทุนเอกชน จนทำให้มีเหมืองแร่เกิดขึ้นมากมายราวดอกเห็ดราวๆ 50-60 แห่ง ทั้งเหมืองขนาดเล็กและใหญ่ รวมถึงเหมืองเถื่อน และการแอบลอบขุดนำไปขายของชาวบ้าน แต่ก็ยังมีชาวพม่าจำนวนหนึ่งเข้ามาขุดแร่เพื่อนำไปขายให้แก่อังกฤษ ซึ่งทำให้ทางการไทยต้องเข้าปราบปราม ต่อสู้กัน จนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รวมถึงการขุดอุโมงค์เพื่อเข้าไปหาแร่บนภูเขานั้น มีอันตรายมากมาย ทั้งเกิดอุโมงค์ถล่ม หินถล่ม ไข้ป่า มาเลเรีย ทำให้คนงานเหมืองเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ว่ากันว่าชื่อเหมืองปิล๊อกนี้ เป็นคำที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "เหมืองผีหลอก" เพราะมีคนตายมากมาย และเมื่อคนงานพม่าเรียกต่อๆ กันไป จึงเพี้ยนเป็น "เหมืองปิล๊อก" ( อ้างอิงข้อมูลจากเวบไซค์ กาญจนบุรี )
กว่าจะถึงปิล็อก
การเดินทางไปปิล็อก ส่วนใหญ่ขับรถกันไปจะสะดวกที่สุดค่ะ แต่ดิฉันเป็นชะนีที่ไม่มีความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะทุกชนิด เลยต้องใช้การเดินทางด้วยรถประจำทางค่ะ ( ตอนชวนเพื่อนไปบอกเพื่อนไปว่า ไปกาญกันห่างจากกทม. ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ฮ๋าๆ ไม่ได้หลอกเนอะ แต่ก็ลืมไปว่ามันไกลขนาดนี้ ) การจะไปปิล็อก ด้วยรถประจำทางไม่ยากค่ะ แค่ต้องมีความมาราธอนในการเดินทางเล็กน้อย
step 1 หมอชิต - กาญจนบุรี
แผนแรก นั่งรถบัส หมอชิต - สังขละ ตอนรอบตีห้า แต่คุณคะ รถบัส หมอชิต - สังขละ เหลือรอบ 6.30 รอบเดียวแล้วนะคะ รอบตีห้าไม่มีวิ่งแล้ว (เจ้าหน้าที่บอกไม่วิ่งนานแล้วนะจ้ะ ) นั่นไง ถ้าไปรอบหกครึ่งไม่ทันขึ้นปิล็อกแน่ เปลี่ยนแผนค่ะ
แผนสอง นั่งรถตู้ไปลงที่กาญ นัดเพื่อนที่หมอชิตตอนตีสี่ครึ่ง เราไปถึงก่อน และแล้วเพื่อนก็มาถึงพร้อมพูด ว่า ไอลืมพาสปอร์ตไว้บนแท็กซี่ ลืมพาส์ปอร์ตบนแทกซี่ ลืมพาส์ปอร์ตบนแทกซี่ ลืมพาส์ปอร์ตบนแทกซี่ ค่ะใช่ค่ะ ความน่ารักมักเข้ามาหาเราเสมอ ไล่ตามพาสปอร์ตกันตอนตีสี่ครึ่ง สนุกม๊ากกกกก #ปาดเหงื่อ ยังมีโชคที่เพื่อนเรียกแทกซี่ผ่าน Grab Taxi เราเลยได้พาสปอร์ตมาคืนตามเวลา
( ค่าใช้จ่าย 130 บาท / คน ถ้ามีกระเป๋าใหญ่จะคิดเงินเพิ่มอีกหนึ่งที่นั่ง ,ระยะเวลาเดินทาง 2.30 ชั่วโมง )
step 2 กาญจนบุรี - ทองผาภูมิ
รถบัสก็มี รถตู้ก็เร็ว แต่เราเลือกรถบัสเพราะเพื่อนดิฉันตัวใหญ่ค่ะ ขายาวไปไหน นั่งรถตู้แล้วเหมือนหนูติดจั่น น่าเวทนายิ่งนัก และกระเป๋าเพื่อนใหญ่มากค่ะ ( แม่เพื่อนดิฉันไล่ให้มาเที่ยว 1 ปี ตอนนี้เที่ยวมาได้เดือนที่หกแล้ว แม่อะไรจะน่าคบหาขนาดนี้) รถตู้จะคิดราคาเพิ่มอีกคนนึง ดูลำบาก เราก็เลยหวานเย็นกันไป สามชั่วโมงเบาๆค่ะ กินลมจนพุงกาง ถ้าวิ่งเร็วกว่านี้คาดว่าหลังคาจะเปิด กลายเป็นนั่งรถเปิดประทุน ( เพื่อนถามว่า รถบ้านยูแวะตลอดเวลาเลย ฮ๋าๆ เลยบอกฮีไปว่า นี่มันรถหวานเย็นเว่ยย ใครเค้ารีบกัน ถ้ารีบก็ไปนั่งรถไฟเลย #ช้าไปอีก)
มีเวลาแวะเดินเล่นตลาดทองผาภูมิได้ อาหารสด ขนม ผลไม้ตรึมมาก
( ค่าใช้จ่าย 80 บาท / คน ระยะเวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง )
step 3 ทองผาภูมิ - ปิล็อก ( บ้านอีต่อง )
เมื่อมาถึงทองผาภูมิ ให้มองหารถสองแถวสีเหลืองค่ะ จอดทางเข้าตลาดเลย เวลารถแต่ละวันจะไม่เหมือนกัน รถสองแถวที่วิ่งทองผาภูมิ ปิล็อก มีทั้งหมด 4 คันค่ะ
- ปิล็อก - ทองผาภูมิ มีเวลา 6.30/7.00/7.30/8.00
- ทองผาภูมิ - ปิล็อก มีเวลา 10.30/11.00/11.30/12.30
**แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้ามีนักท่องเที่ยวเหมารอบ รถก็จะมีไม่ครบตามเวลา ดิฉันไปกับลุงจันทั้งขาไปและขากลับ ลุงจันทร์โคตรใจดีค่ะ แอบแวะตามจุดชมวิวให้ถ่ายรูปทุกจุดเลย :) ( ไม่ได้เหมารถนะคะ ) ใครอยากโทรเช็ครอบรถ หรือเหมารถลุงจันทร์ โทรหาได้ที่เบอร์ 09205497098 ช่วยกันกระจายรายได้ให้คนในพื้นที่ค่ะ
หน้าตาลุงจันทร์ และรถคู่ใจ ( ใจดีมากขัดกับหน้าตา)
บรรยากาศระหว่างทาง
( ค่าใช้จ่าย 70 บาท / คน ระยะเวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง )
เบ็ดเสร็จใช้เวลาเดินทางไปทั้งสิ้น 7.5 ชั่วโมง ไม่รวมเวลาต่อเครื่อง/ทรานสิส และแล้วเราก็มาถึงปิล็อกแล้ววว ตูดยังอยู่ดี ข้ามสะพานนี้ไปก็ถึงแล้วว
( เพื่อนถามว่า ทำไมถึงมีรูปพวกท่านทุกที่เลย พวกเธอรักพระเจ้าอยู่หัวกับพระราชินีมากใช่ไหม :) เราได้แต่ยิ้มแล้วตอบว่าใช่ มันเป็นการแสดงออกถึงความรักและเคารพแก่พวกท่าน พวกเราเรียกรูปพระองค์ว่า รูปที่มีทุกบ้าน เป็นภาพที่เพิ่มความศิริมงคลให้แก่พวกเรา)
สถานที่เที่ยวในปิล็อก- หมู่บ้านอีต่อง
เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ติดเหมืองปิล็อก มีตลาด ร้านอาหาร โฮมสเตย์ริมน้ำ ร้านขายของที่ระลึก หมู่บ้านชาวพม่า ใช้เวลาเดินแปปเดียวก็ทั่วแล้วค่ะ แต่เป็นสถานที่พักผ่อนได้นานๆเลย
- อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
สามารถมาพักที่นี่ ได้เลยค่ะมีจุดกางเตนท์ และบ้านพักทาร์ซาน ( บ้านบนต้นไม้ ) ของอุทธยาน มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเขื่อน และเขาช้างเผือกได้เลย ( แต่วันที่เราไปฝนตก ฟ้าเลยปิด เจอแต่หมู่มวลหมอก สวยไปอีกแบบค่ะ)
- เหมืองปิล็อก
รวมรวมเครื่องมือเก่าที่เคยใช้ตอนทำเหมืองแร่
- น้ำตกจ๊อกกระดิ่ง
ที่นี่น้ำแรงมากค่ะ เตรียมชุดไปเล่นน้ำด้วยเป็นดี ( ไม่เล่นน้ำก็เปียกเหมือนเล่นค่ะ น้ำแรงมาก ละอองน้ำกระเด็น จนกล้องจะพัง) น้ำใสมาก ไปวันธรรมดาแล้วเหมือนน้ำตกส่วนตัว ดูรวยมาก เล่นน้ำได้แบบไร้ผู้คน เดินเข้าไปข้างในไม่เกิน 400 เมตรค่ะ
( บัตรเข้าชม ซื้อใบเดียว เข้าได้ทั้งน้ำตกจ๊อกกระดิ่ง และอุทยานทองผาภูมิ คนไทย 40 บาท / ต่างชาติ 100 บาท)
- เนินช้างศึก เป็นฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก)
เป็นจุดชมวิวบนยอดเขา ในเขตพรมแดนไทย-พม่า สามารถมองเห็นได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ทางช้างเผือก และทะเลหมอก ( หน้าหนาวป้าบอกว่าทะเลหมอกสวยงามเกือบทุกวัน) แต่หน้าฝนแบบนี้ ลุ้นกันหน่อยค่ะ
- เนินเสาธง
เป็นจุดชายแดนระหว่างไทย พม่า เราสามารถเดินข้ามไปฝั่งพม่าได้เลย มองเห็นฝั่งทวาย
ส่วนเราก็มองไปมาทั้งสองที่แต่มองไม่เห็นอะไรเลยค่ะ ไม่เห็นแม้กระทั่งตัวเอง ฮ่าๆ หมอกมันแรงมากเลยค่ะพี่ชาย
กลับโรงแรมไปอาบน้ำอุ่นค่ะ บัยยยย
การเดินทางใน ปิล็อก
1. เช่ามอเตอร์ไซค์ ราคาอยู่ที่ประมาณ 350 บาท พร้อมน้ำมันเต็มถัง ความน่ารักคือไม่ต้องเติมน้ำมันคืนให้เต็มถังแบบการเช่าทั่วไป ลุงจันทร์เล่าว่าบางทีก็ให้ไปครอบครองวันครึ่ง ก็คิดราคาหนึ่งวัน ทางชันหน่อย ขับมันส์มาก ( ใครขับไม่แข็งไม่แนะนำค่ะ )
2.เช่ารถสองแถว ราคาประมาณ 1,000 บาท/วัน ไปหลายคนวิธีนี้คุ้มมากค่ะ ถ้าไปน้อยแล้วขับมอเตอไซค์ไม่แข็ง ลองคุยกับลุงจันได้เลยค่ะ ลุงจันใจดี แกลดให้ตามสัดส่วนค่ะ
3.ถ้าเข้าเหมืองสมศักดิ์ ต้องใช้รถ 4W เข้าไปเท่านั้น เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างอันตรายมาก ค่าเหมารถอยู่ที่ 1,500 บาท/คัน สามารถแชร์กับกลุ่มอื่นๆเข้าไปได้ ( คนที่ไม่ได้พักกับป้าเกล็น ก็สามารถเข้าไปเที่ยวได้ค่ะ ) ส่วนใครอยากกินเค้กป้าเกล็น แนะนำโทรไปสั่งไว้ล่วงหน้าค่ะ เดี๋ยวไปแล้วหมด อดกินเหมือนเรา ( ร้านเค้กมีขายข้างนอก ไม่ต้องเข้าไปในเหมืองค่ะ)
เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตามอยากรู้ที่เที่ยวที่ไม่มีใน guide book ให้ถามเจ้าถิ่นค่ะ วันแรกเราตะลุยที่ตามแหล่งที่แนะนำแล้ว โชคดีได้เจอเจ้าถิ่น พาไปตะลุย อุโมงมหัศจรรย์
( โฉมหน้าไกด์ ค่ะ เรียงจากซ้ายไปขวา หัวโต ซิกโก้ ยาหม่อง หมูหยอง )
เด็กๆบอกว่า ไกล้มากพี่ เดี๋ยวพาไปเดินแปปเดียวเอง เป็นอุโมงใหญ่ สวยมาก ดิฉันก็ใจง่ายค่ะ ยอมตามผู้ชายไปโดยไม่ปริปาก ยาหม่อง หัวหน้าแก๊ง บอกว่า พี่จะเอาทางไกล หรือไกล้ เราก็สาววัยแรกรุ่นตอบทันที เอาทางลัดค่ะลูก ไกล้ๆ ป้าข้อเข่าเสื่อม
นี่แหละค่ะ ทางที่ยาหม่องจัดให้ ทางชันจนแทบจะต้องคลานขึ้นไปค่ะ ( ก็พี่เลือกทางลัด ยาหม่องกล่าว) ค่ะ ใช่ค่ะ ดิฉันเลือกของฉันเอง T_T
บรรยากาศระหว่างทางก็สวยมากค่ะ ฟ้าเปิดบางช่วง หมอกลงบางช่วย เด็กๆ ไม่ทอดทิ้ง ช่วยกันเข็นป้าขึ้นภูเขา
เดินไปเรื่อยๆ จนถึงอุโมงมหัศจรรย์ แปปเดียวของยาหม่องคือ เราเดินขึ้นมา 1 ชั่วโมง และภาพต่อไปนี้คืออุโมงที่ได้พบเจอค่ะ ( บางทีระหว่างทางก็สำคัญกว่าจุดหมาย )
ตอนขากลับเด็กๆให้เล่นซ่อนแอบค่ะ ดิฉันต้องหาพวกเขาให้เจอ เล่นไปตลอดทางกลับหมู่บ้าน ไม่ได้เล่นซ่อนแอบนาน เออ ก็สนุกเหมือนเดิม ( นี่ลืมอายุตัวเองไปแปปนึง )
เป็นไง แอบลงในหลุม กลัวลูกเค้าหายมาก หาใหม่ให้ไม่ได้
( ท่าโพสนี่ บอยแบนเกาหลีมีอาย)
ตอนท้าย ยาหม่องถามว่า พี่เอาหน่อไม้มั้ย เดี๋ยวผมพาไปเก็บหน่อไม้ พ่อเจ้าประคุณณณณณณณณณณณ ปีนฝรั่งให้กินแล้ว จะไปเก็บหน่อไม้ให้อีก น้ำตาจะไหล ในความน่ารักค่ะ แทนคำขอบคุณเด็กๆ เราเลยพาผู้ชายพวกนี้ไปเลี้ยงข้าวกับไอติมค่ะ (สายเปย์บอกเลย)
กิจกรรมหยุดชีวิตช้าๆ และพักผ่อน 1 วันในปิล็อก
ปล่อยชีวิตจริงทิ้งไป วางไว้ข้างทาง
วันนี้จะไม่มีสัญญานวิ่งตามไปที่ใด
ปิดทุกการรับรู้ เปิดไว้เพียงหัวใจ
ใส่กระเป๋า ก้าวออกไป
มีเวลาให้หัวใจกับสายลมได้ทักทาย
เปิดโอกาสให้แสงแดดและร่างกายได้พบกัน
อากาศถ่ายเทความเศร้า ความทุกข์ระเหยเป็นควัน
ปล่อยความคิดล่องลอยสักวัน
This is the vacation time
เวลานี้ช่างมีความหมาย
หยุดชีวิตช้า ๆ และพักผ่อน
หยุดความจริงร้าย ๆ ทิ้งเอาไว้ก่อน
This is the vacation time
เอนกาย ทิ้งตัว หายไปในหลุมอากาศ
สู่จักรวาลที่สองเรา ปลอดภัยจากทุกสิ่ง
เต็มไปด้วยความรู้สึก สบายเมื่อได้พักพิง
โอ้สวรรค์ มีอยู่จริง
This is the vacation time
เวลานี้ช่างมีความหมาย
หยุดชีวิตช้า ๆ และพักผ่อน
หยุดความจริงร้าย ๆ ทิ้งเอาไว้ก่อน
This is the vacation time
This is the vacation time
เพลงนี้ต้องมา
- ตักบาตรตอนเช้า
- เดินตลาดพม่า
- เขียนป้ายไม้ แขวนบนสะพานปิล็อก (20 บาท)
ถามคุณป้าที่ขายป้ายไม้ว่า เขียนเพื่ออะไร ป้าบอกว่าเขียนอะไรก็ได้ ขอสรุปเอาเองว่าเขียนไว้เป็นที่ระลึกค่ะ
- กินกาแฟ แกล้มหมอก
- มองดูเม็ดฝน เกล็ดน้ำค้าง
เปลี่ยนความรู้สึกเปียกชื้น เป็นความรู้สึกสดชื่น ตอนอยู่กรุงเทพ เราเกลียดฝนมาก แต่พอมาอยู่ปิล็อก เรารักฝนมากขึ้นกว่าเดิม
- ดูปลาคาร์ฟ
- เขียนโปสการ์ดถึงเพื่อน
- สนุกกับสิ่งมีชีวิต
ดูเอาเถอะค่ะ ว่าหมา แมวที่นี่ มีความชิลขนาดไหน เห็นแล้วก็มีความหมั่นไส้พวกมันค่ะ มีความอิจฉาเล็กๆในใจ
เรื่องเล่าจากอิต่อง
ความสนุกอีกแบบของการท่องเที่ยวคือ การได้พูดคุยกับคนในท้องถิ่น ยิ่งการพักที่โฮมเสตย์แบบนี้ มีโอกาสเยอะเจอคนเยอะเลยค่ะ
- การเดินทางมาปิล็อก สมัยก่อน ใช้การเดินเท้าเข้ามา ต้องใช้เวลาการเดินทาง 2 วัน 1 คืน รถไม่สามารถเข้ามาได้
- ปัจจุบันคนในปิล็อก มีประมาณ 700 คน เป็นคนไทย 100 คนที่เหลือเป็นคนพม่าค่ะ แต่ที่นี่จะไม่ค่อยเห็นชาวบ้าน เพราะวัยทำงานจะลงไปทำงานข้างล่างและส่งเงินมาให้พ่อแม่ที่ปิล็อก
- ปิล็อกไม่มีตู้เอทีเอ็ม การจะกดเงินคือต้องฝากบัตรเอทีเอ็ม พร้อมแจ้งรหัสบัตรกับคนขับรถสองแถวไป แล้วคนขับรถจะเป็นคนกดมาให้ เก๋ไปอีกกกกก เนี่ยแหละค่ะ ความน่ารัก ความซื่อสัตย์ของชาวบ้านที่นี่
- เด็กที่นี่น่ารักและสดใสมาก ไม่มีเข้ามาวอแวนักท่องเที่ยว พร้อมท้องสคริป แล้วขอเงิน เหมือนที่เที่ยวส่วนใหญ่ คนน่ารักเป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยวมากๆ
น้องๆเก็บฝรั่งปิล็อกให้ลองทานค่ะ ( อร่อยแบบฝาดๆ ) จริงๆเด็กๆ ชวนไปเก็บหน่อไม้ด้วย แต่ป้าเกรงใจ
เด็กๆ ช่วยพ่อแม่ขายขนมจีนตอนเช้า ก่อนไปเรียน
- คนไทยที่อาศัยอยู่ในปิล็อกส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เข้ามาทำเหมือง พอหมดเหมืองแล้วก็ยังไม่ย้ายออก ป้าเล่าว่าถ้ามาอยู่ที่นี่แล้ว จะไปอยู่ที่อื่นไม่ได้อีก เพราะว่าทนอากาศข้างนอกไม่ได้ ปิล็อก อากาศดีสดชื่นทั้งปี อยู่ได้สบาย ออกไปกรุงเทพทีไรไข้ขึ้นทุกที :) ( ปิล็อก ได้ชื่อว่าเมืองเคียงหมอก เรียกได้ว่าหมอกตั้งแต่เช้ายันเย็น เที่ยงก็หมอก เช้าก็หมอก บ่ายก็หมอก ดึกก็หมอก )
- คนที่นี่มีลูกกันค่อนข้างเยอะ ครอบครัวละ 5-7 คน ( ช่วงฤดูฝน ทางอนามัยต้องเตรียมรับฝากครรภ์จากชาวบ้านจำนวนมาก แหม่ ก็ฝนตก อากาศมันเย็นนี่เนอะ :):) บ้าชริง เค้าทำอะไรกันเหรอคะพี่ตา นกอยากรู้ค่ะ )
- เด็กที่นี่เดินไปโรงเรียนทุกวัน ใครไปเที่ยวแล้วขับรถผ่าน แวะรับน้องๆด้วยนะคะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
วิธีการจองห้องพัก
1) เข้าไปที่ เว็บไซต์ https://www.localpillow.com และเลือกจังหวัดที่ต้องการค่ะ ( ตอนนี้ยังมีบางจังหวัด แต่ทางเว็บไซต์กำลังรวบรวมโฮมสเตย์ทั่วประเทศอยู่ เดี๋ยวมีมาเพิ่มเติมแน่นอนค่ะ)
2) ระบบจะโชว์โฮมสเตย์ในจังหวัดที่เลือก เลือกชมได้ตามความชอบเลยค่ะ
3) เลือกโฮมสเตย์ตามไลฟ์สไตล์ของคุณ รอบนี้เราเลือกที่ Pilok Gargen hill
4) เลือกวันที่ต้องการเข้าพัก
5) กดสำรองห้องพัก
6) ใส่ข้อมูลส่วนตัว ใครมีรหัสส่วนลดให้ใส่รหัสแล้วกดตรวจสอบด้วยน๊าา ( ถ้าไม่กดปุ่มตรวจสอบระบบจะไม่ปรับราคาให้ค่ะ)
7) ชำระเงิน เลือกรูปแบบตามถนัดได้เลยค่ะ จะชำระผ่านธนาคารหรือบัตรเครดิตก็ได้ค่ะ
8) หลังจากนั้นจะมีอีเมลล์เข้ามายืนยันห้องพักให้ เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ ง่ายมาก
Pilok Garden Hillsที่พักอยู่ริมสระน้ำ ติดกับตลาดอีต่อง เดินทางสะดวกมากค่ะ ไกล้ร้านอาหาร ไกล้เหมืองปิล็อก ที่นี่เพิ่งเปิดใหม่ เจ้าของเดียวกับร้านอาหารสุดเขต คุณป้าน่ารักมากๆค่ะ ดูแลดีมาก เล่าเรื่องปิล็อกให้ฟังเพลินเลย ( คุณลุงเป็นคนใต้ ที่นี่จึงมีอาหารใต้ทานด้วย แต่เสียดายคุณลุงไม่อยู่ลงไปข้างล่าง เลยไม่ได้แหลงใต้กันเลย)
คุณลุงมาอยู่ที่นี่สมัยทำเหมืองแร่ หลังจากเหมืองแร่เลิกก็ไปอยู่ที่อื่นไม่ได้ เนื่องจากติดอากาศที่นี่ คุณป้าเลยย้ายตามมา เปิดร้านอาหาร เปิดโฮมสเตย์ ( อาหารที่ร้านสุดเขต ก็อร่อยมากค่ะ ฝากท้องเกือบทุกมื้อเลย)
บรรยากาศห้องพัก
มีพื้นที่ส่วนกลาง ไว้นั่งเล่น ทานข้าว ติดริมน้ำเลยค่ะ ห้องพักมีหลายแบบให้เลือกตามชอบเลยค่ะ ที่นี่เสาร์ อาทิตย์ ห้องพักจะเต็มยาว โทรเข้าไปสอบถามก่อนได้เลยค่ะ 095 -6064606
บรรยากาศร้านอาหารสุดเขต ( ติดกับที่พักเลยค่ะ)
ใครอยากหลบหนีความวุ่นวาย ฝ่าฝน ตะลุยหมอก ต้องห้ามพลาด ปิล็อกนะคะ เก็บไว้ในลิสด่วนๆ
ชอบท่องเที่ยว ชอบถ่ายภาพ เข้าไปเมาส์มอยกันได้ที่เพจนะคะ FB Page :Goanywhere E-mail : Yaowanee.n@gmail.com photo / Story by LamHub