นั่งรถไฟเที่ยวชมวิวเที่ยวกิน ตลาดท่าเรือ

เริ่มต้นนั่งรถไฟขบวน257 ธนบุรี-น้ำตก ลงสถานีรถไฟท่าเรือน้อย (ตอนกลับนั่งขบวน258)

------------------

ตลาดท่าเรือ จ.กาญจนบุรี เป็นแหล่งรวมของกินเด็ด ๆ ทั้งคาวและหวานแล้ว ‘ตลาดท่าเรือ’ นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องของกินอร่อยแล้วและยังมีผลงาน Street Art น่ารัก ๆ แอบซ่อนอยู่ตามมุมข้างตึกมากมายครับ สามารถเดินไปถ่ายรูปStreet Art ซอยถนนแสงชูโต 6 ถนนรถไฟ 2 ท้ายซอยโรงเจเข่งซิ่วตั๊ว และถนนริมน้ำ

เริมแรกเราก็เริมเดินจุดแรกก็ผ่าน ถนนรถไฟ 2 ก็เริ่ม Street Art ก็เดินถ่ายไป

---------------------------------

แล้วก็เดินต่อมายังพิพิธภัณฑ์รถจักรยานยนต์โล้วเฮงหมง พร้อมประวัติความเป็นมาตั้งแต่ยุคแรกๆ ของยี่ห้อ Honda Yamaha และ Kawasaki

---------------------------------

แวะนมันการ “หลวงปู่แดง” พระพุทธรูปหินศิลาแดงแกะสลักที่ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง ณ วัดท่าเรือ

-------------------------------

เดินต่อไปยังริมน้ำหลังวัดเพื่อมายังโรงเจเข่งซิ่วตั๊ว

โรงเจเข่งซิ่วต๊ว สันนิฐานว่าน่าจะมีการก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เท็จจริงอย่างไรไม่เป็นที่ปรากฎ แต่มีการเล่าต่อกันมาว่า เส้นทางหน้า โรงเจ เข่งซิ่วต๊ว (ซอยแสงชูโต 23) เตยเป็นเส้นทางของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ (รัชกาลที่ 5) เมื่อครั้งพระองค์เสด็จประพาสไทรโยค และได้เสด็จมาขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือตลาดบน (ซอยแสงชูโต 23) และเสด็จผ่านทางหน้าโรงเจแห่งนี้ ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลกินเจพอดี เพื่อไปนมัสการพระแท่นดงรัง ในกาลต่อมาได้มีพระญวนมาจำพรรษาอยู่ที่โรงเจแห่งนี้ พระญวนองค์นี้นามว่า โหพัฒน์ ซึ่งมีประวัติเล่าว่าท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุ 11 ปี จนกระทั่งเป็นพระภิกษุที่วัดถาวรวรารามจังหวัดกาญจนบุรี (เป็นวัดญวนแห่งแรกในประเทศไทย) ท่านเป็นผู้เคร่งครัดในระเบียบ วินัย เชื่อกันว่าท่านมีญาณสมาธิแก่กล้า ประชาชนในหมู่บ้าน เชื่อว่าท่านมีญาณที่รู้แจ้งเห็นจริง จึงเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านทั่วไป โดยเฉพาะในสมัยก่อนนั้น ไม่มีโรงพยาบาล ห่างไกลจากสถานที่ราชการ เมื่อประชาชนขาดที่พึ่งก็จะไปหาท่านอาจารย์ซึ่งก็ท่านได้ปัดเป่าให้ ทำให้คนในท่าเรือเกิดความเลี่ยมใสจนกลายเป็นความรักและสามัคคีกันในหมู่บ้าน ถึงขนาดเปรียบท่านเป็น "เทพเจ้า" ของคนท่าเรือ ต่อมาท่านอาจารย์ไ้ดมรณภาพลง ด้วยอายุเพียง 46 ปี (35 พรรษา) เท่านั้น ประชาชนทั่วไปจึงได้เก็บร่างท่านไว้เพื่อรอการฌาปนกิจเป็นเวลา 3 ปี เมื่อครบกำหนดจึงทำพิธีเปิดโลงศพ ปรากฎว่าร่างของท่านไม่เน่าเปื่อยได้แต่แห้งลงไป ประชาชนจึงพร้อมใจกันนำร่างของท่านมาลงรักเก็บไว้และได้อัญเชิญองค์ท่าน ขึ้นประดิษฐาน ณ โรงเจ เข่งซิ่วต๊ว แห่งนี้ เพื่อให้ลูกหลานได้สักการะสืบต่อไปอย่างมีคุณค่า

------------------------------------

จากนั้นเดินต่อมายังร้านชายสมัยบรรยากาศร้านดีมากครับ เจ้าของร้านนารัก มีโซนด้านล่างริมน้ำ

ขนมแนะนำของทางร้าน คือ เส้นด้ายชายสมัย จากกลิ่นและสี ใบเตย

--------------------------------------

หลังจากแวะนั่งจิบชาเย็นๆให้หายร้อนแล้วก็เดินต่อมายังศาลเจ้าแม่ทับทิม หรือ ศาลอาม่า อายุเก่าแก่กว่า 120 ปี เป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยเชื้อสายจีนท่าเรือ ให้ความเคารพ

-------------------------------------

หลังจากเดินไปศาลอาม่าแล้วเริมหิว แล้วก็เดินมาร้านแรกนี่เป็นก๋วยเตี๋ยวหมูแดง รสชาติธรรมดาแบบโบราณ อรอยมาก ตอด้วยข้าวเกรียบปากหม้อน้องนุ่นริมน้ำ ติดกับศาลอาม่า อร่อยมากขอบอกต่อ

ผมไปเที่ยวช่วงตรุษจีนร้านเลยน้อย รอบหน้าไปใหมอิอิ

-------------------------------------

ตลาดท่าเรือ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี

ชุมชนริมน้ำ ตลาดท่าเรือ (ฝั่งตลาดเก่า)ย่านนี้เป็นชุมชนชาวจี

เป็นอีกหนึ่งวิถีชุมชนที่เรียบง่าย อยู่กันอย่างมีความสุข ท่ามกลางธรรมชาติจากสายน้ำแม่กลอง มีตึกรามบ้านช่องที่คลาสสิคหลากหลาย มีโรงเจ มีตลาดสด เป็นแหล่งรวมของกินเด็ด ๆ ทั้งคาวและหวานแล้ว จากชาวบ้าน ผมรับรองว่าเด็ดอร่อยทุกร้าน

-------------------------------------

อย่าลืมไปเที่ยวกันเยอะๆนะครับ แล้วเจอกันใหม่กับทริปนั่งรถไฟกินลมชมวิว ตามหาของอร่อย อิอิ