เมื่อลมหนาวเดือนธันวาพัดมา มาพร้อมกับคำถามที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆว่า " ไปไหนกันดี? " คำตอบที่ได้ก็คงจะไม่พ้นภาคเหนือ หนาวๆแบบนี้ก็ต้องไปรับลมหนาวที่ภาคเหนือสิวะะะะะ

ต้องบอกก่อนว่าทริปนี้เป็นทริปที่กระทันหันมากๆ ก่อนหน้านี้แพลนไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าเราจะแบกหน้าไปกระแทกลมหนาวแรงๆอาทิตย์หน้า สัก1อาทิตย์ โดยที่ที่เราจะไปคือ เชียงราย พะเยา และน่าน แต่แล้วก็ล่มจ้าา เพราะอาทิตย์หน้าไม่ว่างซะงั้น ทำให้มีเวลาแค่คืนนี้แหละ ที่จะไปได้ และต้องเลือกไปแค่1ที่เท่านั้น!!!

ตัดสินใจปุ้ปไปเลย มีเวลาแค่2 ชม. สำหรับการเตรียมตัวและเก็บของโดยที่ ตั๋วรถไม่ได้ซื้อ ห้องไม่ได้จอง เอาว่ะไปหาเอาดาบหน้า!

การไปหารถที่หมอชิตในช่วงวันหยุดยาวแถมใครๆก็พากันขึ้นเหนือนี่เป็นอะไรที่แบบ.. เมิงบ้าหรออออ ไม่ได้จองอะไรสักอย่าง นี่มันวันหยุดยาวนะเว้ยย แต่แล้วโชคก็เข้าข้างเหลือรถ1บริษัท แถมเหลือ2ที่นั่งสุดท้าย รอดตายแล้วเรา ถามว่า ตังแค่3000นี่ไปเที่ยวเชียงรายได้หรอวะ ได้ดิ!!! สบาย!! ไม่อดอยากนะจ้ะบอกเลย

การเดินทางไปจังหวัดเชียงรายโดยรถทัวร์ ใช้เวลาประมาณ10 ชั่วโมง มาถึง บขส. เชียงรายประมาณ 8โมงกว่า สิ่งแรกที่ต้องทำเลยคือซื้อตั๋วกลับกรุงเทพในวันจันทร์เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว เมิงงงซวยแน่ถ้าไม่ซื้อไว้ก่อน

ต่อไปคือหาทางไปทั้ง3 ภู คือ ภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว และผาตั้ง ซึ่งมีแค่ 2 ทางเลือก

1.นั่งรถตู้ไปไปที่ภูชี้ฟ้า แต่อีก2 ที่เราจะไปยังไง เพราะแถวนั้นไม่มีรถเช่า

2.เช่ารถไปตั้งแต่ในเมือง แล้วขับไปเอง เชียงราย-ภูชี้ฟ้า 70 กิโลเมตรโดยประมาณ TT แต่ได้ไปทุกที่

ทำไม... ไม่มีทางเลือกที่มันดีกว่านี้แล้วหรอ ?

ตัดสินใจเช่ารถที่ร้านข้าง บ.ข.ส. ชื่อร้าน Biky เป็นร้านเดียวกับที่เชียงใหม่นะ แนะนำเลย บริการดี แถมไม่มีมัดจำ ราคาแล้วแต่รุ่น เราเลือกรุ่นมีเกียร์ 115cc วันละ250 บาท จัดไป2วัน

ขับไปเรื่อยๆ ชิลๆ แดดอ่อนๆกับลมเย็นๆ แปปเดียวก็ถึงภูชี้ฟ้าแล้ว

ต่อไปคือต้องหาห้องพัก เพราะเราไม่ได้จองไว้ เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวที่พักหลายแห่งได้เต็มไปเป็นที่เรียบร้อย

สุดท้ายก็ได้ห้องพักที่ ทำเนียบขาวรีสอร์ท อยู่ติดกับถนนคนเดินภูชี้ฟ้า ราคาห้องพัก700 บาท มีเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งดีตรงที่ ที่นอนใหญ่มาก นอนได้ประมาณ4-5 คน ปกติราคาห้องทั่วไปจะกำหนดไว้ว่าราคานี้สำหรับ 2คน แต่ที่นี่ ไม่ค่ะ!! 2คน 700 จะมา6คน ก็700 เอ้อ!! คุ้มมั้ยล่ะคิดดู

เรามีเวลาประมาณ 3 ชม. ก่อนพระอาทิตย์จะตก ซึ่ง เราจะไปภูชี้ดาว แล้วกลับมาดูพระอาทิตย์ตกที่ภูชี้ฟ้า

ภูชี้ดาว พึ่งจะเปิดตัวเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ไม่นาน  ตั้งอยู่บนพื้นที่ในความดูแลของตำบลปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย จุดเด่นของ ภูชี้ดาวนี้ อยู่ที่ยอดสูงสุด สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา ไม่มีต้นไม้ สิ่งก่อสร้างใดๆมาบดบัง  มีแนวรั้วไม้ไผ่กันเขตแดนป้องกันอันตรายมาสร้างเป็นจุดเด่นบนยอดชมวิวแห่งนี้  เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังใหม่ ทุกอย่างยังคงอุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ ป่าเขา ต้นไม้ ทิวทัศน์ทะเลหมอก

การขึ้นภูชี้ดาวนั้น ต้องใช้รถ4x4 หรือจ้างให้ชาวบ้านขึ้นไปส่ง ส่วนราคาอยู่ที่100 บาท ขั้นต่ำ5คน นั่นก็คือ ถ้ามา2คน ก็ต้องเหมา 500 บาท

แต่!!! ถามว่าขับมอไซต์ขึ้นไปได้ไหม?? ได้ค่ะ เพราะเราไปมาแล้ว แต่ไม่แนะนำนะ เพราะอันตรายพอสมควร เส้นทางนี่ งานหยาบสุดๆ เพราะฉะนั้นถือเป็นการอดหนุนชาวบ้าน เหมารถเถอะค่ะ ปลอดภัยกว่าด้วย

ขับขึ้นมาประมาณ3 กิโลเมตร จากนี้ต้องเดินเท้าต่ออีกนิดหน่อย ทางเดินสบายๆ ไม่กี่ร้อยเมตร ชันนิดหน่อย แต่สำหรับชะนีขี้เกียจออกกำลังกายแบบเรา เล่นเอาหอบแฮ่กๆเหมือนกัน

และหลังจากกินลม ชมวิว ถ่ายรูปกันจนพอใจแล้ว. ก็ต้องรีบกลับไปภูชี้ฟ้า เพื่อไปดูพระอาทิตย์ตกให้ทัน ตอนเย็นอุณหภูมิลดเย็นลงมากกก ดูพระอาทิตย์ตกแล้วรีบลงไปพักผ่อน ทานมื้อเย็น ที่ถนนคนเดิน ที่นี่ มีของกินหลากหลาย ราคาปกติเลยค่ะ

เช้านี้เราตื่นตี4 เพื่อจะไปรอดูแสงแรงของวัน และทะเลหมอกที่ลอยคอ ที่ยอดภูชี้ฟ้า จะมีรถมารับหน้ารีสอร์ท ประมาณตี4ครึ่ง จะไปส่งตีนภู เราต้องเดินขึ้นไปอีกหน่อยค่ะ ค่ารถไปกลับ คนละ30 บาท

หลังจากชมบรรยากาศจนหนำใจแล้วก็ลงมาเตรียมตัวcheck out เตรียมตัวเดินทาง next station

ผาตั้งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และตก ได้เช่นเดียวกับ ภูชี้ฟ้า แต่ดีกว่าตรงที่ ผู้คนไม่แออัดเหมือนภูชี้ฟ้า