แวะถ่ายรูปจุดชมวิวข้าวหลามครับ
มีทะเลหมอกด้วย ลุ้นอยู่ว่าที่บ้านจาโบ่จะเป็นยังไง
และแล้วก็มาถึงประมาณ9โมงพอดี น่าเสียดายมาช้าไปมาก ที่จริงตอนมาถึงหมอกคลุมขาวหมดเลยครับ นี้รอสักพักหมอกเริ่มจางไปเลยหมอกเห็นเหลือไกลๆครับ แต่ก็ยังสวยงามนะครับถึงจะมีไม่เยอะ
ไม่พลาดครับมาถึงนี้ต้องกินก็วยเตี๋ยวห้อยขา แต่ที่ห้อยขาเต็ม กินโต๊ะนี้แหละแล้วค่อยไปขอเขาถ่ายรูป 555 รสชาติอร่อยดีครับราคาไม่แพง
กินเสร็จก็ไปห้อยขากันครับ หรือจะห้อยหัวก็แล้วแต่555
ท่าคู่ต้องมา แบ็คกราวเพียบเลย คิคิ
ได้เวลาโบกมือลาบ้านจาโบ่ ที่จริงวันนี้มีทะเลหมอกสวยมากเลยครับแต่ตอนพระอาทิตย์ขึ้นแต่เช้าเลยคนที่ร้านเปิดรูปให้ดูพอ7โมงกว่าๆหมอกก็ปกคลุมไปหมดเลย
ขับมาสักพักเส้นทางปายบางปะม้า ก็จะเจอจุดชมวิวกิ่วลมครับ จอดแน่นอนถ่ายรูปกัน
ถ่ายรูปกะน้องๆหน่อย คนละ 20 ยืมหมวกน้องใส่ น้องบอกอย่าทำหล่นนะ 1500 บร๊ะะะ
อีกฝั่งก็เป็นจุดชมวิวครับ มีชิงช้า เฟี้ยวมาก
จุดหมายต่อไปคือ ปาย แต่จะแวะถ่ายรูปนิดหน่อยครับ ไม่ได้นอน
ขับวนไปมาครับมาเจอบ้านนี้เข้าครับ น่าจะบ้านดังๆที่เคยเห็นในรีวิวแต่ไม่ได้แวะหรอกถ่ายรูปเฉยๆจะไปร้านกาแฟ
ขับมาอีกหน่อยก็ถึงร้านกาแฟ คอฟฟี่ อิน เลิฟ ครับที่ดังๆ คนเยอะเชียว
บริเวรรอบๆเนื้อที่เยอะนะครับ แต่ตรงร้านกาแฟที่นั่งมีนิดเดียวเองไม่ค่อยโล่ง ส่วนรสชาติผมว่าไม่ค่อยอร่อย แอบแพงนิดนึง 555 แต่บางคนอาจจะชอบ คนคงมาตามๆกัน
จุดต่อไปสะพานประวัติศาสตร์ปาย ร้อนได้ใจมากครับตอนนี้ เอ้าถ่ายๆๆรูปกัน
Bike for fan ปั่น ปั่นจักยานไป อิอิ
พอออกจากจุดนี้ละครับก็เริ่มเป็นจุดที่ทำถนนกันจริงจังแล้ว ถนนไม่ค่อยดีครับทำถนนตลอดทางจนลงถึงเชียงใหม่ ขับช้าๆตามกันไปและถนนแคบเป็นเขาเหมือนเดิมครับ ฝุ่นเยอะมาก
พอลงมาถึงมาเตงหรือป่าวไม่แน่ใจทางที่จะไปเชียงดาวครับ อยู่ดีๆ ล้อหน้าก็ดังมากเหมือนเหล็กสีกะเหล็ก งานเข้าละ ลงไปดูที่จานเบรคเป็นรอย แต่ขับไปได้สักพักก็หาย ไม่รู้ว่าหินไปเขาผ้าเบรคหรือว่า ผ้าเบรคหมดมันเลยมีตัวที่บอกว่าผ้าเบรคจะหมดดังเตือนแต่โชคดีที่มาดังตรงพื้นราบแล้ว ก็เลยหาร้านจอดพักเพื่อความชัว ใครจะมาเดินทางไกลก็เช็คเบรคมาให้ดีๆนะครับ แต่ก่อนมาผมก็เช็คแล้วละว่ายังไม่หมด แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังปกตินะครับ แต่หลังปีใหม่จะเปลี่ยนผ้าเบรคละ ใช้มานานแล้ว มาต่อ ผมเวะร้านตามสั่ง พอดีหมูที่ซื้อเพิ่มเมื่อวานเหลือ เลยขอให้เขาทำผัดเป็นกับข้าวแล้วคิดค่าทำ รวมมื้อนี้ 320 งิ ก็ไม่ได้ถูกเลยนะ 555 พักให้หายเหนื่อยกันสักแปบ
ออกจากร้านข้าววิ่งมาเรื่อนตามทาง เลี้ยวซ้ายขึ้นเชียงดาวผ่านที่ทำการอุทยานเสียอีก 110 บาท จากตัวอุทยานขึ้นไปบ้านวิวดอยหลวงที่พักเราคืนนี้ ประมาณ 10 โล ขึ้นเขาแต่เป็นช่วงนี้ แคบมากกว่าที่ผ่านมาอีกรถสวนกันลำบากมาก ต้องกดแตรทุกโค้งงเพราะเป็นมุมอับ หวาดเสียวดีครับ แต่ก้มาจนถึง บ้านวิวดอยหลวงนี้จะอยู๋ติดกับบ้านระเบียงดาว จะวิวคล้ายกันของบ้านวิวดอยหลวงจะอยู่สูงกว่า แต่อยู่ห่างจากตัวเขากว่าบ้านระเบียงดาว
บรรยากาศรอบๆ
ห้องนอนจะเป็นห้องเปิดไม่มีประตูนอนในมุ้ง แต่ละหลังจะห่างกันระยะนึงไม่ใกล้มาก ก็ยังเป้นส่วนตัวดีครับ ห้องน้ำรวม
ราคาคนละ 400 บาท พร้อมอาหารมื้อเย็นและมื้อเช้าเติมได้
เครื่องดื่มเขาเราคืนนี้อันนี้ประหยัดไปอีกหน่อยเพราะชุดนี้ซื้อมาจาก Duty Free ที่ด่านช็อกเม้กที่ไปเที่ยวลาวมาทริปอาทิตย์ก่อนก่อน ขวดละ40 กว่าบาทเอง
แล้วพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปครับ
ลงมากินอาหารก็มี ต้มไก่ ไข่เจียว แล้วก็ผัดไรสักอย่างลืมแล้ว รสชาติกลางๆครับ กินจนอิ่มก็อาบน้ำกัน น้ำหนาวเย็นดี
พอฟ้ามือสนิทดวงดาวก็โผล่ออกมาเยอะมากก ละลานตาเลย สวยมากครับ
ประมาณสี่ทุ่มผมก็เดินมาถ่ายรูปแถวจุดชมวิวอีกรอบ
ปิดท้ายคืนนี้ ด้วยความหลอนนน 5555 นอนหลับสบายเลยไม่หนาวมากคืนนี้
ตื่นเช้ามาด้วยอากาศเย็นสบาย
มีหมอกน้อยๆอยู่ข้างล่าง
เดินลงมาถ่ายรูปที่บ้านระเบียงดาว หน้าไม่ต้องล้าง ฟันยังไม่แปรง
จากนั้นก็มาอาบน้ำเตรียมกลับกันครับ แต่ห้องน้ำห้องที่สองนี้มีงูลอกคราบไว้ น่าสยองมากครับ เห็นแต่เมื่อวานและ ไม่มีใครกล้าเอาออกเวลาจะเข้าห้องน้ำก็ต้องมุดหัวเข้าไปสยองดีครับ ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้หลายวันหรือยังหรือเป็นมาตลอด บรึ๋ยย
สูดอากาศให้สดชื่น เต็มๆปอดด
แดดมาแล้ว ลงไปถ่ายที่ระเบียงดาวอีกรอบ
มื้อเช้าเป็นข้าวต้มร้อนๆ อร่อยดีครับ
จากนั้นพอลง ก็วิ่งกลับละครับ ก่อนกลับแวะ ร้านกาแฟฮิมน้ำก่อน อยู่ตรงด่านตรวจเชียงดาวพอดี
ร้านบรรยากาศดีมากาครับ ริมน้ำด้วยชิวสุดๆ
กาแฟมันหวานจริงๆ อ๋อลืมไปไม่ได้สั่งกาแฟ อิอิ
จุดหมายต่อไปของวันนี้ที่จริงจะไปวัดเฉลิมพระเกียรติ เราก็กด MAP เลย อันนี้พลาดอีกดอก ลืมซูมดูเส้นทางว่าทางมันปกติหรือป่าววิ่งไปตามเส้นสีฟ้าจนจะถึงตัวเลข1252 จาดรูปล่างปรากฎเป็นถนนบนเขาแคบๆ แล้วทางแบบว่าเป็นหลุมบ่อเละเยอะมาก รถน้อยเปลี่ยวด้วยเลย ซูมดู ถนนคดเป็นงูเลย กำ พลาดซะแล้ว จะไปต่อก็กลัวจะไม่รอดเพราะรถเตี้ยเดี่ยวจะไปไม่ไหว เลยต้องวิ่งย้อนกลับ เปลี่ยนจุดหมายมาเป็นแกรนแคนย่อน เสียเวลาไป ชม. นึง
พอมาแกรนแคนย่อนอีก google map นี้พามั่วอีกแล้ว เข้าซ้อยเล็กๆแต่ว่าซอยนี้คงมีคนขับตาม Gps มาตรงนี้ทุกวันอ่ะ เขาเลยติดป้ายไว้ปากซอยเลย ว่าไม่ใช่ซอยนี้นะโว้ยยยย ออกไปปากทางเลี้ยวขวาไปสองโลแล้วเข้าซอยขวามือแล้วจะถึงแกรนแคนย่อน อ่อ เป็นอย่างงี้นี้เอง
ถึงแล้ว เสียค่าเข้าอีกคนละ 50 บาท แลกเป็นน้ำได้คนละแก้ว
กว้างใหญ่มาก น่าหวาดเสียวด้วย ต้องเดินกันระวังๆนะครับ
มาแกรนตั้งใจจะมาถ่าย
ถะถ่าย
ถ่ายย
ถ่ายนางแบบของเราห่อมาจากกรุงเทพ 55
แต่มือมันดันไปถ่ายยย
ถ่ายย 5555
พอเถอะผู้ชายมั้ง มีแต่ฝรั่งที่เล่นน้ำครับ ไม่กลัวกันด้วยแหะ น้ำดูนิ่งๆน่ากลัวดี
กลับบ้านกันเถอะ
ออกจากแกรนแคนย่อนแวะกินข้าวร้านแถวลำพูน จากนั้นก่อนจะดิ่งกลับแวะไหว้พระที่พระธาตุลำปางหลวงหน่อยครับ เมืองรถม้า
นุ่งสั่นมา มีผ้าถุงให้ใส่ดูเป็นสาวเหนือไปอีกแบบ
ไหว้พระขอพรกันก่อนเดินทางกลับ
น้องม้าละตัวนี้ท่าจะยืนกันทั้งวันน่าสงสาร อันนี้ขอถ่ายรูปคิด 20 บาทครับกล้องของเราเอง
ออกจากลำปาง ยิงยาวเลยครับ มาพักอีกทีนครสวรรค์เลย พอดีทริปนี้ เราเอาเงินออกมาเป็นกลองกลางก่อนคนละ 2500 ทีนี้มันเหลือ เกือบ 400 เลยจัดมื้อส่งท้าย แม็คโดนัล ซะเลย ใช้เงินกลองกลางให้หมด
จากนั้นก็ยิงเข้า กทม แวะส่งสมาชิกถึงบ้านโดยสวัสดีภาพทุกคน จบทริป เที่ยงคืนพอดี จัดไป 2324 โล ที่นอกเส้นทาง น่าจะ 100กว่าโล 555 ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี
สรุปค่าใช้จ่าย
แก้ส 1900
น้ำมัน 1400 ช่วงแม่ฮ่องสอนวิ่งแต่น้ำมันแก้สหมดมีแต่เขา
ค่าเข้าอินทนน 230
ค่ากิ่วแม่ปาน 200
ข้าวเช้าที่กิ่ว 120
มาม่ากาแฟกลางวัน 70
ซื้อหมูเพิ่ม 200
ค่าเข้าปางอุ่ง 200
เต็นปางอุ่ง 500
มื้อเย็นปางอุ่งบวกจิปาถะ 590
ก๊วยเตี๋ยวบ้านจาโบ่ 170
กาแฟที่ปาย 268
อาหารกลางวันที่สอง 320
เครื่องดื่มน้ำแข้ง 305
ค่าเข้าเชียงดาว 110
ยากันยุง 25
ค่าที่พักบ้านวิวดอยหลวง 1600 อาหารสองมื้อสี่คน
กาแฟฮิมน้ำ 175
ค่าเข้าแกรน 200
ข้าวกลางวันที่สาม 207
ค่าเช่าผ้าร่มที่วัดลำปาง 100
แล้วก็มื้อเ็นที่แมคดดนัล 400
ทุกอย่างข้างบนหาร 4 นะครับ คิดไปมาแล้วยังขาดรายจ่ายอีกอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่ได้จด แต่ที่รวมๆแล้วก็ประมาณนี้ คนละ 2500 เหลือๆครับ ตามนี้เลย
จบไปอีกหนึ่งทริป ทุกทริปที่ไปล้วนมีความทรงจำกลับมาเสมอไม่ว่าดีหรือไม่ดี ยังไงก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ถ้าไม่ก้าวออกไปยังไงก็คงไม่เข้าใจว่า เมืองไทยยังมีสถานที่ต่างๆรอให้เราออกไปสัมผัสครับ ยังมีเรี่ยวมีแรงรีบออกไปเที่ยวกันนะครับ
แล้วพบกันใหม่กับคู่รักตลอนทัวร์ วันนี้สวัสดีครับ
เที่ยวทั่วไทย ไปกับ วีออส
แวะถ่ายรูปจุดชมวิวข้าวหลามครับ
มีทะเลหมอกด้วย ลุ้นอยู่ว่าที่บ้านจาโบ่จะเป็นยังไง
และแล้วก็มาถึงประมาณ9โมงพอดี น่าเสียดายมาช้าไปมาก ที่จริงตอนมาถึงหมอกคลุมขาวหมดเลยครับ นี้รอสักพักหมอกเริ่มจางไปเลยหมอกเห็นเหลือไกลๆครับ แต่ก็ยังสวยงามนะครับถึงจะมีไม่เยอะ
ไม่พลาดครับมาถึงนี้ต้องกินก็วยเตี๋ยวห้อยขา แต่ที่ห้อยขาเต็ม กินโต๊ะนี้แหละแล้วค่อยไปขอเขาถ่ายรูป 555 รสชาติอร่อยดีครับราคาไม่แพง
กินเสร็จก็ไปห้อยขากันครับ หรือจะห้อยหัวก็แล้วแต่555
ท่าคู่ต้องมา แบ็คกราวเพียบเลย คิคิ
ได้เวลาโบกมือลาบ้านจาโบ่ ที่จริงวันนี้มีทะเลหมอกสวยมากเลยครับแต่ตอนพระอาทิตย์ขึ้นแต่เช้าเลยคนที่ร้านเปิดรูปให้ดูพอ7โมงกว่าๆหมอกก็ปกคลุมไปหมดเลย
ขับมาสักพักเส้นทางปายบางปะม้า ก็จะเจอจุดชมวิวกิ่วลมครับ จอดแน่นอนถ่ายรูปกัน
ถ่ายรูปกะน้องๆหน่อย คนละ 20 ยืมหมวกน้องใส่ น้องบอกอย่าทำหล่นนะ 1500 บร๊ะะะ
อีกฝั่งก็เป็นจุดชมวิวครับ มีชิงช้า เฟี้ยวมาก
จุดหมายต่อไปคือ ปาย แต่จะแวะถ่ายรูปนิดหน่อยครับ ไม่ได้นอน
ขับวนไปมาครับมาเจอบ้านนี้เข้าครับ น่าจะบ้านดังๆที่เคยเห็นในรีวิวแต่ไม่ได้แวะหรอกถ่ายรูปเฉยๆจะไปร้านกาแฟ
ขับมาอีกหน่อยก็ถึงร้านกาแฟ คอฟฟี่ อิน เลิฟ ครับที่ดังๆ คนเยอะเชียว
บริเวรรอบๆเนื้อที่เยอะนะครับ แต่ตรงร้านกาแฟที่นั่งมีนิดเดียวเองไม่ค่อยโล่ง ส่วนรสชาติผมว่าไม่ค่อยอร่อย แอบแพงนิดนึง 555 แต่บางคนอาจจะชอบ คนคงมาตามๆกัน
จุดต่อไปสะพานประวัติศาสตร์ปาย ร้อนได้ใจมากครับตอนนี้ เอ้าถ่ายๆๆรูปกัน
Bike for fan ปั่น ปั่นจักยานไป อิอิ
พอออกจากจุดนี้ละครับก็เริ่มเป็นจุดที่ทำถนนกันจริงจังแล้ว ถนนไม่ค่อยดีครับทำถนนตลอดทางจนลงถึงเชียงใหม่ ขับช้าๆตามกันไปและถนนแคบเป็นเขาเหมือนเดิมครับ ฝุ่นเยอะมาก
พอลงมาถึงมาเตงหรือป่าวไม่แน่ใจทางที่จะไปเชียงดาวครับ อยู่ดีๆ ล้อหน้าก็ดังมากเหมือนเหล็กสีกะเหล็ก งานเข้าละ ลงไปดูที่จานเบรคเป็นรอย แต่ขับไปได้สักพักก็หาย ไม่รู้ว่าหินไปเขาผ้าเบรคหรือว่า ผ้าเบรคหมดมันเลยมีตัวที่บอกว่าผ้าเบรคจะหมดดังเตือนแต่โชคดีที่มาดังตรงพื้นราบแล้ว ก็เลยหาร้านจอดพักเพื่อความชัว ใครจะมาเดินทางไกลก็เช็คเบรคมาให้ดีๆนะครับ แต่ก่อนมาผมก็เช็คแล้วละว่ายังไม่หมด แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังปกตินะครับ แต่หลังปีใหม่จะเปลี่ยนผ้าเบรคละ ใช้มานานแล้ว มาต่อ ผมเวะร้านตามสั่ง พอดีหมูที่ซื้อเพิ่มเมื่อวานเหลือ เลยขอให้เขาทำผัดเป็นกับข้าวแล้วคิดค่าทำ รวมมื้อนี้ 320 งิ ก็ไม่ได้ถูกเลยนะ 555 พักให้หายเหนื่อยกันสักแปบ
ออกจากร้านข้าววิ่งมาเรื่อนตามทาง เลี้ยวซ้ายขึ้นเชียงดาวผ่านที่ทำการอุทยานเสียอีก 110 บาท จากตัวอุทยานขึ้นไปบ้านวิวดอยหลวงที่พักเราคืนนี้ ประมาณ 10 โล ขึ้นเขาแต่เป็นช่วงนี้ แคบมากกว่าที่ผ่านมาอีกรถสวนกันลำบากมาก ต้องกดแตรทุกโค้งงเพราะเป็นมุมอับ หวาดเสียวดีครับ แต่ก้มาจนถึง บ้านวิวดอยหลวงนี้จะอยู๋ติดกับบ้านระเบียงดาว จะวิวคล้ายกันของบ้านวิวดอยหลวงจะอยู่สูงกว่า แต่อยู่ห่างจากตัวเขากว่าบ้านระเบียงดาว
บรรยากาศรอบๆ
ห้องนอนจะเป็นห้องเปิดไม่มีประตูนอนในมุ้ง แต่ละหลังจะห่างกันระยะนึงไม่ใกล้มาก ก็ยังเป้นส่วนตัวดีครับ ห้องน้ำรวม
ราคาคนละ 400 บาท พร้อมอาหารมื้อเย็นและมื้อเช้าเติมได้
เครื่องดื่มเขาเราคืนนี้อันนี้ประหยัดไปอีกหน่อยเพราะชุดนี้ซื้อมาจาก Duty Free ที่ด่านช็อกเม้กที่ไปเที่ยวลาวมาทริปอาทิตย์ก่อนก่อน ขวดละ40 กว่าบาทเอง
แล้วพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปครับ
ลงมากินอาหารก็มี ต้มไก่ ไข่เจียว แล้วก็ผัดไรสักอย่างลืมแล้ว รสชาติกลางๆครับ กินจนอิ่มก็อาบน้ำกัน น้ำหนาวเย็นดี
พอฟ้ามือสนิทดวงดาวก็โผล่ออกมาเยอะมากก ละลานตาเลย สวยมากครับ
ประมาณสี่ทุ่มผมก็เดินมาถ่ายรูปแถวจุดชมวิวอีกรอบ
ปิดท้ายคืนนี้ ด้วยความหลอนนน 5555 นอนหลับสบายเลยไม่หนาวมากคืนนี้
ตื่นเช้ามาด้วยอากาศเย็นสบาย
มีหมอกน้อยๆอยู่ข้างล่าง
เดินลงมาถ่ายรูปที่บ้านระเบียงดาว หน้าไม่ต้องล้าง ฟันยังไม่แปรง
จากนั้นก็มาอาบน้ำเตรียมกลับกันครับ แต่ห้องน้ำห้องที่สองนี้มีงูลอกคราบไว้ น่าสยองมากครับ เห็นแต่เมื่อวานและ ไม่มีใครกล้าเอาออกเวลาจะเข้าห้องน้ำก็ต้องมุดหัวเข้าไปสยองดีครับ ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้หลายวันหรือยังหรือเป็นมาตลอด บรึ๋ยย
สูดอากาศให้สดชื่น เต็มๆปอดด
แดดมาแล้ว ลงไปถ่ายที่ระเบียงดาวอีกรอบ
มื้อเช้าเป็นข้าวต้มร้อนๆ อร่อยดีครับ
จากนั้นพอลง ก็วิ่งกลับละครับ ก่อนกลับแวะ ร้านกาแฟฮิมน้ำก่อน อยู่ตรงด่านตรวจเชียงดาวพอดี
ร้านบรรยากาศดีมากาครับ ริมน้ำด้วยชิวสุดๆ
กาแฟมันหวานจริงๆ อ๋อลืมไปไม่ได้สั่งกาแฟ อิอิ
จุดหมายต่อไปของวันนี้ที่จริงจะไปวัดเฉลิมพระเกียรติ เราก็กด MAP เลย อันนี้พลาดอีกดอก ลืมซูมดูเส้นทางว่าทางมันปกติหรือป่าววิ่งไปตามเส้นสีฟ้าจนจะถึงตัวเลข1252 จาดรูปล่างปรากฎเป็นถนนบนเขาแคบๆ แล้วทางแบบว่าเป็นหลุมบ่อเละเยอะมาก รถน้อยเปลี่ยวด้วยเลย ซูมดู ถนนคดเป็นงูเลย กำ พลาดซะแล้ว จะไปต่อก็กลัวจะไม่รอดเพราะรถเตี้ยเดี่ยวจะไปไม่ไหว เลยต้องวิ่งย้อนกลับ เปลี่ยนจุดหมายมาเป็นแกรนแคนย่อน เสียเวลาไป ชม. นึง
พอมาแกรนแคนย่อนอีก google map นี้พามั่วอีกแล้ว เข้าซ้อยเล็กๆแต่ว่าซอยนี้คงมีคนขับตาม Gps มาตรงนี้ทุกวันอ่ะ เขาเลยติดป้ายไว้ปากซอยเลย ว่าไม่ใช่ซอยนี้นะโว้ยยยย ออกไปปากทางเลี้ยวขวาไปสองโลแล้วเข้าซอยขวามือแล้วจะถึงแกรนแคนย่อน อ่อ เป็นอย่างงี้นี้เอง
ถึงแล้ว เสียค่าเข้าอีกคนละ 50 บาท แลกเป็นน้ำได้คนละแก้ว
กว้างใหญ่มาก น่าหวาดเสียวด้วย ต้องเดินกันระวังๆนะครับ
มาแกรนตั้งใจจะมาถ่าย
ถะถ่าย
ถ่ายย
ถ่ายนางแบบของเราห่อมาจากกรุงเทพ 55
แต่มือมันดันไปถ่ายยย
ถ่ายย 5555
พอเถอะผู้ชายมั้ง มีแต่ฝรั่งที่เล่นน้ำครับ ไม่กลัวกันด้วยแหะ น้ำดูนิ่งๆน่ากลัวดี
กลับบ้านกันเถอะ
ออกจากแกรนแคนย่อนแวะกินข้าวร้านแถวลำพูน จากนั้นก่อนจะดิ่งกลับแวะไหว้พระที่พระธาตุลำปางหลวงหน่อยครับ เมืองรถม้า
นุ่งสั่นมา มีผ้าถุงให้ใส่ดูเป็นสาวเหนือไปอีกแบบ
ไหว้พระขอพรกันก่อนเดินทางกลับ
น้องม้าละตัวนี้ท่าจะยืนกันทั้งวันน่าสงสาร อันนี้ขอถ่ายรูปคิด 20 บาทครับกล้องของเราเอง
ออกจากลำปาง ยิงยาวเลยครับ มาพักอีกทีนครสวรรค์เลย พอดีทริปนี้ เราเอาเงินออกมาเป็นกลองกลางก่อนคนละ 2500 ทีนี้มันเหลือ เกือบ 400 เลยจัดมื้อส่งท้าย แม็คโดนัล ซะเลย ใช้เงินกลองกลางให้หมด
จากนั้นก็ยิงเข้า กทม แวะส่งสมาชิกถึงบ้านโดยสวัสดีภาพทุกคน จบทริป เที่ยงคืนพอดี จัดไป 2324 โล ที่นอกเส้นทาง น่าจะ 100กว่าโล 555 ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี
สรุปค่าใช้จ่าย
แก้ส 1900
น้ำมัน 1400 ช่วงแม่ฮ่องสอนวิ่งแต่น้ำมันแก้สหมดมีแต่เขา
ค่าเข้าอินทนน 230
ค่ากิ่วแม่ปาน 200
ข้าวเช้าที่กิ่ว 120
มาม่ากาแฟกลางวัน 70
ซื้อหมูเพิ่ม 200
ค่าเข้าปางอุ่ง 200
เต็นปางอุ่ง 500
มื้อเย็นปางอุ่งบวกจิปาถะ 590
ก๊วยเตี๋ยวบ้านจาโบ่ 170
กาแฟที่ปาย 268
อาหารกลางวันที่สอง 320
เครื่องดื่มน้ำแข้ง 305
ค่าเข้าเชียงดาว 110
ยากันยุง 25
ค่าที่พักบ้านวิวดอยหลวง 1600 อาหารสองมื้อสี่คน
กาแฟฮิมน้ำ 175
ค่าเข้าแกรน 200
ข้าวกลางวันที่สาม 207
ค่าเช่าผ้าร่มที่วัดลำปาง 100
แล้วก็มื้อเ็นที่แมคดดนัล 400
ทุกอย่างข้างบนหาร 4 นะครับ คิดไปมาแล้วยังขาดรายจ่ายอีกอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่ได้จด แต่ที่รวมๆแล้วก็ประมาณนี้ คนละ 2500 เหลือๆครับ ตามนี้เลย
จบไปอีกหนึ่งทริป ทุกทริปที่ไปล้วนมีความทรงจำกลับมาเสมอไม่ว่าดีหรือไม่ดี ยังไงก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ถ้าไม่ก้าวออกไปยังไงก็คงไม่เข้าใจว่า เมืองไทยยังมีสถานที่ต่างๆรอให้เราออกไปสัมผัสครับ ยังมีเรี่ยวมีแรงรีบออกไปเที่ยวกันนะครับ
แล้วพบกันใหม่กับคู่รักตลอนทัวร์ วันนี้สวัสดีครับ
เที่ยวทั่วไทย ไปกับ วีออส
แวะถ่ายรูปจุดชมวิวข้าวหลามครับ
มีทะเลหมอกด้วย ลุ้นอยู่ว่าที่บ้านจาโบ่จะเป็นยังไง
และแล้วก็มาถึงประมาณ9โมงพอดี น่าเสียดายมาช้าไปมาก ที่จริงตอนมาถึงหมอกคลุมขาวหมดเลยครับ นี้รอสักพักหมอกเริ่มจางไปเลยหมอกเห็นเหลือไกลๆครับ แต่ก็ยังสวยงามนะครับถึงจะมีไม่เยอะ
ไม่พลาดครับมาถึงนี้ต้องกินก็วยเตี๋ยวห้อยขา แต่ที่ห้อยขาเต็ม กินโต๊ะนี้แหละแล้วค่อยไปขอเขาถ่ายรูป 555 รสชาติอร่อยดีครับราคาไม่แพง
กินเสร็จก็ไปห้อยขากันครับ หรือจะห้อยหัวก็แล้วแต่555
ท่าคู่ต้องมา แบ็คกราวเพียบเลย คิคิ
ได้เวลาโบกมือลาบ้านจาโบ่ ที่จริงวันนี้มีทะเลหมอกสวยมากเลยครับแต่ตอนพระอาทิตย์ขึ้นแต่เช้าเลยคนที่ร้านเปิดรูปให้ดูพอ7โมงกว่าๆหมอกก็ปกคลุมไปหมดเลย
ขับมาสักพักเส้นทางปายบางปะม้า ก็จะเจอจุดชมวิวกิ่วลมครับ จอดแน่นอนถ่ายรูปกัน
ถ่ายรูปกะน้องๆหน่อย คนละ 20 ยืมหมวกน้องใส่ น้องบอกอย่าทำหล่นนะ 1500 บร๊ะะะ
อีกฝั่งก็เป็นจุดชมวิวครับ มีชิงช้า เฟี้ยวมาก
จุดหมายต่อไปคือ ปาย แต่จะแวะถ่ายรูปนิดหน่อยครับ ไม่ได้นอน
ขับวนไปมาครับมาเจอบ้านนี้เข้าครับ น่าจะบ้านดังๆที่เคยเห็นในรีวิวแต่ไม่ได้แวะหรอกถ่ายรูปเฉยๆจะไปร้านกาแฟ
ขับมาอีกหน่อยก็ถึงร้านกาแฟ คอฟฟี่ อิน เลิฟ ครับที่ดังๆ คนเยอะเชียว
บริเวรรอบๆเนื้อที่เยอะนะครับ แต่ตรงร้านกาแฟที่นั่งมีนิดเดียวเองไม่ค่อยโล่ง ส่วนรสชาติผมว่าไม่ค่อยอร่อย แอบแพงนิดนึง 555 แต่บางคนอาจจะชอบ คนคงมาตามๆกัน
จุดต่อไปสะพานประวัติศาสตร์ปาย ร้อนได้ใจมากครับตอนนี้ เอ้าถ่ายๆๆรูปกัน
Bike for fan ปั่น ปั่นจักยานไป อิอิ
พอออกจากจุดนี้ละครับก็เริ่มเป็นจุดที่ทำถนนกันจริงจังแล้ว ถนนไม่ค่อยดีครับทำถนนตลอดทางจนลงถึงเชียงใหม่ ขับช้าๆตามกันไปและถนนแคบเป็นเขาเหมือนเดิมครับ ฝุ่นเยอะมาก
พอลงมาถึงมาเตงหรือป่าวไม่แน่ใจทางที่จะไปเชียงดาวครับ อยู่ดีๆ ล้อหน้าก็ดังมากเหมือนเหล็กสีกะเหล็ก งานเข้าละ ลงไปดูที่จานเบรคเป็นรอย แต่ขับไปได้สักพักก็หาย ไม่รู้ว่าหินไปเขาผ้าเบรคหรือว่า ผ้าเบรคหมดมันเลยมีตัวที่บอกว่าผ้าเบรคจะหมดดังเตือนแต่โชคดีที่มาดังตรงพื้นราบแล้ว ก็เลยหาร้านจอดพักเพื่อความชัว ใครจะมาเดินทางไกลก็เช็คเบรคมาให้ดีๆนะครับ แต่ก่อนมาผมก็เช็คแล้วละว่ายังไม่หมด แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังปกตินะครับ แต่หลังปีใหม่จะเปลี่ยนผ้าเบรคละ ใช้มานานแล้ว มาต่อ ผมเวะร้านตามสั่ง พอดีหมูที่ซื้อเพิ่มเมื่อวานเหลือ เลยขอให้เขาทำผัดเป็นกับข้าวแล้วคิดค่าทำ รวมมื้อนี้ 320 งิ ก็ไม่ได้ถูกเลยนะ 555 พักให้หายเหนื่อยกันสักแปบ
ออกจากร้านข้าววิ่งมาเรื่อนตามทาง เลี้ยวซ้ายขึ้นเชียงดาวผ่านที่ทำการอุทยานเสียอีก 110 บาท จากตัวอุทยานขึ้นไปบ้านวิวดอยหลวงที่พักเราคืนนี้ ประมาณ 10 โล ขึ้นเขาแต่เป็นช่วงนี้ แคบมากกว่าที่ผ่านมาอีกรถสวนกันลำบากมาก ต้องกดแตรทุกโค้งงเพราะเป็นมุมอับ หวาดเสียวดีครับ แต่ก้มาจนถึง บ้านวิวดอยหลวงนี้จะอยู๋ติดกับบ้านระเบียงดาว จะวิวคล้ายกันของบ้านวิวดอยหลวงจะอยู่สูงกว่า แต่อยู่ห่างจากตัวเขากว่าบ้านระเบียงดาว
บรรยากาศรอบๆ
ห้องนอนจะเป็นห้องเปิดไม่มีประตูนอนในมุ้ง แต่ละหลังจะห่างกันระยะนึงไม่ใกล้มาก ก็ยังเป้นส่วนตัวดีครับ ห้องน้ำรวม
ราคาคนละ 400 บาท พร้อมอาหารมื้อเย็นและมื้อเช้าเติมได้
เครื่องดื่มเขาเราคืนนี้อันนี้ประหยัดไปอีกหน่อยเพราะชุดนี้ซื้อมาจาก Duty Free ที่ด่านช็อกเม้กที่ไปเที่ยวลาวมาทริปอาทิตย์ก่อนก่อน ขวดละ40 กว่าบาทเอง
แล้วพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปครับ
ลงมากินอาหารก็มี ต้มไก่ ไข่เจียว แล้วก็ผัดไรสักอย่างลืมแล้ว รสชาติกลางๆครับ กินจนอิ่มก็อาบน้ำกัน น้ำหนาวเย็นดี
พอฟ้ามือสนิทดวงดาวก็โผล่ออกมาเยอะมากก ละลานตาเลย สวยมากครับ
ประมาณสี่ทุ่มผมก็เดินมาถ่ายรูปแถวจุดชมวิวอีกรอบ
ปิดท้ายคืนนี้ ด้วยความหลอนนน 5555 นอนหลับสบายเลยไม่หนาวมากคืนนี้
ตื่นเช้ามาด้วยอากาศเย็นสบาย
มีหมอกน้อยๆอยู่ข้างล่าง
เดินลงมาถ่ายรูปที่บ้านระเบียงดาว หน้าไม่ต้องล้าง ฟันยังไม่แปรง
จากนั้นก็มาอาบน้ำเตรียมกลับกันครับ แต่ห้องน้ำห้องที่สองนี้มีงูลอกคราบไว้ น่าสยองมากครับ เห็นแต่เมื่อวานและ ไม่มีใครกล้าเอาออกเวลาจะเข้าห้องน้ำก็ต้องมุดหัวเข้าไปสยองดีครับ ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้หลายวันหรือยังหรือเป็นมาตลอด บรึ๋ยย
สูดอากาศให้สดชื่น เต็มๆปอดด
แดดมาแล้ว ลงไปถ่ายที่ระเบียงดาวอีกรอบ
มื้อเช้าเป็นข้าวต้มร้อนๆ อร่อยดีครับ
จากนั้นพอลง ก็วิ่งกลับละครับ ก่อนกลับแวะ ร้านกาแฟฮิมน้ำก่อน อยู่ตรงด่านตรวจเชียงดาวพอดี
ร้านบรรยากาศดีมากาครับ ริมน้ำด้วยชิวสุดๆ
กาแฟมันหวานจริงๆ อ๋อลืมไปไม่ได้สั่งกาแฟ อิอิ
จุดหมายต่อไปของวันนี้ที่จริงจะไปวัดเฉลิมพระเกียรติ เราก็กด MAP เลย อันนี้พลาดอีกดอก ลืมซูมดูเส้นทางว่าทางมันปกติหรือป่าววิ่งไปตามเส้นสีฟ้าจนจะถึงตัวเลข1252 จาดรูปล่างปรากฎเป็นถนนบนเขาแคบๆ แล้วทางแบบว่าเป็นหลุมบ่อเละเยอะมาก รถน้อยเปลี่ยวด้วยเลย ซูมดู ถนนคดเป็นงูเลย กำ พลาดซะแล้ว จะไปต่อก็กลัวจะไม่รอดเพราะรถเตี้ยเดี่ยวจะไปไม่ไหว เลยต้องวิ่งย้อนกลับ เปลี่ยนจุดหมายมาเป็นแกรนแคนย่อน เสียเวลาไป ชม. นึง
พอมาแกรนแคนย่อนอีก google map นี้พามั่วอีกแล้ว เข้าซ้อยเล็กๆแต่ว่าซอยนี้คงมีคนขับตาม Gps มาตรงนี้ทุกวันอ่ะ เขาเลยติดป้ายไว้ปากซอยเลย ว่าไม่ใช่ซอยนี้นะโว้ยยยย ออกไปปากทางเลี้ยวขวาไปสองโลแล้วเข้าซอยขวามือแล้วจะถึงแกรนแคนย่อน อ่อ เป็นอย่างงี้นี้เอง
ถึงแล้ว เสียค่าเข้าอีกคนละ 50 บาท แลกเป็นน้ำได้คนละแก้ว
กว้างใหญ่มาก น่าหวาดเสียวด้วย ต้องเดินกันระวังๆนะครับ
มาแกรนตั้งใจจะมาถ่าย
ถะถ่าย
ถ่ายย
ถ่ายนางแบบของเราห่อมาจากกรุงเทพ 55
แต่มือมันดันไปถ่ายยย
ถ่ายย 5555
พอเถอะผู้ชายมั้ง มีแต่ฝรั่งที่เล่นน้ำครับ ไม่กลัวกันด้วยแหะ น้ำดูนิ่งๆน่ากลัวดี
กลับบ้านกันเถอะ
ออกจากแกรนแคนย่อนแวะกินข้าวร้านแถวลำพูน จากนั้นก่อนจะดิ่งกลับแวะไหว้พระที่พระธาตุลำปางหลวงหน่อยครับ เมืองรถม้า
นุ่งสั่นมา มีผ้าถุงให้ใส่ดูเป็นสาวเหนือไปอีกแบบ
ไหว้พระขอพรกันก่อนเดินทางกลับ
น้องม้าละตัวนี้ท่าจะยืนกันทั้งวันน่าสงสาร อันนี้ขอถ่ายรูปคิด 20 บาทครับกล้องของเราเอง
ออกจากลำปาง ยิงยาวเลยครับ มาพักอีกทีนครสวรรค์เลย พอดีทริปนี้ เราเอาเงินออกมาเป็นกลองกลางก่อนคนละ 2500 ทีนี้มันเหลือ เกือบ 400 เลยจัดมื้อส่งท้าย แม็คโดนัล ซะเลย ใช้เงินกลองกลางให้หมด
จากนั้นก็ยิงเข้า กทม แวะส่งสมาชิกถึงบ้านโดยสวัสดีภาพทุกคน จบทริป เที่ยงคืนพอดี จัดไป 2324 โล ที่นอกเส้นทาง น่าจะ 100กว่าโล 555 ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี
สรุปค่าใช้จ่าย
แก้ส 1900
น้ำมัน 1400 ช่วงแม่ฮ่องสอนวิ่งแต่น้ำมันแก้สหมดมีแต่เขา
ค่าเข้าอินทนน 230
ค่ากิ่วแม่ปาน 200
ข้าวเช้าที่กิ่ว 120
มาม่ากาแฟกลางวัน 70
ซื้อหมูเพิ่ม 200
ค่าเข้าปางอุ่ง 200
เต็นปางอุ่ง 500
มื้อเย็นปางอุ่งบวกจิปาถะ 590
ก๊วยเตี๋ยวบ้านจาโบ่ 170
กาแฟที่ปาย 268
อาหารกลางวันที่สอง 320
เครื่องดื่มน้ำแข้ง 305
ค่าเข้าเชียงดาว 110
ยากันยุง 25
ค่าที่พักบ้านวิวดอยหลวง 1600 อาหารสองมื้อสี่คน
กาแฟฮิมน้ำ 175
ค่าเข้าแกรน 200
ข้าวกลางวันที่สาม 207
ค่าเช่าผ้าร่มที่วัดลำปาง 100
แล้วก็มื้อเ็นที่แมคดดนัล 400
ทุกอย่างข้างบนหาร 4 นะครับ คิดไปมาแล้วยังขาดรายจ่ายอีกอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่ได้จด แต่ที่รวมๆแล้วก็ประมาณนี้ คนละ 2500 เหลือๆครับ ตามนี้เลย
จบไปอีกหนึ่งทริป ทุกทริปที่ไปล้วนมีความทรงจำกลับมาเสมอไม่ว่าดีหรือไม่ดี ยังไงก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ถ้าไม่ก้าวออกไปยังไงก็คงไม่เข้าใจว่า เมืองไทยยังมีสถานที่ต่างๆรอให้เราออกไปสัมผัสครับ ยังมีเรี่ยวมีแรงรีบออกไปเที่ยวกันนะครับ
แล้วพบกันใหม่กับคู่รักตลอนทัวร์ วันนี้สวัสดีครับ
เที่ยวทั่วไทย ไปกับ วีออส