One-Day-Trip ตะลุยไหว้พระ ๙ วัด รอบเกาะรัตนโกสินทร์
สวัสดีค่ะ รีวิวนี้ขอเปลี่ยนจากการเที่ยวต่างจังหวัดมาทำบุญในเมืองกรุงกันดีกว่าาาา ถึงหน้าเราจะไม่ให้แต่ใจเราสวยม๊าก ฮ่าๆๆๆ ป่ะ!! เรามัวแต่เม้าท์เดี่ยวแดดจะร้อนเสียก่อน ทริปนี้บอกก่อนเลยเราไม่ได้นั่งรถตู้ ไม่ได้ขับรถไปเอง แต่เราไปรถเมลล์ การเดินทางไปไม่ยากเลยค่ะ ถ้าใครมีจุดเริ่มต้นอยู่ที่อนุเสาวรีย์ ให้ไปรอขึ้นรถที่ป้ายเกาะพญาไท จะมีรถเมลล์สาย 59,201 และ 503 ที่ไปสนามหลวง หรือใครสะดวกทางเรือก็สามารถนั่งเรือไปลงแถวนั้นได้นะคะ บริเวณนั้นท่าเรือมีหลายที่มาก ส่วนเราอยู่แถวบางปะกอก เราเลยนั่งสาย 6 จากหน้าบิ๊กซีราชบูรณะ (พระปะแดง-บางลำพู) ไปค่ะสะดวกดีแล้วไวด้วย 15 บาท ถึงสนามหลวงเลย อิอิ
วันนี้จุดเริ่มต้นของการตะลุยเมืองหลวงของเราคือนัดเจอเพื่อนกันที่ สนามหลวง ตอน 9.00 น. เพราะถ้าสายกว่านี้กลัวจะไหว้ไม่ครบ ๙ วัด อีกอย่าง เดี่ยวทัวร์จีนจะเยอะ อิอิ ทริปนี้เราไปกับเพื่อนกันแค่ 2 คน เราก็ชิลล์กันได้แบบสบายๆ สนามหลวงตอนเช้าก็เงียบมาก นานๆจะได้เห็นสักที ขอถ่ายรูปเก็บไว้ซ่ะหน่อย
เมื่อเรากับเพื่อนเจอกันแล้ว เราก็ไม่รอช้า จุดเริ่มต้นที่แรกของทริปนี้คือ ศาลหลักเมือง ไปสักการะ "เทพารักษ์ทั้ง 5" เพื่อตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนาบารมี ซึ่งเราสามรถซื้อชุดทำบุญกันได้ที่ประตูทางเข้า ชุดละ 60 บาท ประกอบด้วบ ดอกไม้ ธูปเทียน น้ำมันเติมไฟตะเกียง แล้วก็ผ้าสามสี ค่ะ
เมื่อเราสักการะ ศาลหลักเมืองเสร็จ ก็เดินเท้าข้ามถนน มุ่งหน้าตรงไปยัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว "ไหว้พระแก้วมรกต แก้วแหวน เงินทอง ไหลมาเทมาตลอดปี" ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากศาลหลักเมืองมากนัก การมาวัดพระแก้วควรแต่งกายให้สุภาพ ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ที่อยู่ตรงประตูทางเข้าจะไม่ให้เข้านะคะ เราสามารถซื้อดอกไม้ได้ที่ประตูทางเข้าด้านในคะ ชุดละ 30 บาท ซึ่งจากจุดที่สามารถจุดธูปเทียน ได้นั้น เจ้าหน้าที่ได้มีการจัดสถานที่ไว้อยู่ภายด้านนอก หากใครที่อยากเข้าไปสักการะองค์พระแก้วมรกต ก็สามารถเข้าไปได้ค่ะ แต่ทางเจ้าหน้าที่จะไม่ให้ถ่ายภาพนะคะ แนะนำควรไปแต่เช้าหรือวันธรรมดา เพราะคนจะยังไม่เยอะมาก ทัวร์ก็ยังไม่ค่อยมีมาเท่าไร ขออีกสักมุม ในวัดพระแก้ว ซึ่งมุมนี้จะอยู่ด้านหลังคะ สามารถเดินเชื่อมกันไปได้เลยคะ สวยงามมากเมื่อเราออกจากวัดพระแก้ว แล้วก็เดิน เดิน แล้วก็เดินกันต่อไปที่วัดโพธิ์ จริงๆไม่ได้ไกลกันมากค่ะ วัดโพธิ์จะอยู่บริเวณด้านหลังพระบรมมหาราชวัง ถ้าข้ามถนนท้ายวังก็ถึงแล้วค่ะ เดินกันไปถ่ายรูปเล่นกันไปค่ะ เลยอาจดูไม่ไกล บอกแล้วทริปนี้เราชิลล์ค่ะ ฮ่าๆๆๆ ใช้เวลาในการเดินประมาณ 10 นาที ก็ถึงวัดที่ 3 นั้นก็คือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์ ซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก เมื่อเราเดินเข้าประตูมาจะมีป้ายบอกทาง ทางไปพระวิหารไหว้พระนอนวัดโพธิ์ เพื่อความร่มเย็นเป็นสุข อยู่ดีกินดีตลอดปี ซึ่งเป็นองค์พระพุทธรูปไสยาสน์ที่สวยงามที่สุด และองค์ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในประเทศไทยเมือออกจากพระวิหารพระนอนด้านประตูด้านหลัง เราจะมองเห็นพระมหาเจดีย์ 4 รัชกาล แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 4 องค์ เรียงรายสวยงามสง่ามาก ซึ่งหากเรามีเวลาสามารถเดินชมความงามบริเวณรอบๆได้นะคะ จากวัดโพธิ์ เราก็ไปต่อกันที่วัดที่ 4 คือ วัดอรุณฯ ทางไปไม่ยากค่ะ เราเดินข้ามถนนจากวัดโพธิ์ไปยังฝั่งตรงข้าม ซึ่งบริเวณตรงนั้นเรียกว่า ท่าเตียน เราจะขึ้นเรือข้ามฟากกันที่ท่าเตียน ไปยังวันอรุณ ค่าเรือ 3 บาท ค่ะ เรือที่เราใช้ข้ามฟากเป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่ค่ะ อาจจะมียืนกันบ้าง นั่งกันบ้าง แต่ก็ไม่น่ากลัวนะคะ เรานั่งบ่อยมาก ใช้เวลาเดินทางไม่นาน แค่ข้ามฝั่งไปก็ถึงวัดแล้วค่ะจากท่าเรือเราสามารถมองเห็นพระปรางค์ได้ชัดเจนค่ะ สวยงามมาก ซึ่งพระปรางค์นี้ถือว่าเป็นจุดเด่นของวัดนี้เลยค่ะ เมื่อใครเห็นพระปรางค์นี้ก็ตอบได้ว่า เป็นวัดอะไรแล้วเราก็เดินทางมาถึงวัดที่ 4 นั่นก็คือ วัดอรุณราชวราราม เมื่อเราเดินมาจากท่าเทียบเรือเราก็จะเห็นมุมนี้ เราก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปสินะ ซึ่งปกติเราจะเห็นในมุมของวิวแม่น้ำเจ้าพระยา
จากบริเวณตรงนี้เราจะสังเกตเห็นยักษ์ปูนปั้นขนาดใหญ่ 2 ตน ตั้งอยู่หน้าซุ้มประตูทางเข้าไปยังพระวิหาร ซึ่งที่นี้คนส่วนใหญ่มักจะรู้จักกันในนาม ยักษ์วัดแจ้ง ส่วนเราก็จำเค้าพูดมากันอีกที กิกิเมื่อเราเดินผ่านซุ้มประตู เราสามารถเข้าไปไหว้พระอรุณหรือพระแจ้งได้ที่พระอุโบสถ เพื่อให้ชีวิตรุ้งโรจน์ทุกคืนวัน
เมื่ออกจากพระอุโบสถ เราก็มุ่งหน้าต่อกันไปที่ท่าเรือ เพื่อที่จะไปวัดที่ 5 ซึ่ง การเดินทางไปวัดที่ 5 เราใช้บริการเรือเร็ว โดยซื้อตั๋วเรือ 30 บาท เพื่อที่จะนั่งเรือไหว้พระริมน้ำ ประกอบด้วย วัดระฆัง-วัดอรุณ-วัดกัลยาณมิตร ซึ่งวัดต่อไปที่เราจะไปคือ วัดกัลยาณมิตร เรานั่งเรือกันไปไม่นานค่ะ เพราะว่าวัดอยู่ใกล้ๆกันเลย ซึ่งถ้าใครยังไม่เคยที่วัดนี้อาจจะงงในการไหว้นะคะ เพราะจะมีจุดให้ปักที่หลายจุดมาก ซึ่งเราเองก็งง ค่ะ แต่ถ้าเราสังเกตุดีๆที่กระถางธูปจะมีป้ายบอกจุดที่1,2,3... เราก็ทำตามเค้ากันเลยค่ะ ส่วนออกไม้ธูปเทียน มีขายในบริเวณวัดค่ะ ราคาแล้วแต่เราจะเลือก มีขายเป็นชุดๆค่ะเมื่อเราจุดธูปไหว้พระจากบริเวณภายนอกที่ทางวัดได้จัดสถานที่ให้นั้น เราก็เข้าไปไหว้องค์ หลวงพ่อโต ในพระอุโบสถ เพื่อการเดินทางปลอดภัยที่ดี มีมิตรตรีที่ดีจากนั้น เรายังคงใช้ตั๋วใบเดิมค่ะ แล้วเดินไปที่ท่าเรือ เพื่อที่จะนั่งเรือไปยังวัดที่ 6 วัดระฆังโฆสิตารามวรวิหาร เพื่อ ชื่อเสียงโด่งดัง คนนิยมชมชอบ อีกทั้งยังเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ด้วยคะ ก่อนมาพูดเลยมีการศึกษามาล่วงหน้าแล้วค่ะ อิอิ ที่วัดนี้เราสามารถให้อาหารนกและปล่อยปลาได้นะคะ วัดนี้รูปอาจจะน้อยเพราะคนเยอะมากจริงๆ ค่ะจากวัดระฆัง เราก็ต้องนั่งเรือข้ามฟากกลับไปยังฝั่งตรงข้ามค่ะ ซึ่งตั๋วเรือที่เราซื้อมา 30 บาท ไม่สามารถใช้ได้แล้วนะคะ อันนี้ต้องเสียเงินสดค่ะ 3 บาทถ้วน ฮ่าๆๆๆ ซึ่งท่าเรือที่เราข้ามฟากมาถึงนั้นเรียกว่า ท่าช้าง สังเกตได้จากมุมตึกสีเหลืองๆ ซึ่งระหว่างที่เราเดินจากวัดพระแก้วเพื่อไปวัดโพธิ์เราก็ผ่านค่ะ ครึ่งวันเช้าเราก็ใช้เวลาไปประมาณ 3 ชั่วโมง กับ 6 วัด ถือว่าทำเวลาได้ดีเลยค่ะ แต่ตอนนี้จะบ่ายโมงแล้ว ท้องก็เริ่มร้องแล้วค่ะ งั้นมื้อเที่ยงนี้เดี่ยวเราจะพาไปกินก๋วยจั๊บญวนกันนะคะ ซึ่งร้านจะอยู่แถวถนนพระอาทิตย์ค่ะ ไม่ต้องห่วงค่ะ เราไม่นั่งรถแน่นอน เดินค่ะ เราเดินทะลุไปเรื่อยๆ เดินไปเจออะไรสวยเราก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ฮ่าๆๆ แปปเดี่ยวค่ะ ค่ะถึงถนนพระอาทิตย์แล้ว ร้านหาไม่ยากค่ะ เพราะคนเยอะแล้วมีอยู่ร้านเดียวค่ะ พอดีเราจำชื่อร้านไม่ได้ได้ แต่หาไม่อยากจริงๆค่ะ ที่นี่จะมีก๋วยจั๊บญวนแล้วก็อีกเมนูที่แนะนำยำหมูยอ (แซบมาก) แต่อร่อยค่ะ มาทีไรต้องสั่ง หรือถ้าใครอยากกินโรตีมะตะบะ ก็เดินเลยร้านไปหน่อยค่ะ ร้านโรตีจะอยู่ฝั่งตรงข้ามป้อมพระสุเมรุ ร้านนี้ก็หาไม่ยากเพราะคนเยอะมากเหมือนกันเมื่อเรากินกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดิน กันไปเรื่อยๆค่ะ เพราะแต่ละวัดก็ไม่ไกลกันมากอีกอย่างถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปในตัวค่ะ เราเดินกันไปเรื่อยๆไม่ต้องกลัวหลง เพราะมีป้ายบอกตลอดทาง แต่ถ้าใครไม่อยากเดินก็สามารถนั่งรถเมลล์หรือนั่งรถตุ๊ก ตุ๊ก ได้นะคะ วัดต่อไปที่เรากำลังจะเดินไปถึงเป็นวัดที่ 7 นั้น คือ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก เครื่องสักการะ ดอกไม้ ธูปเทียนมีขายในวัดค่ะ ไหว้พระวัดบวรฯ คือ พบแต่สิ่งดีงามในชีวิต จากวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เราก็เดินไปตามทางออกจากวัดแล้วเลี้ยวขวาเดินตรงไปเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกทางไปภูเขทองค่ะ ซึ่งที่นั่นเป็นจุดหมายวัดที่ 8 ค่ะ อากาศช่วงบ่ายก็ร้อนพอสมควร ส่วนใหญ่ที่เราเดิน เราก็ชิมกันตลอดทางค่ะ ฮ่าๆๆๆ เดินไปสักพักก็เห็นถนนใหญ่อยู่ข้างหน้า ส่วนภูเขาทองอยู่ฝั่งตรงข้าม เราก็เดินตามทางไปเรื่อยๆค่ะ แล้วค่อยไปข้ามถนนบริเวณทางเข้าวัด ซึ่งวัดที่ 8 ที่เรากำลังจะถึงคือ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร แต่คนส่วนใหญ่มักเรียกกันว่า วัดภูเขาทอง ค่ะ เมื่อเราเข้าไหว้พระที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เพื่อเสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคล เราก็สามารถที่จะเดินขึ้นบันไดไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ บนพระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทองกันได้นะคะ ภายในบริเวณด้านล่างของภูเขาทองก็มีที่นั่งให้เราพักเหนื่อย แล้วมีมุมสวยๆให้เราแชะภาพเล่นกันได้ค่ะ เมื่อเราได้พักเหนื่อยเก็บแรงกันเรียบร้อยแล้วเราก็มุ่งหน้าไปยังวัดที่ 9 วัดสุดท้ายของทริปนี้ นั้นก็คือ วัดสุทัศเทพวราราม ซึ่งจากวัดสระเกศฯ เราเดินไปทางด้านหลังออกจากวัดแล้วเลี้ยวซ้ายเดินตรงไปเลื่อย เจอแยกก็เลี้ยวขวาจากนั้นก็เดินตรงไปเลื่อยๆค่ะ แต่ต้องระวังรถกันนิดนึงนะคะ เราจะรู้ว่าเราถึงวัดสุทัศนเทพวราราม แล้วหรือยัง ให้สังเกตจากเสาชิงช้าที่อยู่ด้านหน้าวัดค่ะ นั้นแหละค่ะเราเดินมาถูกทางแล้ว และในที่สุดวัดสุดท้ายของเราก็มาอยู่ข้างหน้าเรา เย้ๆๆๆๆ ดีใจๆๆๆ
วัดสุทัศนเทพวราราม ผู้คนมักจะไหว้พระขอพรให้มี วิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่คนทั่วไป
สำหรับวันนี้เราก็ตะลุย ไหว้พระรอบเกาะรัตนโกสินทร์กันแบบ One Day Trip กันจนครบ ๙ วัดที่เราได้ตั้งใจไว้เรียบร้อยแล้วนะคะ แบบซึ่งตอนนี้ก็ 16.00 น. วันนี้เราก็เดินกันมาทั้งวัน ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งเหงือ กันเลยทีเดียว เราขอไปหาของหวานกินกันก่อนดีกว่า ซึ่งบริเวณแถวนั้นก็จะมีร้านมนต์นมสด แล้วก็ร้านน้ำแข็งใส แต่คนเยอะมาก เราและเพื่อนเลยเปลี่ยนเป้าหมายกันใหม่ มุ่งหน้าไปที่ ท่ามหาราช แต่รอบนี้ไม่เดินนะคะ นั่งตุ๊กๆไป เพื่อนบอกเดินไม่ไหวขอนั่งรถเหอะ ฮ่าๆๆๆ จากตรงเสาชิงช้านั่งรถตุ๊กๆไปท่ามหาราช 50 บาท (ราคามาตรฐานตุ๊กๆไทย) ฮ่าๆๆๆ เมื่อเรามาถึงท่ามหาราช เราก็เดินหาร้านขนม กันอยู่หลายร้านจนมาสะดุดอยู่ที่ ร้านนี้ ร้าน FAVOUR CAFE ร้านตกแต่งน่ารักมากค่ะ ที่จริงร้านนี้อยู่ใกล้ประตูทางเข้าค่ะ หาไม่ยากเลย เราเลยตัดสินใจเลือกร้านนี้ค่ะ
ส่วนเมนูก็มีให้เลือกหลายอย่างอยู่นะคะ แต่ที่เราสั่งบอกตรงๆค่ะ จำชื่อไม่ได้จริงๆ เห็นในรูปดูแล้วหน้ากินเลยสั่งค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ แต่อร่อยอยู่นะคะ ถ้าใครมาท่ามหาราชแล้วอยากได้ร้านที่มีมุมถ่ายรูป หรือหาหาร้านเค้กน่ารักๆ ลองมาร้านนี้ดูนะคะ แนะนำๆๆค่ะสำหรับวันนี้ต้องขอบอกเลยค่ะ อิ่มทั้งบุญ อิ่มทั้งท้องมากค่ะ 1 วันกับทริปไหว้พระ เต็มอิ่มมากค่ะ แถมค่าใช้จ่ายก็แบบสบายกระเป๋ามากค่ะ ไปง่ายๆ ไปไม่ยาก แค่กายพร้อม ใจพร้อม เราก็สามารถมาได้ค่ะ หากใครมีเวลาแล้วไม่อยากไปไหว้พระไกลถึงอยุธยา ลองมาตะลุยไหว้พระ ๙ วัดกันที่เกาะรัตนโกสินทร์ก็ได้นะคะ แล้วคุณจะหลงรักความงามแบบไทยโดยไม่รู้ตัว หากมีข้อความผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ สำหรับทริปนี้เราขอนั่งชิลล์กันอยู่ที่ท่ามหาราชนะคะ ไว้มีโอกาส เราจะมารีวิวใหม่นะคะ อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนนะคร่าาาาาา สวัสดีค่ะ