"เมื่อวานว่าสวยแล้ว วันนี้กลับสวยกว่า และวันหน้าอาจสวยกว่าที่เคยเป็น"
นี่คือเหตุผลของการกลับมาเยือนที่ภูชี้ฟ้าและเชียงรายอีกครั้ง
ภูชี้ฟ้า เป็นสถานที่ผมชอบมาก ๆ
ถือว่าเป็นหนึ่งในหน้าผาและจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในไทย สำหรับผมนะ
แม้จะเป็นครั้งที่ 3 แล้วสำหรับการกลับมาดูพระอาทิตย์ขึ้นเบื้องหลังหน้าผาชี้ฟ้า
หลายคนถามว่าไม่เบื่อเหรอ ผมก็ตอบว่าไม่เบื่อหรอก ก็มันชอบหนิ
จากสนามบินเชียงราย หลังจัดการเรื่องรถเช่าและจิปาถะอื่น ๆ
เสร็จประมาณเกือบ 6 โมงก็ออกเดินทางไปยังภูชีฟ้า
การเดินทางผมใช้ถนนเส้น 1020 ผ่านแยกอำเภอเทิงไปอีก ประมาณ 6 กิโลเมตร
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนทางหลวง 1155 อีกราว 30 นาที
ทางนี้อาจจะอ้อมสักหน่อยและผ่านเข้าตัวเมืองต่าง ๆ แต่ถนนหนทางโอเคดี
ไม่คดเคี้ยวและเสี่ยงต่อถนนที่สภาพไม่ดี
ที่พักยังคงใช้บริการของ ภูชี้ฟ้าบ้านออย (พิกัดแผนที่ 19.859759, 100.429544)
จากที่พักไปภูชี้ฟ้า
ขับรถออกมาเลี้ยวขวา แล้วไปตามทางสัก 3 กม. เจอ 3 แยกเลี้ยวขวา (ซ้ายไปผาตั้ง)
แล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นไป ผ่านหน่วยฯ ลานกางเต็นท์ ก็จะถึงลานจอดรถ
จากที่จอดรถตั้งหน้าตั้งตาเดินฝ่าความมืดเพื่อขึ้นไปจุดชมวิว ด้วยความหวังที่จะได้เห็นทะเลหมอก
ท่ามกลางแสงไฟจากชาวบ้านหลายครอบครัวที่มาจับจองพื้นที่สองข้างทางขายของที่ระลึก
พลางได้ยินเสียงเด็กร้องเพลงที่พอจะจับใจความได้ว่า
"โผ อา แค เหราะ มา ฝ่า อย่า แห้ เทอ แด้ กี ผะ มี วิ ตา มี…" อย่างนี้ซ้ำ ๆ กันหลายรอบ ก็น่ารักดีนะ
เมื่อเดินผ่านน้องคนนี้ไป เสียงร้องเพลงสำเนียงเดียวกับน้องคนก่อนหน้าก็แว่วมา
"ผะ เท่ ไท รัว เลื่อ เนื้อ ช่า เชื้อ ไท เป ปะ ชา หระ…" เอิ่ม น่าชังดีแฮะ
ไม่เพียงเท่านี้
ก่อนที่จะเดินถึงยอดภูชี้ฟ้า เพลงสุดท้ายที่ได้ยิน
เหมือนเป็นสุดยอดแห่งลำเนาที่ขับกล่อมเรามาตลอดทาง 700 เมตรของทางขึ้นภูผาเลื่องชื่อ
"รา จะ ทา ตา สา ยา ขอ เว ลา อี่ ม่า นาน แล้ แผ่ ดี ที่ โงะ งา จะ คือ กะ มา…"
ฮา ๆ ๆ ๆ เราหัวเราะอยู่ในใจ ^^
ผมแยกขวาออกไปยังจุดชมวิวที่มองเห็นภูผาที่ดูราวกับชี้ไปยังท้องฟ้าที่กว้างใหญ่
และดินแดนฝั่งลาวเพื่อนบ้าน น่าแปลกที่ตรงนี้ยังไม่มีคนมาจับจองพื้นที่เลยแม้แต่คนเดียว
ท้องฟ้ายามตี 5 ยังมืดมิด แต่ก็ไม่สามารถบดบังแสงสว่างเรื่อเรืองของหมู่ดาวที่สุกสกาวเป็นร้อยพันได้...
เฮ้ย ๆ พอแล้วนาย นี่รีวิวที่เที่ยวจะกลายเป็นบทลิเกไปแล้วนาย 55555
ความสวยงามของสถานที่ผมว่ามันขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นด้วย
แสง ท้องฟ้า เมฆ หมอก ผู้คน ฯลฯ
สถานที่มันก็อยู่ของมันอย่างนั้นไม่ไปไหน
แต่ที่เปลี่ยนไปทุกวันคือบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่คาดเดาไม่ได้
กับที่นี่ก็เช่นกัน ทุกครั้งที่มาเยือนความสวยงามของสภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไปทุกครั้ง
ภูชี้ฟ้า หรือวนอุทยานภูชี้ฟ้า เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของดอยผาหม่น
มีความสูง 1,628 เมตร และพรมแดนไทย-ลาว
บริเวณปลายยอดเขามีลักษณะเป็นหน้าผาแหลมยื่นชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าและทางฝั่ง ลาว
ในทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่เป็นจำนวนมาก
ก่อนมาจองที่พักไว้อุ่นใจกว่านะครับ มีมากมายหลายราคาหลักร้อยถึงหลักพัน รับประกันความฟิน
แต่ก็ไม่แน่ต้องแล้วแต่พี่ธรรมชาติเค้าด้วยว่าวันนั้นบรรยากาศจะเป็นอย่างใจหรือไม่
สำหรับผมแล้ว เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งในการท่องเที่ยว
คำแนะนำเมื่ออยู่บนภูชี้ฟ้า สบาย ๆ By Me
