ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
อินทนนท์-ทุ่งบัวตอง-ปางอุ่ง-บ้านจาโบ่-ปาย-เชียงดาว ต้อนรับลมหนาว 3วัน2คืน คนละ 2500 ปางอุ๋ง...แม่ฮ่องสอน
    • โพสต์-1
    Boy •  พฤษภาคม 25 , 2559

    สวัสดีครับ คู่รักตะลอนทัวร์มาอีกแล้ว คราวนี้ขึ้นเหนืออีกแล้ว ทริปนี้เกิดจากความอยากไปดูทุ่งบัวตองแม่ฮ่อนสอน 

    ที่พลาดมาหลายปีแล้ว ปีนี้โอกาศประจวบเหมาะพอดีเลย จัดทริปยัดๆๆลงไป เอาให้คุ้มไหนๆจะไปแล้วทั้งทีจึงเกิดเป็นทริปนี้ขึ้นมา 

    ทริปนี้ไปกันทั้งหมด 4 คน ไปกันวันที่ 28-30/11/2558 เดินทางกลางคืนเช่นเดิม ทริปนี้ต้องอดหลับอดนอนขับรถทั้งวันทั้งคืนอีกแล้ว 

    เวลาน้อยใช้สอยอย่างประหยัด เดินทางด้วย วีออสคันเดิม เติมแก้ส หมดเงินไปคนละ 2500 บาท มีสรุปค่าใช้จ่ายท้ายทริปครับ ไปกันเลยดีกว่า 

     

    รูปทั้งหมดถ่ายจาก Nikon D5300 18-140 และ Gopro 4 silver ดูวิดีโอกันก่อนได้ครับ

    ฝากเพจเล็กๆพูดคุยเรื่องเที่ยวได้ครับ "เหลี่ยมพาเที่ยว" https://www.facebook.com/boytravelthailand/

    • โพสต์-2
    Boy •  พฤษภาคม 25, 2559
    • โพสต์-3
    Boy •  พฤษภาคม 25 , 2559

    เส้นทางคร่าวๆทริปนี้ครับ 

    Day1 ออกจาก กทมกลางคืนวัศุกร์มาเช้าที่ดอยอินทนนท์-กิ่วแม่ปาน-ทุ่งบัวตอง-ปางอุ๋ง 

    Day2 ปางอุ๋ง-บ้านจาโบ่-ดอยกิ่วลม-ร้านกาแฟCoffee in love ปาย-สะพานประวัติศาสตร์ปาย-บ้านวิวดอยหลวงเชียงดาว 

    Day3 บ้านวิวดอยหลวงเชียงดาว-ร้านกาแฟฮิมน้ำ-แกรนแคนย่อนเชียงใหม่-ปิดท้ายวัดพระธาตุลำปางหลวง 

     

    เริ่มเดินทางรับสมาชิก ออกกัน 21.45 คืนวันศุกร์ วิ่งไปตามทาง สายเอเชีย นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก ลำพูน อินทนนน์ ถนนระหว่าง กำแพงเพชรถึงตาก มีทำถนน เป็นช่วงๆตลอดทางต้องวิ่งสวนกันอีกฝั่งเลนเดียว ทำเวลาไม่ได้เลย แต่ก็ตอนถนนโล่งๆก็รีบเหยียบมา ไม่ได้พักเลย จอดแค่เติมแก้ส กะเข้าห้องน้ำ วาปปมาถึงอินทนน์ตี5 หน่อยๆขึ้นเขากันเลย กะจะมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว กม.41 แต่พอถึงเกือบ6โมงได้ ฟ้าปิดจ้า หมอกขาวโพลนอากาศหนาว เลยนอนสักงีบ รอเวลาเผื่อฟ้าจะเปิด

     

     

    ตื่นอีกที 6.40 ไร้วี่แววพระอาทิตวันนี้ ไปถ่ายรูปกัน หมอกแบบนี้ก็ฟินไปอีกแบบ

     

     

    ถ่ายรูปกันสักพักเนื่องจากอินทนน์เคยมาแล้วรอบนึงรอบนี้เลยจะไปแค่กิ่วแม่ปานอย่างเดียว ว่าแล้วก็ไปกัน

     

     

    มาวันนี้อากาศ 10 องศาถือว่ายังไม่หนาวมาก ปีที่แล้วมา เจอแม่คะนิ้งด้วย ปีนี้หนาวๆกำลังดี

     

     

    ค่าไกด์นำทางก็คนละ 200 ต่อหนึ่งกรุ๊บครับ เป็นชาวเขาที่นี้ ระหว่างทางก็จะแนะนำจุดต่างๆประวัติความเป็นมา

     

     

    อากาศหนาวๆแบบนี้ยิ่งเดินในป่ายิ่งหนาว แถมเหนื่อยด้วย

     

     

    เดินมาสักพักหยุดมั้งเดินมั้ง ก็ออกสู่โลกกว้างง อ้าว ท้องฟ้าเปิดแล้วนี่หนา เย้ๆ

     

     

    สวยจริงๆมาสองครั้งก็ยังติดใจ ปีหน้ามาใหม่

     

     

    เอ้า เดิน เดิน เดิน แล้วก็เดิน เดิน เดิน

     

     

    ถึงแล้ว จุดไฮไลท์ คนเยอะเลยวันนี้ หามุมถ่ายกันเร็ว

     

     

    ไม่พูดแล้วไปดูรูปกันดีกว่า

     

     

     

     

    อันนี้เป็นเส้นทางสามารถเดินต่อเป็นวงกลมไปออกอีกทางได้แต่จะไกลกว่าเส้นขามา ที่จริงเส้นนี้จะมีกุหลาบพันปปีแต่วันที่ไปยังไม่บานและคนเยอะมากก เลยเดินทางกลับทางเดิมละกัน

     

     ขอคู่มั้งงก่อนออก

     

     

    ยืนทำแอคที่จริงเหนื่อย 555

     

     

    ออกมาถึงด้านหน้าก็หาโจ็กกะไข่ทรงเครื่องร้อนๆกินกัน อร่อยมาก เตรียมเดินทางต่อ

     

     

    จุดหมายต่อไปจะไปทุ่งบัวตอง ที่จริงมีเส้นทางจากอินทนนลงมาทางบัวตองได้เลย แต่พลาดตรงนี้ลืมศึกษาให้ชัวว่ารถเราจะไปได้ไหมเพราะรถผมโหลดเตี้ย ตอนแรกว่าจะไปทางออบหลวง เลยถามเจาหน้าที่เขาว่าไปได้ แต่ดันแก้สจะหมด และทราบข่าวมาว่าปั้มแก้สที่แม่ฮ่องสอนปั้มเดียว ซ่อมอยู่ด้วย เลยตัดสินใจลงเขามาตีนอินทนนเติมแก้สก่อน แล้วขึ้นมาใหม่เสียเวลาไป ชม นึงได้ แต่ก้ต้องยอมเพราะถ้าลงไปแล้วจะไปทางออบหลวง ต้องวิ่งเพิ่มอีก เกือบ 2 ชม นี้กดดูจาก google map เลยจัดไปเติมแก้สแล้วขึ้นทางเดิม อ้อ อินทนน เป็นภูเขาสูงชัน ทางขึ้นจะต่อเนื่อง ไม่ชันมากนะผมว่าเท่าที่ไปมาหลายที่จะทางขึ้นจะขึ้นยาวๆตลอด ขาลงขับกันด้วยความระมัดระวังด้วยครับ ส่วนค่าเข้าอินทนน 230 4คน1คัน ขึ้นลงได้ทั้งวัน

     

     

    เส้นทางจากอินทนน์มาทุ่งบัวตอง ระยะทางแค่ 131 โล แต่ถนนแคบมากและโค้งเยอะ ทำเวลาไม่ได้เลย แต่ยังดีว่าถนน โดยรวมสภาพโอเคครับ เป็นหลุมบ่อนิดหน่อย รถเล็กใหญ่มาได้หมด


     

    ขับตาม GPS มาเรื่อยๆ มีป้ายบอกเป็นระยะ ๆ ผ่านโค้งแล้วโค้งเล่า ใครที่ชอบขับรถแบบผมจะสนุกแน่นอน โค้งซ้ายขวาต่อๆกันเลย สนุกมากครับ 

     

    ฝ่าฝันโค้งกันมา ชั่วโมงกว่า เริ่มมีอาการ เพลีย 555 คงจะสะสมแต่ขับรถแต่เมื่อคืน แล้วก้เจอร้านกาแฟข้างทางพอดี วิวงามๆ จอดพักกันก่อนครับ

     

     

    แดดแรงแต่ลมพัดเย็นสบายยย

     

     

    ตอนนั้น เที่ยงกว่าๆได้แล้ว เลยหามาม่ารองท้องซะหน่อย เป็นมาม่ามื้อที่สุดจะบรรยาย

     

     

     

    ขับออกมาเรื่อยๆตลอดเส้นทางสายนี้จะมีบัวตองให้เห็นกันตลอดทางเป็นระยะๆ แวะจอดถ่ายกันก่อนถึงสะหน่อย

     

     

    ดอกหญ้าข้างทาง

     

     

    และแล้วก็มาถึงเสียที ใช้เวลา เกือบ 4 ชั่วโมงจากอินทนน รวมจอดพักที่ร้านกาแฟ 40 นาที ขนาดว่าผมเป็นคนขับรถเร็วนะ แซงทุกคันที่เจอบนเขา ยังใช้เวลาขนาดนี้ ใครที่ขับไม่เร็วต้องเผื่อเวลาไว้เยอะๆหน่อยนะครับเส้นทางนี้ โหดเอาเรื่อง

     

     

    ในที่สุดก็ได้มาเห็นด้วยตาตัวเองเสียที ทุ่งบัวตองจะบ้านทุกปีตั้งแต่ประมาณ ต้นเดือน พฤษจิกาถึงต้นธันวา แต่ช่วงที่บานจัดเท่าที่ดูปีก่อนๆจะช่วงกลางเดือนพฤษจิกา วันที่ผมไปสิ้นเดือน เริ่มโรยบ้างแล้วแต่โดยรวมยัง บานประมาณ 70% ถ่ายรูปมายังเหลืองทั้งดอยครับ ว่าแล้วไปดูรูปกัน

     

     

     

     

    เหลืองอร่ามไปทั้งดอยเลย

     

     

    เมฆฝนมาพอดี มีปรอยๆด้วนตอนจะกลับรีบๆถ่ายกัน

     

    แอบหวาน 

     

     

     

     

     

     

    ถ่ายรูปกันจนจุใจก็เดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไปคือที่นอนเราคืนนี้ที่ ปางอุ่ง ที่จริงทริปนี้ โดนตัดไปอีก2 เป้าหมายคือ สะพานซูตองเป้และพระธาตุดอยกองมู เพราะเวลา ไม่ทันจริงขนาดอยู่อินทนนแต่เช้าแล้ว จากอินทนนมาถึงปางอุ่งก็ 6 โมงพอดีครับ เส้นทางตรงช่วงเลี้ยวเข้าปางอุ่งจะมีช่วงถนนที่แคบมากและชันอยู่ ตรงนี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษต้องใช้แตรคุยกันเพราะถนนแคบและโค้งบนเขามุมอับ ค่อนข้างอันตราย ถ้ามือใหม่ต้องระวังครับ


     

     

    ระหว่างทางผมแวะซื้อหมูข้างทางมาอีกโลนึงกะน้ำแข็งเครื่องดื่มให้พร้อม เพราะข้างบนนี้น่าจะแพง ค่าหมูกะน้ำแข็งขนม 200 ส่วนค่าเข้าปางอุ่งถ้ามานอนจะเสียคนละ 50 บาท รถไม่ต้องเสีย ส่วนค่าเต็น ผมจองของเอกชนแต่กางในตัวปางอุ่งเลยเลือกเอาริมน้ำครับ ค่าเต็นละ250 มีหมอนผ้าห่ม แล้วก้ค่าหมูกระทะเตาชุดบนนี้รวมค่าเช่าตะเกียงจิปาถะอีก 590 คืนนั้นไร้ดาว ไม่มีให้ถ่ายเลย กินกันถึง3 ทุ่มก็แยกย้ายกันนอน อากาศหนาวๆกำลังดีนอนหลับสบายมาก มีช่วงกลางดึกน่าจะตี3 ที่รู้สึกหนาวมากอยู่ช่วงนึงครับ



    ตื่นมา ตี 5.45 ได้ เริ่มเห็นหมอกไรๆที่ผิวน้ำ 

     

    มีคนนั้งเรือมาแล้ว เท่าที่ดูมาเที่ยวละ 150 บาท แต่เห็นคนเยอะเหลือเกินตรงนั้นเลยถ่ายจากฝั่งนี้ก็แล้วกันครับไม่ได้เดินไป

     

     

    หมอกเต็มเลย

     

     

     

    คนในแพน่าจะฟินดีนะครับ

     

     

    หันกลับมาฝั่งนี้มั้ง

     

     

    เดินกลับมาถ่ายใกล้เต็นมั้งตรงท่าน้ำ

     

     

     

    ขอคู่เสยยอดมั้งครับ สวยดี

     

     

    มาแล้วห่านเจ้าถิ่น

     

     

    แล้วเธอกะจากฉันไป 555

     

     

    อันนี้อีกฝั่งนึงครับ

     

     

    7โมงกว่าๆได้เวลาออกกันละ ทำเวลาสุดๆ จะไปดูทะเลหมอกที่บ้านจาโบ่ หากจากปางอุ่งประมาณ 70โลได้ครับ ไปกัน แต่แดดส่องมาแล้วสววยเลย

     

     

     

     

     

    ไปต่อกัน ไว้จะมาใหม่ครับ ต้องมาซ้ำแม่ฮ่องสอนอีกรอบ ยังขาดอีกหลายที่

     

     

    ตลอดเส้นทางมีหมอกตลอดทางสดชื่นมาก บางจุดเห็นว่าเป็นทะเลหมอกเลยแต่จอดถ่ายไม่ได้เสียดายจริงๆเพราะถนนแคบมีแต่โค้งมันอันตรายครับ

    • โพสต์-4
    Boy •  พฤษภาคม 25 , 2559

     

     

     

    แวะถ่ายรูปจุดชมวิวข้าวหลามครับ

     

     

    มีทะเลหมอกด้วย ลุ้นอยู่ว่าที่บ้านจาโบ่จะเป็นยังไง

     

     

    และแล้วก็มาถึงประมาณ9โมงพอดี น่าเสียดายมาช้าไปมาก ที่จริงตอนมาถึงหมอกคลุมขาวหมดเลยครับ นี้รอสักพักหมอกเริ่มจางไปเลยหมอกเห็นเหลือไกลๆครับ แต่ก็ยังสวยงามนะครับถึงจะมีไม่เยอะ

     

     

     

    ไม่พลาดครับมาถึงนี้ต้องกินก็วยเตี๋ยวห้อยขา แต่ที่ห้อยขาเต็ม กินโต๊ะนี้แหละแล้วค่อยไปขอเขาถ่ายรูป 555 รสชาติอร่อยดีครับราคาไม่แพง

     

     

    กินเสร็จก็ไปห้อยขากันครับ หรือจะห้อยหัวก็แล้วแต่555

     

     

     

    ท่าคู่ต้องมา แบ็คกราวเพียบเลย คิคิ

     

     

    ได้เวลาโบกมือลาบ้านจาโบ่ ที่จริงวันนี้มีทะเลหมอกสวยมากเลยครับแต่ตอนพระอาทิตย์ขึ้นแต่เช้าเลยคนที่ร้านเปิดรูปให้ดูพอ7โมงกว่าๆหมอกก็ปกคลุมไปหมดเลย

     

     

    ขับมาสักพักเส้นทางปายบางปะม้า ก็จะเจอจุดชมวิวกิ่วลมครับ จอดแน่นอนถ่ายรูปกัน

     

     

    ถ่ายรูปกะน้องๆหน่อย คนละ 20 ยืมหมวกน้องใส่ น้องบอกอย่าทำหล่นนะ 1500 บร๊ะะะ

     

     

     

    อีกฝั่งก็เป็นจุดชมวิวครับ มีชิงช้า เฟี้ยวมาก

     

     

    จุดหมายต่อไปคือ ปาย แต่จะแวะถ่ายรูปนิดหน่อยครับ ไม่ได้นอน


     

    ขับวนไปมาครับมาเจอบ้านนี้เข้าครับ น่าจะบ้านดังๆที่เคยเห็นในรีวิวแต่ไม่ได้แวะหรอกถ่ายรูปเฉยๆจะไปร้านกาแฟ 

     

    ขับมาอีกหน่อยก็ถึงร้านกาแฟ คอฟฟี่ อิน เลิฟ ครับที่ดังๆ คนเยอะเชียว

     

     

     

    บริเวรรอบๆเนื้อที่เยอะนะครับ แต่ตรงร้านกาแฟที่นั่งมีนิดเดียวเองไม่ค่อยโล่ง ส่วนรสชาติผมว่าไม่ค่อยอร่อย แอบแพงนิดนึง 555 แต่บางคนอาจจะชอบ คนคงมาตามๆกัน

     

     

     

    จุดต่อไปสะพานประวัติศาสตร์ปาย ร้อนได้ใจมากครับตอนนี้ เอ้าถ่ายๆๆรูปกัน

     

     

    Bike for fan ปั่น ปั่นจักยานไป อิอิ

     

     

     

     

    พอออกจากจุดนี้ละครับก็เริ่มเป็นจุดที่ทำถนนกันจริงจังแล้ว ถนนไม่ค่อยดีครับทำถนนตลอดทางจนลงถึงเชียงใหม่ ขับช้าๆตามกันไปและถนนแคบเป็นเขาเหมือนเดิมครับ ฝุ่นเยอะมาก

     

     

    พอลงมาถึงมาเตงหรือป่าวไม่แน่ใจทางที่จะไปเชียงดาวครับ อยู่ดีๆ ล้อหน้าก็ดังมากเหมือนเหล็กสีกะเหล็ก งานเข้าละ ลงไปดูที่จานเบรคเป็นรอย แต่ขับไปได้สักพักก็หาย ไม่รู้ว่าหินไปเขาผ้าเบรคหรือว่า ผ้าเบรคหมดมันเลยมีตัวที่บอกว่าผ้าเบรคจะหมดดังเตือนแต่โชคดีที่มาดังตรงพื้นราบแล้ว ก็เลยหาร้านจอดพักเพื่อความชัว ใครจะมาเดินทางไกลก็เช็คเบรคมาให้ดีๆนะครับ แต่ก่อนมาผมก็เช็คแล้วละว่ายังไม่หมด แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังปกตินะครับ แต่หลังปีใหม่จะเปลี่ยนผ้าเบรคละ ใช้มานานแล้ว มาต่อ ผมเวะร้านตามสั่ง พอดีหมูที่ซื้อเพิ่มเมื่อวานเหลือ เลยขอให้เขาทำผัดเป็นกับข้าวแล้วคิดค่าทำ รวมมื้อนี้ 320 งิ ก็ไม่ได้ถูกเลยนะ 555 พักให้หายเหนื่อยกันสักแปบ

     

     

    ออกจากร้านข้าววิ่งมาเรื่อนตามทาง เลี้ยวซ้ายขึ้นเชียงดาวผ่านที่ทำการอุทยานเสียอีก 110 บาท จากตัวอุทยานขึ้นไปบ้านวิวดอยหลวงที่พักเราคืนนี้ ประมาณ 10 โล ขึ้นเขาแต่เป็นช่วงนี้ แคบมากกว่าที่ผ่านมาอีกรถสวนกันลำบากมาก ต้องกดแตรทุกโค้งงเพราะเป็นมุมอับ หวาดเสียวดีครับ แต่ก้มาจนถึง บ้านวิวดอยหลวงนี้จะอยู๋ติดกับบ้านระเบียงดาว จะวิวคล้ายกันของบ้านวิวดอยหลวงจะอยู่สูงกว่า แต่อยู่ห่างจากตัวเขากว่าบ้านระเบียงดาว

     

     

    บรรยากาศรอบๆ

     

     

     

    ห้องนอนจะเป็นห้องเปิดไม่มีประตูนอนในมุ้ง แต่ละหลังจะห่างกันระยะนึงไม่ใกล้มาก ก็ยังเป้นส่วนตัวดีครับ ห้องน้ำรวม

     

    ราคาคนละ 400 บาท พร้อมอาหารมื้อเย็นและมื้อเช้าเติมได้ 

     

    เครื่องดื่มเขาเราคืนนี้อันนี้ประหยัดไปอีกหน่อยเพราะชุดนี้ซื้อมาจาก Duty Free ที่ด่านช็อกเม้กที่ไปเที่ยวลาวมาทริปอาทิตย์ก่อนก่อน ขวดละ40 กว่าบาทเอง

     

     

    แล้วพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปครับ

     

     

    ลงมากินอาหารก็มี ต้มไก่ ไข่เจียว แล้วก็ผัดไรสักอย่างลืมแล้ว รสชาติกลางๆครับ กินจนอิ่มก็อาบน้ำกัน น้ำหนาวเย็นดี

     

     

    พอฟ้ามือสนิทดวงดาวก็โผล่ออกมาเยอะมากก ละลานตาเลย สวยมากครับ

     

     

     

     

    ประมาณสี่ทุ่มผมก็เดินมาถ่ายรูปแถวจุดชมวิวอีกรอบ

     

     

    ปิดท้ายคืนนี้ ด้วยความหลอนนน 5555 นอนหลับสบายเลยไม่หนาวมากคืนนี้

     

     

    ตื่นเช้ามาด้วยอากาศเย็นสบาย

     

     

    มีหมอกน้อยๆอยู่ข้างล่าง

     

     

     

    เดินลงมาถ่ายรูปที่บ้านระเบียงดาว หน้าไม่ต้องล้าง ฟันยังไม่แปรง

     

     

    จากนั้นก็มาอาบน้ำเตรียมกลับกันครับ แต่ห้องน้ำห้องที่สองนี้มีงูลอกคราบไว้ น่าสยองมากครับ เห็นแต่เมื่อวานและ ไม่มีใครกล้าเอาออกเวลาจะเข้าห้องน้ำก็ต้องมุดหัวเข้าไปสยองดีครับ ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้หลายวันหรือยังหรือเป็นมาตลอด บรึ๋ยย

     

     

    สูดอากาศให้สดชื่น เต็มๆปอดด

     

     

     

     

     

     

    แดดมาแล้ว ลงไปถ่ายที่ระเบียงดาวอีกรอบ

     

     

    มื้อเช้าเป็นข้าวต้มร้อนๆ อร่อยดีครับ

     

     

    จากนั้นพอลง ก็วิ่งกลับละครับ ก่อนกลับแวะ ร้านกาแฟฮิมน้ำก่อน อยู่ตรงด่านตรวจเชียงดาวพอดี

     

     

    ร้านบรรยากาศดีมากาครับ ริมน้ำด้วยชิวสุดๆ

     

     

     

    กาแฟมันหวานจริงๆ อ๋อลืมไปไม่ได้สั่งกาแฟ อิอิ

     

     

    จุดหมายต่อไปของวันนี้ที่จริงจะไปวัดเฉลิมพระเกียรติ เราก็กด MAP เลย อันนี้พลาดอีกดอก ลืมซูมดูเส้นทางว่าทางมันปกติหรือป่าววิ่งไปตามเส้นสีฟ้าจนจะถึงตัวเลข1252 จาดรูปล่างปรากฎเป็นถนนบนเขาแคบๆ แล้วทางแบบว่าเป็นหลุมบ่อเละเยอะมาก รถน้อยเปลี่ยวด้วยเลย ซูมดู ถนนคดเป็นงูเลย กำ พลาดซะแล้ว จะไปต่อก็กลัวจะไม่รอดเพราะรถเตี้ยเดี่ยวจะไปไม่ไหว เลยต้องวิ่งย้อนกลับ เปลี่ยนจุดหมายมาเป็นแกรนแคนย่อน เสียเวลาไป ชม. นึง

     

     

    พอมาแกรนแคนย่อนอีก google map นี้พามั่วอีกแล้ว เข้าซ้อยเล็กๆแต่ว่าซอยนี้คงมีคนขับตาม Gps มาตรงนี้ทุกวันอ่ะ เขาเลยติดป้ายไว้ปากซอยเลย ว่าไม่ใช่ซอยนี้นะโว้ยยยย ออกไปปากทางเลี้ยวขวาไปสองโลแล้วเข้าซอยขวามือแล้วจะถึงแกรนแคนย่อน อ่อ เป็นอย่างงี้นี้เอง

     

     

    ถึงแล้ว เสียค่าเข้าอีกคนละ 50 บาท แลกเป็นน้ำได้คนละแก้ว

     

     

    กว้างใหญ่มาก น่าหวาดเสียวด้วย ต้องเดินกันระวังๆนะครับ

     

     

     

    มาแกรนตั้งใจจะมาถ่าย

     

     

    ถะถ่าย

     

     

    ถ่ายย

     

     

    ถ่ายนางแบบของเราห่อมาจากกรุงเทพ 55

     

     

    แต่มือมันดันไปถ่ายยย

     

     

    ถ่ายย 5555

     

     

     

    พอเถอะผู้ชายมั้ง มีแต่ฝรั่งที่เล่นน้ำครับ ไม่กลัวกันด้วยแหะ น้ำดูนิ่งๆน่ากลัวดี

     

     

    กลับบ้านกันเถอะ

     

     

    ออกจากแกรนแคนย่อนแวะกินข้าวร้านแถวลำพูน จากนั้นก่อนจะดิ่งกลับแวะไหว้พระที่พระธาตุลำปางหลวงหน่อยครับ เมืองรถม้า

     

     

     

    นุ่งสั่นมา มีผ้าถุงให้ใส่ดูเป็นสาวเหนือไปอีกแบบ

     

     

     

     

    ไหว้พระขอพรกันก่อนเดินทางกลับ

     

     

    น้องม้าละตัวนี้ท่าจะยืนกันทั้งวันน่าสงสาร อันนี้ขอถ่ายรูปคิด 20 บาทครับกล้องของเราเอง

     

     

    ออกจากลำปาง ยิงยาวเลยครับ มาพักอีกทีนครสวรรค์เลย พอดีทริปนี้ เราเอาเงินออกมาเป็นกลองกลางก่อนคนละ 2500 ทีนี้มันเหลือ เกือบ 400 เลยจัดมื้อส่งท้าย แม็คโดนัล ซะเลย ใช้เงินกลองกลางให้หมด

     

     

    จากนั้นก็ยิงเข้า กทม แวะส่งสมาชิกถึงบ้านโดยสวัสดีภาพทุกคน จบทริป เที่ยงคืนพอดี จัดไป 2324 โล ที่นอกเส้นทาง น่าจะ 100กว่าโล 555 ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี

     

    สรุปค่าใช้จ่าย


     

    แก้ส 1900 

    น้ำมัน 1400 ช่วงแม่ฮ่องสอนวิ่งแต่น้ำมันแก้สหมดมีแต่เขา 

    ค่าเข้าอินทนน 230 

    ค่ากิ่วแม่ปาน 200 

    ข้าวเช้าที่กิ่ว 120 

    มาม่ากาแฟกลางวัน 70 

    ซื้อหมูเพิ่ม 200 

    ค่าเข้าปางอุ่ง 200 

    เต็นปางอุ่ง 500 

    มื้อเย็นปางอุ่งบวกจิปาถะ 590 

    ก๊วยเตี๋ยวบ้านจาโบ่ 170 

    กาแฟที่ปาย 268 

    อาหารกลางวันที่สอง 320 

    เครื่องดื่มน้ำแข้ง 305 

    ค่าเข้าเชียงดาว 110 

    ยากันยุง 25 

    ค่าที่พักบ้านวิวดอยหลวง 1600 อาหารสองมื้อสี่คน 

    กาแฟฮิมน้ำ 175 

    ค่าเข้าแกรน 200 

    ข้าวกลางวันที่สาม 207 

    ค่าเช่าผ้าร่มที่วัดลำปาง 100 

    แล้วก็มื้อเ็นที่แมคดดนัล 400


     

    ทุกอย่างข้างบนหาร 4 นะครับ คิดไปมาแล้วยังขาดรายจ่ายอีกอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่ได้จด แต่ที่รวมๆแล้วก็ประมาณนี้ คนละ 2500 เหลือๆครับ ตามนี้เลย


     

     

    จบไปอีกหนึ่งทริป ทุกทริปที่ไปล้วนมีความทรงจำกลับมาเสมอไม่ว่าดีหรือไม่ดี ยังไงก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ถ้าไม่ก้าวออกไปยังไงก็คงไม่เข้าใจว่า เมืองไทยยังมีสถานที่ต่างๆรอให้เราออกไปสัมผัสครับ ยังมีเรี่ยวมีแรงรีบออกไปเที่ยวกันนะครับ 


     

    แล้วพบกันใหม่กับคู่รักตลอนทัวร์ วันนี้สวัสดีครับ 

     

    เที่ยวทั่วไทย ไปกับ วีออส

     

     

    แวะถ่ายรูปจุดชมวิวข้าวหลามครับ

     

     

    มีทะเลหมอกด้วย ลุ้นอยู่ว่าที่บ้านจาโบ่จะเป็นยังไง

     

     

    และแล้วก็มาถึงประมาณ9โมงพอดี น่าเสียดายมาช้าไปมาก ที่จริงตอนมาถึงหมอกคลุมขาวหมดเลยครับ นี้รอสักพักหมอกเริ่มจางไปเลยหมอกเห็นเหลือไกลๆครับ แต่ก็ยังสวยงามนะครับถึงจะมีไม่เยอะ

     

     

     

    ไม่พลาดครับมาถึงนี้ต้องกินก็วยเตี๋ยวห้อยขา แต่ที่ห้อยขาเต็ม กินโต๊ะนี้แหละแล้วค่อยไปขอเขาถ่ายรูป 555 รสชาติอร่อยดีครับราคาไม่แพง

     

     

    กินเสร็จก็ไปห้อยขากันครับ หรือจะห้อยหัวก็แล้วแต่555

     

     

     

    ท่าคู่ต้องมา แบ็คกราวเพียบเลย คิคิ

     

     

    ได้เวลาโบกมือลาบ้านจาโบ่ ที่จริงวันนี้มีทะเลหมอกสวยมากเลยครับแต่ตอนพระอาทิตย์ขึ้นแต่เช้าเลยคนที่ร้านเปิดรูปให้ดูพอ7โมงกว่าๆหมอกก็ปกคลุมไปหมดเลย

     

     

    ขับมาสักพักเส้นทางปายบางปะม้า ก็จะเจอจุดชมวิวกิ่วลมครับ จอดแน่นอนถ่ายรูปกัน

     

     

    ถ่ายรูปกะน้องๆหน่อย คนละ 20 ยืมหมวกน้องใส่ น้องบอกอย่าทำหล่นนะ 1500 บร๊ะะะ

     

     

     

    อีกฝั่งก็เป็นจุดชมวิวครับ มีชิงช้า เฟี้ยวมาก

     

     

    จุดหมายต่อไปคือ ปาย แต่จะแวะถ่ายรูปนิดหน่อยครับ ไม่ได้นอน


     

    ขับวนไปมาครับมาเจอบ้านนี้เข้าครับ น่าจะบ้านดังๆที่เคยเห็นในรีวิวแต่ไม่ได้แวะหรอกถ่ายรูปเฉยๆจะไปร้านกาแฟ 

     

    ขับมาอีกหน่อยก็ถึงร้านกาแฟ คอฟฟี่ อิน เลิฟ ครับที่ดังๆ คนเยอะเชียว

     

     

     

    บริเวรรอบๆเนื้อที่เยอะนะครับ แต่ตรงร้านกาแฟที่นั่งมีนิดเดียวเองไม่ค่อยโล่ง ส่วนรสชาติผมว่าไม่ค่อยอร่อย แอบแพงนิดนึง 555 แต่บางคนอาจจะชอบ คนคงมาตามๆกัน

     

     

     

    จุดต่อไปสะพานประวัติศาสตร์ปาย ร้อนได้ใจมากครับตอนนี้ เอ้าถ่ายๆๆรูปกัน

     

     

    Bike for fan ปั่น ปั่นจักยานไป อิอิ

     

     

     

     

    พอออกจากจุดนี้ละครับก็เริ่มเป็นจุดที่ทำถนนกันจริงจังแล้ว ถนนไม่ค่อยดีครับทำถนนตลอดทางจนลงถึงเชียงใหม่ ขับช้าๆตามกันไปและถนนแคบเป็นเขาเหมือนเดิมครับ ฝุ่นเยอะมาก

     

     

    พอลงมาถึงมาเตงหรือป่าวไม่แน่ใจทางที่จะไปเชียงดาวครับ อยู่ดีๆ ล้อหน้าก็ดังมากเหมือนเหล็กสีกะเหล็ก งานเข้าละ ลงไปดูที่จานเบรคเป็นรอย แต่ขับไปได้สักพักก็หาย ไม่รู้ว่าหินไปเขาผ้าเบรคหรือว่า ผ้าเบรคหมดมันเลยมีตัวที่บอกว่าผ้าเบรคจะหมดดังเตือนแต่โชคดีที่มาดังตรงพื้นราบแล้ว ก็เลยหาร้านจอดพักเพื่อความชัว ใครจะมาเดินทางไกลก็เช็คเบรคมาให้ดีๆนะครับ แต่ก่อนมาผมก็เช็คแล้วละว่ายังไม่หมด แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังปกตินะครับ แต่หลังปีใหม่จะเปลี่ยนผ้าเบรคละ ใช้มานานแล้ว มาต่อ ผมเวะร้านตามสั่ง พอดีหมูที่ซื้อเพิ่มเมื่อวานเหลือ เลยขอให้เขาทำผัดเป็นกับข้าวแล้วคิดค่าทำ รวมมื้อนี้ 320 งิ ก็ไม่ได้ถูกเลยนะ 555 พักให้หายเหนื่อยกันสักแปบ

     

     

    ออกจากร้านข้าววิ่งมาเรื่อนตามทาง เลี้ยวซ้ายขึ้นเชียงดาวผ่านที่ทำการอุทยานเสียอีก 110 บาท จากตัวอุทยานขึ้นไปบ้านวิวดอยหลวงที่พักเราคืนนี้ ประมาณ 10 โล ขึ้นเขาแต่เป็นช่วงนี้ แคบมากกว่าที่ผ่านมาอีกรถสวนกันลำบากมาก ต้องกดแตรทุกโค้งงเพราะเป็นมุมอับ หวาดเสียวดีครับ แต่ก้มาจนถึง บ้านวิวดอยหลวงนี้จะอยู๋ติดกับบ้านระเบียงดาว จะวิวคล้ายกันของบ้านวิวดอยหลวงจะอยู่สูงกว่า แต่อยู่ห่างจากตัวเขากว่าบ้านระเบียงดาว

     

     

    บรรยากาศรอบๆ

     

     

     

    ห้องนอนจะเป็นห้องเปิดไม่มีประตูนอนในมุ้ง แต่ละหลังจะห่างกันระยะนึงไม่ใกล้มาก ก็ยังเป้นส่วนตัวดีครับ ห้องน้ำรวม

     

    ราคาคนละ 400 บาท พร้อมอาหารมื้อเย็นและมื้อเช้าเติมได้ 

     

    เครื่องดื่มเขาเราคืนนี้อันนี้ประหยัดไปอีกหน่อยเพราะชุดนี้ซื้อมาจาก Duty Free ที่ด่านช็อกเม้กที่ไปเที่ยวลาวมาทริปอาทิตย์ก่อนก่อน ขวดละ40 กว่าบาทเอง

     

     

    แล้วพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปครับ

     

     

    ลงมากินอาหารก็มี ต้มไก่ ไข่เจียว แล้วก็ผัดไรสักอย่างลืมแล้ว รสชาติกลางๆครับ กินจนอิ่มก็อาบน้ำกัน น้ำหนาวเย็นดี

     

     

    พอฟ้ามือสนิทดวงดาวก็โผล่ออกมาเยอะมากก ละลานตาเลย สวยมากครับ

     

     

     

     

    ประมาณสี่ทุ่มผมก็เดินมาถ่ายรูปแถวจุดชมวิวอีกรอบ

     

     

    ปิดท้ายคืนนี้ ด้วยความหลอนนน 5555 นอนหลับสบายเลยไม่หนาวมากคืนนี้

     

     

    ตื่นเช้ามาด้วยอากาศเย็นสบาย

     

     

    มีหมอกน้อยๆอยู่ข้างล่าง

     

     

     

    เดินลงมาถ่ายรูปที่บ้านระเบียงดาว หน้าไม่ต้องล้าง ฟันยังไม่แปรง

     

     

    จากนั้นก็มาอาบน้ำเตรียมกลับกันครับ แต่ห้องน้ำห้องที่สองนี้มีงูลอกคราบไว้ น่าสยองมากครับ เห็นแต่เมื่อวานและ ไม่มีใครกล้าเอาออกเวลาจะเข้าห้องน้ำก็ต้องมุดหัวเข้าไปสยองดีครับ ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้หลายวันหรือยังหรือเป็นมาตลอด บรึ๋ยย

     

     

    สูดอากาศให้สดชื่น เต็มๆปอดด

     

     

     

     

     

     

    แดดมาแล้ว ลงไปถ่ายที่ระเบียงดาวอีกรอบ

     

     

    มื้อเช้าเป็นข้าวต้มร้อนๆ อร่อยดีครับ

     

     

    จากนั้นพอลง ก็วิ่งกลับละครับ ก่อนกลับแวะ ร้านกาแฟฮิมน้ำก่อน อยู่ตรงด่านตรวจเชียงดาวพอดี

     

     

    ร้านบรรยากาศดีมากาครับ ริมน้ำด้วยชิวสุดๆ

     

     

     

    กาแฟมันหวานจริงๆ อ๋อลืมไปไม่ได้สั่งกาแฟ อิอิ

     

     

    จุดหมายต่อไปของวันนี้ที่จริงจะไปวัดเฉลิมพระเกียรติ เราก็กด MAP เลย อันนี้พลาดอีกดอก ลืมซูมดูเส้นทางว่าทางมันปกติหรือป่าววิ่งไปตามเส้นสีฟ้าจนจะถึงตัวเลข1252 จาดรูปล่างปรากฎเป็นถนนบนเขาแคบๆ แล้วทางแบบว่าเป็นหลุมบ่อเละเยอะมาก รถน้อยเปลี่ยวด้วยเลย ซูมดู ถนนคดเป็นงูเลย กำ พลาดซะแล้ว จะไปต่อก็กลัวจะไม่รอดเพราะรถเตี้ยเดี่ยวจะไปไม่ไหว เลยต้องวิ่งย้อนกลับ เปลี่ยนจุดหมายมาเป็นแกรนแคนย่อน เสียเวลาไป ชม. นึง

     

     

    พอมาแกรนแคนย่อนอีก google map นี้พามั่วอีกแล้ว เข้าซ้อยเล็กๆแต่ว่าซอยนี้คงมีคนขับตาม Gps มาตรงนี้ทุกวันอ่ะ เขาเลยติดป้ายไว้ปากซอยเลย ว่าไม่ใช่ซอยนี้นะโว้ยยยย ออกไปปากทางเลี้ยวขวาไปสองโลแล้วเข้าซอยขวามือแล้วจะถึงแกรนแคนย่อน อ่อ เป็นอย่างงี้นี้เอง

     

     

    ถึงแล้ว เสียค่าเข้าอีกคนละ 50 บาท แลกเป็นน้ำได้คนละแก้ว

     

     

    กว้างใหญ่มาก น่าหวาดเสียวด้วย ต้องเดินกันระวังๆนะครับ

     

     

     

    มาแกรนตั้งใจจะมาถ่าย

     

     

    ถะถ่าย

     

     

    ถ่ายย

     

     

    ถ่ายนางแบบของเราห่อมาจากกรุงเทพ 55

     

     

    แต่มือมันดันไปถ่ายยย

     

     

    ถ่ายย 5555

     

     

     

    พอเถอะผู้ชายมั้ง มีแต่ฝรั่งที่เล่นน้ำครับ ไม่กลัวกันด้วยแหะ น้ำดูนิ่งๆน่ากลัวดี

     

     

    กลับบ้านกันเถอะ

     

     

    ออกจากแกรนแคนย่อนแวะกินข้าวร้านแถวลำพูน จากนั้นก่อนจะดิ่งกลับแวะไหว้พระที่พระธาตุลำปางหลวงหน่อยครับ เมืองรถม้า

     

     

     

    นุ่งสั่นมา มีผ้าถุงให้ใส่ดูเป็นสาวเหนือไปอีกแบบ

     

     

     

     

    ไหว้พระขอพรกันก่อนเดินทางกลับ

     

     

    น้องม้าละตัวนี้ท่าจะยืนกันทั้งวันน่าสงสาร อันนี้ขอถ่ายรูปคิด 20 บาทครับกล้องของเราเอง

     

     

    ออกจากลำปาง ยิงยาวเลยครับ มาพักอีกทีนครสวรรค์เลย พอดีทริปนี้ เราเอาเงินออกมาเป็นกลองกลางก่อนคนละ 2500 ทีนี้มันเหลือ เกือบ 400 เลยจัดมื้อส่งท้าย แม็คโดนัล ซะเลย ใช้เงินกลองกลางให้หมด

     

     

    จากนั้นก็ยิงเข้า กทม แวะส่งสมาชิกถึงบ้านโดยสวัสดีภาพทุกคน จบทริป เที่ยงคืนพอดี จัดไป 2324 โล ที่นอกเส้นทาง น่าจะ 100กว่าโล 555 ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี

     

    สรุปค่าใช้จ่าย


     

    แก้ส 1900 

    น้ำมัน 1400 ช่วงแม่ฮ่องสอนวิ่งแต่น้ำมันแก้สหมดมีแต่เขา 

    ค่าเข้าอินทนน 230 

    ค่ากิ่วแม่ปาน 200 

    ข้าวเช้าที่กิ่ว 120 

    มาม่ากาแฟกลางวัน 70 

    ซื้อหมูเพิ่ม 200 

    ค่าเข้าปางอุ่ง 200 

    เต็นปางอุ่ง 500 

    มื้อเย็นปางอุ่งบวกจิปาถะ 590 

    ก๊วยเตี๋ยวบ้านจาโบ่ 170 

    กาแฟที่ปาย 268 

    อาหารกลางวันที่สอง 320 

    เครื่องดื่มน้ำแข้ง 305 

    ค่าเข้าเชียงดาว 110 

    ยากันยุง 25 

    ค่าที่พักบ้านวิวดอยหลวง 1600 อาหารสองมื้อสี่คน 

    กาแฟฮิมน้ำ 175 

    ค่าเข้าแกรน 200 

    ข้าวกลางวันที่สาม 207 

    ค่าเช่าผ้าร่มที่วัดลำปาง 100 

    แล้วก็มื้อเ็นที่แมคดดนัล 400


     

    ทุกอย่างข้างบนหาร 4 นะครับ คิดไปมาแล้วยังขาดรายจ่ายอีกอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่ได้จด แต่ที่รวมๆแล้วก็ประมาณนี้ คนละ 2500 เหลือๆครับ ตามนี้เลย


     

     

    จบไปอีกหนึ่งทริป ทุกทริปที่ไปล้วนมีความทรงจำกลับมาเสมอไม่ว่าดีหรือไม่ดี ยังไงก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ถ้าไม่ก้าวออกไปยังไงก็คงไม่เข้าใจว่า เมืองไทยยังมีสถานที่ต่างๆรอให้เราออกไปสัมผัสครับ ยังมีเรี่ยวมีแรงรีบออกไปเที่ยวกันนะครับ 


     

    แล้วพบกันใหม่กับคู่รักตลอนทัวร์ วันนี้สวัสดีครับ 

     

    เที่ยวทั่วไทย ไปกับ วีออส

     

    แวะถ่ายรูปจุดชมวิวข้าวหลามครับ

     

     

    มีทะเลหมอกด้วย ลุ้นอยู่ว่าที่บ้านจาโบ่จะเป็นยังไง

     

     

    และแล้วก็มาถึงประมาณ9โมงพอดี น่าเสียดายมาช้าไปมาก ที่จริงตอนมาถึงหมอกคลุมขาวหมดเลยครับ นี้รอสักพักหมอกเริ่มจางไปเลยหมอกเห็นเหลือไกลๆครับ แต่ก็ยังสวยงามนะครับถึงจะมีไม่เยอะ

     

     

     

    ไม่พลาดครับมาถึงนี้ต้องกินก็วยเตี๋ยวห้อยขา แต่ที่ห้อยขาเต็ม กินโต๊ะนี้แหละแล้วค่อยไปขอเขาถ่ายรูป 555 รสชาติอร่อยดีครับราคาไม่แพง

     

     

    กินเสร็จก็ไปห้อยขากันครับ หรือจะห้อยหัวก็แล้วแต่555

     

     

     

    ท่าคู่ต้องมา แบ็คกราวเพียบเลย คิคิ

     

     

    ได้เวลาโบกมือลาบ้านจาโบ่ ที่จริงวันนี้มีทะเลหมอกสวยมากเลยครับแต่ตอนพระอาทิตย์ขึ้นแต่เช้าเลยคนที่ร้านเปิดรูปให้ดูพอ7โมงกว่าๆหมอกก็ปกคลุมไปหมดเลย

     

     

    ขับมาสักพักเส้นทางปายบางปะม้า ก็จะเจอจุดชมวิวกิ่วลมครับ จอดแน่นอนถ่ายรูปกัน

     

     

    ถ่ายรูปกะน้องๆหน่อย คนละ 20 ยืมหมวกน้องใส่ น้องบอกอย่าทำหล่นนะ 1500 บร๊ะะะ

     

     

     

    อีกฝั่งก็เป็นจุดชมวิวครับ มีชิงช้า เฟี้ยวมาก

     

     

    จุดหมายต่อไปคือ ปาย แต่จะแวะถ่ายรูปนิดหน่อยครับ ไม่ได้นอน


     

    ขับวนไปมาครับมาเจอบ้านนี้เข้าครับ น่าจะบ้านดังๆที่เคยเห็นในรีวิวแต่ไม่ได้แวะหรอกถ่ายรูปเฉยๆจะไปร้านกาแฟ 

     

    ขับมาอีกหน่อยก็ถึงร้านกาแฟ คอฟฟี่ อิน เลิฟ ครับที่ดังๆ คนเยอะเชียว

     

     

     

    บริเวรรอบๆเนื้อที่เยอะนะครับ แต่ตรงร้านกาแฟที่นั่งมีนิดเดียวเองไม่ค่อยโล่ง ส่วนรสชาติผมว่าไม่ค่อยอร่อย แอบแพงนิดนึง 555 แต่บางคนอาจจะชอบ คนคงมาตามๆกัน

     

     

     

    จุดต่อไปสะพานประวัติศาสตร์ปาย ร้อนได้ใจมากครับตอนนี้ เอ้าถ่ายๆๆรูปกัน

     

     

    Bike for fan ปั่น ปั่นจักยานไป อิอิ

     

     

     

     

    พอออกจากจุดนี้ละครับก็เริ่มเป็นจุดที่ทำถนนกันจริงจังแล้ว ถนนไม่ค่อยดีครับทำถนนตลอดทางจนลงถึงเชียงใหม่ ขับช้าๆตามกันไปและถนนแคบเป็นเขาเหมือนเดิมครับ ฝุ่นเยอะมาก

     

     

    พอลงมาถึงมาเตงหรือป่าวไม่แน่ใจทางที่จะไปเชียงดาวครับ อยู่ดีๆ ล้อหน้าก็ดังมากเหมือนเหล็กสีกะเหล็ก งานเข้าละ ลงไปดูที่จานเบรคเป็นรอย แต่ขับไปได้สักพักก็หาย ไม่รู้ว่าหินไปเขาผ้าเบรคหรือว่า ผ้าเบรคหมดมันเลยมีตัวที่บอกว่าผ้าเบรคจะหมดดังเตือนแต่โชคดีที่มาดังตรงพื้นราบแล้ว ก็เลยหาร้านจอดพักเพื่อความชัว ใครจะมาเดินทางไกลก็เช็คเบรคมาให้ดีๆนะครับ แต่ก่อนมาผมก็เช็คแล้วละว่ายังไม่หมด แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังปกตินะครับ แต่หลังปีใหม่จะเปลี่ยนผ้าเบรคละ ใช้มานานแล้ว มาต่อ ผมเวะร้านตามสั่ง พอดีหมูที่ซื้อเพิ่มเมื่อวานเหลือ เลยขอให้เขาทำผัดเป็นกับข้าวแล้วคิดค่าทำ รวมมื้อนี้ 320 งิ ก็ไม่ได้ถูกเลยนะ 555 พักให้หายเหนื่อยกันสักแปบ

     

     

    ออกจากร้านข้าววิ่งมาเรื่อนตามทาง เลี้ยวซ้ายขึ้นเชียงดาวผ่านที่ทำการอุทยานเสียอีก 110 บาท จากตัวอุทยานขึ้นไปบ้านวิวดอยหลวงที่พักเราคืนนี้ ประมาณ 10 โล ขึ้นเขาแต่เป็นช่วงนี้ แคบมากกว่าที่ผ่านมาอีกรถสวนกันลำบากมาก ต้องกดแตรทุกโค้งงเพราะเป็นมุมอับ หวาดเสียวดีครับ แต่ก้มาจนถึง บ้านวิวดอยหลวงนี้จะอยู๋ติดกับบ้านระเบียงดาว จะวิวคล้ายกันของบ้านวิวดอยหลวงจะอยู่สูงกว่า แต่อยู่ห่างจากตัวเขากว่าบ้านระเบียงดาว

     

     

    บรรยากาศรอบๆ

     

     

     

    ห้องนอนจะเป็นห้องเปิดไม่มีประตูนอนในมุ้ง แต่ละหลังจะห่างกันระยะนึงไม่ใกล้มาก ก็ยังเป้นส่วนตัวดีครับ ห้องน้ำรวม

     

    ราคาคนละ 400 บาท พร้อมอาหารมื้อเย็นและมื้อเช้าเติมได้ 

     

    เครื่องดื่มเขาเราคืนนี้อันนี้ประหยัดไปอีกหน่อยเพราะชุดนี้ซื้อมาจาก Duty Free ที่ด่านช็อกเม้กที่ไปเที่ยวลาวมาทริปอาทิตย์ก่อนก่อน ขวดละ40 กว่าบาทเอง

     

     

    แล้วพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปครับ

     

     

    ลงมากินอาหารก็มี ต้มไก่ ไข่เจียว แล้วก็ผัดไรสักอย่างลืมแล้ว รสชาติกลางๆครับ กินจนอิ่มก็อาบน้ำกัน น้ำหนาวเย็นดี

     

     

    พอฟ้ามือสนิทดวงดาวก็โผล่ออกมาเยอะมากก ละลานตาเลย สวยมากครับ

     

     

     

     

    ประมาณสี่ทุ่มผมก็เดินมาถ่ายรูปแถวจุดชมวิวอีกรอบ

     

     

    ปิดท้ายคืนนี้ ด้วยความหลอนนน 5555 นอนหลับสบายเลยไม่หนาวมากคืนนี้

     

     

    ตื่นเช้ามาด้วยอากาศเย็นสบาย

     

     

    มีหมอกน้อยๆอยู่ข้างล่าง

     

     

     

    เดินลงมาถ่ายรูปที่บ้านระเบียงดาว หน้าไม่ต้องล้าง ฟันยังไม่แปรง

     

     

    จากนั้นก็มาอาบน้ำเตรียมกลับกันครับ แต่ห้องน้ำห้องที่สองนี้มีงูลอกคราบไว้ น่าสยองมากครับ เห็นแต่เมื่อวานและ ไม่มีใครกล้าเอาออกเวลาจะเข้าห้องน้ำก็ต้องมุดหัวเข้าไปสยองดีครับ ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้หลายวันหรือยังหรือเป็นมาตลอด บรึ๋ยย

     

     

    สูดอากาศให้สดชื่น เต็มๆปอดด

     

     

     

     

     

     

    แดดมาแล้ว ลงไปถ่ายที่ระเบียงดาวอีกรอบ

     

     

    มื้อเช้าเป็นข้าวต้มร้อนๆ อร่อยดีครับ

     

     

    จากนั้นพอลง ก็วิ่งกลับละครับ ก่อนกลับแวะ ร้านกาแฟฮิมน้ำก่อน อยู่ตรงด่านตรวจเชียงดาวพอดี

     

     

    ร้านบรรยากาศดีมากาครับ ริมน้ำด้วยชิวสุดๆ

     

     

     

    กาแฟมันหวานจริงๆ อ๋อลืมไปไม่ได้สั่งกาแฟ อิอิ

     

     

    จุดหมายต่อไปของวันนี้ที่จริงจะไปวัดเฉลิมพระเกียรติ เราก็กด MAP เลย อันนี้พลาดอีกดอก ลืมซูมดูเส้นทางว่าทางมันปกติหรือป่าววิ่งไปตามเส้นสีฟ้าจนจะถึงตัวเลข1252 จาดรูปล่างปรากฎเป็นถนนบนเขาแคบๆ แล้วทางแบบว่าเป็นหลุมบ่อเละเยอะมาก รถน้อยเปลี่ยวด้วยเลย ซูมดู ถนนคดเป็นงูเลย กำ พลาดซะแล้ว จะไปต่อก็กลัวจะไม่รอดเพราะรถเตี้ยเดี่ยวจะไปไม่ไหว เลยต้องวิ่งย้อนกลับ เปลี่ยนจุดหมายมาเป็นแกรนแคนย่อน เสียเวลาไป ชม. นึง

     

     

    พอมาแกรนแคนย่อนอีก google map นี้พามั่วอีกแล้ว เข้าซ้อยเล็กๆแต่ว่าซอยนี้คงมีคนขับตาม Gps มาตรงนี้ทุกวันอ่ะ เขาเลยติดป้ายไว้ปากซอยเลย ว่าไม่ใช่ซอยนี้นะโว้ยยยย ออกไปปากทางเลี้ยวขวาไปสองโลแล้วเข้าซอยขวามือแล้วจะถึงแกรนแคนย่อน อ่อ เป็นอย่างงี้นี้เอง

     

     

    ถึงแล้ว เสียค่าเข้าอีกคนละ 50 บาท แลกเป็นน้ำได้คนละแก้ว

     

     

    กว้างใหญ่มาก น่าหวาดเสียวด้วย ต้องเดินกันระวังๆนะครับ

     

     

     

    มาแกรนตั้งใจจะมาถ่าย

     

     

    ถะถ่าย

     

     

    ถ่ายย

     

     

    ถ่ายนางแบบของเราห่อมาจากกรุงเทพ 55

     

     

    แต่มือมันดันไปถ่ายยย

     

     

    ถ่ายย 5555

     

     

     

    พอเถอะผู้ชายมั้ง มีแต่ฝรั่งที่เล่นน้ำครับ ไม่กลัวกันด้วยแหะ น้ำดูนิ่งๆน่ากลัวดี

     

     

    กลับบ้านกันเถอะ

     

     

    ออกจากแกรนแคนย่อนแวะกินข้าวร้านแถวลำพูน จากนั้นก่อนจะดิ่งกลับแวะไหว้พระที่พระธาตุลำปางหลวงหน่อยครับ เมืองรถม้า

     

     

     

    นุ่งสั่นมา มีผ้าถุงให้ใส่ดูเป็นสาวเหนือไปอีกแบบ

     

     

     

     

    ไหว้พระขอพรกันก่อนเดินทางกลับ

     

     

    น้องม้าละตัวนี้ท่าจะยืนกันทั้งวันน่าสงสาร อันนี้ขอถ่ายรูปคิด 20 บาทครับกล้องของเราเอง

     

     

    ออกจากลำปาง ยิงยาวเลยครับ มาพักอีกทีนครสวรรค์เลย พอดีทริปนี้ เราเอาเงินออกมาเป็นกลองกลางก่อนคนละ 2500 ทีนี้มันเหลือ เกือบ 400 เลยจัดมื้อส่งท้าย แม็คโดนัล ซะเลย ใช้เงินกลองกลางให้หมด

     

     

    จากนั้นก็ยิงเข้า กทม แวะส่งสมาชิกถึงบ้านโดยสวัสดีภาพทุกคน จบทริป เที่ยงคืนพอดี จัดไป 2324 โล ที่นอกเส้นทาง น่าจะ 100กว่าโล 555 ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี

     

    สรุปค่าใช้จ่าย


     

    แก้ส 1900 

    น้ำมัน 1400 ช่วงแม่ฮ่องสอนวิ่งแต่น้ำมันแก้สหมดมีแต่เขา 

    ค่าเข้าอินทนน 230 

    ค่ากิ่วแม่ปาน 200 

    ข้าวเช้าที่กิ่ว 120 

    มาม่ากาแฟกลางวัน 70 

    ซื้อหมูเพิ่ม 200 

    ค่าเข้าปางอุ่ง 200 

    เต็นปางอุ่ง 500 

    มื้อเย็นปางอุ่งบวกจิปาถะ 590 

    ก๊วยเตี๋ยวบ้านจาโบ่ 170 

    กาแฟที่ปาย 268 

    อาหารกลางวันที่สอง 320 

    เครื่องดื่มน้ำแข้ง 305 

    ค่าเข้าเชียงดาว 110 

    ยากันยุง 25 

    ค่าที่พักบ้านวิวดอยหลวง 1600 อาหารสองมื้อสี่คน 

    กาแฟฮิมน้ำ 175 

    ค่าเข้าแกรน 200 

    ข้าวกลางวันที่สาม 207 

    ค่าเช่าผ้าร่มที่วัดลำปาง 100 

    แล้วก็มื้อเ็นที่แมคดดนัล 400


     

    ทุกอย่างข้างบนหาร 4 นะครับ คิดไปมาแล้วยังขาดรายจ่ายอีกอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่ได้จด แต่ที่รวมๆแล้วก็ประมาณนี้ คนละ 2500 เหลือๆครับ ตามนี้เลย


     

     

    จบไปอีกหนึ่งทริป ทุกทริปที่ไปล้วนมีความทรงจำกลับมาเสมอไม่ว่าดีหรือไม่ดี ยังไงก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ถ้าไม่ก้าวออกไปยังไงก็คงไม่เข้าใจว่า เมืองไทยยังมีสถานที่ต่างๆรอให้เราออกไปสัมผัสครับ ยังมีเรี่ยวมีแรงรีบออกไปเที่ยวกันนะครับ 


     

    แล้วพบกันใหม่กับคู่รักตลอนทัวร์ วันนี้สวัสดีครับ 

     

    เที่ยวทั่วไทย ไปกับ วีออส

    • โพสต์-5
    Noo •  พฤษภาคม 26, 2559