ที่นี่ "สถานีพัทลุง" ( เราเด็กบ้านบ้านเราเด็ก พัทลุง)

ที่นี่ สถานี พัทลุง :) "เมืองหนังโนราห์ อู่นาข้าว พราวน้ำตก แหล่งนกน้ำ ทะเลสาปงาม เขาอกทะลุ น้ำพุร้อน"

เราเป็นคนพัทลุงแต่กำเนิด สมัยตอนมัธยม ถ้าใครเกิดทันยุค pirch / ICQ ( บ่งบอกอายยุมากๆ เบ้ปาก มองบนแรง ) เวลาคุยแอ๊วๆผู้ชายกัน ก็จะเริ่มจาก ดีค่ะ / จ.ไหนคะ /พัทลุงค่ะ หลังจากคำตอนนั้น สิ่งที่เรามักจะได้รับคำถามกลับมา คือ พัทลุง คือที่ไหน อยู่ในประเทศไทยหรือเปล่า? ( ฟังแล้วมีอาการหอบแดกเลย คือบั่บ กลิ้งตาเป็นวงกลมสามร้อยรอบ)

อยากให้ทุกคนได้เห็นความน่ารักและรู้จักพัทลุงมากขึ้น ถ้าคุณเคยมองข้ามพัทลุง หรือเคยคิดว่าเป็นแค่เมืองผ่านทาง เราอยากให้คุณคิดใหม่ค่ะ

ชอบท่องเที่ยว ชอบถ่ายภาพ เข้าไปเมาส์มอยกันได้ที่เพจนะคะ

FB Page : Goanywhere ( https://www.facebook.com/go.anywheree/ )

E-mail : Yaowanee.n@gmail.com

photo / Story by LamHub

พัทลุงจังหวัดเล็กๆ หนึ่งใน 14 จังหวัดภาคใต้

เป็นจังหวัดที่

ไม่มี พื้นที่ติดทะ หัวใจของภาคใต้

ไม่มี ความเจริญ ฮ่าๆ พวกเราเน้นอนุรักษ์นิยม

ไม่มีพิษ ไม่มีภัย ดังสมญานาม

เรายังอนุรักษ์วิธีดั้งเดิม ยึดถือวิถีแบบเดิม

เราโตมาด้วยคำล้อเลียนที่ว่า พวกเรา ถอดรองเท้าเข้า 7-11 และพนักงานเซเว่นที่พัทลุงจะไม่พูดว่า รับขนมจีบซาลาเปาเพิ่มไหมคะ แต่ที่พัทลุงจะพูดว่า "รับถั่วต้มขนมจากเพิ่มไหมคะ" จนทุกวันนี้เซเว่นมีถั่วต้มขายแล้ว คาดว่าคนทำมาเกตติ้งอาจจะเป็นคนพัทลุง :) ตอนนี้ก็จะเหลือแค่ ควายพัทลุงสามารถดำน้ำกินหญ้าได้ตอนน้ำท่วม สถิตินี้ยังไม่มีควายจังหวัดใดสามารถล้มได้ ควายพัทลุงยังชนะเลิศอยู่ในจุดนี้

ดูโรงแรมที่พัทลุงสิ วินเทจขนาดไหน

"เมืองลุงน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก"

เรามีถนนเส้น มโนราห์

เรามีการแสดงพื้นบ้าน ( ที่ดังสุดคือ หนังตะลุงน้องเดี่ยว ใครไม่เคยดูต้องไปดูตลกมาก)

พัทลุงเป็นเมืองสงบ เงียบๆ คนบ้านเราก็จะเรียกว่าบ้านๆ คนในเมืองเค้าจะเรียกสไลว์ไลฟ์ ( ถ้าจะอธิบายให้ชัดเจน อยากให้เปิดเพลงมหาลัยวัวชน เราเด็กบ้านๆเราเด็กเลี้ยงวัว.... นั่นแหละ บรรยากาศพัทลุงเป็นแบบนั้นแหละ ) คนหน้าตาโหดๆ พูดเสียงดังๆ ไม่มีหางเสียง ไม่ต้องตกใจนะ มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ก็แค่คุยกันธรรมดาแหละ แค่เสียงมันดัง เข้าใจเนอะ

ไปปลือ ให้ถึง พัทลุง ?

1.เครื่องบิน. เวลาเดินทาง ชม.1.30 จากบางกอก เราไม่มีสนามบินเป็นของตัวเอง เพราะเราอยากใช้พื้นที่ในการสร้างความสงบ และความผาสุขให้ประชากร เราจึงใช้บริการของสนามบินเ พื่อนบ้าน ตรัง / หาดใหญ่ หรือ นครศรีธรรมราช เพื่อกระจายรายได้ให้จังหวัดเพื่อนบ้านตามความชอบ ว่านาทีนั้น เราอยากไปแวะที่ไหน

เรามักบินลงตรัง เมื่อเราอยากกินติ่มซำ หมูย่าง หรือแวะเที่ยวทะเล

เรามักบินลงหาดใหญ่ เมื่อเราอยากเดินซื้อของกิมหยง และร้านน้ำชาโรตี และเหล่เด็ก ม.อ.

เรามักบินลงนครศรีธรรมราช เมื่อเราอยากไหว้พระธาตุ เช่าจตุคาม หรือแวะสูดอากาศบริสุทธิ์ที่คีรีวงศ์

( เป็นไงล่ะ บางทีมาถึงหาดใหญ่สามวันแล้วยังไม่ถึงพัทลุงเลย )

( หมูย่างเมืองตรัง)

2.รถไฟ มีรถไฟวิ่งผ่านจังหวัดด้วยนะเออ ใช้เวลาน้อยนิดในการเดินทาง 15-18 ชั่วโมง สำหรับ กทม - พัทลุง เราจะได้ชื่นชมธรรมชาติในวิถีรถไฟอย่างเต็มที่ จนรับรองได้ว่าแน่นอก

3.รถทัวร์ สำหรับ 10 ชั่วโมง บนเบาะนวด ( ไม่เคยคิดว่ามันจะนวดได้เลย ฮ่าๆ ) แถมได้แวะกินข้าวกลางดึก เสี่ยงกรดไหลย้อนอย่างดีงาม ครัวคุณสาหร่าย แต่ไม่เคยได้กินสาหร่ายสักกะที ลงทุกทีก็มีแต่ผักบุ้งไฟแดง

พัทลุง สไตล์

พัทลุงเป็นเมืองเกษตรกรรม กรีดยาง ทำนา ประมง เป็นหลัก

ตัดยาง / กรีดยาง/ หวะยาง

ถึงแม้ยางราคาตก. เราก็ยังยึดอาชีพนี้อยู่ เป็นวิถึปกติของคนภาคใต้ สวนยางในพัทลุง ถ่ายรูปออกมาแล้วชิคมาก ไม่ต้องไปถึงเกาหลี เป็นโลเกชั่นที่ห้ามพลาดถ้าอยากได้ภาพชิคๆค่ะ

ปลูกข้าว

นอกจากจะปลูกและกรีดยางกันแล้ว พัทลุงยังมีการทำนาด้วยนะจ้ ะ มีข้าวประจำจังหวัดชื่อ "ข้าวสังหยด" เป็นที่เชิดหน้าชูตาของคนประจำจังหวัด

( นี่ก็เป็นเป็นโลเกชั่นที่ห้ามพลาดถ้าอยากได้ภาพชิคๆค่ะ หมายเหตุ ภาพประกอบไม่ใช้ข้าวพันธ์สังหยดนะจ้ะ )

ประมง

พัทลุงไม่มีทะเล แต่มีทะเลน้อย กุ้งแม้น้ำ ปลาน้ำจืด ไข่ปลาทอด ปลาดุกร้า เป็นสินค้าขึ้นชื่อของทะเลน้อย บอกเลยต้องชิม

ที่นี่ สถานีอาหารพัทลุง

พัทลุงมีอาหาร ขนม บ้านๆ ที่หากินยาก มากมายหลายอย่าง หาซื้อกินง่าย ราคาถูก

ขนมจีน

ตื่นเช้ามาตามวิถีคนที่นี่ ต้องกินหนมจีน ( ขนมจีน ) จานละ 10 บาท อิ่มยันเที่ยง ( ปริมาณและคุณภาพแบบนี้ กทม จานละ 30-40 บาท) ตื่นมาก็ซัดกันเลย บทบัญญัติที่บอกว่ามื้อเช้า ให้ทานอาหารอ่อนๆ ไม่เคยมีในมโนคติของคนพัทลุง และคนใต้อาหารเผ็ด น้ำแกงหนมจีน ช่วยให้เราตื่นมาจากภวัง และเรารอคอยการตื่นมากินขนม จีน ทุกทุกเช้า

น้ำแกงหนมจีนบ้านเรามีไม่กี่ชนิด ออริจินอลจริงๆคือ
1.น้ำแกงเผ็ด ( แกงคั่วๆ รสชาติเผ็ดร้อน )
2.น้ำแกงยำ หวานๆ สำหรับเด็ก และช่วยลดความเผ็ดจากแกงเผ็ด ( รสชาติคล้ายๆน้ำแกงน้ำพริก แต่น้ำแกงจะไม่ข้น และไม่เปรี้ยว ออกรสหวานมากหว่า)
3.แกงตรัง ( น้ำแกงกะทินั่นเอง สงสัยน้ำแกงนี้จะได้รับอิทธิพลมาจากเมืองตรัง เมืองเพื่อนบ้าน )

ขนมจีนแกงเขียวหวานแบบนี้ ถือว่าเป็นฟิวชั่นฟู๊ด ของพัทลุงค่ะ

เครื่องเคียงของขนมจีน
1.ผัก ตามฤดูกาล ช่วงนี้น้ำท่วมในหลายอำเภอ เราเลยมีแต่ถั่วงอกมาแกล้ม
2.ต้มเท่ ( ต้มกะทิ ) หยวกกล้วย ผักบุ้ง ยอดหัวมัน > เมนูโปรดของเรา
3.ผักดอง มักนิยมดองด้วย มะละกอดิบ ผักเสี้ยน !!

หรือกินเคียงกับสะตอ

คำนิยม
สะตอเบอร์รี่ พันธุ์พื้นเมือง สามารถหาได้ตามพื้นที่เชิงราบสูง สันดอย เนินผา นิยมทานกับพริกเกลือ หรือทานคู่กับไอศครีม เค้ก โยเกิร์ต กินได้ทั้งแบบสด ดอง ต้ม ผัด แกง ทอด ก็จะหอมอร่อยในพริบตา ( ใช่ไหม )

สรรพคุณ ช่วยลดอาการฉี่กะปิปกะปอย และช่วยทำให้กลิ่นฉี่หอมสดช ื่น ลดกลิ่นฉงเยี่ยว อะโรมาเทอระปี้ ลดการใช้ตะใคร้หอมในห้องน้ำ

อื่อหื่อออ กลิ่นมาดามหอมชื่นใจ

2.ข้าวเหนียวไก่ทอด

ไก่ทอดใต้แท้ ต้องไม่ชุบแป้ง ไม่น้ำจิ้ม มีดีที่หอมกระเจี้ยว เอร้ย หอมเจียว !! กรอบๆ เปิบพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ ไก่ทอด

อืมมมม ....... ดีออก

ห่อนี้ 25 บาท ( ปีกไก่ชิ้นละ 10 บาท ข้าวเหนียว 5 บาท )

3.ขนมครก

หนมครกโบราณ ทำจากแป้งและกะทิล้วนๆ กินตอนร้อนๆ จิ้มน้ำตาล ฝนตกๆ อากาศเย็นๆ อร่อยมาก ไม่ใช่ขนมครกชาววัง ที่มีไส้เผือก ข้าวโพด อะไรพวกนั้นนะ ไม่เหมือนกัน อันนี้อร่อยกว่า

4.มะม่วงหิมพานเคลือบคาราเมล

ใช่ป้ะ ??
มันคือ
หัวครก / ยาร่วง ในนามของมะม่วงหิมพาน เคลือบน้ำตาล ( หัวครกราน้ำผึ้ง ) แผ่นละ 10 บาท ( กาแลตปอปคอร์นก็สู้ไม่ได้)

5.จำปะดะทอด

จำปะดะ มีลักษณะคล้านขนุน แต่จะมีความหวาน นิ่ม และกลิ่นแรงกว่าขนุน นิยมทานสด หรือเอามาทอดแบบกล้วยแขก

6.หนมชั้ง / ช้าง / ซัง

เป็นขนมทำมาจากข้าวเหนียว นำไปห่อกับใบไผ่ให้เป็นรูปสามเหลี่ยม แล้วมัดด้วยเชือก แล้วนำไปนึ่ง คนบางกอกนิยมทานแบบใส่น้ำเชื่อม น้ำแข็ง ทานเป็นของหวาน ส่วนคนพัทลุงนิยมทานแบบ จิ้มกินกับน้ำตาลแดง