เพื่อนตั้ม: จำปูน เพื่อนหมอดูบอกเราว่า ให้ไปไหว้ศาลหลักเมือง กับพระนอนวัดสะตือที่อยุธยา

จำปูน: อืมมมมม ตั้มว่างไหม

เพื่อนตั้ม: ว่าง

จำปูน: เราก็ว่าง งั้นไปศาลหลักเมืองก่อนละกัน แล้วก็เดินเที่ยวแถวถนนพระอาทิตย์ ไปไหว้พระนอนพระนั่งที่วัดสามพระยาต่อ เอาให้ครบ เพื่อความสุขการสบายใจของเรา

          เรานั่งรถจากศรีราชาไปเจอคุณเพื่อนที่อนุสาวรีย์ฯ ไปถึงก็ประมาณ 10.30 น. เหมือนเดิม ต่อรถเมล์ไปสนามหลวง เราเดินผ่ากลางสนามหลวงแบบแดดเปรี้ยงๆ ความร้อนทะลุปรอทแตกมาก ในความร้อนยังมีความโชคดี เจอคุณตำรวจพี่ม้า รูปหล่อ ตัวใหญ่มาก เพื่อนบอกว่า “ทำไมตัวใหญ่อย่างนี้ เราไม่เคยเห็นตัวใหญ่เท่านี้มาก่อน” เราเลยบอกว่า “มันคงคนละพันธุ์กับที่เดินชายหาดหัวหิน” ด้วยความหล่อ ใจดี และยอมให้เราลูบ (ก่อนแตะตัวพี่ม้า เราขออนุญาตผู้บังคับม้าเรียบร้อยแล้วค่ะ) เราเลยขอถ่ายรูปคู่กันกับคุณตำรวจพี่ม้า เราเดินไปถึงศาลหลักเมืองก็ 11 โมงแล้ว ไม่ต้องเตรียมอะไรไป ที่ศาลมีเครื่องสักการบูชาให้เรียบร้อยแล้ว (ชุดละ 60 บาท) จ่ายเงินกันอย่างเดียว ด้านหน้ามีขั้นตอนการสักการะศาลหลักเมือง อ่านก่อนแล้วทำตามขั้นตอนได้เลย

เจอตำรวจพี่ม้าตรงสนามหลวง

ถ่ายรูปคู่กันหน่อย

ท้องฟ้าแจ่มใส แดดเป็นใจ จนเกรียม

ข้ามถนนมาศาลหลักเมือง

ศาลหลักเมือง

ที่จำหน่ายเครื่องสักการะศาลหลักเมือง มีทั้งด้านหน้า และด้านใน

ล่าง เจ้าหอกลอง พระกาฬไชยศรี เจ้าเจตคุปต์

ภายในศาลหลักเมือง

     เราเดินกลับมาทางพิพิธภัณฑ์พระนคร แวะเข้าไปหน่อย เพราะเราเดินผ่านเห็นว่ามีงาน “อัศจรรย์พิพิธภัณฑ์ไทย” จัดงาน 16-21 กันยายน 2559) เข้าชมฟรี แม้จะเคยเข้าไปชมแบบทะลุปรุโปร่งมาแล้วเมื่อกลางปีที่ผ่านมา (ลิงค์: http://www.thetrippacker.com/th/review/พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร/9463) แต่ในพิพิธภัณฑ์ในพระที่นั่งอิศราวินิจฉัย เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน คราวนี้มาในธีมเรื่อง “ของดีมีมาอวด” รวบรวมของสวย ของแปลก สิ่งแรกในเมืองไทย สิ่งของอันเกี่ยวเนื่องกับบุคคลสำคัญ เราเข้าไปชมในพระที่นั่งฯ แบบแอร์เย็นฉ่ำ จากอากาศร้อนข้างนอก เข้ามาชื่นใจมาก ชื่นใจเข้าไปอีกก็ได้ชมของสำคัญต่างๆ ทั้งของใช้ส่วนพระองค์ เหล็กไหลก็มี หวย ก ข ก็มา ชมกันเพลินๆ ออกมาเดินในเต๊นท์ติดแอร์ที่ออกบูทของพิพิธภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงบูทบริษัทที่ทำเรื่องเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ ได้ข้อมูล โบชัวร์ ของแจกมาเพียบ เราเลยบอกเพื่อนว่า ปีหน้า ตระเวนเที่ยวพิพิธภัณฑ์กันเถอะ เพราะพิพิธภัณฑ์ที่เราไปเที่ยวกัน เดี๋ยวนี้มีการจัดแสดงได้ดีมาก แสงสีครบ ให้คนเข้าชมมีส่วนร่วม ถ่ายรูปได้อีกต่างหาก ไม่ได้เป็นแบบเอาของมาวางๆ แห้งๆ ฝุ่นเกาะแบบเดิมอีกแล้ว  

ระหว่างทางเดินกลับ

เดินไปถ่ายรูปไป

คุณเพื่อนเดินทาง

Free ถึงไม่ฟรีก็ยินดีเสียค่าเข้าชมค่ะ

มาเที่ยวพิพิธภัณฑ์กันเถอะ

พระเก้าอี้สนามทรงใช้ในการสงคราม ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

ของดี ที่นำมาจัดแสดง

หวย ก ข เรื่องหวยเรื่องใหญ่ ลุ้นกันทุกงวด 555

พิพิธภัณฑ์มาออกบูท

ได้เรื่องมาเต็มๆ เลยบอกเพื่อนว่าปีหน้าเป็นปีแห่งการเที่ยวพิพิธภัณฑ์

     บ่ายสองแล้ว เริ่มหิวกันตาลาย เดินออกมาจากพิพิธภัณฑ์พระนคร เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าสู่ถนนพระอาทิตย์ ด้วยความร้อนบวกความหิว เราเลยขึ้นรถเมล์กัน แม้จะไปแค่ 1 ป้ายรถก็ตาม มาถึงร้านคุณแดงก๋วยจั๊บญวน ที่เราเล็งไว้ตั้งแต่คราวที่แล้ว แต่พื้นที่ท้องเรามันเต็ม มาคราวนี้ต้องจัด ถึงอากาศจะร้อน แต่ก๋วยจั๊บญวนร้อนกว่า เส้นก๋วยจั๊บอมความร้อน กินต้องมีสติค่ะ เป่าเส้นเยอะๆ ก่อนกินนะคะ เพราะเราพลาดลวกปากมาแล้ว เราสั่งหมูยอ ยำหมูยอ หอมเจียวมาเพิ่ม แล้วตบท้ายด้วยเฉาก๋วย อิ่มแล้ว เดินต่อได้

     เดินมาอีกนิดก็ถึงป้อมพระสุเมรุ หรือสวนสันติชัยปราการ เป็นสวนสาธารณะและเป็นที่ตั้งของป้อมพระสุเมรุด้วย และพระที่นั่งสันติชัยปราการ มองออกไปสามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยากับสะพานพระราม 8 ลมพัดเย็นๆ มีหนุ่มฝรั่งกับสาวไทยนั่งจีบกันให้คนโสดอย่างเราอิจฉาเล่น

ระหว่าทางเดินมาสวนสันติชัยปราการ มองผ่านรั้วเห็นบ้านทรงแบบฝรั่งสวยงาม

หน้าบ้านเขียนว่า วังหม่อมเจ้า อดิศรานุวงศ์ สุขสวัสดิ์

พระที่นั่งสันติชัยปราการ

ป้อมพระสุเมรุ 

รักข้ามขอบฟ้า #น่าเอ็นดู

สะพานพระราม 8

     ติดกับป้อมพระสุเมรุเป็นพิพิธบางลำพู ซึ่งเป็นโรงพิมพ์คุรุสภาเก่า แบ่งการจัดแสดงเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นเรื่องของกรมธนารักษ์ อีกส่วนเป็นเรื่องของวัฒนธรรมชุมชมของชาวบางลำพู เราเพลิดเพลินกันมาก มีไกด์นำชมอธิบาย พูดจาฉะฉาน การจัดแสดงก็น่าสนใจมาก อยากให้แวะไปชมกัน ไม่เสียค่าเข้าชมด้วย ใช้เวลาในการชมประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ ดูตามภาพได้เลย ว่าน่าสนใจจริงๆ

          เราเดินต่อ จุดหมายสุดท้าย ไหว้พระนั่ง กราบพระนอน ที่วัดสามพระยา เราเดินเข้ามา รู้เลยว่าเป็นวัดเก่าแก่ เลยเปิดอากู๋ดู อากู๋บอกว่า เป็นวัดที่สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ก่อนอื่นมากราบพระพุทธเกสรพระประธานในพระอุโบสถ รอบๆ พระอุโบสถมีเจดีย์ทรงลังกา และทรงย่อพุ่มไม้ หลายองค์ เดินออกจากรั้วของพระอุโบสถก็เป็นศาลาที่ประดิษฐานพระนอนปางโปรดอสุรินทราหู (หลวงพ่อนอน) หลังศาลาหลวงพ่อนอนเป็นศาลาของหลวงพ่อนั่ง เรากับเพื่อนไหว้พระสวดมนต์กัน เรามาถึงที่นี่ก็เย็นมากแล้ว ไหว้พระเสร็จก็ออกไปขึ้นแท๊กซี่หน้าวัด คุณเพื่อนไปเล่นฟิตเนสต่อ ส่วนเรากลับศรีราชา เพื่อนส่งเราที่ BTS พญาไท เรานั่ง AIRPORT RAIL LINK ไปลงสุวรรณภูมิ เราต่อรถตู้ต่อที่อาคารผู้โดยสารชั้น 1 ประตู 8 กลับบ้านเราอ่าวอุดม ศรีราชา แล้วเจอกันใหม่อีกหลายๆ ครั้ง ที่นี่ เขตพระนคร เที่ยวทั้งปีไม่มีเบื่อ

เดินข้ามสะพานนรรัตน์สถาน

บรรยากาศเก่าๆ ฝรั่งเดินผ่านไปผ่านมาเยอะเลย

วัดสามพระยา

กุฎิ

พระพุทธเกสร

เจดีย์ทรงลังกา และทรงย่อพุ่มไม้

พระนอนปางโปรดอสุรินทราหู (หลวงพ่อนอน) 

ศาลาหลวงพ่อนอน

หลวงพ่อนั่ง

มาลงสุวรรณภูมิด้วย AIRPORT RAIL LINK

ซื้อตั๋วรถที่นี่